เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 9
  พิมพ์  
อ่าน: 35817 ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณ : ศูนย์รวม ๓ วัฒนธรรม
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


 เมื่อ 03 ส.ค. 06, 15:16


นี่คือวัฒนธรรมจีน  ที่เราเห็นโดยทั่วไปจากรูปลักษณะภายนอก
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 15:28


ตรงนี้ถ่ายจากด้านหน้าครับ  จากทางทิศตะวันออก  ใกล้ๆ ที่เขาจุดประทัดกัน  และเป็นตำแหน่งหัวมังกรที่กำลังจะสร้างขึ้นมาภายหลัง
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 15:34


ถัดจากสถาปัตยกรรมจีน   จะเป็นวัฒนธรรมไทย  คือศาลาแบบไทยถูกครอบไว้  เป็นของเก่าที่ยังเก็บรักษาเอาไว้ คนที่ไม่สังเกตอาจจะไม่เคยเห็นก็ได้
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 15:36

 เอาใหม่  วัฒนธรรมไทย  อย่าให้แพ้เขา ต้องเยอะเท่ากัน  เอาข้างบนให้มันชัดๆ  แต่ไม่รู้รูปออกมาจะชัดอย่างใจต้องการรึเปล่า
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 15:40


เอ  รูปหายไปได้ยังไง  ไม่ยอม เอาอีก  กว่าจะโหลดได้แต่ละตอน  เหนื่อยเชียว  คนรอใจแทบขาด
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 15:46


แล้วก็  ของสำคัญที่สุด  คือ รูปเทพารักษ์ประจำเมือง  คนสุพรรณเรียกติดปากว่า “เจ้าพ่อหลักเมือง”   ซึ่งเป็นพระนารายณ์สี่กร ประทับยืน ๒ องค์คู่  สวมหมวกแขก (Feg)  บางท่านเรียกว่าหมวกเตอร์ก  บางท่านก็เรียกว่าหมวกทรงกระบอก   แกะสลักด้วยหินสีเขียว  ติดผนัง  เป็นศิลปะบายน (ก่อนนครวัด)    มีอายุราวปี พ.ศ.๑๑๘๕-๑๒๕๐  ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นวัฒนธรรมพราหมณ์-ฮินดู  ซึ่งผ่านมาทางขอม  เรียกรวมๆ กันว่า  ขอม-พราหมณ์-ฮินดู  ก็แล้วกันครับ

แต่ในหนังสือต่างๆ ของท้องถิ่น หรือของจังหวัด หรือของการท่องเที่ยวฯ หรือ อ.ส.ท.  หรือนิตยสารท่องเที่ยวต่างๆ  จะเขียนรูปเทพารักษ์หลักเมืองนี้สับสนกันโดยตลอด  บ้างว่าเป็นพระศิวะ-พระอิศวร  พระอวโลกิเตศวร  แม้เอกสารของกรมศิลป์บางฉบับก็เรียกอย่างนี้  ฟังหูไว้หูบ้างก็แล้วกัน  รวมทั้งที่ผมจะเล่าต่อๆ ไปด้วย
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 15:47


ใกล้เข้ามาอีกนิด  ชิดเข้ามาอีกหน่อย
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 15:51


ชิดเข้ามาเต็มที่แล้วนะ  จะเห็นสี่กรชัดๆ ไหมเนี่ยะ

ต้องลดรูปให้เล็กลง  เลยไม่ค่อยชัดแจ๋วเหมือนที่ถ่ายมา
รอให้โพสต์ครบร้อยครั้งก่อน  คราวนี้จะได้ขี่ยานพาหนะเหาะเหิรเดินอากาศอย่างชาวบ้านท่านอื่นซะที  คงโพสต์รูปได้ใหญ่กว่าเดิมแล้วแหละ  หวังอย่างนั้นนะ
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 15:55


นี่  ลองลักดูดของที่อื่นดูซิ  คงชัดแจ๋วนะ
เพราะท่านเป็นที่เคารพนับถือของชาวสุพรรณและชาวเมืองใกล้เคียงกันมากครับ  เลยถูกปิดทองซะเต็มไปหมด  สังเกตลักษณะดั้งเดิมแทบไม่ได้เลย  และช่วงที่เราไป  บ่ายจัดแล้ว  แสงสีอาจจะเข้าไม่ดี  หรือไม่มือก็สั่นจากถ่ายรูปที่วัดบางอ้อยช้าง บางกรวย เมืองนนท์มาเมื่อตอนเช้า
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 16:02


