tuka007
พาลี
   
ตอบ: 291
คนจับจอบจับเสียม
|
ความคิดเห็นที่ 75 เมื่อ 27 ส.ค. 06, 21:47
|
|
ขนมไทยที่ตูก้าพูดถึงวันนี้ เชื่อว่าทุกท่านคงต้องเคยกินค่ะ ตูก้าก็กินมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบร้องขอให้คุณแม่ทำให้ทาน
.
 |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จงยิ้มให้โลก...แล้วโลกจะยิ้มให้เรา
|
|
|
ทามะ
อสุรผัด

ตอบ: 23
ทำงาน
|
ความคิดเห็นที่ 76 เมื่อ 13 ก.ย. 06, 11:34
|
|
แม้คุณตูก้านี่เก่งนะคับผมชอบทานมากๆเลยคับขนมหวานไทยๆนี่ผมขอขอบคุณท่านผู้ตั้งกระทู้ขนมหวานนะคับเพราะเดี๋ยวนี้เด็กๆรุ่นใหม่ไม่ค่อยจะนิยมทานเท่าไรคับช่วยกันรักษาความเป็นไทยไว้ให้มากๆนะคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
กุ้งแห้งเยอรมัน
|
ความคิดเห็นที่ 77 เมื่อ 21 ก.ย. 06, 17:52
|
|
ขนมไทยชื่อเพราะหน้าตาสวยงามอย่างหนึ่งที่ดิฉันมาชอบตอนหลังๆก็คือกลีบลำดวน เพราะได้ไปรับประทานฝีมือครอบครัวไทยแถวๆเทเวศร์ อื้อฮือ นุ่ม หวานผสมเค็มได้สัดส่วน ละลายช้าๆในปาก เหมือนช็อกโกแลต อร่อย..หอมนุ่มนวลเพราะอบอย่างดีค่ะ หาเจ้าอร่อยยากมาก ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ ขนมชื่อเพราะ รูปสวย ปั้นยากอีกอย่างก็คือช่อม่วงค่ะ บางเจ้าสวย แต่ไร้รสชาติ มีรูปมาฝากค่ะ แต่ทำไม่เป็น...
 |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tuka007
พาลี
   
ตอบ: 291
คนจับจอบจับเสียม
|
ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อ 21 ก.ย. 06, 20:39
|
|
"เม็ดขนุน" เป็นขนมที่มีไข่เป็นส่วนผสมหลัก โดยเฉพาะไข่แดงของไข่เป็ด มัก จะเป็นขนมที่จะควบคู่ กับฝอยทอง และทองหยิบเสมอ อีกทั้งยังเป็นขนมไทยที่ทำ กันในงานมงคลอีกด้วย ที่เรียกว่าเม็ดขนุน คงเป็นเพราะรูปร่างที่คล้ายเมล็ดในยวง ขนุนนั่นเอง รสชาติหวานหอมของน้ำเชื่อม และความหวานมันที่ได้มาจากถั่วกวน ((แต่บางที่ ตูก้าเห็นเขาใช้เผือกกวนค่ะ ซึ่งตามความเห็นส่วนตัวแล้ว อร่อยสู้ถั่วกวนไม่ได้)) ทำให้กลายเป็นของหวานจานโปรดของหลายต่อ หลายคนไป
ที่ร้านแม่เล็กท่าหินหน้าวัดป้อม ที่เมืองเพชร มีเม็ดขนุนที่มีขนาดเล็กกว่าของที่อื่น ขนาดของเม็ดสม่ำเสมอกัน ไข่แดงที่หุ้มออกสีเหลือง มีกลิ่นหอมชวนกินไม่คาวไข่ รสหวานมัน ผิวของเม็ดเป็นมันด้วยน้ำเชื่อมไม่ขึ้นเกล็ด |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จงยิ้มให้โลก...แล้วโลกจะยิ้มให้เรา
|
|
|
tuka007
พาลี
   
