เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 16 17 [18] 19 20 ... 22
  พิมพ์  
อ่าน: 85037 สัมผัสจินต์ สัมผัสใจ
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 255  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 15:37

 รักแบบนี้บ้างครับ อิอิ

ชังข้าข้าชังกลับ
ทวีนับกลับหาเจ้า
เมินข้าข้ามิเพลา
จงอับเฉาแช่งเจ้าพลัน

ทำข้าไร้ความสุข
เจ้าจงทุกข์ไร้สุขสรรค์
เจ็บใดเจ็บเท่ากัน
อย่าเพ้อฝันถ้าผันเมิน

เอ๋..อย่างนี้คือรักหรือเปล่า อิอิ
บันทึกการเข้า
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 60

เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน นักนอนและนักกิน


ความคิดเห็นที่ 256  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 17:20

 คราวนี้เป็นซับนรกขั้นโลกันตมหานรก

ต้นฉบับภาษาอังกฤษเพราะมาก

แต่เราอ่านแล้วได้แบบนี้อ่ะ

ปล. ไม่ได้ถอดเป็นกลอน คิดกลอนรักโรคจิตไม่ออก



 LIFE IN A LOVE



Escape me?

    Never--

    Beloved!

    While I am I, and you are you,

        So long as the world contains us both,

        Me the loving and you the loth,

    While the one eludes, must the other pursue.

    My life is a fault at last, I fear:

    It seems too much like a fate, indeed!

  Though I do my best I shall scarce succeed.

  But what if I fail of my purpose here?

  It is but to keep the nerves at strain,

  To dry one's eyes and laugh at a fall,

  And, baffled, get up and begin again,--

  So the chace takes up one's life, that's all.

  While, look but once from your farthest bound

  At me so deep in the dust and dark,

  No sooner the old hope goes to ground

  Than a new one, straight to the self-same mark,

  I shape me--

  Ever

  Removed!

(R. Browning)



จะหนีไปจากข้ารึ?

อย่าหวังเลย

...........ที่รัก (ถ้าอ่านออกเสียง ให้หัวเราะแบบโรคจิตประกอบเล็กน้อย)



ถ้าข้ายังคือข้า และเจ้าก็ยังคือเจ้า

บนโลกยังมีเราทั้งสอง

ข้าคือผู้ให้ความรัก ส่วนเจ้าคือผู้หลบเร้น

ฉะนั้นเมื่อเจ้าหนี ข้าก็ต้องตามติดเสาะหา

แม้ใจหวั่น ชีวิตข้าจะผิดพลาดเมื่อปลายมือ

แต่เมื่อถือรักเป็นใหญ่แล้ว ก็ต้องปล่อยไปตามชะตากรรม

แม้จะสงสัยอยู่ว่า ไม่ว่าข้าจะพยายามไขว่คว้าเจ้ามาเพียงไร ก็อาจไม่สมหวัง

และหากว่าไม่อาจบรรลุสิ่งที่ประสงค์

ข้าก็คงก้มหน้าได้แต่รวบรวมวิญญาณอันปวดร้าว

ซับน้ำตาให้แห้งเหือด และหัวเราะให้กับความพลาดหวัง

จากนั้นก็เริ่มใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ถือเสียว่าเป็นโชคชะตาเล่นตลก

แต่ระวังไว้หากว่าเจ้าคิดว่าอยู่ไกลแสน

แล้วมองมาข้าผู้อยู่ในหลุมลึกและมืด

ก่อนที่ความหวังสุดท้ายจะเน่าเฟอะตามร่าง

ข้าจะหากายถ่ายทอดวิญญาณ

เพื่อจะได้ติดตามเจ้าไม่คลาดคลา

ข้าจะสร้างร่างขึ้นมาใหม่

ติดตามเจ้าตลอดไป

และย้ายวิญญาณเจ้าออกจากร่างตลอดไป





รักแบบโรคจิตแบบนี้แหละ

ชอบ................ (ชอบอ่านนะ ไม่ได้ชอบเจอ)
บันทึกการเข้า
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 60

เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน นักนอนและนักกิน


ความคิดเห็นที่ 257  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 17:33

 คุณเทาชมพู
เราไม่ค่อยชอบนิยายน้ำเน่าฝรั่ง
เพราะจะไม่ซึ้งตามเท่าไร
ประกอบกับคิดว่านิยายไทยได้อารมณ์กว่าแยะ
เวลาอ่านแล้วซาบซึ้ง น้ำตาไหล
ทำไมรักกันหวานแหววได้ขนาดนี้

เมื่อก่อนเวลาน้ำตาลในเลือดลดต่ำ
ต้องไปหานิยายเล่มเล็ก ๆบาง ๆ
ขายเล่มละห้าบาทสิบบาทมาอ่าน
รู้สึกเหมือนได้กินทองหยิบฝอยทองอะไรไปโน่น
มันหวาน โรกะติก ชื่นใจจริง ๆ
ตะก่อนมีเป็นตั้งเลยค่ะเดี๋ยวนี้ยกให้คนอื่นเขาไปหมดแล้ว
พยายามเขียนเองเหมือนกัน แต่ไปไม่รอดออกไปทางฮาอย่างที่บอก
บันทึกการเข้า
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 60

เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน นักนอนและนักกิน


ความคิดเห็นที่ 258  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 17:36

แหะแหะ
กลับมาอ่านแล้วรู้สึกสรรพนามเรียกตัวเองเวลาคุยกันอาจารย์ออกจะไม่เหมาะสม
โปรดอภัยด้วยเถอะค่ะ
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 259  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 17:50

 ชอบๆ จองๆ #264 ของคุณดาหาฯผมจอง

เขียนโคลงไปบทนึงแล้ว เหอๆ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 260  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 17:56

 ผมอ่านแล้วกลัวเลย เจ้าความรักแบบที่คุณดาหาชอบเจอ
เอ้ย!ชอบอ่าน   เราจะเจอแบบนี้มั้ยน้า
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 261  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 23:21

 มาแล้วครับ แต่ขอลดดีกรีตอนจบหน่อย ม่ายงั้นจะติดเรต PG-18 น่ะครับ  

คิดหนีจากข้าฤ        อย่าหวัง เลยนา
ตราบเจ้าและข้ายัง     ไป่สิ้น
ข้ารัก หากเจ้าชัง      คิดหลีก ข้าเฮย
จะฉีกโลกเป็นชิ้น      จับเจ้ามาครอง

แม้นหากว่าสุดท้าย     จะจมถลำ
คงเป็นเพราะชะตากรรม  แน่แท้
เททุ่มสุดแรงทำ       ยังพลาด
เจ้าคิดว่าผู้แพ้        อย่างข้าจะทำไฉน?

กล้ำกลืนความคั่งแค้น   ลงคอ
ปาดหยาดน้ำตาคลอ    หัวร่อร้าย
ประกาศก้องจะขอ     ยืนใหม่
ไล่ล่าเจ้าให้ได้       เริ่มต้นอีกหน

หากแต่ว่าเมื่อข้า       หม่นหมอง
เจ้าจะหันมามอง       สักครั้ง
ข้าจะข่มใจปอง        ณ บัด นั้นนา
สงบจิตเลิกคิดรั้ง       ชั่วฟ้าดินสลาย
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 60

เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน นักนอนและนักกิน


ความคิดเห็นที่ 262  เมื่อ 12 ต.ค. 06, 01:23

 โอ้ คุณอาชาผยอง
so cool !!
ชอบตอนนี้
โรคจิตได้เนียนมาก
(นี่ชมจริง ๆนะ)

"กล้ำกลืนความคั่งแค้น   ลงคอ
ปาดหยาดน้ำตาคลอ     หัวร่อร้าย
ประกาศก้องจะขอ        ยืนใหม่
ไล่ล่าเจ้าให้ได้             เริ่มต้นอีกหน"


คำแปลจริง ๆของบทนี้หวานมากค่ะ
แต่ต้องขออ้างอิงคุณนวลมือหนึ่งเรื่องบทกวีฝรั่ง
ที่เอาบทเพราะ ๆมาเผยแพร่ให้เราได้อ่านเสมอ
คุณนวลแปลไว้เป็นร้อยแก้วดังนี้

