มหกรรมประจำชาติ ...มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 11

[บัวอื่น]

เทศกาลจับจ่ายปัญญา แฉ............ฉาวไม่เลิกฮิต ตามติดด้วยหนังสือคนดัง ขายดีก็หนังสือรักๆใคร่ๆ ของวัยรุ่นเท่านี้ล่ะ หนังสือดีๆไม่เห็นมีคนมาอ่าน งานที่จะจัดเพื่อประเทืองปัญญา เอาเข้าจริงก็แค่มากะขายหนังสือกันเท่านั้นเอง ถ้าจะว่าไม่หยุดก็ขุดเรื่องหนังสือราคาแพงมาโจมตีกันอีก ถึงจะมีเสียงบ่นเสียงว่ากันบ้าง แต่เราก็ยังภูมิใจเสนอ  “มหกรรมหนังสือ” ส่วนพวกประเด็นปัญหาที่ผูกโยงกันเหล่านั้น เอาไว้โอกาสหน้าจะจัดงานเสวนาร่วมหาทางออกกันอีกทีดีกว่านะ (อันที่จริง ก็จัดกันไปหลายงานแล้วล่ะ ก็ขอเอาใจช่วยให้มีหนทางทีดีต่อลมหายใจคนทำหนังสือกันต่อไปก็แล้วกัน) เอาน่าๆ สนพ.ก็ต้องกินต้องใช้ อีกทั้งมาตรฐานที่ว่าดีไม่ดี มันก็ต่างคนต่างคิดอยู่นา

[บัวอื่น]

กลับมารู้จักงานหนังสือระดับชาติซะให้ตรงกันเสียก่อน เริ่มต้นต้องรู้ว่า 1 ปี เรามีงานใหญ่ๆละลายทรัพย์แบบนี้ ปีละ 2 ครั้ง อันชื่องานนั้นก็จะเรียกต่างกัน ช่วงต้นปี คือมีนา-เมษา จะมาในชื่อสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และงานหนังสือนานาชาติ  ส่วนในรอบที่ 2 ปลายฝนต้นหนาวก็จะพบกับงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ” (อันที่จริงมันก็มีอีกงานมาคั่น 2 งานนี้ งานไม่ไหญ่มากนักแต่ก็ไม่เด็กๆตามชื่อเท่าไหร่ กับ “เทศกาลหนังสือเด็ก”) บรรยากาศของทั้ง 2 งานก็จะคล้ายๆกัน ทั้งบรรยากาศคนร่วมงาน  กิจกรรม ร้านค้าที่มาออกบูธ จะแต่งต่างกันเล็กน้อยที่ที่ว่างานแรก ชื่อก็บอกว่านานาชาติ งานนี้ก็เลยมีบูธ และกิจกรรมจาก สนพ.องค์กรจากต่างประเทศมาแจมด้วย บอกเลยว่างานนี้ทำให้นึกภาพที่ใครๆปลูกฝังว่าคนไทยอ่านหนังสือวันละ3 นาทีบ้างละ ปีละ 8 บรรทัดบ้างล่ะ ไม่ออกเลย  ในงานนี้แล้วคนล้นหลาม ส่วนหนังสือที่ซื้อเรียกว่าหิ้วกลับบ้านไม่ถูกนัก จะให้สมฐานะต้องเรียกว่าลาก ..งานนี้เขาลากหนังสือใส่รถเข็นกลับกันจริงๆ

[บัวอื่น]

เจ้าภาพของงานนี้ก็คือสมาคมผู้จัดพิมพ์ และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ที่จัดร่วมกับภาครัฐและเอกชนเช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร สมาพันธ์องค์กรเพื่อพัฒนาหนังสือและการอ่าน มูนิธิหนังสือเพื่อเด็ก สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย สมาพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ ฯลฯ สำหรับงานที่เราพามาแนะนำในครั้งนี้คืองานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 11 (Book Expo Thailand 2006) ระหว่างวันที่ 18-29 ตุลาคม 2549 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติในปีนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานในเวลา 09.00 น. วันพุธที่ 18 ตุลาคม จากนั้นจะทรงเยี่ยมเยียนสำนักพิมพ์ จนถึงเวลาใกล้เที่ยงวันจึงจะเสด็จกลับ ดังเช่นทุกๆปี ดังนั้นในวันแรกจึงเปิดให้เราๆเข้างานกันได้หลังเที่ยงเป็นต้นไป

[บัวอื่น]

