"รุกสยามในนามพระเจ้า"

[adithus]

นิยายยั่วประวัติศาสตร์ เรื่องเป็นเรื่องราวใน รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ซึ่ง ได้ส่งคณะราชทูตมาเจริญสัมพันธไมตรีกับราชอาณาจักรสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ โดยใช้การเผยแพร่ศาสนาแฝงวัตถุประสงค์แสวงหาผลประโยชน์ทางการค้าและการทหาร ด้วยกลการเมืองที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง กลการเมืองที่อยู่เบื้องหลังนโยบายทางการทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นั่นคือเจตนาที่จะเข้าไปยึดอำนาจในสยาม ด้วยการทำรัฐประหารเปลี่ยนตัวผู้ปกครอง โดยมีสยามเป็นก้าวแรก เป้าหมายที่แท้จริงอยู่ที่การยึดครองอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ทั้งทางการเมืองและศาสนา "เจตนาของคนยุคนั้นค่อนข้างสับสน ไม่รู้ว่าจะเอาผลประโชน์ทางการเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา เงินทอง หรือสงครามกันแน่ หากเจตนาที่ชัดเจนของชาวฝรั่งเศสคือการเข้ามายกระดับจิตวิญญาณของชาวสยาม เพราะสยามขณะนั้นในสายตาพวกเขา คือพวกบูชาพระอิฐพระปูน พวกเขาจึงคิดจะเข้ามาขืนใจให้เข้าสู่อาณาจักรพระเจ้า ชาวคริสต์โดยมากในสมัยนั้นเชื่อกันจริงจังว่า เขาไม่นับถือศาสนาคริสต์จะตกนรก" หากความพยายามของฝรั่งเศสนั้นล้มเหลว เหตุผลเพราะนักบวชเยซูอิสไม่รู้จักสยามดีพอ แต่เพื่อจุดประสงค์สำเร็จลุล่วง คอนสแตนติน ฟอลคอน จึงเป็นแผนการถัดมา ฟอลคอนหรือเจ้าพระยาวิชาเยนตร์ได้รับความไว้วางพระทัยจากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชให้เป็นสมุหนายก เขาจึงถูกอิจฉาริษยา และคบคิดกับบาทหลวงเดอ ลาแซส เพื่อเข้ายึดครองสยามประเทศ จากการเขียนสารภาษาโปรตุเกสเผยความนัย ซึ่งทุกวันนี้ สารฉบับนั้นก็ยังถูกเก็บไว้ที่หอจดหมายเหตุกรุงปารีส หลังจากแผนการยึดเมืองโดยให้บาทหลวงเยซูอิสไม่ได้ผล ฝรั่งเศสได้ส่งเรือรบ 5 ลำ และทหารกว่า 700 นาย พร้อมปืนใหญ่เต็มสูบ มาขอพระราชทานยึดพื้นที่บริเวณป้อมบางกอกเพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ หากนายทหารเหล่านี้ไม่ได้รับสวัสดิการที่ดีจากประเทศแม่ พวกเขาจึงทำการออกปล้นสะดม ฉุดคร่าสตรี แก้ผ้าอาบน้ำเป็นที่อุจาดนัยตาชาวสยามผู้เคร่งศีลธรรม จึงทำให้เป็นที่เกลียดชังไปทั่ว ชาวสยามแสนเจ้าเล่ห์พวกบูชาพระอิฐพระปูนในสมัยนั้นไม่ได้ยินยอมให้ถูกบังคับข่มเหง ชาวสยามสามารถหลีกหนีภัยคริสต์ศาสนา ภัยอิสลาม ภัยจากลัทธิล่าเมืองขึ้น จากการที่บรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในองค์พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แต่งองค์ทรงเครื่องพร้อมใส่รองเท้าบู๊ต สวมวิกใส่หมวกปักขนนก เหงื่อออกโซมกายท่ามกลางความร้อนระอุของเมืองสยาม ขณะที่สองเท้าต้องติดเหนอะอยู่กับโคลนริมฝั่งแม่น้ำ ขณะเดียวกันชาวฝรั่งเศสก็น่าสงสารไม่แพ้กัน พวกเขาจะต้องเดินทางรอนแรมทางเรือมากว่า 7 เดือน เพื่อมาพบกับสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องตกอยู่ในวงล้อมของฝูงยุงที่รุมตอม และโรคร้ายในเขตร้อนไม่ว่าจะเป็นมาลาเรีย โรคลักปิดลักเปิด โรคท้องเสีย ฝ่ายชาวสยามก็ได้มียุทธ-วิธีการต่างๆ ในการรักษาอธิปไตยไว้ ซึ่งบุคคลผู้มีบมบาทโดดเด่น ในการรักษาอธิปไตยในครั้งนี้ก็คือพระเพทราชา ซึ่งได้วางกุศโลบาย และกลศึกในชั้นบรมครู เลยทีเดียว ซึ่งในความเข้าใจเดิมเดิมที่คิดว่า สมัยสมเด็จพระนารายณ์กับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 มีความรุ่งเรืองด้านทูตและจริงใจต่อกัน แต่หนังสือเล่มนี้ได้เปิดประเด็น มุมมองใหม่ที่สะท้อน สภาวะของกิเลส ตันหาจริต โมหะจริต โลภะจริต อีกทั้งมิจฉาทิฐฐิ ที่เกิดขึ้น จึงเกิดเป็นสงครามหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างเจ้าของผลประโยชน์หลายฝ่าย ที่สุดท้ายชาวตะวันตกทั้งหมดกลับต้องแพ้พ่ายให้กับวัฒนธรรมชาติที่เป็นแบบ เฉพาะของชาวสยาม

