เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 5726 กลับจากขี่ม้าชมดอกไม้ที่ปักกิ่ง
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 03 ธ.ค. 00, 00:00

แม่นางกลับมาแล้วค่ะ    แวบไปหายใจในอุณหภูมิ ๒ องศาโดยเฉลี่ย กลับมาเจอ ๓๑ องศาเหมือนเดิม ยังตั้งตัวไม่ติด
ได้หนังสือหนาๆมา ๔-๕ เล่มพอจะเอาภาพและประวัติมาฝากกันได้บ้าง  
(เสียดายค่ะ ภาพใหญ่ ใส่ในกระทู้ไม่ได้ คงต้องเอาไปไว้ในบทความ  ขนาดย่อลงมา ๕๐% แล้วก็ยังไม่ได้)

กำลังจัดมุมจีนบนเรือนไทย  ล้างชุดน้ำชาจีนกังไส  เพื่อจะชงชาบัวหิมะ คุยกัน   แต่คงเล่าความประทับใจแบบขี่ม้าชมดอกไม้ในสวน (คือเห็นผ่านๆ ) มีแต่สิ่งละอันพันละน้อยมาเล่า  
คนที่เคยอยู่มาแล้วอย่างคุณนกข.ช่วยเล่า เติม เสริม ต่อ ด้วยนะคะ
อ้อ  เกือบลืม  ท่านปู่ที่เทียนอันเหมินฝากตอบคุณชายหลานด้วยว่า….ความเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นนิรันดร์    ดูแต่ปักกิ่งเถอะ    ตอนนี้ต่างจากสมัยท่านปู่อยู่จนแทบจำไม่ได้    ใจคนก้อ…เหมือนกันแหละค่ะ
บันทึกการเข้า
ด.เด็ก
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 25 พ.ย. 00, 12:51

ผมอยากแนะนำให้ใช้Adobe Photoshop5.5แต่จนใจที่คุณเทาชมพูไม่มี เพราะจะลดขนาดภาพได้หรือลดขาดไบต์สำหรับใช้ในเว็บได้  ใครส่งให้คุณเทาชมพูได้ สงเคระห์ทีครับ จะได้มีภาพสวยๆมาดูกัน
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 25 พ.ย. 00, 13:02

เย้ๆๆๆ  ยินดีต้อนรับกลับเรือนค่ะ  คิดถึงจังค่ะ  แล้วก็อยากฟังเรื่องจีนๆมากๆๆๆเลยค่ะ

คุณเทาชมพูคะ  ถ้าย่อไม่ได้  ก็ส่งไปให้ทีมวิชาการเค้าทำให้ก็ได้นะคะ  คุณจ้อ หรือ คุณเปี้ยว คงทำให้ได้ไม่มีปัญหาเลยค่ะ  
ดิฉันเอาอะนิเมชั่นให้ช่วยทำให้  คุณบอกอใส่ภาษาไทยให้ด้วยเฉยเลยค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 25 พ.ย. 00, 14:09

