ornyupa
|
 (หนังสืออ้างอิง "ที่ระลึกงานถวายผ้าพระกฐินกระทรวงกลาโหม") ปืนใหญ่เป็นอาวุธสงครามที่มีอำนาจการทำลายล้างสูงในระยะไกล มีไว้ประจำกองทัพมาแต่โบราณ ปืนใหญ่ที่ใช้ทั่วไปจะมี ปืนใหญ่ประจำป้อม และ ปืนใหญ่สนาม ตามหลักฐานที่ปรากฏประเทศไทยมีการใช้ปืนใหญ่มาตั้งแต่ปลายสมัยสุโขทัย จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ปืนใหญ่ที่นำมาใช้ในกองทัพ มีทั้งปืนใหญ่ที่หล่อขึ้นใช้เองและมีทั้งที่สั่งซื้อมาจากต่างประเทศ ประเทศไทยเริ่มหล่อปืนใหญ่ขึ้นใช้เองครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระองค์โปรดเกล้าฯให้หล่อปืนใหญ่ขึ้นใช้ โดยโรงหล่อปืนใหญ่นั้นตั้งอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาในหมู่บ้านฮอลันดา(ซึ่งโรงหล่อปืนใหญ่แห่งนี้ต่อมาได้ถูกพม่าเผาทำลายในศึกการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2) |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 12:48
|
|
ปืนใหญ่ที่หล่อขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชกล่าวกันว่า เป็นปืนใหญ่ที่หล่อด้วยทองเหลืองที่มีคุณภาพเทียบเท่ายุโรปและโปรดเกล้าฯ ส่งเป็นเครื่องราชบรรณาการแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แห่งฝรั่งเศส จำนวน ๒ กระบอก และปืนใหญ่ ๒ กระบอกนี้ ได้มีส่วนร่วมในการปราบจราจลเมื่อครั้งที่พวกนักโทษแหกคุกบาสติลล์ เมื่อ ๑๔ กรกฎาคม ๑๗๘๙(พ.ศ.๒๓๓๒)อีกด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 12:54
|
|
ประเทศไทยได้มีการหล่อปืนใหญ่ขึ้นใช้ครั้งสุดท้ายในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จากหลักฐานที่ปรากฎพบปืนใหญ่ที่ประเทศไทยหล่อขึ้นเพื่อใช้เองมีอยู่จำนวน ๒๒๗ กระบอก ปืนใหญ่บางกระบอก จมน้ำหายบ้าง ถูกทำลายเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาบ้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 13:03
|
|
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเห็นว่าอารยประเทศได้มีการปรับปรุงรูปแบบปืนใหญ่โดยไม่ต้องบรรจุกระสุนทางปากกระบอก พระองค์ทรงออกแบบปืนใหญ่เพื่อที่จะให้ทัดเทียมกับปืนใหญ่ของอารยประเทศบ้างแต่ขาดเครื่องมืออุปกรณ์ในการสร้าง จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดซื้อมาจากต่างประเทศแทนการสร้างขึ้นใช้เอง ในสมัยโบราณมีการยิงปืนเที่ยงบอกเวลา ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้สั่งงดการยิงปืนเที่ยงบอกเวลา เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๗
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 13:20
|
|
 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ในการจัดตั้งปืนใหญ่ไว้ที่สนามหน้าศาลาว่าการกลาโหม ดังเช่น ที่โรงเรียนนายร้อย(Sandhurst)ประเทศอังกฤษที่ได้นำปืนใหญ่ ๖ กระบอก ที่(Duke of Wellinng)ใช้พิชิต(Napoleaon)ในสงคราม(Waterloo)ซึ่งได้มีการจัดนำปืนใหญ่ทั้ง ๖ กระบอก นั้นมาจัดตั้งที่หน้าอาคาร(College Chapel) โดยในการนี้ ทรงโปรดเกล้าฯ ให นายพลเอกสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้า เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เสนาธิการทหารบกในสมัยนั้น ให้ทรงดำเนินการจัดนำปืนใหญ่จากโรงปืนใหญ่ในพระบรมมหาราชวังมาจัดตั้งที่สนามหน้าศาลาว่าการกลาโหม |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 13:23
