ยินดีต้อนรับ
ท่านผู้มาเยือน
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
หน้าแรก
ตู้หนังสือ
ค้นหา
ข่าว
: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
เรือนไทย
>
General Category
>
ภาษาวรรณคดี
>
ร่วมร้อยจิตร้อยใจ ถวายในหลวง เถิดปวงท่าน
หน้า: [
1
]
พิมพ์
อ่าน: 7128
ร่วมร้อยจิตร้อยใจ ถวายในหลวง เถิดปวงท่าน
OBORO
ชมพูพาน
ตอบ: 158
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์
เมื่อ 15 ก.ย. 06, 17:45
กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาเพราะอยากให้ชาววิชาการดอทคอมตลอดจนชาวไทยทุกท่านที่ผ่านเข้ามา ได้เข้ามาแสดงความจงรักภักดีแด่ในหลวงของเราตามความคิด ความรู้สึกที่อยากจะเอื้อนเอ่ย กลั่นกรองผ่านออกมาทางคำกลอน โคลง ฉันท์ กาพย์ หรือบรรยายความรู้สึกเป็นร้อยแก้วก็ไม่ว่ากัน อนึ่งหากท่านใดมีความปรารถนานำภาพมาลงประกอบด้วยก็ไม่ว่ากันจักเ็้ป็นพระคุณยิ่ง เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผองเราให้ได้ชื่นชมพระบารมีของพระองค์ด้วยความปีตีที่ล้นยิ่งๆขึ้นไป
จริงอยู่..บางคนอาจแย้งว่าการจงรักภักดี่ในหลวงนั้นจำเ็้ป็นที่จะต้องพูดออกมาหากคงไว้ในใจก็พอ ใช่ครับถูกแล้ว....
แต่การที่เราได้แสดงมันออกมาพร่ำ่พรรณาความรู้สึกของเรามันก็ทำให้เรารุ้สึกดีไม่ใช่หรือครับ ทำให้ผุ้้อื่นมีความรู้สึกดีๆปลาบปลื้มใจในพระบารมีของในหลวงพ่อแห่งปวงชนชาวไทย ทวีความรู้สึกศรัทธาและยินดีรู้ที่ว่าคนอื่นๆก็รักในหลวงของเขาด้วยเหมือนกัน....
วันนี้ ยังคิดกลอนไม่ออก แต่จะขอเอารูปมาลงให้คนที่ผ่านมาได้ชื่นชมพระบารมีแห่งมหากษตริย์ไทยที่ชื่อก้องเกียรติไกรไปทั่วไพศาล
พระนามว่า "ภูมิพลดุลยเดชมหาราช"
ที่มาจาก
http://www.thaimonarchy.com/gallery02.php
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
ตอบ: 158
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์
ความคิดเห็นที่ 1
เมื่อ 15 ก.ย. 06, 21:16
มีเรื่องน่ารู้มาเล่าสู่กันฟังครับ ซึ่งเรื่องเหล่านี้บางคนอาจไม่เคยอ่านหรือได้ยินมาก่อน
รวมเรื่องเล่าน่ารักๆ ของในหลวง
เรื่องเล่าเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ได้รับการ Forward Mail ต่อๆกัน หากคุณได้อ่านและสัมผัสกับเรื่องเล่าจากในวัง .... คุณจะรักในหลวงของเรามากยิ่งๆขึ้น
เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก เมื่อสมเด็จพระเทพฯทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ และได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสด และถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า "ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ"
แม่ค้าตอบว่า " ที่สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท และที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80บาทจ๊ะ"
เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพาลที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน
---------------------------------------------------------------------------------------
อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูล ที่คล่องแคล่วและใช้ ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้ จึงมีคำกราบทูลว่า
"ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่าบัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระพุทธเจ้าข้า.."
มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือน ก็ทรงตรัสถามว่า " เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว.. "
พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า "มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว"
เรื่องนี้ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง
---------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาตนำ พระบรมฉายาลักษณ์ของท่าน มาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า
"ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์"
---------------------------------------------------------------------------------------
มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตรให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวนพระโอสถ แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า "ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า"
ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆกับอธิการบดี ว่า"เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก"
---------------------------------------------------------------------------------------
เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่าในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า
"ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์"
ในหลวงทรงตรัสว่า "ขอเดชะ พระหมดแล้ว"
---------------------------------------------------------------------------------------
ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวี(ผิวหน้า)มีพระอาการคัน มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษาคุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์ก็กราบบังคมทูลว่า
"เอ้อ - ทรง... อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ"
พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า "ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง"
แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่าหมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า
" อ้าพูดภาษาอังกฤษกันเถอะ"
เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป
---------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร อธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้วบังเอิญว่ามีเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้อ่านขาดตอน ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่า
"เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว"
และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้ง เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม
---------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงานว่า
" ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตกราบบังคม ทูลรายงาน ฯลฯ "
เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวลอย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ ถือสาว่า " เออ ดี เราชื่อเดียวกัน.."
ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้
---------------------------------------------------------------------------------------
วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาท แล้วก็เอามือของแกมาจับ พระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่ายายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง แล้วก็พูดว่ายายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร แต่พวกข้าราชบริภารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัยหรือไม่ แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น ก็ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวเพราะพระองค์ทรงตรัส! ว่า
" เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิถึงจะถูก"
---------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า นางสนองพระโอษฐ์ ของฟ้าหญิงองค์เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิง ทางนางสนองพระโอฐก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า" คนที่แบงค์ "
นางสนองพระโอฐก้อ งง .....งง ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก้อยังไม่เปิดนี่หว่า พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่เชื่อเปิด กระเป๋าตังค์ แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ อิ อิ ขนลุกเลย
---------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : Forward Mail & ส่วนหนึ่งมาจากหนังสือเรื่อง ที่สุดในหัวใจ
และ
http://www.thaimonarchy.com/story_det.php?con_id=51&name=story
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
ตอบ: 158
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์
ความคิดเห็นที่ 2
เมื่อ 15 ก.ย. 06, 21:50
เราจะครองแผ่นดินถิ่นโดยธรรม
จะน้อมนำธรรมดีศรีสยาม
จะปกครองไพร่ฟ้าประชาคาม
สุขทุกข์ยามใดๆไม่หวั่นใจ
ประชาชนไม่ทิ้งเราเฝ้าเอาจิต
อาทรพิศสนิทรักใช่ผลักไส
เรานั้นหรือใช่เคยคิดทิ้งดวงใจ
เพราะหทัยรักราษฎร์มิอาจจร
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
ตอบ: 158
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์
ความคิดเห็นที่ 3
เมื่อ 15 ก.ย. 06, 22:03
เด๋วคิดกลอนออกจะมาลงครับ ขอแปะไว้พลางๆก่อน
จาก
www.thaimonarchy.com
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
ตอบ: 158
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์
ความคิดเห็นที่ 4
เมื่อ 16 ก.ย. 06, 20:59
เทิดเกียรติเทิดรักสลักจิต
เทิดบพิตรบรมวงศ์องค์สยาม
อันมิ่งขวัญใจไทยทั่วเขตคาม
นอนตื่นยามฟื้นนิทราคราใดๆ
จะงานใดในหล้าพ่อไม่หวั่น
พ่อฝ่าฟันกลั้นทนบ่นที่ไหน
ดั่งสายฝนล้นฟ้านภาลัย
ปรายปรายไปพรมใจให้ร่มเย็น
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 5
เมื่อ 18 ก.ย. 06, 10:48
.
เชิญอ่านกระทู้นี้ด้วยค่ะ
http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=18&Pid=53376
และ
http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=20&Pid=52152
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกกระทู้:
-----------------------------
General Category
-----------------------------
=> ศิลปะวัฒนธรรม
=> ภาษาวรรณคดี
=> ระเบียงกวี
=> ชั้นเรียนวรรณกรรม
=> หน้าต่างโลก
=> ประวัติศาสตร์โลก
=> ประวัติศาสตร์ไทย
=> ทันกระแส
=> วิเสทนิยม
=> ห้องหนังสือ
=> ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย
Powered by SMF 1.1.21
|
SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder
XHTML
|
CSS
|
Aero79
design by
Bloc
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.037 วินาที กับ 19 คำสั่ง
Loading...