เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 9
  พิมพ์  
อ่าน: 35794 ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณ : ศูนย์รวม ๓ วัฒนธรรม
โพธิ์ประทับช้าง
องคต
*****
ตอบ: 399


ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 03:05


วัดมหาธาตุ
บันทึกการเข้า
โพธิ์ประทับช้าง
องคต
*****
ตอบ: 399


ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 03:06


วัดช่องลม
ฝากคุณ NickyNick พาชมทีครับ
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 08:37

 เช้านี้มาเปิดอ่าน  ตะลึงครับ  ไม่อยากเชื่อเลยว่าที่บ่นๆ พึมพำเชิญท่านเข้ามาคุย  จะได้ผลปานฉะนี้  ยังไงก็ยินดีที่ท่านเข้ามาร่วม  เป็นเกียรติกับผมมากเลยครับ

แต่ก็ขอออกตัวก่อนว่า  หากจะนำเที่ยวสุพรรณ  คงจะยืดยาวเกินไป  เพราะยังเหลือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอีกตั้งมากมาย  กะจะไม่ให้เกิน ๒๐๐ คหพต. ครับ  เดี๋ยวตอนหลังโหลดช้าไป  ท่านจะเบื่อ  แล้วเวปมาสเตอร์จะพลอยถูกใครว่าไปด้วยครับ

ขอเชิญท่านนำชมภาค ๒ ของพุทธสถานสุพรรณภูมิ   ตามกำหนดการที่เตรียมไว้ได้เลยครับ  แล้วผมจะขออนุญาตร่วมด้วยช่วยกันเป็นครั้งคราวไป  เพราะหากผมนำชมเอง  อาจมีอคติบางอย่าง  เดี๋ยวจะกลายเป็นนำชมแต่เรื่องที่ผมสนใจ  แต่เรื่องที่ไม่รู้เรื่อง  จะอุบไว้  คนอ่านจะเสียประโยชน์ครับ

แล้วก็เมืองสุพรรณมีรถถังผ่านบ่อยครับ  เขาเคลื่อนย้ายระหว่างกองทัพภาคทางตะวันออก กับตะวันตกบ่อยๆ  เมืองสุพรรณอยู่กลางก็เลยต้องผ่านตรงนี้  โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินกับเพื่อนบ้าน  หรือศึกภายในก็แล้วแต่  อย่างเช่นระหว่างเมืองกาญจน์  กับเมืองสระบุรีหรือโคราช

อย่างผมก็อยู่ตรงกลาง  อาจมีรถถังฝ่ายนั้นบ้างฝ่ายนี้บ้างมาปะกันที่สมรภูมินี้เป็นครั้งคราว  แต่โชคดีที่แผ่นดินยังไม่สึกหรอ

เอ้อ  แต่ว่า  เขาเอารถถังขึ้นบนรถบรรทุกครับ  ไม่ได้ขับเองโดยตรง  บางคราวผ่านมากันเป็นร้อยคันก็มี
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 08:56

 อะฮ้า  ได้ขี่ Spiderman เล่นกับเขาแล้ว  พอเริ่มที่ประสบการณ์ ๑๐๑ ครั้ง  เราศักดิ์ศรีเท่ากันแล้วนะท่านกุรุกุลาน้อย  บ๊ายบายเจ้าแมวตัวป่วนตัวซน Garfield ชักเริ่มรำคาญเธอบ้างแล้วเหมือนกัน แล้วก็ลาทีเครื่องบินกระดาษพับ  พูดคุยด้วยก็ไม่ได้  ไร้ความรู้สึก  เดี๋ยวหากเกิน ๑๕๐-๒๐๐ ประสบการณ์  ผมขอรถถังก็แล้วกันนะท่านเวปมาสเตอร์  คุณอ๊อฟใช่ป่าว  คงใช่นะ  เห็นแวบมาสงบศึกทุกคราว