พ่อสอนอ่าน “นิทรรศการหลัก” เอกลักษณ์ของงานหนังสือแต่ละปี สำหรับปีนี้มาในโฉมของหนังสืออันเป็นมงคล “พ่อสอนอ่าน” โดยได้จัดเป็น นิทรรศการ“พ่อสอนอ่าน” มีรูปแบบในการนำเสนอโดยอัญเชิญพระราชดำรัสฯ ด้านการอ่าน  การเขียน และการศึกษา 57 องค์ จัดพิมพ์เป็นหนังสือ “พ่อสอนอ่าน” การออกแบบจึงใช้แนวทางนำเสนอในรูปแบบ “ห้องสมุดพระราชดำรัส” โดย ใช้ Gimmick เป็น “Big Book” Big Book คือหนังสือจำลองขนาดใหญ่ ภายในพิมพ์พระราชดำรัสฯ 1 องค์ต่อ 1 เล่ม ซึ่งมีการทำออกมาถึง 9 เล่ม

[บัวอื่น]

สำหรับการแสดงนิทรรศการนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 โซนได้แก่ โซนแรก เป็นโซนเทิดพระเกียรติ ในส่วนนี้ผู้ร่วมงาน จะสามารถร่วมกิจกรรม โดยพิมพ์หรือเขียนข้อความต่างๆลงในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล้วเจ้าโปรเจคเตอร์ก็จะยิงข้อความลงบนจอรับภาพรูปทรงต้นไม้ใหญ่  ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาให้ความสนใจกับตัวอักษรบนจอรับภาพนี้ได้ ถัดมาที่ โซนห้องสมุด ที่จัดทำเป็นห้องสมุดจำลองประกอบบอร์ดนิทรรศการแสดงพระสาทิสลักษณ์ พร้อมกับแสดงหนังสือจำลอง Big Book  เพื่อให้ผู้ร่วมงานสามารถอ่านพระราชดำรัส ได้โดยสะดวก สุดท้ายที่โซนจำหน่ายหนังสือ โดยได้จัดทำเป็นหนังสือ “พ่อสอนอ่าน” พิมพ์จำหน่ายในงานนี้เพียง 20,000 เล่มเท่านั้น ในราคาเล่มละ 99 บาท ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

[บัวอื่น]

การเตรีมทัพจากสำนักพิมพ์ ปัญหาทั้งการเมืองและน้ำท่วมรุมเร้าขนาดนี้ทำให้ตลอดทั้งปีนี้ยอดจำหน่ายหนังสือค่อนข้างซบเซาลงจากปีก่อน จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าปีนี้ ปกใหม่ๆจะไม่หนาตาเท่าปีก่อน  แถมข่าวร้ายที่ปีนี้ได้ข่าวมาจากสำนักพิมพ์ใหญ่แห่งหนึ่งอีกว่ามีนโยบายไม่พิมพ์ซ้ำ(ถ้าไม่ฮอตฮิตติดชาร์จจริงๆ) ปัญหาเยอะก็ย่อมต้องมีแผนรับมือกันดีที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่เข้ากับบรรยากาศของการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่เป็นพระราชพิธีและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึงยอดจะเริ่มลดลงแต่ก็ยังคงความน่าสนใจสำหรับคนไทยไม่สร่างซา อย่างค่ายหนังสือของดีเอ็มจีของคุณ ดนัย จันทร์เจ้าฉายยังคงยึดคอนเซ็ปท์การจัดจำหน่ายและผลิตหนังสือ "รักพ่อพอเพียง"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 ต.ค. 06, 16:00 โดย บัวอื่น » บันทึกการเข้า

[บัวอื่น]

ส่วนหนังสือที่ออกมาตอนรับเราในงานนี้ รักใสๆของวัยรุ่น และนิยายรักแนวเกลาหลีก็ยังไม่ใช่ขาลง ยังพรึบพรับอย่างเคย เรียกได้ว่าหนังสือแนวนี้ถึงจะมีการแข่งขันสูง แต่ยอดขายโดยร่วมไม่น่าตกใจเท่าหนังสือแนวอื่นๆ แจ่มใสเองนั้น ถึงปีนี้จะเติบโตน้อยลงก็ไม่เป็นปัญหานัก เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจกับปัจจัยอะไรทางสัมคม เศรษฐกิจเท่าไหร่นัก ค่ายใหญ่ๆอย่างมติชน งานที่แล้วคงเป็นที่น่าอิจฉา เพราะได้หนังสือรางวัลชูโรงมาเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นเจ้าหงิญ และหนังสือของผู้เขียนเสนีย์ เสาวพงษ์เจ้าของรางวัลอมตะ ส่วนของคุณประชาคม ลุนาชัย เจ้าพ่อซีรองก็เป็นหนังสือเข้าชิงที่น่าสนใจอยู่เสมอ และที่เน้นทำออกมาเป็นชุดๆ อย่างหนังสือแนวการเมืองก็ดูท่าให้ความสนใจไม่น้อย ยิ่งสถานการณ์บ้านเมืองอย่างนี้ด้วยแล้ว จะเห็นว่าหนังสือแนวการเมืองมีหลายสำนักพิมพ์ลงมาเล่นกันมากพอดูเชียวล่ะ อย่างเนชั่นก็ลงมาเล่นตลาดนี้เอาการอยู่เหมือนกัน ซีเอ็ดก็ยังมาคู่กับหนังสือ How To และหนังสือให้ความรู้ที่ยังขายดี แพรวสำนักพิมพ์นอกจากหนังสือที่มีกลุ่มลูกค้าหนาแน่นแล้วก็ยังควงคู่มากับความสุขของกะทินางเอกของงานเล่มหนึ่ง สำนักพิมพ์มมีอีกเยอะ เขียนแนะนำกันไม่ไหว ใครชอบแนวไหน จะดาราคนดัง ศาสนาปรัชญา หรือหนังสือแนวจัดซิทแตกต้องไปเดินหากันเอาเองนะจ๊ะ