ตกลงค่ะ คิดว่าจะส่ง file รูปทางอีเมล์ไปให้ทีมงานแล้วใส่ลงเป็นบทความ  เขียนคำบรรยายประกอบ
จะได้เห็นภาพใหญ่ๆไงคะ  สีสวยมีรายละเอียดเยอะดี
แล้วเรามาคุยเสริมกันในกระทู้อีกที
เล่าเรื่องแรกก่อนนะคะ
ไปเที่ยวเดือนพฤศจิกายน   ปีนี้หนาวเร็วค่ะ  วันที่เดินทางไป อุณหภูมิ ๒ องศาโดยเฉลี่ย หายใจออกมาเป็นควันไปตลอดทาง   บ่ายสูงสุดแค่ ๔ องศา C. พอค่ำลง(ประมาณ๔โมงครึ่งเป็นต้นไปก็หล่นลงเหลือศูนย์   ถ้าเรายังเอ้อระเหยชมวิวอยู่นอกชายคา  ก็จะเจอ -๑ หรือ -๒ ได้สบายมาก  ยิ่งวันไหนมีลมด้วยละก้อ....ลมจากไซบีเรียนะคะคิดดู
มองในแง่ดี  ทำให้เดินได้ไม่เหนื่อย  ไม่ร้อนเหงื่อแตกค่ะ  ยิ่งเดินยิ่งอุ่น     ถ้าอุณหภูมิเท่าฤดูร้อน (เมืองจีนร้อนถึง๔๕ องศา)  เดินไม่ทันรอบเทียนอันเหมิน   ดิฉันก็คงกองอยู่แถวๆนั้น  ไม่ได้กลับเรือนไทย
ดิฉันใส่เสื้อไหมพรมกับสักหลาด ๔ ชั้นรวมโอเวอร์โค้ต   กางเกงอีก ๒ ชั้น  ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเหมือน snowman มากเท่านี้มาก่อน   หกล้มเมื่อไรก็เด้งขึ้นลงได้เลยค่ะไม่เจ็บ
ถึงกำหนดเดินทางกลับ  แวะเข้าห้องน้ำที่สนามบินปักกิ่ง  ลอกตัวเองออกมาทีละชั้นเหมือนดักแด้  ยัดเสื้อผ้าชั้นที่สองสามสี่ลงกระเป๋า overnight bag  ได้๑ ใบค่ะ กระเป๋าพองเหมือนอึ่งอ่าง ซิบแทบแตก
(ยังมีต่อ)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 25 พ.ย. 00, 14:10

แล้วจะมาเล่าเรื่องพระราชวังต้องห้ามให้ฟังนะคะ ขอเวลาไปรวบรวมข้อมูลก่อน
แต่ที่ชอบที่สุดคือพระราชวังฤดูร้อนของซูสีไทเฮาค่ะ
บันทึกการเข้า
WSC
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 25 พ.ย. 00, 17:58

ดีใจจังเล้ยยย เย้ๆๆๆๆๆๆ คุณเทากลับมาแล้ว
เรือนน้อยหลังนี้ จะได้ไม่เงียบเหงาาาาา  ไม่กล้า คุญเลยค่ะ เจ้าของบ้านไม่อยู่   ต้องบอก
ว่ายินดีต้อนรับกลับเรือนไทย ค่ะ
บันทึกการเข้า
คนเคยชอบฟิสิกส์
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 25 พ.ย. 00, 18:31

เย้ๆๆๆๆ ด้วย @^_________^@
รอแล้วรออีก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 25 พ.ย. 00, 21:35

ขอบคุณค่ะ
แวะมาเล่าต่อนะคะ
ก่อนไปปักกิ่ง  วาดภาพไว้ว่าบรรยากาศผู้คนที่นั่นคงขรึมกว่าเมืองอื่น   แต่พอไปถึง ก็รู้สึกว่าเป็นเมืองใหญ่ที่ก้าวทันโลกดีๆนี่เอง  ผู้คนไม่ได้เครียด (อย่างน้อยที่เห็นก็ไม่เครียด) สีสันเสื้อผ้าก็เห็นสีสดใสปะปนอยู่  แบบใครจะแต่งสีอะไรก็ได้  แต่ส่วนใหญ่ท่าทางเป็นคนทำงาน ไม่ใช่คนชอบแต่งตัว พอดีไปตอนหนาวด้วยเลยเห็นแต่แจ็กเก็ตกันหนาว
ส่วนพวกพนักงานห้าง แต่งหน้าทาปาก  รูปร่างดี  สาวพนักงานเสิฟในบาร์ชั้นดี แต่งตัวแต่งหน้าเปรี้ยวเอาการ เหมือนสาวญี่ปุ่น
ถนนหนทางในส่วนใหม่ของเมือง ขยายกว้างมาก  มีการวางถนนเอาไว้ดี   ไฮเวย์กว้าง   ดูออกว่าเขาพัฒนาเร็ว   พูดถึงความสะอาด ก็ไม่เห็นมีขยะตามริมถนน   เทศบาลทำงานเรื่องนี้ได้ดี  แต่ยังมีรอยบ้วนน้ำลายบ้างถ้าเราไปเดินตามทางเท้าหรือถนนสายเล็กๆ

