เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
อ่าน: 44035 บทกลอนแห่งความรัก
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:31

 ยามนางรักสมัครหมาย
รสคล้ายน้ำทิพย์สวรรค์
ยามนางหน่ายก็ปานกัน
กะน้ำพิษระอิดระอา

                    จารึก
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:32

 สุมามาลย์หวานฉ่ำกับน้ำค้าง
ก็อ้างว้างเพราะพิษความคิดถึง
ใจนั้นหวั่นปั่นป่วนและอวลอึง
เพ้อรำพึงเหมือนมิเคยใจเอ๋ยใจ

"เสน่หา" - เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:34

 อันนี้เขาว่าหาอ่านยากนัก ลองอ่านดูครับ

เมื่อดวงใจได้เฉลยเอ่ยคำรัก
ใจก็มักมั่นคงไซร้ไม่เหหน
ไม่เปลี่ยนแปรใจแท้แม้ใจดล
ทรชนเล่ห์ล่วงหลอกลวงใจ

ใจเพียงหนึ่งดึงดื้อถือรักเถิด
แม้รักเกิดก่อทุกข์ไร้สุขไฉน
ใจยังฝังหยั่งรักล้ำประจำใจ
โอ้ว่าใจ ใจหนอใจ ไยมั่นคง

คุณหญิงกุลทรัพย์ รุ่งฤดี
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:35

 เมื่อดอกไม้โรย

ดอกไม้สีม่วงร่วงตรงหน้า
น้ำตาพร่าพร่างกลางกลีบอ่อน
โอ้ใครไหนเลยจะเชยช้อน
ร้าวรอนแหลกเปล่าเฉาช้ำ

ลมหยุดพัดผ่านไปนานนัก
ไม่ทายทักใบไม้ไม่ชื่นฉ่ำ
ท้องฟ้าวันนี้เป็นสีดำ
สายน้ำนิ่งสงบซบเซา

โลกแตกดับแล้วหรือนี่
ทันทีที่สบตารู้ว่าเขา
สักนิดมิได้รักเรา
โศกเศร้าเจ็บปวดทั่วหัวใจ

โอ้ความใยดีที่มอบมั่น
เขาหยันหยามเราเท่าไหน
ซื่อนักโง่นักเมื่อรักใคร
เทิดเทินให้ได้ทั้งนั้น

ความทรงจำเมื่อวันวานอ่อนหวานยิ่ง
ทุกสิ่งงดงามคือความฝัน
เพียงกระพริบตาก็ดับฉับพลัน
ตื้นตันน้ำตาอาวรณ์

ดอกไม้สีม่วงร่วงต่อหน้า
รอเขามาเหยียบยับกับกลีบอ่อน
และหัวใจผู้หญิงเขลาซึ่งร้าวรอน
จะวางซ้อนอ่อนแอบอยู่แทบเท้า

ปิ่นฤทัย  รวิปรีชา
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:38

 ขอ

ไม่มีความรักใดให้อีกแล้ว
สำหรับแก้วขวัญจิตยอดมิตรเอ๋ย
ไม่มีแล้วสิ่งใดให้อีกเลย
แม้คำเอ่ยว่าสนิทเหนือมิตรใด

เพียงสำนึกหนึ่งยังหวังอยู่ว่า
จะเห็นฟ้าพร้อยดาวพราวไสว
ระยิบแสงแข่งแขแลไกลไกล
เหนือดวงใจดวงหนึ่งซึ่งมืดมน

ขอให้ความระลึกที่มีต่อมิตร
ได้ตามติดเฝ้าแฝงทุกแห่งหน
เพื่อเป็นเพื่อนยามพรั่นหวั่นกมล
จากเราคนที่หวงห่วงและตอย

ถ้าทำได้ทุกทางเหมือนอย่างคิด
จะตามติดต่อไปไม่ท้อถอย
ในความรักความฝันอันเลื่อนลอย
แม้เปิดรอยแผลใจไว้อาวรณ์

แต่เกินจะทำอะไรต่อไปแล้ว
เพียงมีแววเรียงร้อยถ้อยอักษร
ฝากความรักซ่อนซุกมาทุกตอน
ทุกคำกลอนคือใจรักไม่คลาย