ภาพที่ท่านนำมาให้ชม  สวยมากครับ  ผมยังไม่เคยมีเป็นของตัวเองเลยจนถึงบัดนี้  นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ขอย้ำเรียนเชิญคุณโพธิ์ประทับช้างนำเสนอภาคต่อไปของท่านตามประสงค์เดิมครับ

ภาพเหล่านี้  เป็นภาพใหม่  ซึ่งเป็นภาพหลังการบูรณะซ่อมแซมแล้ว  โบราณสถานเหล่านี้ผมเห็นมาแต่เล็ก  แต่ก็ไม่เคยฉุกใจคิดจะถ่ายภาพเก็บไว้เลย  แล้วตอนนั้นยังเด็กอยู่ด้วย  ไม่มีกล้อง  ตอนมีกล้องแรกเมื่อราว ๒๐ ปีก่อน  ก็มัวแต่หลงระเริงถ่ายเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิง  ก็มันยังวัยรุ่น ซิ จะบอกให้  จึงไม่มีภาพเก่าเป็นสมบัติของตน  ตอนนี้เลยดูดแต่ภาพเก่าจากแหล่งอื่นมาร่วมด้วยช่วยกัน  แล้วก็ให้พวกท่านได้ชมกันด้วยครับ

ตอนนี้คลังรูปเก่าที่ผมเห็นเยอะหน่อยก็อยู่ที่คุณลุงมนัส โอภากุลครับ  ท่านเป็นพ่อของอี๊ดแอ๊ดคาราบาว  อายุตอนนี้ก็ ๙๓ ปีแล้ว  แต่ยังมีความทรงจำเป็นเลิศ  เคยมีโอกาสได้ดูภาพจากอัลบั้มเก่าของท่าน  มีเจดีย์ต่างๆ ของเขตเมืองสุพรรณมากมาย  แล้วก็ถือว่ายังบริสุทธิ์ด้วยครับสำหรับตอนนั้น  เพราะยังไม่ได้มีการบูรณะซ่อมแซมในสมัยปัจจุบันเลย  รวมทั้งยังไม่มีการพังทลายของเจดีย์บางองค์เลยครับ

บางวัด  ผมเคยไปเที่ยวเล่นซุกซนตามประสาเด็ก  เช่น วัดพระอินทร์  กับวัดน้อย  วัดร้างทั้งคู่  อยู่ติดกันทางฟากตะวันตกตอนเหนือของเมืองโบราณ  รั้ววัดติดกันเลย   ตอนนั้นยังมีพระพุทธรูปแตกหักกองเกะกะรอบองค์พระเจดีย์เต็มไปหมด  ยังมีทั้งเศียรที่หลุดหล่นลงมา  หรือเหลือแต่องค์โดยปราศจากเศียรก็เยอะแยะ   ในเจดีย์เป็นโพรงทะลุหน้าหลัง  ยังเล่นโป้งแปะกันเลย  แต่ตอนหลังพอกรมศิลปากรบูรณะแล้วได้มีโอกาสไปดู  ยังนึกจำภาพเดิมได้ติดตา  แต่ไม่สามารถเปรียบเทียบกับภาพที่เห็นปัจจุบันหลังการบูรณะได้เลย  หรือผมจะตาไม่ถึง
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 09:15

 ภาพที่ท่านไปเที่ยว  อาจถือได้ว่าเป็น Tourist Interest  ขอใช้ภาคภาษาอังกฤษตามคุณ Japonica บ้างคงไม่เป็นไร   ผมยังไม่ได้ฝึกปรือด้านภาษาอย่างช่ำชอง  บางทีใช้คำไทยไม่ถูกต้อง  ก็ขอใช้อังกฤษแทรกแซงบ้าง  รึว่า  ใช้ปะกิตแล้วยังผิดอีก  โอววว ผิดซ้ำซาก  อย่าว่ากันเด้อ