"ชีวิตเริงรื่นในคลื่นรัก"

"คิดจะหลีกหนีจากข้า ฤ?
อย่าเลย
สุดที่รัก
เมื่อข้ายังเป็นข้า และเจ้ายังเป็นเจ้า
ตราบเท่าที่เราทั้งสองยังเริงรื่นในพิภพนี้
ข้าคือผู้หยิบยื่นซึ่งความรัก แม้เจ้าจักเมินหน้าหนี
เมื่อคนหนึ่งนี้หลบหลีกซ่อนเร้น อีกคนต้องตามติดประชิดตัว
ข้ายอมรับว่า ชีวิตนี้หาได้ไร้ราคีรอยตำหนิ
แม้จักทำดีที่สุด แต่มิอาจประสบความสำเร็จได้ตลอด
ยามที่มิสามารถเอื้อมไขว่คว้าให้ได้สิ่งที่มุ่งหมาย
ข้าจะมีเพียงความรุ่มร้อนทนทุกข์ใจชั่วขณะ
ซับหยาดน้ำตาที่ร่วงริน แล้วหัวเราะให้กับการพลาดล้มแลผิดหวัง
แค่รำพัน พร้อมที่จะลุกยืน และเริ่มใหม่อีกครา
เพราะสิ่งที่เกิดเป็นเพียงโชคชะตาเล่นตลกผกผันกับชีวิต..เท่านั้นเอง
หากเจ้าเหลียวมองสักครั้ง แม้สายตาจะเย็นชา
แลดูข้าพลาดล้มคลุกธุลี อีกจมปลักในความมืด
เจ้าจะแลเห็น ในทันทีที่ความหวังเก่าของข้าจางเลือนลางหาย
พลันเกิดความคิดฝันมุ่งหวังใหม่ ย้อนกลับทับซ้อนรอยเดิม
ข้าคือผู้กำหนดชะตาตัวข้าเอง !
ความหวังความรักคราก่อน
ไม่เหลือให้ค้างคาใจ !"
บันทึกการเข้า
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 60

เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน นักนอนและนักกิน


ความคิดเห็นที่ 263  เมื่อ 12 ต.ค. 06, 01:30

 คุณโอโบโร่
ฝีมือรจนาดีขึ้นทุกวันแล้วนะคะ
ลงท้ายได้หวานจริง ๆ

............สิ้นตะวัน เธอและฉันนิรันดร์กาล...........

มองเห็นน้าแวนร้องเพลงทำตาปรอย
แล้วตะวันก็ระเบิดบึ้มอยู่เป็นฉากหลัง
โลกลอยคว้างไป คู่รักเคียงคู่กันตลอดไป
บันทึกการเข้า
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 60

เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน นักนอนและนักกิน


ความคิดเห็นที่ 264  เมื่อ 12 ต.ค. 06, 01:45


....ระฆังลม.......


หากเราไม่ได้พบกัน
จงเงยหน้าสบตากับฉันบนฟากฟ้า
ฉันฝากความคิดถึงผ่านนัยนา
ให้เมฆาสะท้อนมาสู่ตาเธอ

ระฆังลมที่ให้ไว้คราวก่อน
ระเบียงห้องนอนแขวนไว้ฟังลมเพ้อ
กรุ๋งกริ๋งกรุ๋งกริ๋งเป็นสำเนียงปลอบใจเธอ
เสมอด้วยยามสองเราเคียงข้างกัน

หากว่าเรารักกันไม่ได้
ขอที่หลังประตูใจเธอให้กับฉัน
จะยืนอยู่ตรงนั้นชั่วนิรันดร์
ไม่หมายมั่นครอบครองทั้งหัวใจ

ฉันพอใจเป็นเพียงแค่คนในฝัน
ในบางวันที่คิดถึง-กลางคืนเราพบกันได้
หลับตาลงเราจะเจอกันเสมอไป
แค่นั้นไซร้-ฉันก็สุขนักตราบวันตาย

ฉันและระฆังลมไม่แตกต่าง
ไม่มีเธอไม่มีลมพรมพร่างไม่มีความหมาย
ระฆังเกิดมาเพื่อให้ลมบรรเลงพริ้งพราย
ฉันเป็นฉันได้เพราะมีเธอ....."