จะขอคุยไว้ก่อนเลยครับ  กระทู้นี้ของผมค่อนข้างยาวเป็นพิเศษเลยครับ
อาจเรียกได้ว่า  เป็นการรวบรวมจดหมายเหตุต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี  ทั้งในอดีตและปัจจุบันแทบทั้งหมดเลยครับ  แต่ขอออกตัวไว้ก่อนครับว่า  “เท่าที่พอหยิบฉวยได้ในขณะนี้”  เพราะมีเอกสารอยู่กับตัวเป็นหนังสือเพียงแค่ราว ๒๐-๓๐ เล่ม  เอกสารการท่องเที่ยวของจังหวัดที่มีราว ๒๐ กว่าฉบับ  นิตยสาร อ.ส.ท. และอื่นๆ อีก  เป็นหนังสือเก่าเก็บ  ไม่สามารถไปค้นหาที่ห้องสมุดที่ไหนได้อีกเลย  เพราะไม่มีที่จะให้ไป

หากท่านผู้ใดมาเยี่ยม  แล้วมีข้อมูลในเอกสารหรือหนังสือต่างๆ  หรือภาพเพิ่มเติม   ที่ผมจะร้องขอเป็นระยะๆ ได้  แล้วมาร่วมนำเสนอด้วย  จะเป็นพระคุณยิ่งครับ  ผมจะเน้นนนน ขอให้หนักๆ เลยครับ

ภาพนี้ถ่ายจากข้างในประตูหน้าใน คหพต.๑  ถัดเข้ามาอีกชั้นหนึ่งครับ  ตรงโต๊ะที่มีผ้าแดงคลุมด้านหน้านั้นเป็นโต๊ะตั้งเครื่องเซ่นสังเวยครับ
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 16:04

 ผมแบ่งการศึกษาค้นคว้าเป็นกลุ่มๆ ดังนี้
- สมัยปัจจุบัน
- ในทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะการเสด็จประพาสเมืองสุพรรณ
- ในทางโบราณคดี
- ในทางวรรณคดี
- เรื่องเล่า  รวมทั้งบันทึกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชุมชนท้องถิ่น

ไม่รู้ว่าจะแบ่งถูกต้องตรงใจท่าน  หรือตามหลักวิชาการรึเปล่า  แต่ขอแบ่งตามหลักวิชาผมก็แล้วกันครับ  แต่ตอนเสนออาจรวมผสมปนเปกันไปบ้างตามลำดับเหตุการณ์
บันทึกการเข้า
NickyNick
พาลี
****
ตอบ: 290

ทำงานแล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 16:15

 ขอเอ่ยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณ  พอเป็นน้ำจิ้มก่อน

ปีนี้เป็นปีอะไรของเขาไม่รู้  มีงานพิเศษของศาลเจ้าฯ  จะมีการทิ้งกระจาดใหญ่ ๒ รอบๆ แรก ต้นสิงหาคมนี้เอง
รอบที่ ๒ ต้นกันยา  ถามคนรู้บอกว่าเพราะปีนี้มีเดือน ๗ สองหน  เป็นอธิกมาสจีน  เดือน ๗ เป็นเดือนผี  จึงต้องจัดพิธีทิ้งกระจาดฟ้า หรือกระจาดใหญ่ ๒ หนตามไปด้วย

แต่ถามผู้รู้บางท่านบอกว่าไม่เกี่ยวกันหรอก  ทางคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อจัดกันเอง  และเทวรูปบางองค์ที่เขานำมาประกอบพิธีทิ้งกระจาดที่มีอยู่เยอะก็จัดเซ่นสังเวยกันผิดเพี้ยนไปบ้าง  ป้ายงานกระจาดบางอย่างที่เป็นภาษาจีนก็เขียนผิดเพี้ยนไปด้วยอีก  ใครรู้เรื่องเหล่านี้  และรู้วัฒนธรรมจีนดี  ลองไปสังเกตดูสักหน่อยครับ

อ่านในศิลปวัฒนธรรมฉบับเดือนสิงหาคมนี้  มีรายละเอียดเกี่ยวกับสารทจีน  และงานทิ้งกระจาดเป็นอย่างดี  เขียนโดย อ.ถาวร สิกขโกศล  แล้วก็คุณเศรษฐพงษ์  จงสงวน  ดีมากเลยครับ

ปกติทุกปีจะมีทิ้งกระจาดใหญ่ก่อน  แล้วทิ้งกระจาดดินตามมาภายหลัง  ก็แค่เพียงอย่างละรอบ

ใกล้งานทิ้งกระจาดสุพรรณกันแล้ว  หาโอกาสแวะชมและกราบไหว้องค์เจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณกันได้นะครับ

......................