สิ่งที่หาเกือบไม่ได้ในปักกิ่งคือ
๑) สุนัข (ทั้งจรจัดและมีเจ้าของ)    เห็นอยู่ตัวเดียวเจ้าของอุ้มอยู่
๒)  มอเตอร์ไซค์  รัฐบาลจีนไม่สนับสนุนให้ใช้ค่ะ  ให้ใช้จักรยานแทน   ค่าทะเบียนแพงมหาศาล
๓)  ผู้หญิงท้อง   เพราะเขามีนโยบายให้มีลูกคนเดียว
เด็กรุ่นใหม่ของจีนตัวโต  สูงใหญ่  พ่อแม่คงทะนุบำรุงเต็มที่  ท่าทางร่าเริงเป็นเด็กยุคใหม่
ถนนที่มีห้างสรรพสินค้าหรูๆก็มีค่ะ   ฟาสต์ฟู้ดของอเมริกันก็มีให้เห็น  ถ้าไปย่านใจกลางเมืองดูๆไปก็คล้ายๆเมืองใหญ่ๆของญี่ปุ่น   มีโรงแรมใหญ่ๆกว่าของกรุงเทพ  บริษัทจากต่างชาติก็เยอะ  คอนโดสูงๆก็มาก
ถ้าจะไปดูด้านเก่าของเมืองก็คือพระราชวังต่างๆ และวัด    แต่ละแห่งกว้างมีเขตเป็นสัดส่วน ไม่มีตึกแถวล้อมรอบอย่างของเรา
ส่วนที่คนไทยได้รับคำเตือนมามากคือเรื่องห้องน้ำห้องส้วม   ไปคราวนี้คลาดแคล้วไม่เจอนิยายขวัญหนีอย่างที่เคยได้ยินมา  ประเภทห้องน้ำไม่มีประตู หรือเข้าไปแล้วเจออะไรต่อมิอะไรในนั้นที่ทำให้กินอาหารไม่ลง
ภัตตาคารใหญ่ๆเขาจะทำห้องน้ำค่อนข้างดี  แบ่งเป็นแบบชักโครก เรียกว่า western และแบบส้วมซึมแต่ไม่ยกสูงขึ้นมาอย่างไทย  เป็นส้วมติดพื้นแบบญี่ปุ่น เรื่องน้ำมีเหลือเฟือ  ไม่เจอห้องไหนที่ไม่มีน้ำ
แต่ฟังจากนักศึกษาไทยที่ไปเรียนต่อทางภาษาจีน  ก็รู้สึกว่าที่อยู่อาศัยยังคับแคบอยู่บ้างค่ะ  หอพักก็คล้ายจุฬาคือมีห้องน้ำรวม  ไม่มีส่วนตัว นักศึกษาอยู่กันอย่างน้อย ๒ คนต่อห้อง  บางห้องก็อยู่กันถึง ๖ คน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 25 พ.ย. 00, 21:48

คุณนิรันดร์ถามถึงสิงโต  ว่าดูได้ยังไงว่าตัวไหนตัวผู้ ตัวไหนตัวเมีย
อยากรู้เหมือนกันค่ะเลยเข้าไปดูใกล้ๆ  สิงโตตัวผู้จะเล่นลูกบอล(ไม่รู้ว่าจริงๆหมายถึงลูกหิน ลูกแก้ว หรือลูกโลหะอะไร)  ส่วนตัวเมียเล่นกับลูกค่ะ  มีลูกสิงโตตัวเล็กๆนอนแอ้งแม้งหงายท้องให้แม่ใช้อุ้งตีนตะปบเล่นกันอยู่  น่ารักมาก  ส่วนหน้าตาก็เหมือนกันทั้งพ่อทั้งแม่
บันทึกการเข้า
โบว์สีชมพู
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 25 พ.ย. 00, 23:52

ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณเทาชมพู อาหารจีนที่ปักกิ่งอร่อยไหมคะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 26 พ.ย. 00, 09:11

อาหารจีนที่ปักกิ่งมีหลายแบบค่ะ   ไปกินแบบกวางตุ้งรสไปได้กับลิ้นคนไทย  
ความที่นักท่องเที่ยวไทยมีมาก ภัตตาคารหลายแห่งถึงรู้จักทำอาหารเผ็ดๆ ให้ลูกค้าไทย  ไม่เผ็ดขนาดผัดเผ็ดนะคะ มีเผ็ดนิดๆ พอทานได้  บางแห่งเอาน้ำพริกมาวางให้แบบเอาใจ
ส่วนใหญ่ใส่น้ำมัน เยอะมากกกกก
ผักเขาสด  ต้นใหญ่ หวานกรอบ
ดิฉันเป็นคนทานอาหารจืดๆได้อยู่แล้วก็เลยไม่มีปัญหาอะไร  แต่คนที่ชอบแกงเผ็ด ต้มยำ ผัดเผ็ด  อาจจะได้ลดน้ำหนักเอาง่ายๆค่ะ  ควรพกพริกป่นหรือน้ำพริกไปจากไทยด้วย
บันทึกการเข้า
นกข.
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 26 พ.ย. 00, 19:26

ยินดีต้อนรับกลับเรือนครับ
ปักกิ่งคงเปลี่ยนไปมากจากที่ผมรู้จัก อย่างไรก็ตามก็น่าจะยังมีเสน่ห์ของปักกิ่งอยู่
ขอบคุณที่ไปทักทายปู่เหมาให้ผมครับ รูปปู่เหมาบนยอดพลับพลาเทียนอันเหมินคงจะยังอยู่ทนท้าทายการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไปได้อีกนาน (รวมทั้งการเปลี่ยนใจของคนด้วย...) เพราะตรงนี้เป็น landmark กลางเมือง แต่รูปเขียนรูปปั้นปู่เหมารูปอื่นๆ ที่แต่ก่อนนี้มีเต็มเมืองจีนไปหมด กำลังค่อยๆ กลายเป็นเหยื่อของการเปลี่ยนแปลงตามอนุเสาวรีย์ปู่เลนิน ในรัสเซีย ไปบ้างแล้วครับ เป็นมาตั้งแต่สมัยผมอยู่แล้ว
สมัยผมอยู่ ปักกิ่งเปลี่ยนกันให้เห็นชัดๆ ต่อหน้าต่อตาเลยทีเดียว ตอนนั้นคำว่าปฏิรูปเปิดประเทศตามแนวคิดเติ้งเสี่ยวผิงกำลังมาแรง สาวจีนเริ่มแต่งตัวทันสมัยมาตั้งแต่ก่อนผมไปอยู่แล้ว และปีสุดท้ายที่ผมอยู่รัฐบาลจีนและเทศบาลนครปักกิ่งเริ่มพิจารณาปัญหาเรื่องห้องน้ำสาธารณะอย่างจริงจัง เขาถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบเกียรติภูมิของชาติและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วย นักท่องเที่ยวรุ่นหลังๆ เลยโชคดีกว่ารุ่นโน้น
เรื่องสิงโต มีคนเคยให้สูตรไว้ว่า สิงโตหินก็เหมือนคนนั่นแหละ ผู้หญิงก็เลี้ยงลูกไป ผู้ชายก็หนีไปเล่นบอล...
แต่บอลที่สิงโตหินตัวผู้เล่นนั้นไม่ใช่บอลธรรมดา ก่อนอื่น สิงโตหินก็ไม่ใช่สัตว์ธรรมดาอยู่แล้ว คือไม่ใช่ไลอ้อน แต่เป็นสัตว์ในนิยายทำนองราชสีห์ของไทยและแขก เป็นสัตว์วิเศษ ลูกบอลที่สิงโตจีนเล่นนั้น ก็เป็นบอลวิเศษอีกเหมือนกัน ถ้าเป็นในการเต้นเชิดสิงโต คงจะเรียกได้ว่า สิงโตล่อแก้ว คือลูกกลมๆ นั้นถือว่าเป็นแก้ววิเศษอย่างหนึ่ง เหมือนที่มีมังกรล่อแก้ว คนจีนบางคนอธิบายว่า ลูกกลมๆ นั้นเป็นเครื่องหมายแสดงอำนาจราชศักดิ์ ความยิ่งใหญ่ (แปลกมากที่ไปตรงกับ orb ลูกโลกกลมๆ ในคทาประจำหัตถ์กษัตริย์ฝรั่ง ซึ่งสุนทรภุ่ท่านแต่งให้นางละเวงก็มีถือ แต่ท่านเรียกเสียว่า ดวงตราพระราหู)
 แต่จะกลายมาเป็นสิงโตเหยียบลูกโลกเครื่องหมายการค้ามะม่วงเค็มสมัยผมเป็นเด็กและต่อมาเป็นเครื่องหมายการค้าของเฮโรอีนไยงไงตั้งแต่ครั้งไหนนั้น ผมไม่ทราบครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 26 พ.ย. 00, 20:08

