เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
อ่าน: 7790 Siam not Thailand
natch
อสุรผัด
*
ตอบ: 11

ทำของให้สวยและดี


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 18 พ.ค. 07, 17:18

จริงๆอ่านแล้วกลับนึกไปถึงที่คุณไมเคิลไรส์เขียนเรื่องการแต่งกายแบบไทย ว่าไว้ว่าที่เราแต่งกายแบบสากลแล้วชอบๆกันนั้น เพราะการแต่งกายแบบสากลไม่มีอดีต ไม่มีเจ้า ไม่มีไพร่ เป็นพลเมืองเหมือนๆกัน เท่าๆกัน ไม่อย่างนั้น ใครไม่ได้เป็นขุนนางจะไปใส่เสื้อราชประแตน นุ่งผ้าม่วง อยากโก้บ้าง

ถ้าเรากลับไปใช้คำว่าสยาม หรือคำว่าไทย ก็ต่างเป็นคำที่มีอดีตพอๆกันนะคะ สำหรับคนในอดีต บรรพบุรุษที่ถูกยุบมารวมกันกับส่วนกลาง เช่นหัวเมืองเหนือ หัวเมืองใต้ เราเองไม่เห็นอยากจะยอมรับเท่าไหร่เลยว่าแพ้พม่าตั้งสองครั้งแน่ะ มีแต่บอกว่าไทยไม่เคยเป็นอาณานิคมใคร( เคยแต่เป็นประเทศราชจ้ะ )

นึกขึ้นมาได้ ฝรั่งเรียกกรุงเทพว่าแบงคอค มาจากบางกอก ถ้าเราไม่เรียกตัวเองไทยแลนด์ โดนเรียกประเทศไซแอมแน่ๆ แปลกดีเหมือนกันนะคะ ประเทศไซแอม
บันทึกการเข้า

ถ้าเด็กเกิดหนึ่งคน ปลูกต้นไม้อีกหนึ่งต้น ก็คงจะดี...
Hapiness
อสุรผัด
*
ตอบ: 1


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 02 ก.ค. 07, 11:38

ผมว่าเป็นกระทู้ที่ดีมากๆ เลยครับ น่าจะเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเยอะๆ นะครับ เคยอ่าน "ศิลปวัฒนธรรม" แล้วจะพบคำว่า "ประวัติศาสตร์ฉบับล้าหลังคลั่งชาติบ่อยมาก" อ่านแล้วก็ไม่แน่ใจเลยว่าเราถูกประวัติศาสตร์ฉบับดังกล่าวครอบงำแล้วจริงหรือ ประเทศไทยมีการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ที่ไม่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 02 ก.ค. 07, 18:01

ต้องแยกให้ออกระหว่างพงศาวดารและประวัติศาสตร์นะคะ
หลักฐานทางพระราชพงศาวดาร   นำไปสู่การตีความประวัติศาสตร์ แต่นักวิชาการสำนักต่างๆตีความแตกต่างกันไป
ไม่มีประวัติศาสตร์ฉบับที่ถูกต้องและตายตัว  ยังคงมีหลากหลาย เปลี่ยนแปลงไปได้ตามข้อมูลที่คนเขียนรวบรวมมาได้และตีความ
ถ้าหากว่าลงตัวชนิดกระดิกกระเดี้ยไม่ได้เลย  ยุติแค่นั้น  นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่คงตกงานกันหมด
ฉบับอะไรที่คุณเรียก ก็นักวิชาการกลุ่มหนึ่งเรียกเท่านั้นเองละค่ะ
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 03 ก.ค. 07, 10:45

"ประวัติศาสตร์ล้าหลังคลั่งชาติ" ผมว่าคำนี้กลายเป็นกระแสที่แพร่ออกไปในวงกว้าง คนที่เอาไปใช้แต่ละคนก็มีความเข้าใจที่ไม่ตรงกันนัก

ในความเข้าใจของผม ประวัติศาสตร์ล้าหลังคลั่งชาติมาจากจอมพล ป พิบูลสงคราม และหลวงวิจิตรวาทการ รวมถึงบุคคลร่วมสมัยอีกหลายคนที่เกาะกระแสชาตินิยม พยายามผูกโยงประวัติศาสตร์สร้างความยิ่งใหญ่สืบย้อนหลังไปเป็นพันๆปีให้กับชนชาติตระกูล "ไท" ลากไปจนถึงขนาดที่บางคนอ้าง (อย่างลมๆแล้งๆ) ว่า"คนไท" เป็นผู้ครอบครองแผ่นดินจีนก่อนชาวจีนจะอพยพเข้ามา และราชวงศ์โบราณของจีนนั้นก็เป็นราชวงศ์คนไท

เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ที่มีหลักฐานอ้างอิงก็พยายามหยิบยกบางตอนขึ้นมาเน้นขยายเพื่อผลทางลัทธิชาตินิยม เช่นฉากการปลดแอกจากอาณาจักรขอมของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์

