เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7
  พิมพ์  
อ่าน: 46952 เรื่องหนักหัว
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 28 ก.ย. 06, 20:33

 พ้นจากเรอเนสซองส์ มาถึงศตวรรษที่ ๑๗   ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๒  ที่เคยเล่าไว้เป็นบทความ
สตรีบรรดาศักดิ์ในราชสำนักแต่งกายกันหรูหราอลังการมาก แต่ไม่หนักหัว เพราะสมัยนี้ แทบไม่สวมอะไรบนศีรษะเลย
อย่างภาพเลดี้คาสเซิลเมนพระสนมเอก ในภาพซ้าย
ต่อจากนั้น ปลายศตวรรษที่ ๑๗ ต่อกับต้นศตวรรษที่ ๑๘  ข้ามไปฝรั่งเศส  
มาดามปอมปาดูร์(ในภาพขวา) ก็แต่งกายแสนจะวิจิตรขึ้นชื่อไปทั่วประเทศ  แต่ไม่นิยมสวมหมวก
.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 28 ก.ย. 06, 20:35

 มาดามปอมปาดูร์เป็นพระสนมคนดังของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๕ แห่งฝรั่งเศสค่ะ
ถ้าหากว่าเธอพอจะสวมอะไรบนศีรษะบ้าง ก็อาจจะเป็นผ้าคลุมผม ทำด้วยลูกไม้เบาๆ อย่างภาพนี้
.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 28 ก.ย. 06, 20:48

 ในตอนปลายรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๕  แฟชั่นแต่งผมและหมวกด้วยขนนกก็เป็นที่นิยม
สาวงามในภาพนี้คือพระสนมคนโปรด  ชื่อมาดาม ดูบาร์รี่
.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 29 ก.ย. 06, 18:20

 จากยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๕ มาถึงพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๖ ซึ่งเป็นพระนัดดา    พระราชินีมารี อังตัวแน็ตต์ ได้ชื่อว่าเป็นราชินีที่งามที่สุดในยุโรป
ทรงแต่งพระองค์หรูหราอยู่เป็นนิจ    เกล้าพระเกศาวิจิตรพิสดาร พระมาลานั้นเล่าก็ปีกใหญ่ส่งเสริมความอลังการ
.
บันทึกการเข้า
tuka007
พาลี
****
ตอบ: 291


คนจับจอบจับเสียม


ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 02 ต.ค. 06, 19:52

 เห็นแล้ว หนักแทนจริงด้วยค่ะ อาจารย์
บันทึกการเข้า

จงยิ้มให้โลก...แล้วโลกจะยิ้มให้เรา
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 03 ต.ค. 06, 10:11

 รัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๖ และพระนางมารี อังตัวแน็ตต์จบลงด้วยการปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศสใน ค.ศ. ๑๗๘๙
หัวของเจ้านายและขุนนางในสมัยนั้นถูกสังเวยให้เครื่องประหารที่เรียกว่ากีโยตีนกันเสียแทบจะหมดอาณาจักร
หมดยุคนี้ไปแล้วก็เกิดการชิงอำนาจรบราฆ่าฟันอีกพักใหญ่ในหมู่ผู้ชนะ
จนกระทั่งนายทหารหนุ่มจากคอร์สิกาก้าวเข้ามายุติปัญหา   รวบอำนาจเข้าไว้ในกำมือเขาเพียงคนเดียว
เขาคือนโปเลียน โบนาปาร์ต ผู้สถาปนาระบบจักรวรรดิให้ฝรั่งเศส  ตัวเขาครองตำแหน่งจักรพรรดิหรือ Emperor

ยุคนี้เรียกว่าจักรวรรดิ หรือ Empire แฟชั่นสาวๆในยุคนี้จึงเรียกว่าทรงเอมไพร์  
นำแฟชั่นโดยเอมเปรส โจเซฟีน มเหสีคนแรกของนโปเลียน ตามรูปนี้
แทนที่จะเป็นกระโปรงสุ่มบานกว้างรัดเอว  ก็เป็นทรงต่อใต้อกไม่เน้นเอว  กระโปรงทิ้งตัวหลวมสบาย  นิยมใช่ผ้าบางเบา
.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 03 ต.ค. 06, 10:14

