เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 45 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 13:34
|
|
ท่านจิต ยังบอกต่อไปอีกว่า เรือนแพนอกจากขายของแล้ว ก็เป็นที่อยู่อาศัยอีกด้วย ขอให้ดูภาพที่ 43 หนึ่งร้อยกว่าปีก่อนสำนักวางผังเมืองถือกำเนิด ตึกแถวอาคารพานิชย์ยังไม่มี เมืองฟ้าอมรของเราแม้ว่าเต็มแน่นไปด้วยเรือนแพสองริมน้ำ แต่ก็มีระเบียบอยู่ในตัว ไม่มีลักษณะชุมชน ซึ่งเป็นคำระคายหูคุณพิพัฒน์
บ้านเรือนเตี้ยๆ เพราะเทคโนโลยี่สร้างตึกหลายชั้นยังไม่มีใครรู้จัก ทำให้ไม่บดบังทัศนียภาพ โดยเฉพาะเมื่อท่านจิตอุตสาหะมานะ ปีนป่ายขึ้นบนพระปรางค์วัดอรุณ พาลูกน้องหอบหิ้วกล้องและอุปกรณ์ถ่ายรูปเท่าตู้เย็น 5 ใบ ขึ้นไปจับภาพมุมกว้างมาให้เห็น
รายละเอียดคุณพิพัฒน์คงมาต่อให้เอง
เรือนแพหนึ่งในหลายพันแห่งริมเจ้าพระยานี่เอง มิศฟะรันซิศจิต จำได้ว่ามีหลังหนึ่งเป็นที่อาศัยของแม่พุ่ม สาวงามลูกผู้ดีสยาม ธิดาของพระยาราชมนตรี (ภู่) บรรพบุรุษของคุณแซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี
เจ้าคุณพ่อท่าทางจะใจกว้างเอาการ สร้างแพให้ลูกสาวอยู่จนโตเป็นสาว ก็ไม่ยักเก็บตัวขึ้นเรือนใหญ่บนตลิ่งให้มิดชิด ทั้งนี้ เรือนแพเปรียบเสมือนด่านหน้า ใครสัญจรพายเรือมาแวะก็แวะเข้าแพก่อนเข้าบ้านบนฝั่ง
เจ้าคุณราชมนตรีท่านตามใจลูกสาว ทั้งที่เธอสวยจนคนตั้งเรียกว่าบุษบา ก็ยังปล่อยให้หนุ่มๆเข้ามาเล่นสักรวากันบนเรือนแพไม่ขาดสาย หนุ่มลูกพระน้ำพระยาอย่าหวังเลยว่าจะเข้าใกล้ได้ แขกประจำเรือนแพ ต้องระดับเจ้าต่างกรม และโน่นแน่ะ ทูลกระหม่อมฟ้าน้อย เจ้าฟ้าจุฑามณี ซึ่งเมื่อทรงเป็นชายหนุ่ม ได้ชื่อว่ารูปงามและปราดเปรียวนัก
บุษบาริมน้ำเป็นคนกล้า เมื่อเจ้านายหนุ่มจะเสด็จกลับ เธอก็กล้ายุดพระแสงเอาไว้ไม่ให้กลับ จึงไม่แปลกที่เธอได้ไปเป็นหม่อมของท่านในวันหนึ่ง และไม่แปลกเหมือนกันที่อีกวันหนึ่ง เธอก็สละสิทธิ์หม่อมกลับไปเป็นพนักงานในวังหลวงตามเดิม
ท่านฟะรันซิศบ่นอุบอิบให้ฟังว่า เสียดาย ตอนคุณพุ่มยังสาว ฉันยังเด็ก ไม่ทันได้ร่ำเรียนวิชาชักเงารูป จึงไม่มีรูปมายืนยันความงามของกวีหญิง กว่าจะชักเงารูปเป็น คุณพุ่มก็คราวป้าคราวย่าเสียแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 46 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 13:40
|
|
อ้าว คุณพิพัฒน์คร่ำเคร่งกับรูปจนตาเจ็บเสียแล้ว รอให้ไปพักสายตาก่อนค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 47 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 14:06