[บัวอื่น]

เตรียมตัวอย่างไรไปเที่ยวงาน ในอาทิตย์แรก เนืองจากเป็นวันหยุดยาว คนเลยค่อนข้างเบาบางกว่าทุกๆปี ก็คาดว่าหลังจากพักยาวแล้ว จะแห่มางานกันให้อุ่นใจคนขาย ปกติแล้วถ้าไปเสาร์-อาทิตย์ สิ่งที่ต้องเตรียมคือ ถังอ๊อกซิเจน  ยิ่งในโซนแพลนนารีฮอล เบียดกันจนงง ดีที่ปีหลังๆได้กระจายเอา สนพ.ใหญ่ๆ ออกมาข้างนอกบ้าง

[บัวอื่น]

ส่วนขาช้อปที่ซื้อไว้อ่านทั้งปี แนะนำให้หารถลากไปด้วย ใครไม่มีงานนี้เขาก็มีบริการที่บูธไปรษณีย์ไทยรึจะซื้อในงานก็ได้ ถ้าจำไม่ผิด 199 บาท ถ้าจำผิด ...อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน แต่เวลาลากระวังๆกันหน่อยนะคะ เห็นทับเท้าเป็นปัญหาให้หงุดหงิดกันประจำ แต่ไม่ต้องกลัวมากงานหนังสือไม่ใช่ผับทับเท้าบ้างก็ไม่มีลูกใครมายิงทิ้ง นอกจากซื้อมากแล้วบางคนตอนซื้อลืมคิดว่ามีมือถือกลับ 2 ข้าง อันนี้แนะนำให้ใช้บริการของไปรษณีย์ไทย อีกนั้นล่ะ บริการจัดส่งถึงบ้านใน 1 วัน  แต่มีดอกจันทร์ว่าเฉพาะในเขาที่กำหนดเท่านั้น นอกเขตก็อาจรอนานกว่านั้นอีกนิด แต่ไม่ต้องกลัว หนังสือทุกเล่มในงานรับประกันส่งนานได้ไม่มีบูดมีเน่า

[บัวอื่น]

เรื่องเงินก็สำคัญ ดูเหมือนจะไม่มีร้านไหนรับบัตร งานนี้รับแต่เงินสดๆนะจ๊ะ และอย่าหวังกับการไปกดตู้เอทีเอ็มมากนัก เพราะบางเวลาลา คิวยาวมากๆ ต่อคิวจนบางคนวิตกจริตว่าเงินอาจหมดตู้ได้ เมาที่อาหารการกินอันนี้เขามีบริการ ที่ศูนย์อาหาร เรื่องราคาก็รู้ๆกันอยู่ว่าสูงกว่าท้องตลาดไปนิด แต่พอทำใจได้ สถานที่แบบนี้ราคานี้ ถ้าไม่พอใจ มีทางออกคะ หลายคนไปพึ่งบะหมี่คัพ ที่ร้านสะดวกซื้อ หรือข้าวกล่องอีซี่ๆ อะไรนั้น หรือก่อนเข้างานแวะไปที่ตึก  ...พอก่อนๆ แหมเรื่องอาหารการกินอย่าไปคิดมาก จัดระเบียบมาดีๆ ตั้งสติไว้นี่มางานหนังสือ

[บัวอื่น]

