เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 7001 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามาลินีนพดารา กรมขุนศรีสัชนาลัยสุรกัญญา
cutie-devil
อสุรผัด
*
ตอบ: 1


 เมื่อ 24 พ.ย. 07, 10:32

อยากทราบประวัติของท่านค่ะ
พยายามหาตามเวบไซต์ แต่ก็มีรายละเอียดไม่มากนัก
ทราบเพียงว่า ท่านเป็นพระราชธิดาองค์ที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
กับพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์
สิ้นพระชนม์เมื่อมีพระชนมายุได้ 39 พรรษา
และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากในหลวง ร. 6 ขึ้นเป็น
"สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้ามาลินีนพดาราสิรินิภาพรรณวดี กรมขุนศรีสัชนาลัยสุรกัญญา
เป็นข้อมูลจากวิกิพิเดีย

และจากเวบอื่นๆส่วนใหญ่ก็จะมีข้อมูลอยู่เพียงเท่านี้

มีเวบของโรงเรียนเทพศิรินทร์ ว่าท่านร่วมบริจาคพระทรัพย์สร้างโรงเรียน
ร่วมกับพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์

นอกจากนี้ มีบทความสารคดีของสกุลไทย เขียนโดย "จุลดา ภักดีภูมินทร์"
ตามที่กอปปี้มาไว้ข้างล่างนี้


พระรูปฉายหมู่
โดย  จุลลดา ภักดีภูมินทร์
ฉบับที่ 2630 ปีที่  51 ประจำวัน  อังคาร ที่  15 มีนาคม  2548
 
 
(เราลงรูปไม่เป็นค่ะ  อายจัง)
 

            พระรูปฉายหมู่ที่เชิญมาลงในตอนนี้ คงไม่ใคร่จะมีผู้พบเห็นกันนัก

            เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงฉายพร้อมด้วย สมเด็จพระราชโอรสธิดา และพระราชโอรส ณ พระที่นั่งวิมานเมฆ ตามคำบรรยายใต้ภาพพิมพ์ประกอบอยู่ในหนังสือที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พิมพ์พระราชทานในงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ามาลินีนพดารา ศิรินิภาพรรณวดี กรมขุนศรีสัชนาลัยสุรกัญญา

            ทรงฉายเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๘ พระชนมายุ ขณะนั้น ๕๓ พรรษา ต่อมาอีก ๒ ปี (พ.ศ.๒๔๕๐) จึงได้เสด็จฯ ประพาสยุโรปเพื่อรักษาพระองค์

            พระราชโอรสสองพระองค์ คือ สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ (พระยศขณะนั้น) และพระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช เป็นพระราชโอรสรุ่นเล็กสุด ประสูติปีเดียวกัน (พ.ศ.๒๔๓๖) ทั้งสองพระองค์จึงทรงเป็นที่ทรงพระกรุณาโปรดปรานเสมือนเป็น ‘เพื่อนพ่อ’ ในปลายพระชนมายุ ซึ่งเริ่มเข้าสู่พระวัยชราภาพ

 
พระรูปหมู่ฉายที่พระที่นั่งพิมานเมฆ เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๘ (พระรูปแต่ซ้ายไปขวา)
สมเด็จเจ้าฟ้านิภานภดล สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา พระบาทสมเด็จฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช (ประทับเอียงซบพระบัญชร) สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนศรีสัชนาลัยสุรกัญญา
            สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกฯ ‘ลูกเอียดน้อย’ ของสมเด็จพระบรมชนกนาถ และพระองค์เจ้าอุรุพงศ์ฯ ซึ่งทรงมีพระราชดำรัสเรียกว่า ‘ชายอุรุพงศ์’ นั้น ทรงโสกันต์พร้อมกันเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๘ ครั้นโสกันต์แล้ว สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกฯ เสด็จฯออกไปทรงศึกษาในประเทศอังกฤษ

            ส่วนพระองค์เจ้าอุรุพงศ์ฯ เป็น ‘ลูกเล็ก’ ที่สมเด็จพระบรมชนกนาถทรงพระอาลัย หากให้เสด็จฯออกไปอีกพระองค์หนึ่ง จึงทรงเก็บไว้เป็น ‘เพื่อนพ่อ’ แล้วโปรดฯให้ตามเสด็จ เมื่อเสด็จฯไปรักษาพระองค์ ณ ประเทศยุโรปดังกล่าว