 แฟชั่นทรงเอมไพร์ ปลายศตวรรษที่ ๑๘ ต่อมาถึงต้นศตวรรษที่ ๑๙ค่ะ
ในอังกฤษตรงกับสมัยพระเจ้าจอร์ชที่ ๓ ซึ่งเสียพระสติ ไม่อาจครองราชย์ได้
พระโอรสจึงต้องสำเร็จราชการแทน เป็น Regent
ยุคนี้จึงเรียกว่า Regency
ซึ่งกลายมาเป็นคำประกอบอะไรก็ได้ที่หมายถึงยุคสมัยนี้
รวมทั้งแฟชั่นด้วย
.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 03 ต.ค. 06, 10:20

 หมวกในสมัยนี้ น่าจะหนักหัวน้อยกว่าสมัยก่อน
ส่วนใหญ่สานด้วยฟาง หรือผ้า  ไม่นิยมปีกใหญ่
.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 03 ต.ค. 06, 10:24

 อีกสองแบบค่ะ
.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 03 ต.ค. 06, 10:25


อีกสองแบบค่ะ
.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 03 ต.ค. 06, 20:31

 เมื่อพ้นยุครีเจนซี่(ที่ไม่ใช่บรั่นดีไทย) ในช่วงต้นศตวรรษที่ ๑๙ ล่วงมาถึงกลางศตวรรษ ก็เริ่มยุควิกตอเรียน
ยุคนี้ผู้ครองราชบัลลังก์อังกฤษคือสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย  ทรงเป็นผู้เคร่งครัดในศีลธรรม  

การแต่งกายของผู้หญิงก็ย้อนกลับไปสู่ธรรมเนียมนิยมคล้ายศตวรรษที่ ๑๘ ก่อนยุคเอมไพร์อีกครั้ง
เสื้อผ้าที่สวมนอกบ้าน นิยมมิดชิด คอปิดแขนยาว กระโปรงสุ่มไก่ตัวบาน  
ยกเว้นชุดราตรีซึ่งเปลือยไหล่คอลึกแล้ว ชุดกลางวันไม่อวดร่างกายส่วนไหนเลยนอกจากเอว
ซึ่งนิยมรัดกันแน่นแทบหายใจไม่ออก  เพื่อให้เอวคอดเล็ก จะได้ดูสวยรับกับกระโปรงบานกว้าง

เอวสาวงามในยุคนี้ต้องเล็กกว่า ๒๐ นิ้ว  ประมาณ ๑๘ นิ้วถือว่าสวย  แต่ถ้าเล็กกว่านี้ถึง ๑๗ นิ้วก็ยิ่งน่าชื่นชม
ผลออกมาคือหุ่นเหมือนนาฬิกาทรายค่ะ
ชุดชั้นในที่ทรมานกายหญิงสาวเรียกว่าคอเซ็ต  รัดตั้งแต่ใต้อกถึงสะโพก  ใส่กันทั้งวันทั้งคืน  เคยเล่าไว้ในกระทู้แรกๆของเรือนไทย

ในเมื่อเสื้อผ้าออกมาในแนวเรียบร้อยมิดชิด    หมวกและถุงมือก็เป็นส่วนประกอบให้ดูเรียบร้อยเป็นงานเป็นการมากขึ้น
หมวกสมัยวิกตอเรียน  เป็นงานเป็นการและอลังการอย่างที่เห็น
.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 03 ต.ค. 06, 21:14