โอ้ความรักความหวังดังดอกฟ้า
เลื่อนลงมาให้สอยแล้วลอยหาย
เหลือริ้วรอยร้อยอยู่มิรู้วาย
สุดสิ้นสายสวาทช้ำชีพลำเค็ญ

หากเธอมีรักใหม่อย่าให้รู้
และถ้าอยู่กับใครอย่าให้เห็น
ให้ฉันเถอะ...ขอร้องสองประเด็น
แล้วจะเป็นผู้แพ้อย่างแท้จริง

                    สนธิกาญจน์  กาญจนาสน์
                     2518 - รวมกลอนชมรมนักกลอน
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:39

 นี่แหละฉันละ

๏ คนอย่างฉันถ้าใครทำให้โกรธ
ก็ใจโหดโกรธมากยากจะหาย
เช่นเดียวกันถ้าใครทำให้อาย
ใจฉันร้ายพอที่จะย้อนประจาน

อาจเห็นว่าอ่อนไหวและใจน้อย
สะกิดหน่อยแต่เลือดก็เดือดพล่าน
ใจกลับดำคำกลับกล้าวาจาพาล
และอาจรานให้อีกฝ่ายทลายลง

ตรงกันข้ามกับที่ใครทำให้รัก
ย่อมประจักษ์แก่ตาว่าฉันหลง
ทั้งจะห่วงท้วงทักพะวักพะวง
ยอมให้ทรงสิทธิ์สุขทุกสิ่งอัน

เธอก็รู้อยู่เต็มใจมิใช่หรือ
คนหัวดื้อคนนี้...นี่แหละฉัน
นี่แค่เรื่องเคืองคับลิ้นกับฟัน
เธอยกมันขึ้นมาเป็นอารมณ์

รู้ว่าโกรธยังกล้าท้าให้โกรธ
เลยลงโทษคนที่ท้าอย่างสาสม
ปล่อยให้สองตาฉ่ำน้ำตาตรม
รอยแค้นบ่มค้างอยู่ในใจฉันนี้

อยากแก้แค้นเธอนักที่รักเอ๋ย
อย่างที่เคยทำทุกคนจนผละหนี
แต่ฉันพบการแก้แค้นซึ่งแสนดี
คือการที่ฉันยอมให้อภัยเธอ ๚

ทวีสุข ทองถาวร
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:42

 นิยาม

การจากไกลเป็นนิยามของความรัก
การอกหักเป็นนิยามของความหลง
การภักดีเป็นนิยามความมั่นคง
ความซื่อตรงเป็นนิยามความศรัทธา
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:42

 ข้างบนแปะไม่ครบ ขออภัยครับ

    นิยาม

การจากไกลเป็นนิยามของความรัก
การอกหักเป็นนิยามของความหลง
การภักดีเป็นนิยามความมั่นคง
ความซื่อตรงเป็นนิยามความศรัทธา

การร้องไห้เป็นนิยามความพ่ายแพ้
การผันแปรเป็นนิยามความใฝ่หา
ความเจ็บช้าเป็นนิยามของน้ำตา
การจากลาเป็นนิยามแห่งความจริง
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:46

 บทนี้ชอบมากครับ ลองอ่านดู

แด่อดีต

๏ " เดือนค้างฟ้าลาลับดับดวงแล้ว
เสียงไก่แก้วขันขานกังวานใส
นิทราเถิดจอมขวัญจักหวั่นไย
พี่อยู่ใกล้แนบกมล...แล้วคนดี

หยุดสะอื้นกลืนกล้ำความช้ำเถิด
อย่าเตลิดขวัญล่องให้หมองศรี
กลางลมหนาวเจ้าพระยาค่อนราตรี
"ประเพณี" เกินพรากเราจากกัน

ไม่มีแม้ฐานะ , ตระกูล , ชาติ
สุดอำนาจเงินตรามาขีดคั่น
มีแต่ความรักแท้แน่นิรันดร์
ตราบตะวันจะยัง...มิรังรอง

นิทราเถิดขวัญหทัยในอ้อมรัก
ขอจงหักใจห้ามความหม่นหมอง
หลับในอ้อมกอดพี่ที่ตระกอง
ก่อนเราต้องจากกัน...จวบวันตาย

