|
|
|
|
|
|
|
|
|
guru
อสุรผัด

ตอบ: 9
Adkinson Securities
Public Company Limited 132 Sindthorn Bld.1, 2nd Fl., Wireless Rd.,
Lumpinee,Patumwan,Bangkok10330
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 17 ส.ค. 06, 12:04
|
|
ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีกับสมาชิกทุกๆท่านเพราะเป็นสมาชิกใหม่ครับ และต้องบอกว่าดีใจจริงๆที่เปิดเข้ามาอ่านกระทู้นี้พอดีเพราะตลาด100ปี สามชุก คือบ้านเกิดผมเองครับ ต้องขอบคุณ คุณเทาชมพู มากๆครับ ที่ไปเที่ยวแล้วยังถ่ายรูปมาเผื่อแผ่ให้กับสมาชิกได้ดูด้วย ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับชาวตลาดสามชุกด้วย ผมเองนั้นตั้งแต่มีการปรับปรุงเป็นตลาด100ปี เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปเดินชมตลาดเลยครับแย่จริงๆ อ้อ! บ้านผมอยู่ตรงซอย 1 นั่นแหละครับ เป็นร้านขายรถจักรยานชื่อ วิจิตรจักรยานครับ ต้องขอบคุณ คุณเทาชมพู อีกครั้งนะครับ (เป็นครั้งแรกที่ได้แสดงความเห็นผ่านทาง email นะครับ).
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 17 ส.ค. 06, 14:07
|
|
จากนิราศสุพรรณ ครับ
นึกนามสามชุกถ้า ป่าดง เกรี่ยงไร่ได้ฟ่ายลง แลกล้ำ เรือค้าท่านั้นคง คอยเกรี่ยง เรียงเอย รายจอดทอดท่าน้ำ นับฝ้ายขายของฯ
หมายเหตุ - บางคำบางแห่งถี้(ที่) ต่างกัน :-
นึกนาม - ถึงนาม ได้ฟ่ายลง - ได้ฝ้ายลง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทามะ
อสุรผัด

ตอบ: 23
ทำงาน
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 17 ส.ค. 06, 15:25
|
|
แม่ผมคนสุพรรณนะคับเคยไปเหมือนกันคับแต่ตั้งแต่สมัยเด็กๆตอนนั้นนั่งเรือเขียวไปจำได้ว่าสมัยก่อนจะไปสุพรรณนั่งเรืออย่างเดียวชอบไปเพราะชอบไปเที่ยวสุพรรณเวลามีงานผ้าป่าและกฐินและที่ชอบมากเวลาไปสุพรรณต้องกินตลอดคือก๋วยเตี๋ยวเรือของสุพรรณอร่อยมากปัจจุบันก็ยังกินอยู่คับเรือนไม้ที่สามชุกนี่ผมชอบนะคับเพราะบ้านพี่ผมที่สุพรรณก็บ้านไม้คับไม่ยอมให้เปลี่ยนเด็ดขาดคับคราวหน้าไปผมต้องไปถ่ายรูปมาอวดอาจารย์บ้างและคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
violoncello
อสุรผัด

ตอบ: 17
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 17 ส.ค. 06, 16:14
|
|
ยังไม่เคยไปเลยครับ แต่เท่าที่อ่านดูแล้วน่าไปมากๆเลยครับ แล้วยิ่งมีรูปอีกยิ่งทำให้อยากไปเห็นซักครั้งในชีวิต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NickyNick
พาลี
   
ตอบ: 290
ทำงานแล้วครับ