ได้ยินเสียงระฆังลมเพื่อนบ้าน
เลยนึกถึงบทนี้ได้
แต่งไว้นานแล้ว
เอามาแปะไว้
เป็นเรื่องราวความรักของคนมักน้อย
และเจียมหัวใจอย่างน่าหมั่นไส้
หาความทะเยอทะยานในความรักไม่เจอ
แบบนี้สมควรแล้วที่แห้วรับประทาน





โอ๊ะโอ ได้มีพาหนะคู่กาย เป็นเครื่องบินกระดาษพับแล้ว
ดีใจจัง  
บันทึกการเข้า
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 60

เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน นักนอนและนักกิน


ความคิดเห็นที่ 265  เมื่อ 12 ต.ค. 06, 01:47

 ขออภัยนะคะ
ลืมบอกที่มาของภาพ
มาจากเว็บไซต์นี้ค่ะ
 http://boxman.awazo.com/archives/2005/07/wind_bell.html  
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 266  เมื่อ 12 ต.ค. 06, 07:45

 เข้ามาตอบก่อนจะ "หายไป" แบบที่อาจารย์เทาฯ ท่านกรุณาเตือนผมเอาไว้ครับ


พอดี วันสองวันมานี้ ผมเผลอไปคิดถึงคนที่เคยอ่านบทมโหรีโบราณบทหนึ่งให้ฟัง
แล้วก็เผลอไปติดใจกับกลอนบทที่ว่า เลยขออนุญาตเอามาแต่งใหม่ซักหนนะครับ
(ถ้าใครจะว่าผมว่าเหนี่ยวฟ้ามาให้ต่ำ ก็ขอความกรุณาว่ามาหลังไมค์ด้วยนะครับ เดี๋ยวกระทู้แนะนำจะกลายเป็นกระทู้ประจานผมอ่ะครับ แหะๆ)

เพราะตัวเองแต่งเองยังรู้สึกว่ากลอน 8 ที่แต่งมันดูแปลกๆอยู่เลยครับ แหะๆ

.....พี่ปลูกรักอ่างแก้วปลายคลาย..........สิ้นสุดรสสวาทวายคู่ชู้
เด็ดทิ้งยอดรักกลายน้ำรดชูอยู่..............หวังรักผลิชื่นชู้รักเจ้ารักนัก




ปล. อ่านเป็นโคลงสี่จะแปลกน้อยลงมั้ยหว่า หิหิ


.....พี่ปลูกรักอ่างแก้ว..........ปลายคลาย
สิ้นสุดรสสวาทวาย.............คู่ชู้
เด็ดทิ้งยอดรักกลาย............น้ำรด.....ชูอยู่
หวังรักผลิชื่นชู้...................รักเจ้ารักนัก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 267  เมื่อ 12 ต.ค. 06, 08:54

 เจ๋งมากค่ะ    โคลงของคุณอาชา น่าจะตั้งชื่อว่า มนต์รักอสูร   ถ้าเป็นละครเวที นึกภาพผู้กำกับชื่อคุณพิศาล ลอยมาเชียว

เห็นด้วยว่าฝีมือคุณ O งอกงามเป็นต้นถั่วยักษ์ในข้ามคืน

คุณดาหา ไม่ลองชวนคุณนวลกลับมาแจมกันที่เรือนไทยล่ะคะ   เธอเคยสมัครสมาชิกไว้นานหลายปีแล้ว
ถ้าลืมพาสเวิร์ดไม่ต้องสมัครใหม่ค่ะ  บอกมาว่าลืม  แล้วคุณจ้อจะหาให้เอง

ติบอ เล่นกลโคลงหรือเปล่า?