ถึงแม้ช่วงเวลาครองอำนาจของกลุ่มนิยมลัทธิชาตินิยมจะไม่ยาวนานนัก แต่แบบเรียน และประวัติศาสตร์ชาติ กลับไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงมากนัก ถึงแม้การทบทวนหลักฐานจารึกใหม่จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่ากรุงสุโขทัยเคยถูกปกครองโดยคนไทยมาก่อนขอมสมาดโขลนลำพง แต่ใน "ประวัติศาสตร์ล้าหลังคลั่งชาติ" กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ไทยยังอยู่เหมือนเดิม คือเริ่มที่ปลดแอกขอม ทั้งๆที่ความจริงไม่รู้จะไปปลดแอกอะไร ในเมื่อสุโขทัยเป็นรัฐที่ปกครองโดยคนไทยมาก่อนแล้ว และพ่อขุนผาเมือง ราชบุตรของกษัตริย์สุโขทัยก็เป็นราชบุตรเขยของผีฟ้ายโศธรปุระ,กษัตริย์ขอม,อยู่ก่อนแล้ว

ผมไม่มีข้อกังขาใดๆกับพระราชพงศาวดารครับ เพราะก่อนฝรั่งเข้ามา เราเป็นรัฐจารีต เป็นพระราชอาณาจักร กำหนดโดยปริมณฑลแห่งพระราชอำนาจ ไม่ได้กำหนดโดยเส้นแบ่งทางภูมิศาสตร์แข็งเป๊กอย่างปัจจุบัน

พงศาวดาร คือบันทึกการสืบวงศ์ของพระมหากษัตริย์ก็ย่อมต้องรวมศูนย์อยู่ที่พระมหากษัตริย์
แต่ประวัติศาสตร์ยุคใหม่ ยุคที่แบ่งโดยพรมแดนทางภูมิศาสตร์ เราอาจต้องมาทบทวนกันใหม่ครับ ไม่อย่างนั้นประวัติศาสตร์ของรัฐโบราณที่รวมเข้ามาเป็นประเทศไทยยุคใหม่จะหายสาบสูญไปตลอดกาล
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
ชื่นใจ
ชมพูพาน
***
ตอบ: 136

นักศึกษาปริญญาเอก University of East Anglia England


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 03 ส.ค. 07, 02:18

คุณๆ คะ ... อิฉันขออนุญาติย้อนกลับมาที่ชื่อ สยามกับไทยแลนด์อีกครั้งได้ไหมคะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง
เดือนตุลาคมปีที่แล้ว อิฉันหนีเรียนไปเที่ยว (ไม่ดีเลยนิ)
ได้ร่วมทางไปกับคุณยายไอลีน อายุเจ็ดสิบสามแล้วค่ะ (ณ ขณะนั้น)
เป็นชาวอังกฤษชนิดขนานแท้และดั้งเดิม
คุณยายเคยเป็นคุณครู และสนใจประวัติศาสตร์เอเชีย
ระหว่างที่เราคุยกัน คุณยายเรียกประเทศของเราว่าไซแอม และเรียกคนไทยว่าไซมีส ทุกครั้ง
คุยกันอยู่นานสองนาน คุณยายคงเพิ่งนึกขึ้นได้จึงเอ่ยปากขอโทษ และพูดว่า
ลืมไป เราเปลี่ยนชื่อกันตั้งนานแล้ว อภัยคนแก่เิถิดนะ มันติดปากเหลือเกิน ยุคสมัยนั้นใครๆ ก็รู้จักแต่ไซแอม

ที่จริงระหว่างที่คุยกับคุณยาย อิฉันยังแอบดีใจที่ได้ยินชื่อนี้ ไซแอมและไซมีส แอบยิ้มเลยหละ
เลยตอบคุณยายไปว่า (ด้วยอารมณ์คล้ายๆ คุณ Bana เลย)
ไม่เป็นไรค่ะ ดีใจซะอีกที่ได้ยินชื่อนี้อีกครั้งโดยไม่คาดคิด อิฉันชอบชื่อนี้มากกว่า
ชื่อประเทศที่มีคำว่า "แลนด์" มาพ่วงท้าย ฟังแล้วรู้สึกเป็นลูกผสมมากกว่าเป็นไทยยังไงก็ไม่รู้

บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 10 ส.ค. 07, 11:29

ดิฉันเห็นด้วยกับคุณม้าคลั่งค่ะ ..อย่าเพิ่งไปตะครุบคำตอบว่าเปลี่ยน ไม่เปลี่ยน กลับมาศึกษาแก่นของชาติเราเสียก่อนว่าสืบทอดมาอย่างไร มีเชียงใหม่ มีปัตตานี เสียเสียมราฐ ชำระเรื่องราวที่หายไป
หากใครที่ตปท.ถามดิฉันว่า มาจากไหน แล้วตอบไปว่าไทยแลนด์ ก็มักจะร้องว่า โอ๊...ทายวาน ดิฉันมักจะหัวเราะ ย้อนถามว่ายูคงไม่ผ่านวิชาภูมิประวัติมัง จะบอกให้ว่า ไทยแลนด์มีเมืองหลวงชื่อบางกอกไง เท่านี้ใครๆก็ร้องอ๋อ..เพราะบางกอกน่ะ มันดังเสียยิ่งกว่าไทยแลนด์ แต่ดังทางไหน ก็แล้วแต่พื้นหลังของท่านที่ถาม
เช่นในฮ็อกไกโด ร้านบะหมี่ราเมนที่เวิ้งบะหมี่ดัง
"อ้อ เทศกาลสาดน้ำ ชอบๆๆๆ"
ลาสเวกัส
"อ๋อ..ฟูเค็ด(ก็ดันสะกดว่า PHu Ketนี่นา) หาดสวยมาก"
ซาน ฟราน
"ว้าว ชอบจัง ทม ยำ คุง อร่อย"
บันทึกการเข้า
chingsuk
อสุรผัด
*
ตอบ: 1


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 01 พ.ย. 07, 22:08

ผมชอบชื่อสยามมากกว่าครับ ด้วยเหตุมันส่วนตัวว่ามันเพราะกว่า
บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 02 พ.ย. 07, 02:23

            อืม.....ผมไม่มีข้อโต้แย้งท่านCH ครับ  แต่ถ้าจะให้วิเคราะห์ในยุคนั้นยุคที่การล่าอาณานิคมกำลังรุกหนัก  ด้วยเหตุการณ์บ้านเมือง  แบบเรียนหรือการประชาสัมพันธ์ใดใดจึงเน้นชาตินิยม หลวงพิบูลสงครามและหลวงวิจิตรฯ  ท่านคงมีความจำเป็นที่จะต้องปลูกฝังลัทธิชาตินิยมให้ประชาชนมีความรักชาติรักแผ่นดิน  และต้องการให้คนภูมิใจในบรรพบุรุษ  แม้เราจะเห็นในความแตกต่างของอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ต่างๆที่รวมเป็นประเทศนี้  ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม  วิถีชีวิต  กายภาพ  ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือภาษา  แต่เราก็ต้องการความเป็นคนไทยหรือไท  เสมอกันทุกที่ทุกถิ่น  แม้โดยเนื้อแท้เราเรียกกันเองยังเรายังลืมคำว่าไทยมาประกอบคำเรียก  เช่น  ไทลื้อ  ไทย้อ  ไทภูเขา  เพราะอะไรเพราะความแข็งเป็กของเขตแดนไง  ในความคิดผมเขตแดนคือไทยนั่นเอง  ส่วน สยาม คล้ายเป็นชื่อเรียกชาติพันธุ์  เช่น ชาวสยาม  แต่ก็มียุคที่เรียกประเทศสยาม  แต่ไม่ชัดเจนเท่าเพราะไม่มี  สยามลื้อ  มีแต่ ไทลื้อ  ถ้าจะส่งเสริมความเป็นไทยจริงๆแล้วอยากรณรงค์ให้เรียกไปเลยครับ  ไทมลายู  ไทชอง  ไทมอญ ฯลฯ  ความรู้สึกในความเป็นไทยจะเกิดกับพี่น้องของเราเหล่านี้ขึ้นอีกเยอะเลยครับ......... ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
pakun2k1d
พาลี
****
ตอบ: 285


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 02 พ.ย. 07, 14:30

เห็นด้วยกับคุณCrazyHorse และคุณกุ้งแห้งเยอรมันค่ะ  เอาให้รู้กันก่อนว่า  แผ่นดินรูปขวานด้ามนี้(หรือใช้ลักษณนามว่าเล่มค่ะ  นานไปชักสับสนเหมือนกันแฮะ)ประกอบด้วยกี่ชนชาติ  แต่ละชนชาติเผ่าพันธ์เป็นมาอย่างไร  อันไหนสรุปได้จากข้อมูลอะไร  อันมีข้อมูลไม่พอสรุป  อันไหนเป็นความจริง อันไหนเป็นความเชื่อ จะทำอะไรก็ขอเข้าใจ ขอรู้ด้วยคน  ไม่ใช่แบบพวกมากลากไป  หรือเชื่อผู้นำชาติพ้นภัยค่ะ

ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไทยแลนด์ดี หรือสยามดี  เพราะไม่ว่าจะชื่ออะไร  ผู้คนบนขวานด้ามนี้ก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม
บันทึกการเข้า
elvisbhu
แขกเรือน
พาลี
****
ตอบ: 215

เป็นคนเขียนรูป


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 12 พ.ย. 07, 22:08

ผมชอบที่จะเป็นชาวสยามมากกว่าชาวไทย
เพราะประโยคเมื่อในหลวงขึ้นครองราชย์ที่ว่า
เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
(มาเขียนใหม่เพราะไปใส่ผิดกระทู้ครับผม)

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.072 วินาที กับ 19 คำสั่ง