เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 4725 ประตูผี
น้ำใส
อสุรผัด
*
ตอบ: 47


 เมื่อ 15 ส.ค. 06, 19:33


.
 ช่วงนี้ก็เข้าพรรษาแล้ว  ฝนก็เริ่มตกชุกขึ้นเรื่อยๆ คนโบราณท่านได้วางช่วงเวลาได้สอดคล้องกับธรรมชาติอย่างน่าทึ่งยิ่งนักจริงๆ  นี่แสดงถึงภูมิปัญญาอันล้ำเลิศของท่าน ที่สามารถล่วงรู้ปรากฏการณ์ของธรรมชาติได้อย่างแม่นยำ นอกจากล่วงรู้การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลซึ่งเป็นเรื่องราวของบนโลกนี้แล้ว คนสมัยโบราณยังล่วงรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง ถึงในปรโลกนั่นอีกด้วย   แหม..หลายท่านคงคิดว่าผมโม้แน่ๆเลย  งั้นเรามาดูกันเถิดว่า คนโบราณเขามีหลักการของท่านอย่างไร......  

  สมมุติว่าวันนี้เป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสปราศจากเมฆหมอก  ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มครึ่งเศษๆ ขอชวนให้พี่ๆทั้งหลายหันหน้าไปทางทิศตะวันตก มองไปที่ท้องฟ้าในยามราตรีนี้ ที่มีดวงดาวประดับประดา ระยิบระยับจับเต็มท้องฟ้า แหม..ดวงดาวช่างงดงามจริงๆหนอ ใช่ไหมครับ

  ก่อนอื่นเรามามองหาดาวจระเข้กันก่อนครับ  มองไปทางขวามือครับ  ไม่ต้องสูงมาก นั่นไงครับกลุ่มดาวที่เกาะกันเป็นรูปกระบวยตักน้ำ  มีหางยาวๆเหมือนตัวจระเข้เปี๊ยบเลย  เมื่อท่านเจอะดาวจระเข้ แล้วก็ให้มองกลับมาทางซ้ายโดยรักษาระดับสายตาไว้  ใช่แล้วครับ..ท่านจะมากระทบกับกลุ่มดาวสิงห์โต นั่นคือกลุ่มดาวประจำ จักรราศีสิงห์ นั่นเอง ภาษาอังกฤษเรียกกลุ่มดาวนี้ว่า  ลีโอนิค  LEONIC   ให้ท่านจำรูปร่างและตำแหน่งของกลุ่มดาวสิงห์โตให้แม่นๆนะครับ เพราะช่วงปลายปีทุกปีจะมีฝนดาวตกมาเยือนโลกของเรา ซึ่งฝนดาวตกจะโผล่มาในตำแหน่งกลุ่มดาวสิงโตนี้นั่นเองครับ   เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาท่านคงจำกันได้นะครับ ที่ทั่วโลกต่างพากันติดตามชมปรากฏการณ์ ฝนดาวตก ที่ว่ามีมากที่สุดในรอบ ๑๐๐ ปี    แต่บางทีปีนี้อาจมีมากกว่านั้นอีกก็ได้  บรรยายเสียยืดยาว ยังไม่ได้พาท่านไปถึงจุดหมายปลายทางเลยครับ

  เมื่อท่านรู้จักกลุ่มดาวสิงห์โตแล้ว ถัดขึ้นไปข้างบนก็ต้องเป็นกลุ่มดาวราศีกันย์  กลับมาที่กลุ่มดาวสิงห์โตอีกทีครับอย่าเพิ่งไปไกลถึงราศีอื่น ท่านมองลงมาทางหัวสิงห์โต มองต่ำลงมาอีกหน่อยครับ ใช่ครับ..ท่านจะเห็นกลุ่มดาวเกาะกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมเหมือนกล่อง นั่นเองครับคือทั้งหมดของเรื่องราวที่ผมต้องการพาไปดู

 กลุ่มดาวสี่เหลี่ยมนี้มีชื่อทางภาษาภรตะ ( อินเดีย ) ว่า ปุษยะ เป็นกลุ่มดาวหนึ่งใน ๒๗ กลุ่มของ อินเดียโบราณ แต่ทางไทย ปู่ย่าตายายของเรา เรียกกลุ่มดาวรูปสี่เหลี่ยมนี่ว่า ดาวโลงผี ทำไมเรียกน่ากลัวอย่างนั้น
บันทึกการเข้า
น้ำใส
อสุรผัด
*
ตอบ: 47