เกือบคุยเรื่องต่อไป แต่เพิ้งนึกได้ว่ายังไม่บอกวิธีมา ถ้าจะมา BTS ให้มาลงที่สถานีอโศก ดูเหมือนทางงานจะจัดรถบริการรับส่ง ก็ขอเตือนแค่ว่าช่วงเวลาที่รถติดต้องทำใจมากๆ ทำใจแล้วอาจหาอะไรทำต่อ เพราะติดนานจริงๆ อยากเชียร์ให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีศูนย์ประชุมฯเลยจะดีกว่า คนที่เอารถมาเอง ใช้เส้นทางพระราม 3  จากสวนลุมมุงไปคลองเตย มาถึงแยกคลองเตยให้เลี้ยวซ้ายที่แยกนี้ ศูนย์ประชุมฯอยู่ด้านขวามือติดกับตลาดหลักทรัพย์  ส่วนมาถึงแล้วก็มาลุ้นหาที่จอดรถกันเอาเองนะคะ แต่อย่าไปจอดเปลี่ยวนัก งานนี้มีข่าวมาว่ามีจี้กันที่จอดรถซะด้วย บางคนมีทริก ไม่มาเสาร์ –อาทิตย์บ้างละ หรือมาเวลาเปิดแล้วรีบกลับตอนเที่ยงเพื่อเลี่ยงคนก็มี   ส่วนวันท้ายๆ หลายคนที่กะรอของถูกของลดราคา อย่านอนใจ ช่วงนั้นนอกจากหนังสือบางปกอาจหมดสต็อก คนก็เยอะมาก คนชอบของถูก ของเถมของลดราคาวันท้ายๆมีมาก ก็นะ...คุณก็คนหนึ่งล่ะ บอกสถานที่ไม่บอกเวลาก็กระไรอยู่ งานนี้เปิด 9 โมงเช้า แต่อย่าเดินเพลินนะคะงานเขาปิด 3 ทุ่มเท่านั้น ไม่ดึกอย่างงานที่แล้ว

[บัวอื่น]

หมดงานหนังสือก็มีงนาเล็กๆน้อยๆอย่างเทศกาลลดหนังสือของบางสำนักพิมพ์  แต่ก็ไม่ลืมว่าจัดกันอยู่ที่ กรุงเทพฯทั้งนั้นเลย งานใหญ่ๆหนังสือเยอะๆแบบนี้น่าจะลองกระจายไปจัดตามจังหวัดอื่นๆบ้าง อย่างน้อยก็หัวเมืองใหญ่ๆก็ยังดี อย่างเมื่อก่อนก็เคยมี  Happy Book Day ของค่ายมติชนที่ขนไปเอาใจนักอ่านของเขา  แต่มาปีนี้ได้ข่าวว่าไม่มีตะลอนทัวร์เสียแล้ว แหมๆ เสียดายแทนคนต่างจังหวัดนะคะ ส่วนค่ายอื่นๆก็มีงานเล็กๆน้อยๆที่ไปออกบูธ แต่แหมคนต่างจังหวัดเขาบ่นกันมาว่ามันยัง “ไม่ได้ใจ” หนังสือบางเล่มอ่านแล้วอาจโง่มากกว่าเดิม แต่ส่วนใหญ่ต้องยอมรับว่าหนังสืออ่านแล้วช่วยให้คนเราไปในทาที่ดี ที่เจริญขึ้น กระจายกันให้ทั่วถึงค่ะ ต่างจังหวัดก็อยากอ่านหนังสือเหมือนกัน ต้องไม่ลืมว่า “กรุงเทพฯไม่ใช่ประเทศไทย”

[บัวอื่น]

กิจกรรมปีนี้มีอะไรเจ๋ง รายละเอียดกิจเวทีเสวนา Hall Aงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 11 รายละเอียดกิจกรรมอบรมสัมมนา  งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 11 รายละเอียดนิทรรศการและกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ต่างๆ งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 11

[บัวอื่น]

 แผนผังเข็มทิศ ลิขิตเส้นทาง

PLENARY HALL   [เลขที่บูธ A-L]


ZONE C1 [เลขที่บูธ M-P]
PLENARY HALL   [เลขที่บูธ A-L]


ZONE C2[เลขที่บูธ Q-U]
PLENARY HALL   [เลขที่บูธ A-L]


ZONE PLAZA[เลขที่บูธ V]
PLENARY HALL   [เลขที่บูธ A-L]


ATRIUM [เลขที่บูธ W]
PLENARY HALL   [เลขที่บูธ A-L]


MAINFOYER& HALL A[เลขที่บูธ X-Y]
PLENARY HALL   [เลขที่บูธ A-L]

[บัวอื่น]

 ขอเชิญค่ะ
ใครไปงานมาบ้างเเล้วมาร่วมพูดคุยเรื่องงานหนังสือกันที่กระทู้นี้ดีมั๊ยค่ะ

ไปสอยอะไรกันมาบ้างแล้ว
เล้งๆเล่มไหนไว้
มาแนะนำ นำเสนอกันบ้างนะคะ

เราไปมา 1 วัน เดี๋ยวเอามาแบ่งกันดูค่ะว่าเล่มไหยบ้าง แต่ปีนี้ซื้อน้อยมากกกกกก ของเก่าๆยังอ่านไม่หมด เลยกะว่า อยากอ่านก็ค่อยซื้อเอานอกงานก็ได้

ใครหาเล่มไหนไม่เจอ ถามกันได้นะคะ