ท่านอาจมีภาพอื่นๆ อีกเยอะ  แต่ขอเดาและวิจารณ์ตามที่เห็นภาพก็แล้วกัน  ยังมีโบราณสถานที่ยังแทรกอยู่กลางชุมชน  กลางป่ากลางทุ่งอีกมาก  บางที่ก็ยากที่จะขับรถเข้าไปชมได้ง่ายๆ  หรือบางทีก็เข้าไม่ถูก  ขนาดผมอยู่ที่นั่นมาตั้งนาน (แต่ไม่ถึงบัดนี้?) ยังเข้าไปไม่ถูก  หรือก็เข้าไปดูไม่หวาดไม่ไหวเลย  บางที่เหลือแต่ซากอิฐ  บางที่ก็ไม่เหลือสภาพเก่าให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว  กลายสภาพเป็นบ้านคน  สถานที่ราชการ  หรือแผ้วถางกลายเป็นไร่เป็นนาไปเรียบร้อยแล้ว

หากท่านมีเวลาได้อยู่เมืองสุพรรณนานๆ หลายวัน  คงจะได้ภาพโบราณสถานตามต้องการเกือบครบ  นี่พูดถึงเฉพาะภายในเขตรอบๆ เมืองเก่าในระยะเพียง ๒-๓ กิโลเมตรเท่านั้นนะครับ  ไม่อาจเอื้อมออกนอกเขตนี้  หรือนอกเขตอำเภอเลยครับ  เพราะยังเหลือให้ศึกษาอีกมากมายมหาศาลครับ

แต่ว่าท่านอาจต้องมีคู่มือดีๆ สักหน่อยหนึ่ง  หรือมีผู้ชี้แนะที่ดีเพิ่มเติม  เพราะขณะนี้แม้แต่คนพื้นที่ที่ไม่ได้สนใจก็อาจรู้ไม่ชัดเจน  หรือรู้แต่เฉพาะที่เป็นบริเวณรอบบ้านของตนเองเท่านั้น  เพราะคนเก่าคนแก่ท่านก็ต้องทำงานทำไร่ทำนาครับ  โอกาสที่จะมาศึกษาอย่างละเอียดเป็นแบบเป็นแผนอย่างผู้ที่ร่ำเรียนในห้องเรียนก็คงไม่มีครับ

เมื่อท่านเปิดสมรภูมิสุพรรณภูมิภาคเมืองสุพรรณ  ผมก็จะมีโอกาสได้รู้จักท่านและผลงานของท่านมากขึ้นครับ  ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
บันทึกการเข้า
กุรุกุลา
พาลี
****
ตอบ: 235


ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 09:58


เชิงเทียนพระราชทานครับ แต่ก็ไม่ทราบว่าพระราชทานมาในโอกาสใด คงต้องไปค้นอีกหลายๆที
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 10:00

 ภาพใน คหพต. ๔๙   ท่านถ่ายจากทางเหนือของแม่น้ำสุพรรณมองมาทางใต้  ทางขวามือซึ่งเป็นด้านตะวันตกของแม่น้ำเป็นโรงสีใต้วัดแค (ยังไม่ใช่โรงสีวัดพระธาตุที่อยู่เหนือเจดีย์วัดกุฎีสงฆ์ติดสะพานข้ามแม่น้ำ)  แล้วไกลออกไปเป็นพระปรางค์วัดพระธาตุ  แม่น้ำสุพรรณตอนที่ผ่านเมืองสุพรรณจะเป็นแม่น้ำแคบๆ ครับบ  ท่านคงไม่แน่ใจจึงได้ Question mark ไว้  ซึ่งเมื่อดูจากอดีตแล้ว  แม่น้ำอื่นที่มีความสำคัญและขนาดกว้างใหญ่กว่าจะอยู่ทางตะวันตกออกไป  และมีร่องรอยของชุมชนโบราณตั้งอยู่ยังมีอีกเยอะ

หากท่านมีแผนที่ทางอากาศ  โดยเฉพาะเมื่อถ่ายครั้ง ธ.ค.๙๖ กับปี ๒๕๑๘ เปรียบเทียบกัน  ท่านจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำชัดเจนเลยครับ  เช่น  

๑. บึงบ้านโพธิ์ – แม่น้ำพันตำลึง – บึงไผ่แขก  แต่เดิมเป็นแม่น้ำเดียวกัน  แต่ปัจจุบันเปลี่ยนทิศทางเดิน  จึงกลายเป็นแม่น้ำแยกออกจากกัน  แล้วก็เมื่อก่อนมีขนาดใหญ่มากด้วยครับ
๒. แม่น้ำด้วน – แม่น้ำท่าคอย – แม่น้ำท่าว้า  เป็นแม่น้ำเดียวกัน  แต่เรียกต่างกันตามตำแหน่งหรือตามปากชาวบ้าน  แยกจากแม่น้ำสุพรรณที่เขตอำเภอสามชุกตอนเหนือเมืองไปอีกเกือบ ๔๐ กม. แถวบ้านท่าระกำ  แต่ต้นน้ำราว ๒-๓ กม.ที่แยกกันมันหายกลายเป็นบ้าน-ท้องไร่-ท้องนาหมดแล้ว  ต้นน้ำจึงเรียก "แม่น้ำด้วน" ครับ  ตรงนี้ก็มีแหล่งอารยธรรมมากครับ  แล้วก็บางส่วนสาขาของแม่น้ำนี้ที่ไหลไปรวมกับแม่น้ำจระเข้สามพันด้วยครับ
๓. แม่น้ำจระเข้สามพัน อ.อู่ทอง  พวกเราได้ยินชื่อกันมานานนมแล้ว  จะมีสาขาแยกไปเป็นรางกอก  ถึงอำเภอท่าม่วง กาญจนบุรีเลย  แล้วบางส่วนก็ต่อเนื่องกันไปถึงโบราณสถานพงตึกเลยทีเดียว  อารยธรรมแถวนี้บางส่วนจึงมีความต่อเนื่องกัน  เพราะแม่น้ำเป็นสายใยแห่งความรักนี่เอง  แต่ต่อมาเมื่อความรักหักสะบั้น  อาจเพราะแม่น้ำเปลี่ยนทางเดิน  หรือถูกการถมแม่น้ำเพื่อการยุทธวิธีในสงคราม   เขาไม่อยากให้มา  น้ำก็ไม่อยากมา  ถมบ่อยหลายครั้งเข้า  ก็เลยเปลี่ยนทางเดินถาวรไปซะเลย  น้อยใจเป็นเหมือนกัน

เมืองสุพรรณ  กับเมืองกาญจน์  สมัยก่อนจึงไปมาหาสู่กันด้วยแม่น้ำเหล่านี้  และต้องสู้ศึกสงครามที่มาจากทางด้านตะวันตกโดยตลอดประวัติศาสตร์  เราจึงมีความรักกันจนถึงปัจจุบัน  เพราะใกล้กันนี่เอง  จึงผูกพันกันมาก  สำเนียงก็เป็นแบบเดียวกันด้วย  ถือว่าเป็นสำเนียงหลวงในอดีตเลยนะจ๊ะ
บันทึกการเข้า
กุรุกุลา
พาลี
****
ตอบ: 235


ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 10:01

 โอ๊ะ ผมโก๊ะซะแล้วล่ะครับ คุณนิก กำลังอ่านกระทู้คุณเพลิน ๆ จะกลับไปต่อกระทู้ซางตาครู้สของผมบ้างก็ดันมาโพสเอาในกระทู้คุณนิก ต้องขอโทษอย่างสูงครับ
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 10:21

 คหพต.๖๕  กุรุกุลาน้อย  ทำเป็นงงอีกแล้ว  จะแก้แค้นพี่รึไงที่ก่งก๊งใส่เรื่องศาลเจ้าพ่อสุพรรณเข้าไปในกระทู้ซางตาครู้สของท่าน