คุณนกข.เอ่ยถึงท่านปู่ เลยเก็บความเปลี่ยนแปลงมาเล่าให้ฟังอีกเรื่อง (ไว้ปลอบใจในความธรรมดาโลก)
ได้ยินจากคนที่พาดิฉันไปเทียนอันเหมิน  เล่าว่าตอนนี้จีนกำลังยกย่องโจโฉ ว่าเป็นคนกล้าคนดี  เพราะเป็นผู้พยายามรวบรวมจีนที่แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  ส่วนเล่าปี่นั้น  ไม่น่าชื่นชมเท่าไร
เนื่องจากตอนนี้จีนเองก็อยากให้ประเทศเป็นอันหนึ่งอันเดียว  ไม่แบ่งเป็นแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ธิเบต และอะไรอีกแห่งซึ่งกำลังอยากจะแยกตัวออกไป
ดิฉันถามถึงวีรบุรุษที่ท่านปู่เคยนิยมชมชอบ  คือพระเอกเรื่อง"สุ่ยหู"  เป็นเรื่องของซ่งเจียงหัวหน้ากบฎที่ขึ้นไปอยู่บนเขาเหลียงซาน  ไทยเอามาแปลให้ชื่อว่า "ซ้องกั๋ง "  ฉบับภาษาอังกฤษชื่อ All Men are Brothers หรือ  "The Water Margin" (ทำไมชื่อมันต่างกันขนาดนี้ก็ไม่ทราบ)
คำตอบคือ... ไม่แล้ว   จีนยกย่องโจโฉมากกว่า

เพลงกังหันต้องลม ไม่เคยล้าสมัยค่ะ  

แถมท้าย   ไปคราวนี้เห็นกิเลนด้วยนะคะ ชอบมาก หน้าตาแปลกดี  
อีกตัวที่ชอบคือหงส์ค่ะ   เห็นรูปโลหะตอนมันยืนอยู่ในวัง   หางยาวเฟื้อย เหมือนนกยูงหุบหาง
บันทึกการเข้า
นกข.
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 26 พ.ย. 00, 20:32

