*ผมพิมพ์ข้อความสวนกับคุณ cannavaro ชนเรื่องเดียวกันพอดี ระบบเตือนตอนจะโพสต์ถึงได้เห็น แต่ขออนุญาตไม่แก้นะครับ
ผมคิดว่า เจ๊สัว เจ้าสัว และ เจ้าขรัว น่าจะเป็นคำกลุ่มเดียวกัน
ในขณะที่คำไทยของเรามี ขรัว อยู่แล้วเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง (ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้ จ่อซัว เพี้ยนเป็น เจ้าขรัว)
ที่น่าคิดคือ ขรัวตา กับ ขรัวยาย เป็นคำในกลุ่มแรกหรือกลุ่มที่สองกันแน่
คุณจุลลดา ภักดีภูมินทร์ เขียนลงในสกุลไทยดังนี้
มีข้อสันนิษฐานต่อไปอีกถึงคำว่า ‘ขรัวตา-ขรัวยาย’
ขรัว หรือที่จดหมายเหตุโบราณเขียนว่า ‘ขรัว’ นั้น
อาจจะมาจากภาษาจีนว่า ‘กั่ว’ ซึ่งแปลว่า ‘นอก’ อันหมายถึงญาตินอกสาย หรือสายนอกไม่ใช่ญาติสายในหรือสายตรง
เพราะคนจีนนั้นนับ ปู่ย่า เท่านั้นว่าเป็นสายตรง จึงเรียกปู่ย่าว่า ไหล่กง (หรือไหล่ก๋ง) -ไหล่ม่า ‘ไหล่’ แปลว่าตรงหรือสายตรง
ส่วนตายายนั้นนับเป็นญาติสายนอก เรียกกันว่า กั่วกง (หรือกั่วก๋ง) -กั่วม่า
ตั้งแต่สมัยอยุธยาโน้นจึงอาจเป็นได้ที่พระเจ้าแผ่นดินหรือเจ้านายใหญ่โต ได้ลูกสาวคนจีนเป็นพระสนม เมื่อมีโอรสธิดา พ่อตา แม่ยายได้เป็นตายายของเจ้า คือเป็นกั่วกง-กั่วม่า
นานๆเข้า ‘กั่ว’ อาจกลายเป็น ‘ขวัว’ แล้วเป็น ‘ขรัว’ เข้าผสมกับคำภาษาไทยตายาย
ประการหลังนี้เป็นเพียงการสันนิษฐาน อย่างที่เรียกกันว่าลากเข้าหาศัพท์เท่านั้น แต่ฟังไว้ก็ไม่เสียหลายhttp://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=2986&stissueid=2590&stcolcatid=2&stauthorid=13ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับสมมติฐานนี้นัก เพราะเสียง กั่ว ของจีนแต้จิ๋วนั้น จะออกเสียงครึ่ง กั่ว ครึ่ง หวั่ว ชอบกล เป็นเสียงที่คนไทยออกเสียงไม่ได ยิ่งพิลึกเข้าไปใหญ่ที่คนไทยจะเรียก กั่วกง-กั่วม่า ว่า กั่วตา, กั่วยาย เพราะฟังไม่ได้ศัพท์เลย
ผมคิดว่า ขรัวตา ขรัวยาย ไม่ได้มาจากภาษาจีนโดยตรง เพราะฟังแล้วไม่คุ้น จีนแต้จิ๋ว(และอื่นๆเท่าที่รู้จัก)ไม่มีเสียงควบกล้ำแบบนี้ครับ
ดูจากข้อสันนิษฐานของคุณจุลลดา เป็นไปได้ที่ ขรัวตา ขรัวยาย จะกร่อนจาก เจ้าขรัวตา เจ้าขรัวยาย โดยที่เจ้าขรัว ก็คือ จ่อซัว ที่กลายเสียงไปเนื่องจากอิทธิพลของคำ ขรัว ครับ
อีกจุดหนึ่งในบทความของคุึณจุลลดานี้ เรื่องที่คุณศิรินาว่า จ่อซัวแปลว่านั่งบนเขา อันนี้ลูกจีนฟังแล้วเหวอครับ จริงอยู่ที่จ่อซัวแปลว่านั่งบนเขาได้ แต่ในที่นี้ไม่ได้ความอย่างนั้นครับ จ๋อ ในที่นี้เป็นคำวิเศษณ์ "หลักฐานมั่นคง" ไม่ใช่กริยา "นั่ง" อย่างที่ว่าครับ อันนี้เจ๊กเครียดครับ