คหพต.๕๐  เรื่องวัดแค  ผมเคยเล่าไว้ในเวปหนึ่งแล้ว  แต่เป็นเกร็ดบางอย่าง เกี่ยวกับการเสด็จประพาสต้นของร.๕ ที่ไม่เคยมีบันทึกไว้ในเอกสารระดับประเทศฉบับใดเลย

หากอยากรู้จักผมมากขึ้น  เชิญเข้าไปอ่านในนี้ได้  ขอโฆษณาไว้ตรงนี้หน่อยหนึ่งครับ  คงไม่ว่ากระไร  เพราะต่อไปอีกไม่นานกระทู้นั้นก็จะตกหายป๋อมไปแล้ว  แล้วก็ต่อไปหากมีอะไรที่จะคุยยาวๆ เป็นเดือน  จะเปลี่ยนมาคุยที่เวปวิชาการก็แล้วกัน  หากเรายังดูแลกระทู้ของเราดี  กระทู้เราก็ไม่มีวันตก  อิอิอิ  เป็นความรู้ใหม่ในนี้เลยครับ

 http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4550674/K4550674.html

ส่วนที่มีอีกมากมายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดนี้  จะรอร่วมแจมกับท่านครับ

คหพต.๕๕  ถ้าจะให้เดา  ท่านคงจะถ่ายจากคุ้มขุนแผน-มะขามยักษ์วัดแค ตรงท่าน้ำมองลงไปทางใต้  ทิศทางเดียวกันกับรูป ๕๐  แต่มีอีกมุมหนึ่งที่คล้ายคลึงกับตรงนี้  แต่เดิมเป็นสวนอาหารขวัญจิต (ศรีประจันต์) ในเขตอำเภอเมือง  แต่ถ่ายจากฟากตะวันออกขึ้นเหนือไปยังโรงสีตรงข้ามวัดพระลอยครับ  แต่ผมจำปล่องโรงสีมาเทียบเคียงไม่ได้  เพราะไม่ได้ผ่านไปนานเนแล้ว  จึงขอเดาเป็นคำตอบสุดท้ายว่า  คำตอบแรก  ที่ถ่ายจากวัดแคลงใต้  ถูกต้องนะคร้าบบบบบ
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 10:26

 คหพต.๕๑  วัดมรกต-วัดมรกฎ หรือวัดอมรโกฐ  แต่ก็เป็นไปในทำนองนี้  เขียนและเรียกกันหลายชื่อ  อยู่ทางใต้ของตัวเมือง  และนอกเขตคูเมืองเก่า   เคยคุยกับพรรคพวกบอกว่า เจดีย์หลักวัดนี้เดิมเป็นปรางค์?ฮืม  ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับวัดพระธาตุได้เลยทีเดียว   ดูจากแผนที่ทางอากาศของเก่าก็  ใช่เลย  เจดีย์และบริวารรอบข้างใหญ่โตมโหฬารจริงๆ  แต่ปัจจุบันชื่อเสียงกลับแทบไม่มีใครรู้จัก  และอยู่ภายในอาณาเขตของสนามกีฬาโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี  (เป็นสนามกีฬาสาขาครับ  ไม่ใช่ตั้งในเขตโรงเรียน)

ยังมีวัดมรกตอีกแห่งหนึ่ง  เป็นวัดร้างเช่นกัน  อยู่ทางตอนเหนือของเมืองสุพรรณ ใต้วัดพระลอยลงมาหน่อยหนึ่งครับ
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 10:37

 คหพต.๕๒ กับ ๕๓  ภายในเขตวัดพระรูป  มีรวมวัดร้างเข้าไปด้วยอีกวัดหนึ่งคือ วัดพลายชุมพล  อยู่มุมทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเขตวัดพระรูป ถนนขุนช้าง

ได้ถูกเกรดออกเมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๐๘  เกรดเจดีย์เกลี้ยงหมดเลย  เป็นยังงี้เยอะครับ  หลายสิบวัดที่หมดไปเพราะการพัฒนา   ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่ครับ  เขาเอาดินกับซากอิฐวัดพลายชุมพลไปถมทำเป็นศูนย์เยาวชนเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี  ฝั่งตะวันออกเหนือวัดไทรย์ ตำบลท่าระหัดครับ

