เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 12
  พิมพ์  
อ่าน: 35364 มดอยากรู้ สำรวจกรุภาพเก่า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 90  เมื่อ 08 มิ.ย. 06, 22:07

 คุณหัวหน้ามดครับ

เหรียญตราที่กรมหมื่นบวรวิไชยชาญท่านทรงติด ใน คห. 72 ขอความกรุณาขยายให้ดูชัดๆ หน่อยครับ

ขอบคุณก๊าบ
บันทึกการเข้า
เฟื่องแก้ว
พาลี
****
ตอบ: 327

เลขานุการ


ความคิดเห็นที่ 91  เมื่อ 08 มิ.ย. 06, 22:28

 โอย รูปสวยมากๆๆๆ ค่ะ
เมืองไทยในอดีต สวยเหมือนฝันเลย

อาจารย์มีไทม์แมชชีนในกระเป๋าโดราเอมอนไหมคะเนี่ย
ขอตีตั๋วไปนั่งเรือเที่ยวชมเรือนไทยริมน้ำสักสองสามเที่ยว

สาวงามหมายเลขสองขวามือ ห่มสไบได้สวยจังค่ะ
เสื้อชุดราตรีเนี้ยบๆ สมัยนี้ ที่ทำเลียนประยุกต์ ชิดซ้ายไปเลย

ผมข้างบน ทำไฮไลท์สักสองสามเฉด
พามาเดิน ชอง เซลิเซ่ ได้เลยค่ะ อิอิ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 92  เมื่อ 08 มิ.ย. 06, 22:29

 ขอต้อนรับคุณนิล มาช้าดีกว่าไม่มา
สมัยนั้นเขาแปลเป็นอย่างนี้ครับ
ไทย--มลายู--โปรตุเกศ--อังกฤษ
แล้วแปลกลับก็เป็น
อังกฤษ--โปรตุเกศ--มลายู--ไทย
ภาษาจีนไม่ต้องแปลครับ ทั้งสี่ชาติต่างรู้จักดี ดังนั้น คงจะตรงกับที่ทางวิทยาศาสตร์ต้องมี controller คือภาษาจีนเป็นหลักเทียบ

ถามว่าทำไมไม่ใช่ภาษาจีนเป็นภาษากลาง
เดาว่า เพราะจีนแม้มีอักขระเดียว แต่หลายไดอะเหล็ก ไม่รู้จะเอาอะไรเป็นหลัก แล้วจีนที่เราใช้ ก็เป็นจีนฮกเกี้ยน ซึ่งไม่ใช่ไดอะเหล็กกลางเสียอีก ฟังดูยุ่งนะครับ แต่ความจริงไม่ยุ่งหรอกครับ เจราจาที ตั้งสองสามอาทิตย์ แก้กันไปมา ผมว่าดีเสียอีก
แต่ไอ้เอสแมน โรเบิร์ต มันหงุดหงิดน่าดู ไปถึงยุนิเตตสะเตท มันเขียนเมมมัวร์ด่าเราเสียเละตุ้มเป๊ะ คุณนิลคงเคยอ่านกระมัง

อ้อ ต้องแก้ครับ ไม่ใช่ฟ้าอาภรณ์ เป็นฟ้าจุฑามณี

มีรูปฝากคุณติบอ ดูสีว่าคนเดียวกันบ่



.
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 93  เมื่อ 08 มิ.ย. 06, 22:51

 ฟ้าจุฑามณีจริงๆ แหละครับ ขออภัย ทำไมผมถึงไพล่นึกไปถึงฟ้าอาภรณ์ที่แปลกพักตร์อาลักษณ์เดิมได้ยังไงก็ไม่รู้ เห็นจะมึนจัด ตอนนี้ กำลังเบลอ

เจ้าฟ้าจุฑามณีก็ - ปิ่นเกล้า ถูกของพระเจ้าตาครับ
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 94  เมื่อ 08 มิ.ย. 06, 23:36

 ข้อสันนิษฐานที่มาของชื่อวัดกาลหว่าร์นะครับ

"วัดกาลหว่าร์" หมายถึงวัดของพระตาย ซึ่งน่าจะมาจากคำว่า "กัลว่าริโอ" เนินที่พระเยซูเจ้าถูกตรึงกางเขนสิ้นพระชนม์นั่นเอง

