ใบงานเขียนว่า "อมิตตพุทธ" ผิดอย่างแรงเลยนะครับ
อ + มิตฺต แปลว่า ไม่เป็นมิตร หรือ ศัตรู
ดังนั้น อมิตตพุทธ จึงแปลว่า พระพุทธเจ้าผู้ไม่เป็นมิตร ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่งครับ ที่เขียนแบบนี้
ตามคำสันสกฤตที่ถูกต้อง ก็ตามที่คุณนิรันดร์กล่าวไว้ครับคือ
"อมิตาภพุทธ" ซึ่งไม่ค่อยคุ้นหูคนไทย เพราะหูคนไทยรับมาจากหนังจีน ซึ่งภาษาจีน ถอดคำ "เพี้ยน" ตามสำเนียงจีน พอมาถึงภาษาไทยก็มาเพี้ยนอีกต่อเป็น "อมิตตาพุทธ" ซึ่งไม่มีความหมายครับ เพราะเป็นคำไทย ที่เพี้ยนมาจากคำจีนอีกต่อหนึ่ง และเท่าที่ทราบ คำว่า "อมิตฺตา" ไม่มีความหมายครับ (หรือจะพยายาม ก็อาจแปลว่า ศัตรูจำนวนมาก

)
ถ้าจะแปลจากคำสำเนียงจีนให้ตรงจริงๆ ต้อง "อมิตาภะ พุทธเจ้า" ซึ่งอาจแปลได้ว่า "พระพุทธเจ้า ผู้ทรงรัศมีส่องไปอย่างไร้ขอบเขต" (อาจมีนัยหมายถึง พระธรรม ของพระพุทธองค์)
ตามความเข้าใจของผม การกล่าวคำว่า "อมิตตาพุทธ" ของพระในหนังจีน ก็อาจตรงกับคำไทยว่า "เจริญพร" ของพระบ้านเราครับ คือเป็นคำ ตอบรับ แต่ก็แฝงความหมายที่ให้พรฆารวาสที่สนทนาด้วยครับ (อาจไม่ใช่ก็ได้นะครับ คงต้องรอท่านที่นับถือมหายานมาชี้แจง)
เพิ่มเกร็ดเล็กๆ ให้ครับ ตามคติมหายานสกุลวัชรยาน ซึ่งรุ่งเรืองอยู่แถบอินเดียเหนือ (นาลันทา) ก็ได้แพร่ไปยังเนปาล ภูฏาน ทิเบต แล้วก็ต่อไปยังจีน เกาหลี และ ญี่ปุ่น ส่วนสายใต้ตั้งมีศูนย์กลางที่ศรีวิชัย มีเกาะสุมาตรา ชวา และแหลมทอง รวมไปถึงอาณาจักรกัมพูชาในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ด้วยเช่นกัน ศูนย์กลางใหญ่อยู่ที่โบโรพุทโธ ครับ ที่นี่แหละครับ สร้างตามคติมหายานสกุลนี้เป๊ะๆ
จากความเห็นที่ 6 โดยคุณโพธิ์ประทับช้าง นอกจากจะมี ๔ องค์นั้นแล้ว ยังมีธยานิพุทธเจ้าประจำทิศเบื้องบนอีก ๑ พระองค์ครับ คือ "ไวโรจนพุทธเจ้า"
คติรุ่นต่อๆ มาได้พัฒนาให้มีพุทธเจ้าสูงสุดเหนือกว่าทั้ง ๕ องค์นี้อีก ทรงพระนามว่า "อาทิตพุทธเจ้า" ซึ่งถือกันว่าเป็น "ปฐมพุทธเจ้า หรือ ความจริงอันสูงสุด" เทียบได้กับ "พรหม" ในคติของศาสนาพราหมณ์โบราณ หรือ พระศยัมภู ของลัทธิไศวนิกาย หรือ เฆโอส ของเทพปกรณัมกรีกโบราณ ซึ่งธยานิพุทธ อีก ๕ พระองค์ ก็ทรงกำเนิดมาจากพระองค์นี่แหละครับ
แล้วทำไม มีถึง ๕ แต่กลับนับถือแต่ อมิตาภพุทธเจ้า ?
ทั้งนี้ก็เพราะว่า ตามคติอินเดียโบราณ จักรวาลจะมีช่วงเวลา ซึ่งเรียกว่า กัลป์ (บาลี : กัปป์) ซึ่ง กัลป์ ปัจจุบันเรียกว่า "ภัทรกัลป์" และอมิตาภพุทธเจ้า ก็ทรงเป็นพระพุทธเจ้าประจำกัลป์ นี้ครับ
พระองค์ทรงแบ่งพลัง ออกมาเป็น ๓ รูปแบบคือ
พลังฝ่ายชาย กำเนิดเป็น พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
พลังฝ่ายหญิง กำเนิดเป็น นางปรัชญาปารมิตรา
พลังฝ่ายมนุษย์ กำเนิดเป็น พระศรีศากยมุนี (พระโคดม) หรือ พระพุทธเจ้า ของฝ่ายเถรวาท ครับ
ดังนั้น พระรัตนไตรของมหายาน สกุลนี้ จึงไม่ใช่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครับ แต่เป็น
๑. มนุษยพุทธ (เทียบ พระพุทธ)
๒. พระโพธิสัตว์ (เทียบ พระสงฆ์)
๓. นางปรัชญา (เทียบ พระธรรม)
ได้ยินมาว่า "โอเย โปโลเย" เป็นภาษาทิเบต ตรงกับคำว่า ปรัชญา ปารมิตรา หรือ ปัญญา บารมี ครับ
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมตั้งชื่อหนังผีว่า "โอเย โปโลเย"

จริงน่าจะตั้งว่า "ผี รัก หักสวาท" หรือ ภาษาสมัยนี้ก็น่าจะได้ว่า "รักวุ่นๆ แอบกิ๊กผี" มากกว่า อิอิ
ภาษาอังกฤษเห็นใช้ว่า A Chinese Ghost Story ตั้งชื่อได้ทื่อมาก ไม่ชวนดูเลย (แต่หนังฝรั่งก็ตั้งชื่อสไตล์นี้อยู่แล้ว อิอิ)
ภาษาจีนเห็นเขียนว่า "Sinnui Yauwan" ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า แปลว่าอะไร เข้าใจว่าเป็นสำเนียงกวางตุ้ง ยังไงถ้าคุณ CrazyHOrse ผ่านมา ก็ช่วยแปลหน่อยนะครับ