"เจ้าพระยา" หลับแล้วแก้วใจเอ๋ย
ดาวก็เลยลาล่วงดับดวงหาย
หนาวลมหนาวโชยผ่านสะท้านกาย
หลับเนตรพรายให้สนิทสู่นิทรา

อ้อมกอดพี่จักให้ไออบอุ่น
ก่อนอรุณรุ่งแรงแสงอุษา
คืนแห่งการจากกันขวัญชีวา
ขอพี่จารึกไว้ในกมล "

เดือนค้างฟ้าลาลับ...ดับดวงแล้ว
ลมหนาวแผ่วเยียบเย็นทุกเส้นขน
ภวังค์ตื่นคืนสำนึกรู้สึกตน
หัวใจท้นชอกช้ำเกินคร่ำครวญ

นับตั้งแต่วันนั้น...ถึงวันนี้
วัน , เดือน , ปีผ่านไปนับไม่ถ้วน
เจ้าพระยาเปลี่ยนกระแสหลากแปรปรวน
ลมหนาวหวน...แล้วห่างร้างนิวรณ์

แต่...ดวงใจดวงนี้มีเพียงหนึ่ง
รักสิตรึงตราอยู่ยากรู้ถอน
ต่อให้สิ้นกัปกัสป์พุทธันดร
ก็สุดรอนรักล่วงพ้นห้วงจินต์

เธอจะอยู่แห่งไหน...ในผืนหล้า
รู้เถิดว่าพี่ครวญหวนถวิล
ไม่สิ้นแรงร่างล้มลงถมดิน
พี่ไม่สิ้นคำนึง...คิดถึงเธอ

สุรพล  สุมนนัฏ
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:47

 คนใกล้

๏ ยิ่งใกล้เธอเท่าใดยิ่งไหม้หมอง
เพราะจำต้องหักอารมณ์ข่มแรงหวัง
แม้รสรักขื่นเศร้าเท่ารสชัง
ก็สุดรั้งฤดีไว้มิให้ภักดิ์

ยิ่งใกล้เธอเท่าใดใจแทบขาด
ถ้าความบาดใจเป็นเช่นรอยสัก
การพบกันแต่ละครั้งดังชนัก
คงจำหลักแดพร้อยนับร้อยพัน

หากฉันมีคุณค่ามากกว่านี้
ก็พร้อมที่ทำตามความใฝ่ฝัน
และหากลืมข้อแตกต่างระหว่างกัน
จิตหมายมั่นเพียงใดจะให้รู้

แต่รำลึกตัวดีมีค่าน้อย
ฉันคนด้อยเกียรติมวลไม่ควรคู่
ม่านไมตรีก็จะเป็นประตู
ที่ปิดอยู่ซ่อนสำนึกอันลึกซึ้ง

ตาต่อตามิได้หมายถึงจิต
กายอยู่ชิดเมื่อใจเอื้อมไม่ถึง
ยิ้มตอบยิ้มใช่สลักรักรัดรึง
คนใกล้จึงแสนไกลในชีวิต ๚

สินี เต็มสงสัย
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:48

 เหมือนนกขมิ้น
     
๏ ความเป็นห่วงของใครก็ไม่รู้
มาซุกอยู่ใต้หมอนฉันนอนหนุน
พรางสื่อพจน์รสถ้อยร้อยละมุน
ซ้ำยังกรุ่นกลิ่นแก้มไว้แกมกัน

นี่รอยแก้มแต้มไว้..ของใครหนอ
แนบแก้มคลอเคลียครองข่มหมองขวัญ
ฉันว้าเหว่แรมหวังมาทั้งวัน
ขอฝากฝันพอแฝงสร้างแรงใจ

เดือนข้างแรมค้างรุ่งรอพรุ่งนี้
เหมือนใจที่ทุกข์ท้อรอวันใหม่
คืนพรุ่งนี้นี่จะนอนแนบหมอนใคร
เหลือบ้างไหมชายคาที่อาทร

" โอ้อกเอ๋ยหัวอกนกขมิ้น
เจ้าเสเพลพลัดถิ่นเที่ยวบินร่อน
นี่ดึกแล้วเตลิดหลงกลางดงดอน
จะเกาะคอนเคียงใครที่ไหนเอย "