[CrazyHOrse]

 ไม่นานมานี้คุณ adithus ก็เคยตั้งกระทู้เรื่องนี้มา 2 ครั้งแล้วนี่ครับ ไม่น่าตั้งซ้ำซากแบบนี้ เนื้อหาก็เหมือนเดิมทุกประการ ถึงไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงก็ยังคงรกบอร์ดอยู่ดี

หากจะแสดงความเห็นเพิ่มเติมก็ทำที่กระทู้เก่าได้นะครับ กระทู้จะถูกดันขึ้นมาเอง

[adithus]

 ปัญหาคือว่ากระทู้เก่าผู้เข้าอ่านไม่สามารถออกความเห็นได้ จึงเปิดกระทู้ใหม่ให้ผู้ที่เข้ามาอ่านออกความเห็นได้ครับไม่ได้มีเจตนาอะไรแอบแฝง อย่างที่ท่านติงมา (มีสมาชิกที่อยากจะออกความเห็นส่ง SMS มาหาผมว่ากระทู้เป็นกระทู้ปิดออกความเห็นไม้ได้นะครับ) ถ้าบังเอิญไปขวางลูกตาใครก็ขออภัยไว้ด้วยเพียงเพื่ออยากจะให้คนไทย ได้อ่านมุมมองสยามในสายตาคนต่างชาติ ต่างวัฒนธรรม เพื่อที่จะขอดีข้อด้อยมาปรับปรุงตนเองเท่านนั้นนะครับ
สุดท้ายนี้ ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ส่ง SMS มาแจ้งเรื่องกระทู้คราวที่แล้ว และขอขอบคุณคุณ คห1 ที่ช่วยชี้มุมมองด้านอื่นๆ

[เทาชมพู]

 คุณอาชาผยองท้วงถูกต้องแล้วค่ะ
ครั้งแรก คุณ adithus ไปตั้งไว้ในกระทู้นี้
 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=130&Pid=60282&PHPSESSID=71eda6120d2e8ee065a4e3dd2c9e6ae6
กระทู้นี้ไม่ได้ปิด จนบัดนี้ก็ยังเปิดอยู่  แต่ไม่มีใครเข้าไปตอบนอกจากดิฉันซึ่งตอบว่าไม่ได้อ่านหนังสือเรื่องนี้

ครั้งต่อมา คุณ adithus ก็เอาข้อความในกระทู้แรก ลอกไปลงกระทู้ในห้องงานเขียน
 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=134&Pid=60280
ห้องงานเขียนเขามีเอาไว้ลงเรื่องสั้นที่เจ้าตัวแต่งเอง   เพิ่มเติมความเห็นได้เฉพาะผู้แต่ง

เมื่อคุณ Adithus ส่ง sms มาขอให้ดิฉันออกความเห็น  ดิฉันก็บอกว่าเข้าไปออกไม่ได้เพราะโปรแกรมตั้งไว้ให้เฉพาะคนเขียนเท่านั้นที่โพสต์ได้

ผลคือคุณ Adithus ก็ย้อนกลับมาตั้งกระทู้ใหม่ ซ้ำซ้อนความเดิมในห้องเรือนไทย

ในเมื่อดิฉันไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้    คุณบอกเรื่องย่อมากี่หน  ดิฉันก็ออกความเห็นไม่ได้อยู่ดี  ขอย้ำอีกทีค่ะ