            แต่ครั้นเสด็จฯ กลับจากประพาสและรักษาพระองค์ถึงกรุงเทพฯได้เพียงปีเดียว เพิ่งจะโปรดฯให้สร้างตำหนักพระราชทาน ‘ชายอุรุพงศ์’ ในบริเวณสวนดุสิตเสร็จ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์ฯ ก็ทรงประชวร แล้วสิ้นพระชนม์ (เดือนกันยายน พ.ศ.๒๔๕๒) สมเด็จพระบรมชนกนาถทรงพระอาลัยยิ่งนัก โปรดฯให้สร้างสะพานอุทิศส่วนพระกุศลพระราชทาน ชื่อ ‘สะพานอุรุพงศ์’ ต่อมาเมื่อหมดสมัยการใช้สะพานข้ามคลองแล้ว รื้อสะพานออก เหลือพระอนุสรณ์ เรียกชื่อย่านอุรุพงศ์ ทุกวันนี้

            พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช สิ้นพระชนม์เพียงปีเดียว (กันยายน พ.ศ.๒๔๕๒) พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงก็เสด็จสวรรคต (ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๓)

            ส่วนพระราชธิดาในพระรูปฉายสองพระองค์นั้น สำหรับสมเด็จเจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี (กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี ในรัชกาลที่ ๖) หรือ ‘สมเด็จหญิงน้อย’ คงจะเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายอยู่ด้วยเป็นพระราชธิดาซึ่งทรงปฏิบัติพระภารกิจเลขานุการิณีถวายสมเด็จพระบรมชนกนาถ และเมื่อเสด็จประพาสยุโรป พ.ศ.๒๔๕๐ ได้ทรงมีพระราชหัตถเลขา ‘ไกลบ้าน’ พระราชทาน

            ทว่า สมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนพดาราฯ กรมขุนศรีสัชนาลัยสุรกัญญาฯ (ทรงรับกรมแต่ในรัชกาลที่ ๕) คงไม่สู้มีผู้ทราบเรื่องราวของท่านกันเท่าใดนัก

            สมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์นี้ สมเด็จพระบรมชนกนาถ ตรัสเรียกว่า ‘หญิงกลาง’ ชาววังจึงออกพระนามกันว่า ‘สมเด็จหญิงกลาง’ ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ที่ ๒ ใน พระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมขุนสุทธาสินีนาฏ (พระยศในรัชกาลที่ ๕) พระมเหสีลำดับที่ ๔ ในรัชกาลที่ ๕

            สมเด็จหญิงกลาง ประสูติ พ.ศ.๒๔๒๘ เยาว์พระวัยกว่าสมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์นรินทรเทพยกุมารี (สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินทร ในรัชกาลที่ ๖) ซึ่งประสูติ พ.ศ.๒๔๒๗ เพียงปีเดียว

            ก่อนเล่าถึงสมเด็จหญิงกลาง น่าจะต้องเท้าความสักเล็กน้อย

            คือ เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๐ นั้น สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงพระองค์ใหญ่ ประสูติแต่ พระนางเจ้าฯ พระวรราชเทวี (พระยศของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชนีนาถ พระบรมราชชนนี ในรัชกาลที่ ๖ ขณะนั้น) ได้ทรงพระประชวรสิ้นพระชนม์

 
สมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ฯ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร
(ประทับ) และ สมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนพดาราฯ กรมขุนศรีสัชนาลัยสุรกัญญา
(ทรงยืน) หลังทรงโสกันต์
พร้อมกัน พ.ศ.๒๔๓๙
            พระนางเจ้าฯ พระราชมารดา ทรงพระโศกาลัยเป็นอันมาก เวลานั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชเทวี (พระยศในขณะนั้นของสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวีพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ใน ร.๘-๙) ทรงมีพระราชธิดาสองพระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าวไลยอลงกรณ์ฯ (ประสูติ พ.ศ.๒๔๒๗) และสมเด็จเจ้าฟ้า ศิราภรณ์โสภณ พิมลรัตนวดี (ประสูติ พ.ศ.๒๔๓๑) สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงพระเมตตา ในพระเจ้าน้องนางเธอพระราชเทวี จึงพระราชทาน สมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ฯ ให้เป็นพระราชธิดาเปรียบเสมือน พระราชธิดาประสูติแต่พระครรภ์ของพระองค์เอง สมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ฯ จึงเสด็จไปประทับด้วยพระนางเจ้าฯ พระราชเทวี ตรัสเรียกพระนางเจ้าฯว่า สมเด็จแม่ และตรัสเรียกสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชมารดาว่า ‘สมเด็จป้า’ ชาววังพากันออกพระนามว่า ‘ทูลกระหม่อมฟ้าหญิง’ ด้วยในพระราชสำนักนั้น มี ทูลกระหม่อมหญิง อยู่แล้วคือ สมเด็จเจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ สุขุมขัตติยกัลยาวดี ซึ่งชาววังออกพระนามว่า ‘ทูลกระหม่อมหญิง’