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 18 ส.ค. 06, 08:36
|
|
สวัสดีภาคเช้าครับทุกท่าน ตื่นก่อนใครเลย
ตลาดแห่งนี้ที่มีการพัฒนาขึ้นมามีชื่อเสียงในปัจจุบัน นับว่าเป็นความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนโดยแท้ หากนับอายุแล้วก็มีการริเริ่มได้ราว ๖-๗ ปีมานี้เองครับ
ผมขอเดินตามหลังอาจารย์เทาฯ เที่ยวด้วยซักคน แต่จะเงียบเฉยก็กระไร เพราะอยู่ในจังหวัดบ้านเกิดของตัวเองแท้ๆ ขอเชียร์ที่นี่ให้ดังๆ อีกซักทีจะเป็นไร หากมีเวลา และความสนใจเรื่องตลาดร้อยปีเริ่มซาลงเมื่อใด ผมจะเล่าเกร็ดสำคัญของอำเภอสามชุกให้ฟังด้วยครับ นำก่อนสักนิดเพื่อเรียกน้ำย่อย แต่เดิมอำเภอนี้ชื่อว่า "อำเภอนางบวช" ครับ เป็นชื่อเรียกแต่โบราณนานเน
ผมเป็นคนนอกสามชุกครับ ที่จริงคุณ guru ซึ่งเป็นคนในอาจไม่รู้จะพูดอะไรเพราะเห็นมาตั้งแต่เกิด ทุกอย่างดูมีความสำคัญไปหมด ไม่รู้จะเน้นอะไรให้เป็นสิ่งสำคัญ ส่วนผมเป็นคนนอกสามชุกครับ รู้งูๆ ปลาๆ เลยอาจพูดได้สะดวกปากหน่อย จึงขอจับจุดบางอย่างแบบสายตาคนนอกมาเล่าให้ฟังครับ
ตลาดแห่งนี้ถ้าเอารถยนต์เข้าไปจะยากสักหน่อย หากมาจากกรุงเทพทางถนนใหญ่สุดๆ ระดับประเทศของเมืองสุพรรณที่ใครๆ ต่างอิจฉา ก็ต้องเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานใหญ่แม่น้ำท่าจีนใต้ตัวตลาดสามชุกไปทางฟากตะวันตก นิดหนึ่ง แล้วเลี้ยวขวามาตามคลองชลประทานขึ้นไปทางเหนือ อีกนิดหนึ่ง แล้วก็เลี้ยว แล้วก็เลี้ยว ไม่ต้องกลัวหลงครับ ถึงแม้จะไม่มีป้ายบอกทางทุกที่ แต่ท่านก็ต้องเข้าถูกแน่นอน แต่ตรงทางเข้าที่จอดรถจะแคบซักหน่อยครับ
นี่เป็นแนวถนนที่ผมเคยกินนอนสร้างวีรกรรมที่นั่นแทบทุกคืนเมื่อราวปี ๓๕-๓๖ นะครับ ตอนนี้คิดว่าก็คงไม่ต่างกันเท่าใดนัก
ตอนนั้นรถวนเข้าไปจอดหน้าอำเภอได้ ตอนนี้ยังจอดได้หรือเปล่าครับ อ.เทาชมพู
ตัวที่ว่าการอำเภอหันหน้าออกแม่น้ำ ตอนนั้นเป็นอาคารไม้ ตอนหลังรื้อออก ข่าวว่าขายไปราวสองแสนบาท จริงหรือเท็จไม่รู้ เสียดายเหมือนกัน สร้างใหม่เป็นคอนกรีตหลังปี ๓๗-๓๘ นะครับ
แนวเดียวกัน แต่ใต้ลงไป เป็นสถานีตำรวจ เมื่อก่อนพอผมสร้างวีรกรรมวีรเวรอะไร ทั้งหนักทั้งเบา ก็ต้องไปแวะเวียนที่นี่เป็นประจำ แต่ตอนหลังสถานีตำรวจย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ตรงถนนใหญ่กรุงเทพ-ชัยนาท (๓๔๐) ฟากตะวันออกของแม่น้ำ แล้วก็ตะวันออกของถนนด้วยครับ ใต้ที่ปัจจุบันไปประมาณ ๓ กม.ได้ ตรงนั้นเดิมเป็นบึงละหารน้อย (ส่วนบึงละหารใหญ่อยู่เหนือขึ้นมาอีกหน่อย แนวเส้นรุ้งเดียวกันกับที่ว่าการอำเภอแหละครับ)
อาคารสถานีตำรวจเดิม รื้อออกไปแล้ว กลายเป็นถนนหนทางแทนที่