 ยุควิกตอเรียนกินระยะเวลาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ ๑๙ มาจนถึงต้นศตวรรษที่ ๒๐ บวกกับยุคเอ็ดเวิร์ดเดียนซึ่งตรงกับปลายรัชกาลที่ ๕ ด้วย
เหมือนกันในเรื่องขนบธรรมเนียม
หมวกในสมัยวิกตอเรียนไม่ได้เป็นแค่ของกันแดดกันฝนหรือทำให้หัวอุ่นขึ้นในหน้าหนาว   แต่ว่ากลายเป็นเครื่องหมายของวัฒนธรรมการแต่งกาย
เคร่งครัดถึงขั้นที่ว่า ชายหญิงยุคนั้นจะนั่งยืนเดินหัวเปล่า ไม่มีหมวกอยู่บนหัวได้ก็เฉพาะแต่เวลาอยู่ในบ้านเท่านั้น
อย่างในภาพนี้  สาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้ นั่งอยู่ในบ้าน เธอไม่ต้องสวมหมวก
.  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 03 ต.ค. 06, 21:18

 แต่ถ้าเมื่อใด เธอ(หรือเขา) เปิดประตูบ้านโผล่หัวออกไปให้ชาวบ้านเห็น  
แม้แต่แวบเดียว  จะต้องสวมหมวกและถุงมือให้ครบครัน    
แม้ว่าจะแค่ออกไปแค่หย่อนจดหมายลงตู้ไปรษณีย์หน้าบ้าน  
ก็จะออกไปหัวเปล่าๆไร้หมวก ไม่ได้
มิฉะนั้นจะถูกติฉินนินทา  พอๆกับสาวๆสมัยนี้สวมชุดชั้นในเดินออกนอกบ้านทีเดียว

เอาหมวกสารพัดแบบมาให้ดูกันอีกค่ะ
.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 04 ต.ค. 06, 10:06

 สงครามโลกครั้งที่ ๑ ในต้นศตวรรษที่ ๒๐ (ตรงกับรัชกาลที่ ๖)กลายเป็นจุดจบทางวัฒนธรรมหลายๆด้าน
ในด้านวรรณกรรม ถือว่าสงครามโลกเป็นจุดจบของวิธีการเขียนแบบสมจริงอย่างที่ดำเนินมาในสมัยวิคตอเรียน    
เพราะสงครามได้สั่นคลอนความเชื่อถือ วิธีคิด การดำเนินชีวิต ของผู้คนอย่างรุนแรง
จนการเขียนแบบเดิมไม่อาจรองรับวิธีคิดของคนได้อีกต่อไป
ด้วยเหตุนี้ Modernism อย่างในงานของ James Joyce จึงเกิดขึ้นมาตอบสนองความต้องการของนักประพันธ์และกวี

ขอลากความกลับมาทางด้านหมวกนะคะ
สงครามโลกครั้งที่ ๑ คืออวสานของขนบธรรมเนียมการสวมหมวก
เมื่อสงครามจบลง  ใครจะสวมหรือไม่สวมหมวกออกนอกบ้าน  ก็ตามสบายทั้งสองแบบ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 05 ต.ค. 06, 07:59

 หลังสงครามโลก หมวกกลายมาเป็นแฟชั่นของสาวๆ
มากกว่าจะกลายเป็นระเบียบการแต่งกายอย่างเคร่งครัด เหมือนเมื่อก่อนสงครามโลก  
ทรงผมเปลี่ยนไป จากผมยาวถักเปียขดเป็นมวย  เป็นระเบียบเรียบกริบทรงเดียวกันหมด อย่างเมื่อสมัยวิกตอเรียน
มาเป็นผมทรงสั้น ดัดเป็นคลื่นสลวย

แฟชั่นผม เน้นให้เห็นความงามของเส้นผม มากกว่าโชว์หมวกที่ครอบผมอยู่
อย่างในภาพนี้จะเห็นผมแบบต่างๆ ช่วง 1920-1930 ตรงกับปลายรัชกาลที่ ๖ ต่อกับต้นรัชกาลที่ ๗
.
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.061 วินาที กับ 19 คำสั่ง