            ครั้นต่อมาเมื่อสมเด็จหญิงน้อยประสูติ (พ.ศ.๒๔๓๑) พระนางเจ้าฯ พระวรราชเทวี จึงทรงขอสมเด็จหญิงกลาง จากพระอัครชายาเธอฯ เมื่อสมเด็จหญิงกลางทรงมีพระชันษาประมาณ ๕-๖ พรรษา

            ทูลกระหม่อมฟ้าหญิง และสมเด็จหญิงกลางจึงทรงเล่นหัวสนิทสนมกันมาแต่ยังทรงพระเยาว์ และพลอยสนิทสนมด้วยสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ จนกระทั่งทรงพระเจริญวัยเป็นผู้ใหญ่ และแม้เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว

            ดังที่หม่อมราชวงศ์จำรัสศรี สนิทวงศ์ ข้าหลวงในพระอัครชายาเธอฯ เล่าให้ข้าหลวงรุ่นหลังๆฟังว่า สมเด็จหญิงกลางเคยเล่าประทานว่า เมื่อยังทรงพระเยาว์ พระองค์และสมเด็จเจ้าฟ้าเล็กๆไม่โปรดบรรทมกลางวัน เมื่อถึงเวลาบรรทม พระนางเจ้าฯ จึงโปรดให้สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธเสด็จเข้าไปดูว่าน้องๆบรรทมหลับกันหรือยัง สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ก็เสด็จเข้าไปทอดพระเนตร ทรงเห็นว่ายังไม่หลับกัน จึงรับสั่งว่า “หลับตาเสียซีจะได้ไปทูลสมเด็จแม่ว่าหลับแล้ว”

            หม่อมราชวงศ์พาสน์พูลศรี (ชมภูนุท) ข้าหลวงสนิทในสมเด็จหญิงกลาง ก็ได้เล่าไว้ในหนังสือสวนสุนันทา ๕๐ ปี ว่า

            “เด็จกลางท่านจึงทรงสนิทสนม และเป็นเพื่อนเล่นกับสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ มาแต่ยังทรงพระเยาว์ เมื่อเด็จกลางของดิฉันสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เสด็จมาเยี่ยมในวาระสุดท้าย และประคองโกศพระศพลงจากตำหนักด้วยพระองค์เอง พระศพเด็จกลางได้รับพระเกียรติตั้งที่พระที่นั่งอภิเศกดุสิต และเสด็จประทับรถพระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพร ไม่ใช้คนขับ มีมหาดเล็กช่วยกันเข็นรถพระที่นั่งมาทุกวัน เพราะอยู่ใกล้กัน ดิฉันจำได้ติดตา เพราะดิฉันได้ตามเสด็จท่านป้า (พระวิมาดาเธอฯ - จุลลดาฯ) เด็จน้อย (สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนอู่ทองฯ - จุลลดาฯ) ไปเฝ้าพระศพเด็จกลางทุกวัน”

            สมเด็จหญิงกลางและสมเด็จหญิงน้อย เป็นพระราชธิดา ‘เพื่อนพ่อ’ เช่นเดียวกันกับ พระราชโอรสเล็กสองพระองค์ ดังปรากฏในพระราชหัตถเลขา พระราชทานสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ แต่ยังทรงพระยศ กรมหลวงฯ เมื่อยังเสด็จอยู่ยุโรปว่า

            “บางวันนั่งซึมๆ คิดถึงลูกหญิงกลาง และหญิงน้อย จนในรอญๆ เพราะเคยนั่งพูดกันอยู่เป็นนิตมากกว่าเจ้าจอม”

            (ตัวสะกดตามในพระราชหัตถเลขา)
 

ที่มา: http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=3681&stissueid=2630&stcolcatid=2&stauthorid=13


พยายามหาพระราชประวัติของท่าน แต่ก็ได้เทียงเท่านี้
และเข้ามาอ่านเวบบอร์ดแห่งนี้และสนุกมากค่ะ
เห็นได้ว่าแต่ละท่านเป็นผู้ทรงความรู้ ก็เลยคิดว่า น่าจะตั้งกระทู้ถามได้
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับผู้รู้ที่จะกรุณาให้ข้อมูล
หรือหากมีหนังสืออะไรที่พอจะไปหาอ่านได้ ก็จะเป็นพระคุณค่ะ
ตอนนี้ไม่มีหนังสือในมือ ใช้กูเกิ้ลก็ได้อย่างที่เห็น


ขอบคุณค่ะ


บันทึกการเข้า
agree
ชมพูพาน
***
ตอบ: 114


แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 24 พ.ย. 07, 20:05

เวลาลงรูปก็คลิกไปที่ตัวเลือกเพิ่มเติม -> แนบไฟล์ -> Browse ครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า

Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them.
บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.056 วินาที กับ 20 คำสั่ง