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 15 ส.ค. 06, 19:36


.
ตามปกติคนโบราณท่านเรียกชื่อสิ่งใดนั้น มักจะมีเหตุผลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงของสิ่งนั้นเสมอ  ท่านไม่เรียกมั่วหรือเลื่อนลอยหรอกครับ ตัวอย่างเช่น ที่แถบไหนมีชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่าดอน เช่น ดอนตูม ดอนมดแดง ดอนไผ่ ฯลฯ แสดงว่าภูมิประเทศตรงนั้นเป็นที่สูง  ถ้าขึ้นต้นด้วยคำว่าหนอง เช่นหนองบัวลำภู หนองคาย หนองสาหร่าย แสดงว่าแถวนั้นเป็นที่ลุ่ม หน้าฝนจะมีน้ำท่วมขัง เห็นไหมครับว่าคนโบราณท่านตั้งชื่อได้ถูกต้องตามความจริง  ทีนี้มาที่ดวงดาวกันต่อครับ  ท่านเรียกว่า ดาวโลงผี ก็ต้องแสดงว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องผีแน่ๆ  ถูกต้องแล้วครับ

 ทีนี้เรามาดูภูมิปัญญาของคนจีนบ้าง  คนจีนก็มีความรู้ทางดาราศาสตร์มาเป็นเวลานับพันๆปีไม่แพ้อินเดียหรือชาติใดๆเหมือนกัน  คนจีนเรียกกลุ่มดาวรูปสี่เหลี่ยมนี้ว่า ประตูผี  เอ..นี่ก็เรียกว่า ผี เช่นกันกับปู่ย่าตายายของไทยเราอีก ชักจะยังไงๆชอบกลแล้วสิน้า เริ่มเป็นปริศนาขึ้นมาแล้วสิครับ

เรามาดูคำตอบของปริศนา ประตูผี กันเลยดีกว่าครับ
 คนจีนโบราณท่านว่า เมื่อดวงอาทิตย์และดวงจันทร์โคจรมาเจอกันที่ตำแหน่งกลุ่มดาวประตูผีนี้แล้ว เชื่อกันว่าจะเป็นเหมือนกุญแจไขประตู ประตูนรก จะถูกเปิดออกจนกว่าพระจันทร์จะโคจรกลับมาที่ตำแหน่งนี้อีกครั้ง เพื่อไขปิดประตู ก็คือเวลา ๑ เดือนพอดีนั่นเอง  ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวก็คือ เริ่มจากวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๗ ของจีน (ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์โคจรมาเจอกันที่ตำแหน่งนี้ )ซึ่งจะตรงกับเดือน ๙ ของไทย

 ถ้าดูในปฏิทินปีนี้ ก็จะตรงกับช่วงปลายเดือนกรกฎาคม จนถึง ๒๓ สิงหาคม นั่นคือช่วงเวลานี้ ท่านยมบาล ( พญามัจจุราช ) จะเปิด ประตูนรก  เพื่อให้วิญญาณทั้งหลายได้กลับไปพบญาติของตนๆเป็นเวลา ๑ เดือน ( แหม..ผีก็มีวันพบญาติด้วยเหมือนกัน ) ท่านบางคนคงพอเดาได้แล้วนะครับว่า ช่วงนี้คนจีนจะมีประเพณีไหว้ผีบรรพบุรุษ หรือที่รู้จักกันดีว่า วันสาร์ทจีน นั่นไงครับ จะทำกันในวันวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ชาวจีนก็จะทำพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษของตน บางบ้านยังเผื่อแผ่ จัดเครื่องเซ่นให้แก่ ผีที่ไม่มีญาติอีกด้วย  โดยแยกเครื่องเซ่นไว้อีกโต๊ะหนึ่ง