ตอบ: 291
คนจับจอบจับเสียม
|
ความคิดเห็นที่ 79 เมื่อ 21 ก.ย. 06, 20:43
|
|
 ขนมอีกอย่างที่ไม่ค่อยเห็นจังหวัดอื่นทำกันมากนัก ที่เมืองเพชรเรียกข้าวเหนียวตัดหน้าสังขยาถั่วดำค่ะ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จงยิ้มให้โลก...แล้วโลกจะยิ้มให้เรา
|
|
|
OBORO
ชมพูพาน
  
ตอบ: 158
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เมเจอร์ฟิสิกส์
|
ความคิดเห็นที่ 80 เมื่อ 22 ก.ย. 06, 21:39
|
|
อยากทราบประวัติความเป็นมาของขนมมงคลต่างๆ พวก ทองเอก จ่ามงกุฎ ครับบอกส่วนประกอบกับวิธีทำนิดๆหน่อยก็ได้ครับ อยากทานมากๆแต่ไม่เคยหาซื้อทานได้เลย หายากมากๆครับ ถ้าจะกรุณาขอช่วยนำรูปมาลงให้ได้ไหมครับ อยากกินมากๆ กิเลสครอบงำแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tuka007
พาลี
   
ตอบ: 291
คนจับจอบจับเสียม
|
ความคิดเห็นที่ 81 เมื่อ 23 ก.ย. 06, 10:55
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จงยิ้มให้โลก...แล้วโลกจะยิ้มให้เรา
|
|
|
OBORO
ชมพูพาน
  
ตอบ: 158
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เมเจอร์ฟิสิกส์
|
ความคิดเห็นที่ 82 เมื่อ 23 ก.ย. 06, 13:26
|
|
ขอบคุณครับคุณ tuka สำหรับลิงค์ที่มีประโยชน์ ลำพังตัวผมเองถ้าจะให้ทำแค่กล้วยบวชชียังไม่เคยทำเลยครับ อิอิ อันนี้ก็ไม่คิดหวังเลยว่าจะทำได้ แต่ว่าจะลองจดสูตรไปให้คนที่บ้านลองทำดูครับ ลองดูสักตั้ง เพราะหาทานยังงัยก็หาคนมาขายอยู่แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tuka007
พาลี
   
ตอบ: 291
คนจับจอบจับเสียม
|
ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อ 23 ก.ย. 06, 15:22
|
|
ยังดีนะคะ ตอนสมัยเป็นเด็กอยากกินกล้วยบวชชีมากเลย พี่ชายของตูก้า อยากเอาใจน้องสาวเลยตั้งใจทำกล้วยบวชชีให้กิน แต่ด้วยความเป็นเด็ก แทนที่จะใส่เกลือเพื่อเพิ่มความเค็ม คุณใหญ่พี่ชายกลับใส่น้ำปลาแทน กล้วยบวชชีวันนั้นเลยรสชาดแปลกๆมีกลิ่นคาวๆด้วยค่ะ ..อิอิ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จงยิ้มให้โลก...แล้วโลกจะยิ้มให้เรา
|
|
|
OBORO
ชมพูพาน
  
ตอบ: 158
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เมเจอร์ฟิสิกส์
|
ความคิดเห็นที่ 84 เมื่อ 23 ก.ย. 06, 18:07
|
|
กล้วยบวชชีสูตรใหม่งัยครับ ไม่เหมือนใครดี ฮุๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Package
มัจฉานุ
 
ตอบ: 55
|
ความคิดเห็นที่ 85 เมื่อ 04 ต.ค. 06, 16:16
|
|
อร่อยครับ ... ชอบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tuka007
พาลี
   
ตอบ: 291
คนจับจอบจับเสียม
|
ความคิดเห็นที่ 86 เมื่อ 04 ต.ค. 06, 21:45
|
|
อ่ะ...คุณPackage ชอบกล้วยบวชชีใส่น้ำปลาเหรอคะ ....อิอิ.. วันพระที่ผ่านมาได้ลาของไหว้ที่ห้องพระลงมา..วันนี้คุณพี่สาวเลยทำกล้วยบวชชีพอดีค่ะ...เดี๋ยว ตูก้า จะทานเผื่อเพื่อนๆทุกคนนะคะ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จงยิ้มให้โลก...แล้วโลกจะยิ้มให้เรา
|
|
|
Malagao
มัจฉานุ
 