[adithus]

 ด้วยความเคารพครับอาจารย์ เทาชมพู
กระทู้แรก เป็นหัวข้อทีี่ผมตั้งขึ้นมาถามอาจารย์โดยเฉพราะโปรดสังเกต หัวข้อนะครับ
กระทู้ที่ 2 ด้วยความด้อยประสบการณ์ จึงตั้งกระทู้ิผิดประเภท มีเพื่อนท่านนึง SMS                มาให้ผม ว่าออกความเห็นไม่ได้ดังนั้นจึงเขียนไปขอคำปรึกษาจากทีมงาน ซึ่งก็ไม่ได้รับคำตอบ
กระทู้ที่ 3 ผมเปิดขึ้นมาเพื่อให้เพื่อนๆที่อยากจะออกความเห็นได้ออกความเห็น (ไม่รู้จะแก้ปัญหากระทู้ที่ 2 ไม่สามารถออกความเห็นได้อย่างไร จึงใช้วิธีการนี้เพราะรู้น้อยด้อยประสบการณ์)
ที่อธิบายมานี้ คงจะพอเข้าใจเหตุผลนะครับ อาจารย์

[เทาชมพู]

 เพิ่งเข้าใจค่ะ  ขอทวนอีกที
ว่ากระทู้แรก ถามดิฉันคนเดียว  คนอื่นไม่มีสิทธิ์ตอบ  
กระทู้ที่สองตั้งผิด
กระทู้ที่สาม เปิดกว้างให้ใครตอบก็ได้

งั้นดิฉันขอลบให้เหลือกระทู้เดียวนะคะ คือกระทู้นี้

[adithus]

 ตามสะดวกครับอาจารย์ ถ้าเห็นว่าเหมาะสมดำเนินการเลยครับ
เพราะตอนแรกขอคำปรึกษา ไปที่ผู็ดูแล แต่ไม่มีใครตอบให้ความช่วยเหลือกลับมา จึงต้องหาวิธีการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ถ้้าทางทีมงานจะมีการปรับปรุงเสนอให้ปรับปรุงตรงนี้ครับ คือมีพี่เลี้ยงให้มือใหม่อย่างพวกผม
แต่ที่อาจารย์ว่า กระทู้แรก คนอื่นไม่มีสิทธิ ในการตอบ ขอออกความเห็นแย้งครับ คนอื่นนะตอบได้ แต่เมื่อหัวข้อเป็นเช่นนั้น (ซึ่งผมผิดเอง ไม่น่าไปตั้วหัวข้ที่แคบขนาดนั้น) คนอื่นเขาคงไม่กล้าตอบ (อันนี้คิดเอาเองนะครับ)

[CrazyHOrse]

 เข้าใจแล้วครับ

หากมีปัญหาอีก ใช้วิธีถามในกระทู้เดิมก็ได้ครับ เมื่อกระทู้ถูกดันขึ้นมา มีเพื่อนสมาชิกเห็น ก็จะเข้าไปช่วยตอบให้ได้ครับ

[adithus]

 เรียนคุณ CrazyHOrse
ผมขอความช่วยเหลือไปที่ ทีมงานด้วยซ้ำ แต่ไม่มีใครตอบกลับมาช่วยเลยครับ

[บัวอื่น]

 ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทีมงานไม่ได้ตอบเมลล์ของคุณ ความผิดที่หลงหูหลงตาไปบ้าง
กระทู้คุณเเสดงความเห็นได้ปกติเเล้วนะคะ
 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=130&Pid=60282&PHPSESSID=71eda6120d2e8ee065a4e3dd2c9e6ae6

ส่วน
 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=134&Pid=60280
ก็เปิดเป็นปกติให้เเล้วนะคะ

แต่ยังไง เรามาคุยที่กระทู้นี้ดีมั๊ยค่ะ เดี๋ญวจะสับสน

[adithus]

 ขอบคุณครับ

[CrazyHOrse]

 เข้าใจว่า vcharkarn.com เป็นเว็บอาสาสมัคร คนทำงานส่วนมากจะเป็น part-time น่าจะมีคนทำ full-time เพียง 1-2 คน

งานก็จะมากเป็นธรรมดา

ดังนั้นเรื่องที่เป็นกติกาพื้นฐาน ถามเพื่อนสมาชิกก็พอจะช่วยกันได้ครับ

คนละไม้คนละมือ ไม่อย่างนั้นคนทำงานมากแค่ไหนก็ไม่พอครับ

ว่าแต่ว่าจะมีใครมาคุยเรื่องกระทู้คุณ adithus หรือเปล่าหนอ? เล่มนี้ผมก็ไม่เคยอ่านเหมือนกันครับ เข้าใจว่าเป็นนิยายใช่ไหมครับ?