หน้าสถานีตำรวจ คือทางตะวันออก ติดริมแม่น้ำ เป็นสำนักงานที่ดินสามชุก ตอนนี้กลายเป็นสำนักงานเทศบาลตำบลสามชุกแทนครับ
อ้อ เขตหน่วยราชการเหล่านี้มีเนื้อที่ติดริมแม่น้ำสุพรรณเลยครับ จึงไม่มีซอยย่อยริมแม่น้ำนับจากอำเภอลงไปทางใต้เลยครับ มีแต่ซอยย่อยไปทางเหนือ ซึ่งตรงนั้นถือเป็นจุดศูนย์กลางของตลาดร้อยปี
หลังสถานีตำรวจ คือไปทางตะวันตก เป็นสโมสรอำเภอ ก็ที่แทงสนุ๊กนั่นแหละ รื้อออกหมดเหมือนกัน แล้วก็ทำเป็นสวนหย่อมกับถนนหนทาง
ผมเว่าซื่อๆ อย่างนี้ ถูกไหมครับคุณ guru
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
guru
อสุรผัด

ตอบ: 9
Adkinson Securities
Public Company Limited 132 Sindthorn Bld.1, 2nd Fl., Wireless Rd.,
Lumpinee,Patumwan,Bangkok10330
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 18 ส.ค. 06, 15:14
|
|
สวัสดีทุกท่านครับ ต้องขอบคุณ คุณNickyNickมากครับ คุณรู้จริงเหมือนคนในเลยครับ(อาจมากกว่า) ผมจะลองทบทวนความจำสมัยเด็กดูนะครับ เมี่อขับรถมาและเลี้ยวช้ายขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนแล้ว(สมัยก่อนยังไม่มีสะพานใหญ่นี้ ต้องขับเลยไปอีกประมาณ 5 กม.เพื่อข้ามสะพานตรงประตูน้ำแล้วย้อนกลับมา) ให้เลี้ยวขวาตรงแยกเล็กๆแยกแรกเลย จะผ่านที่ทำการไปรษณีย์ชื่งอยู่ด้านช้ายมือ แล้วไปเลี้ยวขวาหลังที่ว่าการอำเภอ(เมื่อก่อนตรงจุดที่จะเลี้ยวนั้นทางด้านขวาจะเป็นห้องสมุดประชาชน,เกษตรอำเภอ,ดับเพลิง ส่วนด้านซ้ายจะเป็นที่โล่งๆเรียกว่า"เด่น" ซื่งเป็นที่วิ่งเล่น เตะฟุตบอล ออกกำลังกาย ตอนเย็นๆคนจะเยอะมาก และมีบ้านแขกขายเนื้ออยู่ทางด้านติดกับถนนเลียบคลองชลประทาน ซึ่งเขาจะเลี้ยงวัว ควาย แพะ เป็นจำนวนมาก) เมื่อเลี้ยวขวาที่จะไปอำเภอแล้วจะผ่านสวนหย่อมด้านขวามือซึ่งเมื่อก่อนบริเวณนี้จะเป็นบ้านพักนายอำเภอมีสนามแบดมินตันและสนามเด็กเล่น สามารถเข้าไปเล่นได้ท่านนายอำเภอไม่หวง ส่วนทางด้านหลังบ้านพักนายอำเภอก็จะเป็นบ้านพักข้าราชการ ถัดจากบ้านพักนายอำเภอ(เวลาพูดเร็วๆก็จะกลายเป็นแนมเภอเลยเรียกแนมเภอจนติดปาก)ก็จะเป็นหอประชุมอำเภอซึ่งทุกสิ้นเดือนพวกข้าราชการครู กำนันผู้ใหญ่บ้านจะต้องมาประชุมและรับเงินเดือนที่นี่ ติดกับหอประชุมก็คือสโมสรที่คุณNickyNick ว่านั่นแหละครับ เมื่อขับรถถึงอำเภอแล้วสามารถจอดรถได้หมดนะครับทั้งด้านหน้าด้านหลัง พูดถึงอำเภอแล้วผมก็เสียดายเหมือนกันนะครับและก็ได้ข่าวเหมือนคุณNickyNick นั่นแหละ ยังอยากให้เขาไปซื้อกลับคืนมาเลย