|
|
 . เดาถูกว่าอาจารย์จะต้องเล่าเรื่องเรือนแพของคุณบุษบา เสียดายท่านจิตไม่ได้ถ่ายรูปแถวท่าช้างไว้เลย แต่รูปเรือนแพนี้ก็ไม่ด้อยศักดิ์ศรีกว่ากันสักกี่มากน้อยกระมัง ตามที่ท่านจันทร์เล่าไว้ในนิทานคำกลอนสุนทรภู่ หรืออีกเรื่องที่ทำคู่กัน บอกว่าหน้าวังเดิม มีเรือนแพทอดอยู่ เป็นที่พักของพระยาอะไรผมก็ลืมชื่อเสียแล้ว สุนทรภู่สมัยมาพึ่งท่านฟ้าน้อยก็อยู่แพนี้แหละครับ ในรูปนี้ วังเดิมครองโดย กรมหลวงวงษาธิราชสนิท แพยังอยู่ แต่มีสองแพ เดาไมถูกว่าเป็นหลังใด เรือนแพชุดนี้เดี๋ยวก็สองเดี๋ยวก็หนึ่ง เป็นที่ปวดเศียรเวียนเกล้า แก่นักไต่ตอมรูปอย่างกระผมเป็นที่ยิ่ง
แต่เป็นเรือนบรรดาศักดิ์นะครับ เวลาเจ้าเมืองห่างไกลมาราชการในกรุง ก็พักที่นี่แหละ
ตอนนี้รอมัคคุเทศก์ขยายเรื่องต่อ ฟังมันยังกะเดินไปเจอคุณพุ่มทีเดียว |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 48 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 14:17
|
|
 . ลองดูสาวงามที่ฟรันซิศ จิต บันทึกภาพไว้ แม่นางบุษบาท่าเรือจ้างคงไม่ด้อยกว่านี้ไปสักเท่าใด |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 49 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 14:46
|
|
อยากจะชวนคุณ sound engineer มาค้นหาในภาพ คห. ๔๘ ว่าเกาะน้อยที่คุณจำได้อยู่ในภาพนี้ด้วย เห็นไหมคะว่าตรงไหน
หนึ่งร้อยกว่าปีก่อน เจ้าพระยามีเกาะน้อยแบบนี้ผุดเหนือน้ำให้พักเรือนั่งเล่นกันได้ ถ้าหนุ่มสาวมานั่งจีบกันละก็ ทำมิวสิควิดีโอได้ออกมาสวย ไม่ต้องจัดฉากด้วยซ้ำ เสียดายว่าหายไปหมดไม่มีเหลือแล้ว เหมือนเรือนแพและอะไรอีกหลายๆอย่างในภาพ ยังดีที่พระปรางค์วัดอรุณยังสง่างามประทับใจอยู่
วังกรมหลวงวงศาธิราชสนิท คืออาคารสีขาวทางซ้ายมือของภาพใช่ไหมคะ รวมอาคารหลังแพทางซ้ายด้วยหรือเปล่า
มิศฟะรันซิศ จิตแอบกระซิบบอกว่า กรมหลวงวงศาฯ ท่านทรงเชี่ยวชาญนักเรื่องหยูกยา ไม่มีใครเทียบได้ ท่านรักษาคนอื่นได้สารพัดตั้งแต่เจ้าแผ่นดินลงมา แต่เวลาหมอประชวรเสียเอง รักษายากที่สุด หมอที่ไหนเข้าไปถวายพระโอสถ เป็นถูกซักไซ้ไล่เลียงเรื่องตัวยาเสียจนหมอแทบจะตายก่อนรักษา เพราะทรงเก่งเรื่องยาเกินหน้าหมอนี่เอง
เห็นรูปวัดแจ้งฝีมือท่านจิต แล้วนึกถึงนิราศสุพรรณของสุนทรภู่ เลยถามท่านจิตว่าโคลงบทนี้หมายความว่ายังไง
วัดแจ้งแต่งตึกตั้ง............เตียงนอน เคยปกนกน้อยคอน.........คู่พร้อง เคยลอบตอบสารสมร......สมานสมัคร รักเอย จำจากพรากนุชน้อง........นกน้อยลอยลม