อีกแคว้นที่กำลังมีเรื่องจะแยกตัวออกไปจากจีน คงจะเป็นซินเจียงมั้งครับ อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือแถวทะเลทรายโกบี ประชากรไม่ใช่เผ่าฮั่นเหมือนคนจีนทั่วไป แต่เป็นชนกลุ่มน้อยมุสลิมเผ่าอุยกูร์ หรือที่จีนออกเสียงว่า เผ่าเวอูเอ๋อร์
เรื่องโจโฉเป็นคนดี เล่าปี่เป็นผู้ร้ายนี้ นักคิดนักเขียนไทยคิดมาก่อนจีนหรือเปล่าครับ ตั้งแต่เรี่องโจโฉนายกตลอดกาลของ อ.คึกฤทธิ์ จนถึงคุณ เล่า ชวน หัว ที่เขียนเรื่องสามก๊กวิเคราะห์อยู่ไม่กี่ปีมานี้
เรื่องซ้องกั๋ง ชื่อจีนกลางว่า สุ่ยหู คงแปลได้ว่าริมฝั่งน้ำครับ เห็นอีกชื่อหนึ่งภาษาอังกฤษว่า Heroes of the Marsh และเห็นคนไทยบางคนรู้จักในชื่อว่า (108) ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน (เขาเนี่ยซัว) ขบวนการวีรชนเขาเหลียงซานนี้เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของขบวนการปฏิบัติลุกขึ้นสู้ต่างๆ ของจีนรวมทั้งพรรคคอมมิวนิสต์ด้วย ตกลงพรรคไม่เอาด้วยเสียแล้วหรือครับ ก็นั้นแหละนะ ตอนตัวเองยังเป็นขบวนการปฏิวัติอยู่ก็ต้องส่งเสริมจิตวิญญาณปฏิวัติต่อต้านผู้มีอำนาจ แต่ตอนนี้มาเป็นผู้มีอำนาจรัฐเสียเองแล้วนี่...
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 26 พ.ย. 00, 20:56

ใช่ค่ะซินเจียง ขอบคุณมาก  ชื่อภาษาจีนกลางดิฉันไม่เข้าหัวเลยค่ะ  
ส่วนชื่อภาษาอังกฤษของซ้องกั๋งเอามาจากบทความของอ.วิภา อุตมฉันท์ ของวารสารธรรมศาสตร์ค่ะ  คิดว่าน่าจะมีแปลหลาย version
เรื่องสามก๊ก ก็เคยมีการปรารภกันมานานแล้วว่าตั้งแต่สมัยสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ  ว่า หลอกว้านจงคนเรียบเรียงคงจะเอาใจช่วยเล่าปี่อยู่มั่งละ  เลยเขียนซะน่านับถือ โจโฉกลายเป็นผู้ร้ายขี้ระแวง
ตอนเอามาทำเป็นวีดีโอเรื่องยาว  เล่าปี่ก็เอาคนเล่นหน้าตาใจดีมีสง่าราศี  โจโฉหน้าตาโหดยังกะโจร
ทั้งที่การเมืองเอาเข้าจริงคงหาพระเอกหรือผู้ร้ายแท้ๆยากอยู่เหมือนกันนะคะ
ธรรมศาสตร์เคยสัมมนาเรื่องนี้ แล้วพิมพ์เป็นหนังสือชื่อสามก๊กวรรณทัศน์  ค่ะ
ตอนอ่านสามก๊ก  ดิฉันก็แอบชอบโจโฉอยู่เหมือนกัน  เห็นใจค่ะว่าถูกละเลงสีมากไป    แต่ไม่กล้าแสดงออกนอกหน้า  เพราะเกรงใจพรรคพวกเล่าปี่ อย่างกวนอู เตียวหุย  จูล่งและขงเบ้ง
ตอนนี้มาเจอรัฐบาลใจเดียวกัน  รีบชูธงเชียร์เลยค่ะ ต้องรีบทำซะก่อนบรรดาคาบิเน็ตจะเปลี่ยนใจไปเชียร์ซุนกวนหรือเจ้าอื่นๆต่อไปอีกตามสถานการณ์
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.036 วินาที กับ 19 คำสั่ง