ตอบ: 85
|
ความคิดเห็นที่ 87 เมื่อ 09 ต.ค. 06, 21:12
|
|
ขนมไทย 9 มงคล…ทั้งอร่อยและความหมายดี
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 กรกฎาคม 2548 16:56 น.
ขนมไทยของเรานั้น นอกจากจะหอมหวาน กินได้อร่อยแล้ว ก็ยังมีความหมายที่เป็นมงคลอีกด้วย วันนี้ “108 เคล็ดกิน” จึงได้นำเอาขนมไทยที่มีชื่อเป็นมงคล 9 อย่าง และความหมายดีๆ ของแต่ละอย่างมาเล่าสู่กันฟัง เริ่มจากขนมไทยที่คุ้นเคยกันดีอย่าง ทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทอง ซึ่งคำว่าทองในชื่อก็เป็นความหมายว่าให้มีทองไหลมาเทมาเหมือนชื่อ โดยเฉพาะฝอยทองที่มักจะใช้ในงานมงคลสมรสนั้น มีเคล็ดว่าห้ามตัด แต่ต้องปล่อยให้เป็นเส้นยาวๆ เพื่อที่ชีวิตสมรสจะได้ยืนยาวต่อไป ส่วนเม็ดขนุน ก็มีชื่อเป็นสิริมงคลที่หมายความว่าจะช่วยให้มีคนสนับสนุน หนุนหลังให้กิจการงานต่างๆ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และขนมชั้นก็เหมาะสำหรับคำอวยพรที่ว่า ขอให้ได้เลื่อนขั้นเลื่อนชั้น เลื่อนตำแหน่ง และถ้าจะให้ดี ขนมชั้นนี้ก็ต้องมี 9 ชั้น จะได้ก้าวหน้า เลื่อนขั้นเร็วๆ ขนมทองเอก นอกจากชื่อจะเป็นทองแล้ว ก็ยังมีทองคำเปลวติดอยู่บนขนมด้วย ซึ่งคำว่าเอกนั้นแปลว่าที่หนึ่ง การให้ขนมทองเอกนั้นก็เหมือนว่าอวยพรให้เป็นที่หนึ่ง และขนมจ่ามงกุฎ ซึ่งหมายถึงการมีเกียรติสูงสุด เป็นเจ้าคนนายคน ขนมทั้งสองอย่างนี้ก็จะใช้เป็นการแสดงความยินดีที่ได้เลื่อนตำแหน่ง และขนมสองอย่างสุดท้ายก็คือ ขนมถ้วยฟู ซึ่งหมายถึงการอวยพรให้มีความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู และขนมเสน่ห์จันทน์ ซึ่งใช้ผลจันทน์ จากต้นจันทน์มาเป็นส่วนผสมให้มีกลิ่นหอม และเชื่อว่าจะทำให้มีเสน่ห์ มีคนรักใคร่ มักจะใช้ในงานมงคลสมรส ทั้งอร่อยทั้งมีความหมายดีๆ แบบนี้ จะเอาไว้กินเองหรือมอบให้เป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jumo
มัจฉานุ
 
ตอบ: 55
สวัสดีทุกท่านคร้าบ
|
ความคิดเห็นที่ 88 เมื่อ 08 เม.ย. 07, 09:14
|
|
 เหมือนขนมเยลลี่ สีแดงใส่ใส้มะพร้าวจังเลยนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
jumo__
|
|
|
กอประกาญจน์
อสุรผัด