แน่ะ แน่ะ แน๊ะ แน๊ะ แน๊ แน๊  พอตอบครบ ๕๓-๕๓ ความคิดเห็นแล้ว  ท่านก็ส่งเจ้าแมว Garfield มาทำความยุ่งเหยิงให้ซะแล้วซี  ไม่เป็นไร  ชอบทั้งนั้นแหละ  แมวน้อยคอยรัก  อิ๊อิ๊อิ๊

ขอบคุณมากครับท่านเวปมาสเตอร์

แล้วเมื่อไรจะส่งภาพหญ่ายหญ่ายสัก 50-60 KB ได้เล่าครับ  ตอนนี้ภาพตี๊ดเดียว  ไม่สมศักดิ์ศรีกับวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่แบบ Three-in-One อย่างนี้เลย  ออดอ้อนซะไม่มี
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 16:41

 ภาพขนาดใหญ่ต้องรอหน่อยครับ คุณNickyNick เพราะไม่ใช่ว่าจะโพสต์กันได้หมดทุกคน
เข้ามาถึงกระทู้นี้ก็วิ่งไปไวยิ่งกว่าติดจรวดซะแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ผมยังไม่ว่างพอจะตามอ่านให้ทัน
(หรือถ้าอยากให้ทัน คุณNickyNick พิมพ์ให้ช้ากว่านี้ได้ก็จะเรียกได้ว่าเป็นการกรุณาแก่ผมเป็นอันมาก)
ยังไง ถ้ามีข้อมูลตรงไหนอยากให้ช่วยค้น (และผมพอจะค้นได้) ก็จะพยายามค้นหามาให้แล้วกันนะครับ



ปล. หลังๆมานี่ไม่ค่อยได้เข้าอินเตอร์เนตเท่าไหร่ ถ้าคุณNickyNick กลัวจะคอยนาน หาทางส่งข้อความมาทางอื่นก็ได้นะครับ
บันทึกการเข้า
กุรุกุลา
พาลี
****
ตอบ: 235


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 18:48

 ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นบ้างครับ

เจ้าพ่อหลักเมืองที่คุณนิกยกมานั้น เป็นพระนารายณ์สวมกิรีฏมกุฏจริง แต่คิดว่าไม่ใช่ศิลปะบายนครับ พระนารายณ์ในศิลปะบายนแทบไม่ปรากฏเลย เพราะสมัยนี้นับถือศาสนาพุทธมหายาน และที่แน่ๆคือไม่ได้สวมหมวกทรง กระบอก และศิลปะบายนก็เป็นศิลปะที่รุ่งเรืองหลังสมัยนครวัดในพุทธศตวรรษที่ 18 ครับ

แต่พระนารายณ์ทั้งสององค์มีลักษณะที่เก่าแก่กว่านั้นมากครับ ก็อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 12-13 อย่างที่คุณนิก บอก คงจะโดนซ่อมเสียหลายทีแต่ก็ยังคงเค้าโครงเดิมอยู่

คิดว่าสมัยนั้นสุพรรณบุรีอยู่เสียทางตะวันตก อาณาจักรเขมรเมื่อพุทธศตวรรษที่ 12-13 เพิ่งจะเริ่มเติบโต ไม่มีทางที่จะส่งอิทธิพลข้ามเขตประเทศไทยมาได้ไกลถึงเพียงนี้ ถ้าพูดถึงอิทธิพล อินเดียใต้แถบเมืองมามัลปุรัมหรือกาญจีปุรัมดูจะเข้าเค้ามากกว่า แต่คนไทยก็ฉลาดมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงให้ดีกว่าของเดิมเสียอีก

ผมไม่แน่ใจว่ารูปทั้งสองของเก่าเป็นภาพสลักนูนสูงหรือไม่ แต่คิดว่าคงจะเป็นการซ่อมภายหลัง การนุ่งผ้าสั้นนั้นเป็นของเก่า แต่การมีชายผ้ายาวด้านหลังไม่เคยปรากฏมาก่อน และเห็นได้ชัดว่าเป็นของพื้นบ้านซ่อม เพราะพระวิษณุจตุรภุชที่ร่วมสมัยกันกับ “เจ้าพ่อหลักเมือง” เหล่านี้ มักเป็นประติมากรรมลอยตัวเสียมากครับ
บันทึกการเข้า
กุรุกุลา
พาลี
****
ตอบ: 235


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 03 ส.ค. 06, 18:51

 คุณนิกโพสเก่งจังเลยครับ ผมอยากโพสได้เก่งๆบ้างจัง เผื่อจะได้เปลี่ยนฮีโร่เร็วๆบ้าง แต่ก็กลัวว่าเขาจะอ่านกันไม่ทันน่ะครับ เลยยับยั้งเอาไว้ก่อน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 19 คำสั่ง