จาก http://www.catholic.or.th/document/chomwat/body_index.html

The Gospels call this site Golgotha. (Aramaic "Golgotha"; Greek "Kranion" (skull), from which we get Calvary, from the Latin root "calva", the scalp without hair.
จาก http://www.christusrex.org/www1/jhs/TSsptopo.html  
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 95  เมื่อ 08 มิ.ย. 06, 23:38


.
เอานี่ไปแก้มึนนะ คุณนิล

ซ้าย เข็มขัดของเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ขวา เหรรียญของกรมหมื่นบวรวิไชยชาญ ฉายห่างกันไม่กี่วัน ไม่มีปัญญาทำให้ชัดกว่านี้ครับ

นู๋เฟื่อง มียากินแล้วเดินเข้าในรูปได้เลย สนมะ  
บันทึกการเข้า
Tiwa
อสุรผัด
*
ตอบ: 16

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 96  เมื่อ 09 มิ.ย. 06, 09:50

 ตอบ คห 59

กระผมคิดว่าตาไม่ฝาดนะขอรับ ฐานข้อมูลภาพของผมเปรียบดูแล้วพระรูปนี้ไปละม้ายกับ
สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี (ประสูติ 2377) ในปี พ.ศ. 2403 ขณะมีพระชนม์ 27 พรรษา
และขณะยังทรงอนุบาลพระราชโอรสองค์เล็กที่ยังไม่หย่านม พระองค์ท่านมีศักดิ์เป็น
มารดาเลี้ยงของพระองค์เจ้านพวงศ์ (ประสูติ 2365) ซึ่งว่ากันว่าแม่เลี้ยง-ลูกเลี้ยงคู่นี้
ทรงใกล้ชิดกันดี เพราะมีชันษาไม่ต่างกันมากนัก

พระองค์เจ้านพวงศ์ เป็นเจ้านายที่พระทัยน้อยมาก เพราะมีปมเขื่องในใจ ที่คิดว่าพระราชบิดา
ทรงเมตตาเจ้านายเล็กๆมากกว่า มารดาเลี้ยงพระองค์นี้ ทรงปลอบโยนโอรสของพระราชสวามี
และให้ความเกรงใจ ความนอบน้อม และความเคารพอยู่มากเท่าที่แม่เลี้ยงจะมีต่อลูกของสามีได้

และเมื่อขยายพระรูปนี้ดู พระเล็บยาวมากและพระธำมรงค์เพรียบ น่าจะเป็นพระหัตถ์ของเจ้านายแท้ๆเทียว
อนึ่ง พระองค์ไม่ทรงวางท่าตอนถ่ายรูป เท่ห์เหมือนสมเด็จรีเยนต์ สะใภ้ใหญ่ของท่านนะครับ


ไม่ทราบว่าการคาดคะเนของกระผมจะผิดไปหลายโยชน์ไหมครับ
บันทึกการเข้า
B
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 148


ความคิดเห็นที่ 97  เมื่อ 09 มิ.ย. 06, 10:29

 ภาพความเห็นที่ 59

ดิฉันขอตั้งข้อสังเกตว่าถ้าเป็นสมเด็จพระเทพศิรินทราฯ พระภูษาทรงของพระองค์ท่าน น่าจะหรูหรา ประณีตกว่าสตรีในภาพนะคะ
บันทึกการเข้า
กากี
อสุรผัด
*
ตอบ: 1


ความคิดเห็นที่ 98  เมื่อ 09 มิ.ย. 06, 10:39

 สุดๆเลยเจ้าค่ะ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 99  เมื่อ 09 มิ.ย. 06, 10:59


.
ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยครับ และอ่านที่เขียนมาก็ไม่เข้าใจด้วยครับ กรุณาขยายความและบอกที่มาให้หน่อย อยากรู้ครับ

"สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี (ประสูติ 2377) ...มีศักดิ์เป็น
มารดาเลี้ยงของพระองค์เจ้านพวงศ์ (ประสูติ 2365)"
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 100  เมื่อ 09 มิ.ย. 06, 11:21

 .