|
|
 อาคาร(College Chapel)ที่โรงเรียนนายร้อย(Sandhurst)ต้นแบบในการนำปืนใหญ่มาแสดงไว้กลางแจ้ง |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 13:26
|
|
 มุมด้านหน้าของอาคาร(College Chapel) จะสังเกตุเห็นปืนใหญ่อยู่ที่ขอบซ้าย ขวา ของภาพ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 13:27
|
|
 อีกมุมหนึ่งของอาคาร |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 13:38
|
|
การจัดตั้งปืนใหญ่ขึ้นในครั้งแรกนั้น ถือว่าเป็นการจัดทำพิพิธภัณฑ์การทหารกลางแจ้งครั้งแรกในประเทศไทยอีกด้วย จุดประสงค์เพื่อให้สาธารณชนในสมัยนั้นได้เห็นปืนใหญ่โบราณที่ใช้ในการทำสงครามในอดีต ตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และเพื่อให้ทัดเทียมกับอารยประเทศที่จัดตั้งปืนใหญ่โบราณแสดงไว้กลางแจ้งในสมัยนั้นด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 13:48
|
|
ปืนใหญ่โบราณที่จัดตั้งที่สนามหน้าศาลาว่าการกลาโหม ตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบันตามหลักฐานที่ปรากฏ มีอยู่ ๔ ประเภท ๑.ปืนใหญ่โบราณที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น คือ นารายณ์สังหาร มารประไลย ไหวอรนพ พระพิรุณแสนห่า พลิกพสุธาหงาย พระอิศวรปราบจักรวาฬ และ พระกาลผลาญโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 13:54
|
|
๒.ปืนใหญ่โบราณที่สร้างในต่างประเทศ ได้แก่ อัคนิรุท ,ALEXO DE TEXEDA,SMICVEL,P 1009 1860,P1010 1860,มักสันแหกค่าย เหราใจร้าย มังกรใจกล้า คนธรรพแผลงฤทธิ์ พรหมมาศปราบมาร ลมประลัยกัลป นิลนนแทงแขน ไวยราพฟาดรถ และ มหาจักรกรด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 13:56
|
|
๓.ปืนใหญ่โบราณที่ได้จากการไปราชการสงคราม ได้แก่ พญาตานี ชะนะหงษา และ ปราบอังวะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 14:01
|
|
๔.ปืนใหญ่ที่สร้างในประเทศไทยโดย หลวงบรรจงรจนา เป็นผู้สร้าง ได้แก่ ศิลป์นารายณ์ ปีศาจเชือดฉีกกิน ธรณีไหว ไฟมหากาล มารกระบิล และ ปล้องตันหักคอเสือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 14:05
|
|
ส่วนปืนใหญ่ที่เหลือซึ่ง ได้แก่ ถอนพระสุเมรุ ไตรภพพ่าย จีนสาวไส้ ไทยใหญ่เล่นหน้า ฝรั่งร้ายปืนแม่น ขอมดำดิน ยวนง่าง้าว เสือร้ายเผ่นทยาน สายอสุนีแผ้วราตรี มุงิดทลวงฟัน และ แมนแทงทวน ปืนใหญ่ทั้งหมดเหล่านี้ ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างหรือการได้มาแต่อย่งใด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ornyupa
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 08 ก.ย. 06, 14:17
|
|
ปืนใหญ่โบราณที่หน้าศาลาว่าการกลาโหมที่มีความสำคัญมากได้แก่ ปืนพญาตานี ปืนนารายณ์สังหาญ ปืนมารประไลย ปืนไหวอรนพ ปืนพระพิรุณแสนห่า ปืนพลิกพสุธาหงาย ปืนพระอิศวรปราบจักรวาฬ และ ปืนพระกาลผลาญโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|