ถ้าใครจะไปค้นหาพระพิมพ์ขุนแผนเก่าๆ หากหาภายในเขตวัดพระรูปไม่ได้  ก็ไปกระเทาะปูนกระเทาะดินในศูนย์เยาวชน  อาจมีเหลือสักองค์สององค์ครับ
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 10:57

 คหพต.๖๑ วัดช่องลม  วัดนี้ปัจจุบันถูกรวบไว้ในเขตวิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรีครับ
วิทยาลัยเทคนิคสุพรรณ  เคยมีบุตรชายคนโตของลุงมนัส  โอภากุลเป็นผู้อำนวยการ  แต่เกษียณไปเกือบ ๑๐ ปีแล้วครับ  ในสถานศึกษาแห่งนี้  รวมวัดร้างเข้าไปอย่างน้อย ๓ วัด คือ

- วัดละคร  อยู่ทางเหนือสุดของวิทยาลัยฯ และตะวันออก  ติดกับถนนขุนช้าง  เนื้อที่ที่เหลือท้ายสุดคือ ๑๓-๒-๐ ไร่ (อ่าน ๑๓ ไร่ ๒ งาน ๐ ตารางวา)  มีเจดีย์เหลืออยู่ ๑ องค์
- วัดโหน่งเหน่ง  อยู่ใต้จากวัดละครลงมา  ติดกับถนนขุนช้างเช่นกัน  เนื้อที่จำไม่ได้  รู้สึกว่าตอนนี้จะกลายเป็นเขตบ้านพักอาจารย์  มีเจดีย์เหลืออยู่ ๑ องค์  ส่วนวิหาร ๑ หลังถูกรื้อไปหมดแล้ว

-   วัดช่องลม  อยู่ถัดมาทางตะวันตก  แนวเดียวกับวัดโหน่งเหน่ง  มีพระอุโบสถ  พระพุทธรูป  เนื้อที่ที่เหลือท้ายสุดคือ  ๗-๒-๕๓ ไร่

วัดร้างแถวนี้มากมายครับ  ต่อเนื่องมาตั้งแต่จาก .... หากนับตั้งแต่วัดพระธาตุลงมา – วัดตลาดเก่า – วัดไผ่ล้อม - วัดผึ้ง – วัดกุฎีสงฆ์ – วัดเขาใหญ่ – วัดประตูสาร - วัดตะไกร (จาก คหพต.๒๓ ครับ) แล้วก็วัดในกลุ่มวิทยาลัยเทคนิคทั้งสาม – วัดปากคลองแสงจันทร์ - กลุ่มวัดพระรูป – วัดมอญ  เยอะแยะไปหมด  จำแทบไม่หวาดไม่ไหว  นี่เฉพาะฝั่งตะวันตกลงมาแค่ไม่ถึงกิโลแม้วนะครับ

จะเล่าให้ฟัง  ด้านทิศตะวันตกสุดของวิทยาลัยเทคนิค  จะรวบเอาแอ่งลำรางสำคัญในอดีต  นั่นก็คือ แนวคูเมืองเก่าสุพรรณบุรียุคแรก  ที่ยัง question ว่าจะเป็นสุพรรณภูมิ หรืออู่ทองตอนปลายกันแน่  เป็นแนวคูเมืองที่ต่อลงมาจากศาลเจ้าพ่อฯ  ถึงขอบตะวันตกของวิทยาลัยเทคนิค  ไล่ลงมาถึงขอบวัดพระรูปเช่นกัน  และวัดที่กล่าวถึงข้างบน  ก็อยู่เฉพาะในเขตคูเมืองเก่านี้เท่านั้น  ยังไม่ออกไปจนสุดกำแพงเมืองยุคใหม่สมัยกรุงศรีอยุธยาเลย  ชักมันแล้วมั้ยครับท่าน
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 11:05