ตัวอำเภอเมื่อก่อนเป็นเรือนไม้สองชั้น(ผมและเพื่อนๆขึ้นไปวิ่งเล่นบ่อยๆ) มีหน้ามุข ปลูกกระดังงาหรือจำปีด้วยถ้าจำไม่ผิด ตัวเรือนจะสร้างติดกับอนามัย ถัดไปก็จะเป็นโรงพัก(สถานีตำรวจ) ด้านหน้าอำเภอติดกับแม่น้ำท่าจีน ด้านขวาจะมีท่าเรือดับเพลิง ด้านซ้ายเป็นสะพานข้ามแม่น้ำซึ่งเมื่อก่อนเป็นสะพานไม้เล็กๆ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2508 ในสมัยนายสมพร กลิ่นพงษา เป็นนายอำเภอ จึงให้ชื่อว่าสะพานพรประชา เนื่องจากสะพานไม้มันผุพัง จึงได้มีการบูรณะปรับปรุงและขยายให้ใหญ่ขึ้นเปลี่ยนเป็นคอนกรีต ในสมัยนายอำเภอสมพรได้ชื่อว่าเป็นนายอำเภอมือปราบ ประชาชนให้ความรัก เคารพนับถือท่านมาก ท่านมักออกไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปนอนกับชาวบ้านเป็นประจำเพื่อไปจับเสือ(โจร) สมัยก่อนเสือฝ้าย เสือมเหศวร ดังมาก มีข่าวว่าเมื่อฆ่าเสือได้ บางครั้งก็ควักหัวใจออกมาย่างกินด้วย จริงเท็จประการใดต้องไปถามท่านเองนะครับ (ปัจจุบันท่านปลดเกษียณไปหลายปีแล้วในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และไปเป็นกรรมการกฤษฎีกา) ในตลาดสามชุกจะแบ่งออกเป็นซอยๆ ตั้งแต่ ซอย1, ซอย2, ซอย3, ซอย4 และถัดไปเรียกท่าถ่านหรือท่านายเจริญเพราะเป็นของนายเจริญ สถาปิตานนท์ (ไม่ทราบเป็นอะไรกับดร.ประสม สถาปิตานนท์) และถัดไปอีกซอยหนึ่งจะเป็นโรงหนังวัฒนไกร ปิดวิกเก็บตังค์ จึงพูดว่าไปดูหนังที่วิก เป็นอันรู้กัน ตรงมุมซอยนี้จะเป็นโรงตีเหล็ก มีชายกำยำ 3 คน ช่วยกันตีสลับกันคนละโป๊ก โป๊ก โป๊ก ปัจจุบันที่เป็นตลาด100ปีนี้ เรียกว่าหน้าตลาดหรือหัวตลาดเพราะมีอีกตลาดหนึ่งอยู่ทางด้านท้ายติดกับถนนเลียบคลองชลประทาน เรียกว่าท้ายตลาดหรือตลาดยายจูเพราะเป็นของยายจู และเป็นท่ารถด้วย ถ้าจะจ่ายตลาดเช้าต้องไปท้ายตลาด ถ้าเป็นตอนเย็นต้องไปหน้าตลาด ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ตลาด 100 ปีจะอยู่ในซอย 2 ทางด้านหัวตลาดซึ่งเป็นบ้านของขุนจำนงค์จีนารักษ์ (เป็นนายอากรเก็บภาษีคนแรก) เป็นบ้าน 3 ชั้น ทายาทได้ยกให้เป็นพิพิธภัณฑ์ของตลาดสามชุกชื่อ "พิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงจีนารักษ์" ดำเนินการโดยคณะกรรมการพัฒนาตลาดสามชุก ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บของโบราณ ชั้นที่ 1 แสดงข้อมูลความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสามชุก ชั้นที่ 2 แสดงเรื่องราวของครอบครัวขุนจำนงจีนารักษ์ ชั้นที่ 3 จัดเป็นที่ประชุมสัมนา จัดนิทรรศการ เท่านี้ก่อนนะครับ.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|