พระบรมรูปทรงฉายร่วมกัน ด้วยเทคนิครูปถ่ายบนแผ่นเงิน ส่งไปสหรัฐฯ
อาจารย์ศักดา ศิริพันธุ์ ขอทำสำเนากลับมาทูลเกล้าถวาย เป็นหนึ่งในรูปถ่ายที่เก่าที่สุด ที่เหลือชิ้นงานให้จับต้องได้ เก่ากว่านี้เหลือแต่รูปสำเนาครับ

พระเทพศิรินทร์ทรงอ่อนแอมาแต่ยังสาว ได้ถวายตัวมาแต่พระชนมายุ 17--18 ทำราชการเพียงสิบปีก็สิ้นพระชนม์
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าทรงสถาปนาพระนางเธอ ก็เพื่อเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 3 ว่ามีพระราชนัดดาเป็นนางกษัตรีย์ และประสงค์จะคุ้มครองทรัพย์สินของกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ให้เป็นปึกแผ่นด้วย

พระราชโอรสคือรัชกาลที่ 5 จึงเป็นเจ้านายที่ร่ำรวยมาแต่ประสูติ ด้วยมีสมบัติข้างพระราชมารดาเสริมอีกด้าน

ขอให้สังเกตว่า ร. 5 ทรงยกย่องร. 3 มากเพียงใด ในเทศนาเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 3 คราวฉลองกรุง 2425 ทรงพระราชนืพนธ์แล้วให้หม่อมเจ้าพระอรุณนิภาคุณากร เทศน์ถวาย  
บันทึกการเข้า
Tiwa
อสุรผัด
*
ตอบ: 16

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 101  เมื่อ 09 มิ.ย. 06, 12:03

 ขอประทานโทษนะครับหากว่ากระผมเดาผิด

สมเด็จพระเทพศิรินทราฯ มีพระนามเดิมว่า ม.จ.หญิงรำเพย ศิริวงศ์ เป็นพระธิดาของพระองค์เจ้าศิริวงศ์
กรมหมื่นมาตยาฯ ทรงกำพร้าพระบิดาและมารดาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ได้อาศัยพระองค์เจ้าลม่อม (อาหญิง)
เป็นผู้ทรงบริบาล สมเด็จพระนั่งเกล้าฯซึ่งเป็นพระเจ้าตา ได้ทรงโปรดรับท่านหญิงรำเพยเข้าไปอยู่ในวัง

พระอนุชาองค์เล็กของ ร. 5 กลางคืนต้องทรงเข้านิทรากับ "สมเด็จยายน้อย" ลม่อม
จนชันษา 16 เพราะติดยายมาก


พระองค์เจ้านพวงศ์ เป็นโอรสของเจ้าฟ้ามงกุฎ ขณะมีพระชนม์ 18 พรรษา  เจ้าฟ้าได้ทรงผนวชขณะที่
พระโอรสองค์โตยังไม่ได้ขวบ และองค์เล็กยังแดงๆอยู่ เมื่อ ร. 4 ทรงขึ้นครองราชย์ ได้ทรงสถาปนา
พระโอรสที่ประสูตินอกเศวตฉัตรทั้งสองพระองค์ขึ้นเป็นกรมหมื่น และในสร้อยพระนาม มีพระนาม
ของพระองค์อยู่ด้วย นั่นหมายถึงทรงยกย่อง พระโอรสทั้งสองเทียบเทียมเจ้าฟ้านั่นเอง น่าเสียดาย
ที่พระโอรสทั้งสององค์มีพระชันษาสั้น สิ้นพระชนม์ก่อนพระราชชนกเสียอีก

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงเสียพระทัยมาก และคิดว่า "มีพระองค์" มากระทำ
เพราะพระนามกรของพระโอรสทั้งสอง มีพระนามของพระศิวและพระวิษณุในศาสนาพราหมณ์
แฝงอยู่ด้วย