ใช่แล้วครับ ช่วงเดือนนี้เป็นช่วงที่ผีออกมาเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด ยิ่งผีที่ไม่มีญาติด้วยแล้วยิ่งหิวโหยน่าดู พากันแย่งกินเครื่องเซ่นตามศาลหรือตามแห่งต่างๆที่เขาทิ้งไว้
และเลยเป็นที่มาถึงวิธีการที่ใครอยากจะเห็นผีแบบของจีน ท่านว่าในตอนกลางคืนของช่วงเวลาดังกล่าว ให้คนที่อยากจะเห็นผีนั้นเอาชามข้าวเปล่าไปเคาะในทางสามแพร่ง  ท่านว่าผีที่ไม่มีญาติซึ่งกำลังหิวโหยเมื่อได้ยินเสียงเคาะชามข้าว ก็นึกว่าเรียกให้มากินข้าว   ก็จะรีบมาปรากฏตัวเพื่อจะกินข้าวและเครื่องเซ่น
ท่านใดอยากเห็นผีก็ทดลองดูเอาเองนะครับ แล้วอย่าลืมกลับมา เล่าให้ฟังกันด้วยนะครับ    
บันทึกการเข้า
น้ำใส
อสุรผัด
*
ตอบ: 47


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 15 ส.ค. 06, 19:41


.
อ้อ..เกือบลืมอ่ะครับ คาถากันผี สำหรับสวดก่อนนอนทุกคืน โดยเฉพาะในช่วงนี้ จะได้ไม่โดนผีหลอกไงครับ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

พุทธัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ ธัมมัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ ธัมมัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ สังฆัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
บันทึกการเข้า
ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 175

ความสุขที่แท้อยู่ที่ใจ


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 20 ส.ค. 06, 21:13

 นึกว่า ประตูผี ที่ในวัง ซะอีก
บันทึกการเข้า
นทีสีทันดร
ชมพูพาน
***
ตอบ: 165

นสพ. จุฬาฯ ปี 6 (extern) แล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 20 ส.ค. 06, 23:14

 "อนิจฺจา วต สงฺขารา อุปฺปาทวยธมฺมิโน อุปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ เตสํ วูปสมโม สุโข" บทนี้ผีก็กลัวเหมือนกันครับ สวดเมื่อไหร่ผีหนีหมด (อ.เสฐียรพงษ์เคยเขียนบอกไว้ในหนังสือเล่มนึง) เออว่าแต่ว่าเรียนหมอมา 6 ปีก็ยังไม่เคยเจอผีเลยนะครับ
บันทึกการเข้า
น้ำใส
อสุรผัด
*
ตอบ: 47


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 21 ส.ค. 06, 15:18

 .......เตสํ วูปสมโม สุโข การไม่ไปติดใจกับเนื้อหนังนั่นเป็นสุขอย่างยิ่งจริงหนอ
ผมต้องขอลอกคาถานี้ของคุณ นทีสีทันดร ส่งไปให้เพื่อนผมแล้วแหละครับ

เพื่อนผมคนนี้เคยไปฝึกงานที่สถาบันมะเร็ง ที่อยู่ติดกับโรงพยาบาลรามา มีวันหนึ่งเลิกจนค่อนข้างดึก คิดจะกลับบ้าน จึงเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนกลับ  ซึ้งตรงใกล้ๆห้องน้ำมีชั้นวางแฟ้มเอกสารห้อยไว้เต็มเลย พอออกจากห้องน้ำ ก็เจอคุณป้าคนหนึ่งกำลังค้นหาอะไรตรงนั้น เพื่อนผมคิดว่าคงเป็นคนไข้ จึงไปถาม

พ..คุณป้าค้นหาอะไรอยู่หรือครับ
ป้า..ป้าหาชื่อป้าอยู่จ๊ะ หาไม่เจอ
พ..ผมช่วยหาให้ ป้าชื่ออะไรล่ะครับ
ป้า..ขอบใจนะ ไม่ต้องแล้วล่ะ ป้าหาชื่อป้าเจอแล้ว

แล้วคุณป้าคนนั้นก็เดินลงบันไดไป เพื่อนผมก็กลับบ้าน

จนวันรุ่งขึ้น ได้ถามเจ้าหน้าที่ในนั้นถึงบรรดาแฟ้มรายชื่อที่เก็บอยู่ตรงนั้น ได้รับคำตอบว่า เป็นรายชื่อและประวัติคนไข้ที่ตายไปแล้ว ถึงตรงนี้ เพื่อนผมก็ต้องขนลุกขึ้นมาทันที นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนว่า ได้โดนผีหลอกเข้าแล้วจริงๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 19 คำสั่ง