ถ้าสนใจประวัติศาสตร์ช่วงนี้ มีหนังสือชื่อ "การเมืองไทยสมัยพระนารายณ์" โดยอ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ น่าสนใจมากครับ

[เทาชมพู]

 คุณบัวอื่น
อีกสองกระทู้ที่คุณไปขุดขึ้นมาน่ะค่ะ  ฝังไว้อย่างเดิมดีแล้ว  ดิฉันเป็นคนลบเองแหละ

เพราะกระทู้แรก ดิฉันตอบไปแล้ว
กระทู้ที่สอง เจ้าของกระทู้เขาตั้งผิด
เหลือกระทู้นี้กระทู้เดียวพอ  

มีตั้ง ๓ เกินจำเป็นค่ะ

คำแนะนำของคุณอาชาผยอง ดิฉันเห็นด้วยค่ะ   เว็บนี้ คนทำงานเป็นอาสาสมัครกันเกือบทั้งหมด ว่างบ้างไม่ว่างบ้าง
ถ้าสงสัยอะไรในเรือนไทยก็ถามนี้   ดิฉันตอบไม่ได้ก็อาจจะมีสมาชิกอื่นช่วยตอบเองค่ะ

[adithus]

 ผมก็ทำตามกติกานั้นครับ จะสังเกตว่า ผมทั้งส่ง SMS และ Postในนี้เพื่อให้อาจารย์ช่วยตอบ
Ref: CrazyHOrse คห 11
ว่าแต่ว่าจะมีใครมาคุยเรื่องกระทู้คุณ adithus หรือเปล่าหนอ?

ไม่เป็นไรครับ ในส่วนนี้ผมเข้าใจ ว่าในคนมากมาย จะให้สนใจเรื่องเดียวกันก็ขาดความหลากหลาย แต่เปิดประเด็นไว้ เพื่อรอผู้กล้าเข้ามาแรกเปลี่ยนมุมมองกัน เพื่อให้สังคมไทยโดยองค์รวมดีขึ้น ก็ไม่ผิดอะไรใช่ไหมครับ
ความคิดความเห็นผม อาจจะไร้ค่าในผู้ทรงภูมิบางท่าน แต่อาจจะมีความหมายบ้างเพียงเศษธุลี ที่ติดอยู่บน สาราณุกรมเล่มโตนี้
แต่สิ่งนี้ก็จะเป้นหลักฐาน ของสิทธิเสรีภาพ ทางการรับรู้ และการศึกษาตามสิทธิที่ ประชาชนควรจะมี
ขออย่าให้ท่านผู้รู้ทั้งหลาย ปิดโอกาสอยู่เลย พลังแห่งจินตนาการสำคัญมากกว่าความรู้(ไอร์สไตน์)

[เทาชมพู]

โอยตายแล้ว  ดิฉันไม่เข้าใจอะไรซับซ้อนระดับที่คุณบอกหรอกค่ะ
ดิฉันมองตรงๆว่า
๑) เรื่องอะไรที่ดิฉันไม่ได้อ่าน ดิฉันก็ออกความเห็นไม่ได้  ไม่ว่าจะเป็นวรรณคดีระดับโลก ลงมาถึงหนังสือแบบเรียน ก ไก่
ถ้าไม่ได้อ่านแล้ว ออกความเห็นไม่ได้เท่ากัน
แต่ถ้ามีใครในที่นี้  อ่านแล้ว  จะออกความเห็น  หรือไม่ได้อ่านหนังสือ  แต่สามารถออกความเห็นได้  ก็เชิญตามสบาย

๒) เห็นคุณไปโพสต์ซ้ำตั้ง ๓ กระทู้ในเรื่องเดียวกัน  จุดมุ่งหมายเดียวกัน ก็เลยรวบมันเสียให้เหลือ ๑  ประหยัดเนื้อที่

๓) ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับศัพท์อะไรๆ ฟังใหญ่โตน่าเกรงขามอย่างที่พูดมาจนนิดเดียวค่ะ
อ่านแล้วน่ากลัวมากๆ ว่าคุณกำลังพูดอะไรกับดิฉันอยู่ละนี่