ท่านจิตไม่ค่อยตอบอย่างอื่น บอกแต่ว่าสุนทรภู่แฟนแยะ แม่สาวนกนี่ก็อยู่ในลิสต์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 50 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 15:00
|
|
ภาพขวาใน ค.ห. 49
สาวสมัยรัชกาลที่ 4 เดาว่าเป็นสาวไฮโซ เป็นลูกเมียใครไม่ทราบ แต่คิดว่าเป็นชาววังหรือไม่ก็ผู้ดีมีตระกูล ไม่ใช่สาวชาวบ้าน ทรวดทรงดูอ้อนแอ้น แขนกลมกลึง แสดงว่าไม่เคยทำงานหนัก
เธอไว้ผมทัดยาวลงมาเกือบถึงบ่าตามแฟชั่นสมัยรัชกาลที่ 4 สไบทันสมัยมาก ด้านข้างสั้นเห็นต้นแขน ลักษณะเป็นแพรเนื้อนิ่ม น่าจะผ้าอิมพอร์ต ถ้าเป็นแฟชั่นเดิม สไบผืนกว้างคลุมลงมาถึงศอก สวมสร้อยตัว สร้อยข้อมือและแหวนพราวนิ้ว ยังงี้ไม่ใช่มือที่ต้องตักน้ำตำข้าวแน่นอน รู้จักโพสต์ท่าวางมือกุมกันเสียด้วย โจงกระเบนที่นุ่ง รอยกลีบผ้าจีบที่สะโพกสวยมาก เป็นการนุ่งผ้าอย่างประณีตทีเดียวเพื่อมาถ่ายรูป นั่งบนอะไรสักอย่างมีพรมปูรองรับ มีอุปกรณ์ประกอบฉากคล้ายแจกัน เดาว่าเป็นจอกหรือโถเครื่องประทิ่นผิว
ส่วนสาวคนทางซ้าย น่าจะสาวผู้ดีเหมือนกัน ห่มสไบจีบแบบนี้ชาววังเขาจีบกัน หน้าตาก็คมขำ ชอบโจงกระเบนในภาพโบราณอย่างหนึ่งคือเขานุ่งกันสวย เสมอกันทั้งสองขา ไม่สูงข้างต่ำข้างอย่างดารานุ่งในละครพีเรียด แล้วพอเคลื่อนไหว ชายจะห้อยลงมายาวข้างสั้นข้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
วันเสาร์
อสุรผัด

ตอบ: 20
|
ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 15:07
|
|
ขออนุญาตยกมือตอบคำถามอาจารย์ค่ะ ในความเห็น19 ที่ว่า วัดกัลยาณ์นี่หรือเปล่าที่โบราณออกเสียงว่าวัดกัลละหว่า
เท่าที่เคยทราบมา มีโบสถ์คริสต์แถวตลาดน้อย เรียกชื่อว่า"วัดกัลละหว่า" เป็นสำเนียงที่ดัดแปลงให้คุ้นกับปากคนไทยแล้ว เดิมเป็นภาษาฝร่ังจำช่ือไม่ได้ค่ะ ถ้าอย่างไรคงต้องค้นข้อมูลเก่าเพื่อความแม่นยำยิ่งขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 52 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 16:30
|
|
ยกมือหนับหนุนครับ อยู่ตรงแยกตลาดน้อยตรงเข้าไป ถ้าเลี้ยวซ้ายคือไปริเวอร์ซิตี้ ถ้าตรงไป เจอเลยครับ น่าจะเพี้ยนมาจาก คัลละวารี่ Calvary เป็นศัพท์ศาสนาแปลว่าอะไรผมไม่กล้าแปล เพราะไม่รู้ครับ
สาวงามทางซ้าย มีรูปเธอหลายท่าครับ กับสามี 1 กับลูกชาย 1 พิมพ์ลงหนังสือก็หลายเล่มครับ
เรื่องผ้า เห็นคุณติบอหลอกน้องใหม่มาเข้าเรือนไทยได้อนงค์หนึ่ง ขอเรียยนเชิญมาวินิจฉัยด้วยได้ใหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติบอ
|
ความคิดเห็นที่ 53 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 16:33
|
|
ไม่ได้อ่านแค่ข้ามคืน กระทู้นี้ก็ไปไวยิ่งกว่าติดจรวดซะแล้ว เมื่อวานนี้ตอนดึกๆที่อ่าน ความเห็นเพิ่มเติมเพิ่งจะมีแค่ 33 ความเห็นเอง ว่าแล้วก็รีบเอาเรือแจวลำน้อยแจวไล่ให้ทันเรือลำใหญ่ที่ อ.เทาชมพูเป็นมัคคุเทศก์กิติมศักดิ์อยู่ไปให้ทัน
แฮก กว่าจะลงมาถึงตรงนี้ได้ ก็เหนื่อยน่าดูเลยผม
ยังไม่อยากตอบเรื่องอื่นให้เสียบรรยากาศกระทู้ ผมขอยกมือตอบอ.เทาชมพู เรื่องเดียวกับ คุณวันเสาร์ ในความเห็นที่ 52 อีกทีซะก่อน เรื่องโบสถ์กาลหว่าร์ครับ โบสถ์นี้ ถ้าสมาชิกเรือนไทยท่านไหนชอบของเก่า หรือโบราณวัตถุ ไปเดินเล่นริวเอร์ซิตี้บ่อยๆ อาจจะได้เห็นบ้าง เพราะศิลปะแบบ Neogothic ของโบสถ์ค่อนข้างสะดุดตา ยิ่งสมาชิกท่าไหนไปเดินซื้อเสื้อผ้า กินไก่ทอดที่ท่าน้ำคลองสานล่ะก็ เวลาข้ามเรือมาฝั่งพระนครจะเห็นชัดแจ๋วทีเดียวเชียวแหละ
ตอนแรกผมว่าจะชวนสมาชิกอีกท่านที่เรียนโรงเรียน "กุหลาบวัฒนา" ต้องไปฟังสวดที่โบสถ์กาลหว่าร์ทุกสัปดาห์ตอนเป็นเด็กประถมมาเล่าความหลังเมื่อ 40 ปีที่แล้วให้ฟัง แต่เห็นทีสมาชิกที่ผมเชิญไปจะไม่ว่างซักที คนไปเชิญอย่างผมเลยอดทนรอไม่ไหวเลยขออนุญาตเปิดกระทู้ใหม่เรื่องวัดกาลหว่าร์เองแล้วกันครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติบอ
|
ความคิดเห็นที่ 54 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 16:39
|
|
โพสต์เรื่องโบสถ์ชนกับคุณpipat เสียแล้ว
เรื่องผ้า ผมไม่แน่ใจว่าจะหลอก "น้อง" ของคุณpipat มาได้หรือไม่นะครับ เมื่อวันก่อนตอนโทรศัพท์คุยกันขอให้มาช่วยเล่าเรื่อง "วัดแม่พระลูกประคำ" ในเรือนไทยให้ที ก็ได้รับคำตอบมาว่า "อยากก็เล่าเองเถอะ เดี๋ยวอ่านต้นฉบับให้ก่อนรอบนึง"
ผมเลยต้องมานั่งเรียบเรียงกระทู้อยู่นี่แหละครับ แหะๆ
ปล. คราวนี้ผมขอส่งความเห็นที่ 53 ของคุณpipat ไปแทนแล้วกันนะครับ ไม่อยากเอางูตัวหนักอึ้งตัวที่ 2 มาใส่เป็นสร้อยเหมือนตอนนี้อ่ะครับ คุณpipat
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 55 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 17:36
|
|
เห็นจะต้องไปกินไก่ทอดแถวท่าน้ำคลองสานเสียแล้วละค่ะ คุณติบอ ***************** ติดใจสาวงามทั้งสองภาพ คนซ้ายที่ห่มสไบจีบ แฟชั่นเดียวกับคุณสาย แม่บ้านต้นตำหนักของเสด็จเจ้านายแม่พลอย อยากเห็นสามีกับลูกว่าแต่งแฟชั่นแบบไหนจังค่ะ