ฉันถูกปล่อยอยู่กลางความว่างเปล่า
เหมือนอกเจ้านกขมิ้นชินจนเฉย
พรุ่งนี้ขวัญคงคว้างอีกอย่างเคย
ชีพสังเวยความทุกข์ที่คุกคาม

กราบหมอนน้อยเพื่อนนอนค่อนคืนนี้
ขอพรศรีสรวมกมล " คนต้องห้าม "
ยืมเยื่อใยใต้หมอนสะท้อนความ
แทนถ้อยถามทักท้วงเธอห่วงใย

สำหรับเธอที่ฉันเฝ้าฝันหา
หากถามว่าคืนนี้นอนที่ไหน
" จะตอบถ้อยที่ถามไปตามใจ
ฉันหลับแล้วอยู่ใกล้ใกล้หัวใจเธอ " ๚

ทวีสุข ทองถาวร
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:51

เพ็ญพระจันทร์นั้นสว่างแต่ข้างขึ้น
กระต่ายมึนเมาเพ็ญจนเป็นบ้า
อันทรามวัยใสสุกทุกเวลา
น้ำใจข้าเมามึนทั้งขึ้นแรม

"นิทานเวตาล" - น.ม.ส.
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:56

 ใครบอก
ใครบอกคิดถึงเธอ    แค่อยากเจออยากเห็นหน้า
ใครบอกว่าอยากมา    บังเอิญน่าไม่ตั้งใจ
ใครบอกว่าฉันหวง    แค่อย่าควงกับใครใคร
ใครบอกว่าห่วงใย    แค่กลัวภัยมาใกล้เธอ
ใครบอกว่าฉันหลง    แค่ซื่อตรงมั่นคงเสมอ
ใครบอกว่าละเมอ    แค่แอบเพ้อเพราะเผลอไป
ใครบอกว่าหมายปอง    แค่แอบมองผิดตรงไหน
รักเธอก็ไม่ใช่    แต่ทั้งใจให้หมดเลย
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:57

 ยังน้อยกว่า
ถึงพระลอลืมเลือนเพื่อนแพงสนิท
ถึงกามนิตลืมยุพาวาสิฏฐี
ถึงพระนลลืมนิยม ทมยันตี
ถึงคาวี ลืมขวัญจันทร์สุดา

ถึงพระรามลืมสีดาทำน่าแค้น
ถึงขุนแผนลืมนางพิมไม่ยิ้มหา
ถึงอิเหนาลืมนุชบุษบา
ยังน้อยกว่าตัวเราถูกเขาลืม!

หรือว่า...

ถึง..พระลอลืมเลือนเพื่อนแพงสนิท
ถึง..กามนิตลืมยุภาวาสิฐี
ถึง..อานนท์ลืมนิยมทมยันตรี
ถึง..คาวีลืมขวัญจันทร์สุดา
ถึง..พระรามลืมสีดาทำหน้าแค้น
ถึง..ขุนแผนลืมพิมไม่ยิ้มหา
ถึง..อิเหนาลืมนุชบุษบา
มิโศกากว่าฉันเศร้าเมื่อเขา..ลืม

ถึงพระลอลืมเลือนเพื่อนแพงสนิท          
ถึงกามนิตลืมบุพผาวาสิฏฐี        
ถึงพระนลลืมอนงค์ทมยันตี      
ถึงคาวีลืมขวัญจันทร์สุดา
ถึงพระรามลืมผกาสีดาเจ้า        
ถึงอิเหนาลืมยุพินจินตหรา        
ถึงอิศวรลืมสมรอรอุมา
ไม่เศร้ากว่าตัวเราถูกเขาลืม

ถึงพระรามลืมสีดาไม่น่าแค้น
ถึงขุนแผนลืมพิมไม่ยิ้มหา
ถึงอิเหนาลืมนงนุชบุษบา
ไม่เศร้ากว่าตัวเราถูกเขาลืม
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 27 ก.ย. 06, 16:59

 ไม่อาจห้ามใจ

จะให้ลืมลืมอย่างไรใจยังรัก
จะให้หักหักอย่างไรใจยังหลง
ถึงจะห้ามห้ามอย่างไรใจพะวง
ใจยังคงฝันซึ้ง.....คิดถึงเธอ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.075 วินาที กับ 19 คำสั่ง