เมื่อทรงผ่านพิภพแล้ว ร. 4 มิได้ทรงรับนางห้ามผู้เป็นมารดาของโอรสทั้งสองเข้าวัง แต่ได้ทรงเสกสมรสใหม่
ทำให้นางห้าม (ชายาเก่า) โกรธแค้น วันหนึ่งพระองค์ทรงเสด็จทางเรือ และได้มีเรือลำหนึ่ง
แจวเทียบแซงขึ้นมาตีคู่ลำของพระองค์  ตำรวจติดตามคิดว่าเป็นเรือในขบวนจึงมิได้ขัดขวาง ร.4
เมื่อเเรกทรงคิดว่าเรือในขบวนจะนำพระองค์เจ้าเล็กๆที่กรรแสงโยเยมาส่งให้ แต่ก็ไม่เห็นว่าเรือเล็ก
ส่งสัญญาณว่ากระไร ทรงสงสัยว่าผู้ใดอยู่ในเรือลำที่ตีคู่ขึ้นมา ทรงชะโงกมองก็เห็นแต่ผ้าม่านปิด
แลเห็นสาวๆนั่งท้ายเรืออยู่หลายคน ในที่สุดก็ทรงทราบว่าชายาเก่า ได้มาเยาะเย้ยพระองค์ท่าน
จึงทรงพิโรธเป็นอย่างมาก และสั่งให้ทหารไปจับตัวมาคุมขัง

เมื่อขึ้นครองราชย์ โอรสองค์โต มีชันษา 30 พระโอรสทั้งสองทรงน้อยใจว่าบิดาทอดทิ้งระหว่างผนวช
ทำให้ความผูกพันระหว่างบิดา-โอรส ไม่แน่นแฟ้น เมื่อเห็นพระราชบิดาทรงอุ้มพระโอรสพระธิดาเล็กๆ
จึงเป็นภาพที่บาดตาบาดใจอยู่เสมอ

งานแต่งงานของหม่อมเจ้า ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้านพวงศ์ ท้ายรัชกาลที่ 4 นั้น ทูลกระหม่อมปู่
ได้ทรงจัดให้อย่างใหญ่โต สมพระเกียรติพระราชนัดดากษัตริย์เป็นอย่างมาก พระองค์ทรงออก
การ์ดเชิญขุนนางอังกฤษที่ประจำอยู่ที่คอมมอนเวลท์ฮ่องกงให้มาร่วมงานด้วย เหล่านี้พระองค์
ทรงทำเพื่อแสดงว่าพระองค์มีความรักให้บุตรหลานเสมอ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 102  เมื่อ 09 มิ.ย. 06, 20:35

 ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดีครับ แต่ก็สนุกดี มีอีกใหมครับ
แล้ว "เท่ห์เหมือนสมเด็จรีเยนต์ สะใภ้ใหญ่ของท่าน" อันนี้มันเกี่ยวอะไรตรงใหนครับ

แล้วตกลงที่เล่ามานี่ เป็นเรื่องเดาเหรอครับ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 103  เมื่อ 09 มิ.ย. 06, 20:42

 พระเทพศิรินทร์อีกพระรูป ฉายก่อนสิ้นพระชนม์ไม่นาน นอกจากหน้าตาไม่เหมือน ความเห็น 59 แล้ว ลองดูเครื่องยศในรูปนั้น เทียบพระรูปนี้สิครับ

อีกอย่าง รูป 59 ถ่ายปลายรัชกาลที่ 4 พระนางเธอ สิ้นไป 5-6 ปีแล้วครับ  
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 104  เมื่อ 09 มิ.ย. 06, 21:13

 คุณpipat พอจะมีภาพขยายของพระรูปสมเด็จพระเทพศิรินทร์ในความเห็นที่ 100 กับ 104 ไหมครับ
เพราะเท่าที่ผมเห็นตอนนี้ เดาเอาว่าน่าจะฉายไว้ครั้งเดียวกันทั้งสองภาพนะครับ
ทั้งผ้าทรงสะพัก ปั้นเหน่ง พระภูษาจีบ และพระสุจหนี่บนโต๊ะ ดูเหมือนจะเป็นชุดเดียวกันหมด
ไม่ทราบว่าถ้ามีภาพที่ใหญ่กว่านี้จะมีรายละเอียดของภาพมาตอบข้อสงสัยได้เพิ่มบ้างหรือเปล่าน่ะครับ


ปล. ถ้าคุณpipat มีผมขอแค่ภาพในความเห็นที่ 104 ก็พอครับ เพราะพระภูษาทรงของสมเด็จพระนางฯในความเห็นที่ 100 น่ะ ผมจำได้ติดตาแล้วล่ะครับ แหะๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 12
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.043 วินาที กับ 19 คำสั่ง