ส่วนนางแบบสาวไฮโซสยามคนขวา ดิฉันนึกถูกชะตาเธอ ชอบท่านั่ง หลังตรงดี ไม่ชอบคนนั่งค้อมหลัง ขอยึดเป็นนางแบบแทนตัวคุณพุ่มไปพลางก่อนนะคะ แม้เดาว่าเธออาจจะเกิดหลังบุษบาท่าเรือจ้างไม่ต่ำกว่า ๓๐ ปี
ในเมื่อมิศฟะรันซิศ จิต ไม่ถ่ายรูปคุณพุ่มไว้ให้เราดู ก็ต้องอาศัย verb to เดา ลูกเดียว อย่างแรกคือเชื่อว่าคุณพุ่มต้องเป็นคนผิวขาวเนียน ไม่ต้องพึ่งครีมไวเทนนิ่ง แต่ลงขมิ้นขัดผิว ขาวเหลืองแบบคนไทย บุษบานั้นงามผุดผ่อง ดังที่สังคามาระตาผู้ช่วยพระเอกชมว่า อันนางโฉมยงองค์นี้..........เลิศล้ำนารีในแหล่งหล้า นวลละอองผ่องพักตร์โสภา......ดังจันทราทรงกลดหมดมลทิน
ถ้าเป็นสาวไทยผิวคล้ำ เขาเรียกว่าผิวสองสี ดำแดง นางจินตะหรา "งามงอนอ่อนระทวยนวยแน่ง.......ดำแดงผิวเนื้อสองสี " ความนิยมสู้ผิวขาวไม่ได้
ได้สมญาว่าบุษบาท่าเรือจ้างทั้งที ไม่งามก็ผิดไปละค่ะ
แต่มิศฟะรันซิศ จิต กระซิบบอกลูกทัวร์ว่า บุษบาคนงามฤทธิ์เดชสมกับเคยเป็นอุณากรรณ ยามอายุเข้าปูนชรา เธอเคยโต้สักรวากับหนุ่ม ปากคอเราะรายเกี้ยวพาราศีตามถนัด จะเอาเป็นเมีย เธอก็ตอบโต้ เสียดายท่านจิตจำได้ไม่ครบ จำได้แต่ว่า "อย่าเป็นเมียเลยคะหม่อม ยอมเป็นแม่ ฉันก็แก่รุ่นราวกับคราวป้า"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 56 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 21:58
|
|
.
สาวมาดมั่นยุค ร. 4 กับครอบครัว เสียดายรูปหนึ่งยับเยินไปหน่อย หัวเข็มขัดของผู้ชาย เหมือนที่ท่านยอดยิ่งยศใช้
อาจจะบ่งบอกสังกัดกระมัง |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 57 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 22:08
|
|
 . คราวนี้มาชมสาวงามกัน รูปขวามือเป็นลายเส้นอยู่ในหนังสือของมูโอต์ ทีแรกนึกว่าโมเมเขียนขึ้นมา ที่ใหนได้ ไปเจอว่ามีจริง อยู่ที่ห้องสมุดคอร์แนล เสียดายได้มารูปเล็กมาก ดูไม่เต็มตาครับ
ช่างเขียนฝรั่งทนดูไม่ได้ ใส่ผ้าให้ คงคิดว่าอุจาด |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 58 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 22:11
|
|
 . รูปซ้าย เป็นลายเส้นจากหนังสือของจอห์น ธอมสัน เก้าอี้ เป็นตัวเอียวกับที่พระองค์เจ้านพวงศ์ทรงนั่ง เลยคิดว่าจะเป็นหม่อมของท่านกระมัง |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 59 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 22:13
|
|
 . นางเล็กๆ ในวังกระมัง ยังใส่กำไลเท้าอยู่เลย |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|