ติหลาอรสา
มัจฉานุ
 
ตอบ: 60
เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน
นักนอนและนักกิน
|
อยากจะทราบว่าจะหาอ่านได้ที่ไหนคะ อยากจะทราบข้อมูลด้วยว่าใครเป็นคนแต่งเรื่องนี้ อ่านมาตั้งแต่ป.2 ไม่เคยรู้เลยว่าท่านใดประพันธ์ ประทับใจมากมาย วันนี้นึกออกเลยมาถามที่นี่ ใครพอทราบมั่งคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
 
ตอบ: 60
เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน
นักนอนและนักกิน
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 12 ก.ย. 06, 18:18
|
|
ค้นไปค้นมาในเน็ตก็เจอแล้วค่ะ ถ้าอยากอ่านไปอ่านกันได้ที่นี่นะคะ แต่ก็ยังไม่ทราบอยู่ดีว่าท่านใดเป็นผู้ประพันธ์ http://www.lokwannakadi.com/neo/lumnum.php
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 12 ก.ย. 06, 18:43
|
|
มันมีภาค ๒ หรือเปล่าคะ ที่เคยอ่านมา จำไม่ได้ว่านิดกับหน่อยตายเอาดื้อๆยังงั้น แต่จำได้ว่าชอบ น้อย มากกว่าเพื่อน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
 
ตอบ: 60
เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน
นักนอนและนักกิน
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 12 ก.ย. 06, 18:53
|
|
เท่าที่จำได้ ก็จบแบบนี้แหละค่ะ ตอนครูให้อ่านนิด กับ หน่อย ตาย โอ้น้ำตาร่วงเป็นเผาเต่า แล้วครูก็สาธยายว่านกที่ถูกจับมาไว้รวมกัน เพื่อรอให้เราไปปล่อยตอนทำบุญนั่นมันทรมานยังไง แล้วอาจจะมีนิดกับหน่อยปนอยู่ในนั้นด้วย ตั้งแต่นั้นมาไม่เคยปล่อยนกปล่อยปลาหรือปล่อยอะไร ๆที่เห็นว่าพอจะถูกจับกลับมาได้อีกเลย ไปเห็นสัตว์น่าสงสารเหล่านี้อีกทีที่วัดระฆัง ตอนไปราชนาวิกสภาดูเขาซ้อมงานเห่เรือเมื่อเดือนกันยายน ก็ให้สงสาร เวทนา เป็นที่ยิ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
tuka007
พาลี
   
ตอบ: 291
คนจับจอบจับเสียม
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 12 ก.ย. 06, 21:09
|
|
 . |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จงยิ้มให้โลก...แล้วโลกจะยิ้มให้เรา
|
|
|
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
 
ตอบ: 60
เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน
นักนอนและนักกิน
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 13 ก.ย. 06, 01:41
|
|
ท่านผู้ประพันธ์เรื่องนี้เก่งมากค่ะ ทำให้เราเศร้าในชะตากรรมของพ่อนก แม่นก ที่คู่ของตนเองต่างตาย แล้วก็ให้ความหวังเพราะพ่อนกแม่นกเริ่มสร้างครอบครัว เริ่มมีลูกน้อย สอนบิน ทะเลาะกับลูก ให้ความอบอุ่นที่ละน้อย เพื่อที่เราจะได้ถนอมความอบอุ่น ความสุขอันนั้นไว้ อ่านตอนกลางแล้วจะรู้สึกดี รู้สึกสนุก พอถึงตอนท้าย นิดกับหน่อยติดแร้วและตาย เหมือนใจถูกกระชากไปโดยมืออำมหิต
เด็ก ๆที่อ่านเรื่องนี้ได้ทั้งเรียนรู้ชีวิตจริง ได้ความรู้สึกอนุรักษ์ธรรมชาติ และมีคุณธรรมมากมายแฝงฝังอยู่ ยิ่งอ่านไปยิ่งอยากรู้ว่าใครกันหนอเป็นผู้ประพันธ์ สงสัยต้องไปถามกระทรวงศึกษาธิการ จะมีใครรู้ไหมเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คิดไม่ออกบอกระเบียบรัตน์
อสุรผัด

ตอบ: 10
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 20 ก.ย. 06, 00:13
|
|
 . . ฝากให้คุณดาหาชาดาค่ะ ติดตามงานเขียนของคุณมาน้าน ชอบๆๆ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
 
ตอบ: 60
เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน
นักนอนและนักกิน
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 21 ก.ย. 06, 01:48
|
|
โอ้ ขอบุคณมากทั้งชื่อผู้แต่ง และที่บอกว่าติดตามมานาน ปลื้มมากค่ะ แต่คิดไม่ออกต้องบอกระเบียบรัตน์จริงเหรอคะ วันหลังคิดไม่ออกจะได้มาบอกมั่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Surfing
อสุรผัด

ตอบ: 1
Somdej prapinklao Hospital
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 21 ก.ย. 06, 07:44
|
|
คำถาม - คำตอบ ล้วนเป็นการสร้างสรรที่น่ารัก และควรยกย่องในการพยายามหาคำตอบ สงสัยนิดหน่อย คิด - นึกออกได้อย่างไร นกกางเขนสมัยเรียน ป.2
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
thawankesmala
อสุรผัด