วันนี้ยังไม่อยากแต่งหรือแปลอะไร  ขอเบี้ยวค่ะ

คุณดาหา    พูดถึงเรื่องงานประพันธ์ (หรืองานศิลปะอะไรก็ตาม) ผู้แต่งแต่ละคนมี "ต้นทุน" จากสวรรค์แตกต่างกัน
อย่างที่โบราณเขาเรียกว่า "บุญ" นั่นน่ะค่ะ
เมื่อต้นทุนไม่เหมือนกัน  ความถนัดในการสร้างสรรค์งานก็แตกต่างกันไป    สิ่งแวดล้อมที่กล่อมเกลาคนนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนที่ตัวเองได้มา
งานจึงออกมาแบบทางใครทางมัน
   
จะให้ดอกไม้สดไปเขียนเรื่องคนจนอย่างลาวคำหอม  เราก็คงไม่มีคุณหลวงนฤบาลที่เป็นสุภาพบุรุษผู้ดีพร้อมทั้งกาย วาจา ใจ      
จะให้ลาวคำหอมไปเขียนเรื่องชาววังอย่าง ม.ร.ว. คึกฤทธิ์    แม่พลอยของลาวคำหอมอาจจะหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน  คนละคนกับแม่พลอยผู้ภักดีต่อแผ่นดิน

สิ่งที่ดีคือคนที่ค้นตัวเองพบ และทำตาม "ต้นทุน" ของตน    ฝ่าฟันไป  วันหนึ่งกิจการก็ประสบผลสำเร็จได้ทั้งนั้น
งานศิลปะต่างๆ ไม่ได้ผูกขาดอยู่สาขาเดียว    ไม่มีสูตรสำเร็จว่าต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้  จึงจะดีที่สุด

ไม่งั้นโลกจะน่าเบื่อสักแค่ไหน ถ้ากวีไทยทุกคนแต่งได้แบบสุนทรภู่เปี๊ยบ ตั้งแต่อยุธยายันพ.ศ. ๒๐๐๖

เพราะงั้น...พารพินทร์ ไพรวัลย์ในแบบของคุณ ลุยไปเถอะค่ะ
บันทึกการเข้า
กุรุกุลา
พาลี
****
ตอบ: 235


ความคิดเห็นที่ 268  เมื่อ 12 ต.ค. 06, 09:35

 หุหุ กลอนของคุณติบอเกือบเป็นกลบทอักษรสังวาสแล้วครับ

อย่าง

ดื่นพื้นดอนซ่อนชู้เหมือนชูชู้
พี่นี้ห่างจากคู่เหมือนตายหาย
ตัวกลัวว่าความรักจักกลายคลาย
ตัดปัดแต่พี่ชายเอาชู้ชู

แก้วแล้วลานก้านล้วนดอกอยู่ทางข้าง
ดาหลารกดกเล็บนางพบูหมู่
ชมรมรื่นชื่นถึงรักพธูตรู
จางห่างรักจักห่างคู่เอกาตา

ลองแต่งดูบ้างครับ กระทู้นี้ไม่เคยย่างเข้ามาสักที อายฝีมือตัวเอง
บันทึกการเข้า
ติหลาอรสา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 60

เป็นนักเขียน นักแปล นักอ่าน นักนอนและนักกิน


ความคิดเห็นที่ 269  เมื่อ 12 ต.ค. 06, 13:08

 "เพราะงั้น...พารพินทร์ ไพรวัลย์ในแบบของคุณ ลุยไปเถอะค่ะ"

ขอบคุณอีกครั้งนึงนะคะ
 
ว่าแล้วก็หยิบผ้าประเจียดยักษ์โพกหัว
หันเอายันต์พร้อมอักขระโบราณ "อาจารย์สั่งลุย " ออกข้างนอกให้คนเห็นเด่นชัดประดุจโรเจอร์ เฟดเดอร์เรอร์ใส่เฮดแบนด์เครื่องหมายติ๊กถูกก่อนจะลงเผด็จศึกแสลม  
ขยับตะเบงมาน และผ้าถุงที่ปรับเป็นนุ่งโจงให้มั่น
มือถือปากกา  นัยน์ตามองฟ้าเบื้องหน้าแน่แน่ว
แล้วตะโกนว่า
"ลุยถั่วทะลุมิติ รพินทร์มาแว้ววววว !"
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 16 17 [18] 19 20 ... 22
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 19 คำสั่ง