ตอบ: 15
|
ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อ 12 เม.ย. 07, 09:12
|
|
เพิ่งได้ย้อนไปอ่านที่คุณตูก้าเล่าเรื่องขนมโคค่ะ ที่สงขลาก็มีขนมโคค่ะแต่ไม่เหมือนของเมืองเพชรแบบที่คุณตูก้าเล่า ของสงขลาคล้ายขนมต้มขาวแต่ไส้ทำมาจากน้ำตาลแว่นค่ะ น้ำตาลแว่นคือน้ำตาลโตนดที่หยอดลงในกรอบกลมๆ (น่าจะทำจากตอกมังคะ เป็นเส้นแข็งๆ หน่อยค่ะ) สมัยก่อนชิ้นหนึ่งเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว แต่ปัจจุบันมีแว่นเล็กๆ ด้วยค่ะ
วิธีทำแป้งขนมโคสงขลาดูจะใกล้เคียงกับแป้งขนมโคเมืองเพชรค่ะ ตอนทำก็เอาแป้งมาปั้นเป็นลูกกลมขนาดพอคำโดยหั่นน้ำตาลแว่นเป็นชิ้นประมาณ 1 เซนติเมตรใส่เป็นไส้ แล้วเอาแป้งที่ยัดไส้แล้วไปต้มค่ะ แป้งลอยเมื่อไรเป็นอันว่าขนมสุก ตักขึ้นมาคลุกมะพร้าวขูดฝอยแล้วทานได้เลย ถ้าทานตอนยังร้อนๆ พอกัดเข้าไปไส้จะละลาย รสน้ำตาลแว่นหวานอ่อนๆ ออกมาคลุกเคล้ากับแป้งอร่อยมากค่ะ ทุกวันนี้ที่สงขลายังมีขายอยู่ค่ะ ส่วนที่กรุงเทพฯ ถ้าโอกาสดีๆ มีแม่ค้าทำขายแถวแฟลตคลองจั่นด้วยค่ะ
มีขนมอีกอย่างที่คล้ายๆ กันคือขนมหัวล้าน ถ้าดิฉันจำไม่ผิด ไส้ขนมหัวล้านคือกระฉีก ลูกขนมหัวล้านจะใหญ่กว่าขนมโคพอประมาณและทานกับกะทิ ไม่ได้เอาไปคลุกมะพร้าวแบบขนมโค ขนมหัวล้านนี่ดิฉันไม่ได้ทานมายี่สิบกว่าปีแล้วค่ะ น่าจะยังมีอยู่แต่ดิฉันไม่มีโอกาสทานเองมากกว่า
ขนมทางใต้อีกชนิดที่คนใต้บางคนยังไม่รู้จักเลยคือขนมดู ทำจากแป้งข้าวเหนียวเอามาปั้นกับน้ำตาลเป็นก้อนเล็กๆ นิ่มๆ จะว่าไปก็รสคล้ายข้าวตูของภาคกลางอยู่ค่ะ แต่ขนมดูจะนิ่มและแห้งกว่าข้าวตูมาก อีกทั้งยังไปคลุกแป้งมาจนออกขาวๆ ด้วย อร่อยดีค่ะ ไม่นานมานี้เพื่อนซื้อมาฝากจากสงขลาลองเอามาให้เพื่อนร่วมงานชิมก็ชอบกัน
ขอเล่าถึงขนมอีกชนิดที่เด็กใต้ชอบทานกันมากคือขนมขี้มอด ทำจากแป้งข้าวเจ้าและมะพร้าวคั่วบดละเอียดผสมเกลือกับน้ำตาล โดยมากจะใส่ถุงหรือซองกระดาษยาวๆ ค่ะ วิธีกินยอดนิยมคือเทจากถุงใส่ปากเลย ถ้าใครเทใส่จานแล้วตักกินถือว่าเชยสุดๆ ค่ะ ขี้มอดที่อำเภอเมืองสงขลาหาได้ตามร้านขายของที่ระลึกค่ะ หวานเค็มมันกินเพลินดีนักแล ขนมขี้มอดนี้ดิฉันคิดว่าภาคกลางก็น่าจะมีแต่เพื่อนที่ทำงานบอกว่าไม่เคยเห็นค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|