 คหพต.๕๔  เจดีย์วัดกุฎีสงฆ์  ในหนังสือห้าเดือนกลางซากอิฐปูนอยุธยา ของอาจารย์ น. ณ ปากน้ำ  น.๓๐๖  ท่านบอกว่าชื่อ  "วัดเจดีย์โซ้ง"  ท่านคงฟังจากปากชาวบ้านมาเพี้ยนนิดหน่อย  เพราะคงไม่ชินกับสำเนียงหลวงของเมืองสุพรรณ  อยู่ติดแม่น้ำสุพรรณครับ  อยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำและติดเชิงสะพานถนนมาลัยแมนด้านเหนือเลยครับ  แนวเส้นรุ้งเดียวกันกับวัดพระธาตุครับ

อาจารย์ น. เล่าว่า  เหลือแต่เจดีย์แปดเหลี่ยม  บัลลังก์แปดเหลี่ยมทรงเตี้ย  ไม่สูงชะลูดเหมือนวัดพระรูป  เข้าใจว่าจะเป็นของสมัยอยุธยาตอนต้น  หรือรุ่นหลังกว่าวัดพระรูปเล็กน้อย  เพราะไม่มีซุ้มไว้พระที่ข้างเจดีย์

คุณโพธิ์ฯ บอกว่าเป็นเจดีย์ลังกา  ผมไม่มีความรู้เหล่านี้หรอกครับ  เรื่องถาปัด-ศิลปะ พวกนี้  เพียงแต่เอามาขยายความเพื่อไม่ให้มันสูญหายไป  อย่างน้อยก็ช่วยแก้คำผิดในหนังสือของอาจารย์ น. ได้สักข้อหนึ่งครับ
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 11:26

 คหพต.๕๖ วัดไชนาวาส  ของอาจารย์ น. หน้าเดียวกันกับข้างบน  ก็กล่าวถึงวัดนี้  วัดนี้เป็นวัดกลางเมืองทางด้านเหนือ  ชาวบ้านแต่เดิมเรียกวัดชายนา  คู่กับอีกวัดหนึ่งซึ่งอยู่ทางใต้เมืองเรียกว่าวัดชายทุ่ง

รอบวัดไชนาวาสก็มีวัดร้างอีกมากมายเช่นกันครับ  แต่บางวัดก็เหลือเพียงซากเจดีย์  บางวัดก็หล่นป๋อมตกแม่น้ำไปแล้ว  เพราะแม่น้ำแถวนี้ฝั่งตะวันออกจะถูกกัดเซาะ  โบสถ์วิหารหายไปทั้งหลังก็หลายวัด  ส่วนฟากตะวันตกฝั่งวัดประตูสารวัดพระรูป  แม่น้ำจะงอกออกมา  ก็อย่างกับหยินหยางไง  มีฝ่ายบู๊ก็ต้องมีบุ๋น  มีแข็งก็ต้องมีอ่อน  มีด้านพังก็ต้องมีด้านงอกมาคู่กัน  ถึงจะสมดุลย์
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 10 ส.ค. 06, 11:32

 คหพต.๕๗-๖๐  วัดนี้ชาวบ้านสุพรรณเรียกกันว่า "วัดพระธาตุ" ครับ  ผมเคยเขียนไว้นิดหน่อยในกระทู้เตรียมทหารในเวปหนึ่งครับ  คคห.๓๖   ลองไปอ่านดูเผื่อจะได้รู้จักตัวตนกันมากกว่านี้  

ขออนุญาตคุณอ๊อฟนำมาโฆษณาด้วยนะครับ  อย่าลบทิ้งเลย   เพราะเดี๋ยวกระทู้นั้นก็จะตกแล้ว  ผมเข้ามาในนี้เดือนกว่าๆ ถูกลบไปหลาย คห.แล้ว  แต่เรื่องโฆษณานี้ยังไม่โดน  เอ้า  ลองดูกำลังหน่อย

 http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4531620/K4531620.html  
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.093 วินาที กับ 19 คำสั่ง