ตอบ: 46
Khon Kaen University
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 21 ก.ย. 06, 09:14
|
|
อยากอ่านจัง จำได้คลับคล้ายคล้บคลา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
 
ตอบ: 60
เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน
นักนอนและนักกิน
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 22 ก.ย. 06, 00:58
|
|
มันคงเป็นความประทับใจที่ไม่เคยลืมมั้ง แล้วก็คงเป็นความเก่งกาจของท่านผู้ประพันธ์ด้วย ถ้านิทานร้อยบันทัดเรื่องนี้เต็มไปด้วยความสุข มันคงไม่ประทับใจเราเนิ่นนานขนาดนี้ มันคงก็จะเหมือนนิทานเด็กเรื่องอื่น ๆนับร้อยที่เราอ่านแล้วก็ลืมไป ยกเว้นเรื่องที่เป็นต้นแบบของแนวนั้น ๆอย่างสโนว์ไวท์ เจ้าหญิงนิทราที่เล่ากันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราจำได้ว่าปีนั้นเป็นปีแรกที่เข้าโรงเรียนที่เชียงใหม่ ห้องเรียนอยู่ชั้นใต้ถุนของเรือนทรงปั้นหยาหลังใหญ่ ที่เคยเป็นบ้านของมิสชั่นนารี่รุ่นแรก ๆที่ขึ้นไปทางเหนือมาก่อน เวลาเพื่อนห้องข้างบนกระแทกเท้าแรง ๆ จะมีฝุ่นจากไม้กระดานโรยลงมาเหนือโต๊ะเราเล็กน้อย นอกจากเรือนที่เป็นชั้นเรียนของพวกเราแล้ว ก็ยังมีเรือนทรงเดียวกันอีกสามสี่หลังที่มีนักเรียนชั้นโตขึ้นไปอีก
ข้างนอกเรือนทรงปั้นหยาเป็นต้นจามจุรีสูงใหญ่เงื้อมเงา รากของมันที่แผ่โดยรอบพื้นดินปนทรายใหญ่กว่าสนามฟุตบอล ทำให้มันกลายเป็นที่เล่นซ่อนหา เล่นขายของ เล่นกระโดดหนังยาง เล่นอีต๊อก ของเด็กๆประถมที่ใส่กระโปรงแดง เสื้อขาวนับร้อย ๆคน
เมื่อชั่วโมงที่รอคอยมาถึง เราจะได้อ่านหนังสือเรื่องนกกางเขนต่อกันแล้ว เราจะรีบเข้าไปในห้องหยิบหนังสือมากางเตรียมรอไว้ด้วยใจปรีดา ครูผู้หญิงวัยกลางคนใส่แว่นหนาเตอะถือไม้เรียวอันยาวเดินเข้า แล้วก็เรียกนักเรียนให้อ่านทีละคน พร้อมกับเล่าเรื่องราวเสริมเข้าไป
ภาพที่เห็นแม้จะลางเลือนเต็มทีด้วยกาลเวลา แต่ประหลาดที่ในความรู้สึกมันกลับสดใหม่ เหมือนว่าเพิ่งเมื่อวานนี้เองที่เราได้อ่านหนังสือเล่มนี้
นกกางเขนเป็นหนังสือโศกนาฏกรรมเรื่องแรกที่เราเคยอ่านในชีวิต แล้วก็ "อิน"เหลือหลาย เพราะนี่คืออารมณ์ทุกข์โศกลึกซึ้งแรกที่เราได้จากการอ่านหนังสือ
หนังสือเล่มนั้นเปิดโลกอีกใบให้เด็กคนนั้น นั่นคือ โลกแห่งการอ่าน เราเริ่มอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า ไปนั่งนอนอยู่ในห้องสมุดเล็ก ๆที่หัวมุมแจ่งหัวรินเป็นวัน ๆเพื่อหาอ่านเรื่องที่ให้ความสะเทือนใจเหมือนกับนิ่ม นิด หน่อย น้อย แล้วก็ได้พบอะไรมากขึ้นมากขึ้นทุกที (รวมทั้งขี้ฝุ่นหนาเตอะ รังปลวก ในชั้นพงศาวดารจีนที่ไม่มีใครเคยเดินไปถึง)
แม้กระนั้น เราก็ไม่มีวันลืมพ่อนก แม่นก นิ่ม นิด หน่อย น้อยกับน้ำตาหยดแรกที่หยาดลงบนหน้าหนังสือได้เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คิดไม่ออกบอกระเบียบรัตน์
อสุรผัด

ตอบ: 10
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 22 ก.ย. 06, 01:32
|
|
 . นกกางเขนเป็นนกที่ดุ เบียบเห็นไล่จิกแมวอย่างไม่ครั่นคร้ามยามเจ้าเหมียวมากวนใจอยู่หลายครั้ง ผู้แต่งเรื่องนี้ใส่จิตวิญญาณให้ตัวละครทั้งหก พ่อแม่ และลูกน้อยอีก 4 ตัว ได้อย่างน่าดู ลูกนกวิวาทกัน เบียดเสียดแย่งอาหารกัน พ่อแม่ก็พร่ำสอนค่านิยมดีๆ ที่พี่น้องต้องเอื้ออาทรกัน นับว่าเป็นครอบครัวที่น่ารักมาก |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|