pipat
|
ความคิดเห็นที่ 135 เมื่อ 11 มิ.ย. 06, 15:04
|
|
 .
หลังจากรูปนี้อีกสักสามสิบปี ลิเกพระยาเพชรก็กำเนิดที่ตรงนี้ แต่พวกแบนดิตเขาไม่สน เขาลูก E ช่างรื้อ เขาจะรื้อชุมชนริมแม่น้ำทิ้งทั้งหมด ตั้งแต่ท่าพระอาทิตย์ยันปากคลองตลาด ไม่รู้ว่าสมองทำด้วยอะไร ช่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนายิ่งนัก
ขออัญเชิญพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 4 มาฝากดังนี้ "ถ้าใคร....อย่างนั้นอยู่ก็ให้ผูกคอตายเชือดคอตายหรือกินยาตายไปเสียให้พ้นเมืองมนุษย์เถิด ไป....อยู่ในเมืองผีให้สบาย" |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 136 เมื่อ 11 มิ.ย. 06, 15:23
|
|
ขอบคุณคณ Tiwa ที่เอาหลักฐานมาแสดง พระราชหัตถเลขานั้น เป็นข้อเท็จจริง ทราบกันมานานว่าไม่โปรดเจ้าจอมมารดาน้อย (หลานพระเจ้าตากสินสายเจ้าฟ้าอภัย)
แต่ข้อความอธิบายเพิ่มเติมนั้น ขออภัยที่ต้องเรียนว่าผมไม่เชื่อครับ ท่านผู้เขียนนั้นอยู่ร่วมสำนักกับนางแอนนา รับผิดชอบเรื่องอุตุนิยมวิทยาด้วยกัน ทำหน้าที่ยกเมฆครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 137 เมื่อ 11 มิ.ย. 06, 15:26
|
|
คุณ Tiwa ค.ห. 173 ขา
ขอประทานโทษ คำตอบของคุณข้างบนนี้ทำให้ดิฉันตระหนักว่าตัวเองถามไม่ตรงคำตอบก็เป็นด้วยแฮะ
คือ...ดิฉันไม่ได้ถามเรื่องเจ้าจอมมารดาน้อยซักนิดเดียวค่ะ ข้อความในพระราชหัตถเลขาที่คุณยกมาดิฉันก็ไม่ได้ถาม
ที่ดิฉันอยากทราบคือหนังสือที่มาของเรื่องสมเด็จพระเทพศิรินทรฯกับกรมหมื่นมเหศวรฯต่างหากล่ะคะ
เรื่องในกำแพงวังที่คุณยกมา ทำให้ดิฉันยิ่งอยากอ่านที่มาเข้าไปใหญ่
"เรื่องชั้นในที่เขาถ่ายทอดกันมาเป็นอักษรสาร เจ้านายผู้ชายทรง "ดอด" เข้าไปข้างในก็บ่อยไปครับ
!
ที่ดิฉันทราบมา เจ้านายผู้ชายเมื่อโสกันต์แล้วก็ต้องออกมามีวังภายนอกของท่านเอง ในพระบรมมหาราชวังมีผู้ชายโตๆแล้วเพียงคนเดียวคือพระมหากษัตริย์
อะไรกัน มีเจ้านายชาย"ทรงดอด" เข้าไปฝ่ายในบ่อยเชียวหรือคะ
"ข้างใน" หรือ "ฝ่ายใน" กันแน่ แล้วตรงไหนที่ท่านดอดเข้าไป เข้าไปทำอะไร
ท่านรู้หรือเปล่าว่ากฎมณเฑียรบาลกำหนดโทษไว้หนักแค่ไหน
ส่วนเรื่องคุณแพ (ไม่ใช่แพร) ทำน้ำอบตกแตกนั้น ตอนนั้นท่านยังไม่ได้เป็นเจ้าจอมค่ะ ยังเป็นหลานสาวของสมเด็จเจ้าพระยา อยู่บ้านพ่อแม่
เรื่องยื่นน้ำอบกันนั้นเป็นช่วงที่เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์มีพระทัยปฏิพัทธ์ในตัวคุณแพจนถึงขั้นสู่ขอแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลาเข้ามาเป็นหม่อม
ทรงให้พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นราชศักดิ์สโมสร มารับตัวคุณแพไปพบกันที่บริเวณสวนกุหลาบ พบกันแบบเปิดเผยมีบุคคลที่สามอยู่ด้วย
เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯทรงมีน้ำอบฝรั่งไปพระราชทาน เมื่อยื่นให้ เจ้าคุณแพเกิดเอียงอายขึ้นมาไม่ยอมรับ
จึงประทานให้กรมหมื่นราชศักดิ์ฯ พระชันษา 12 ปี ส่งต่อให้คุณแพ
กรมหมื่นราชศักดิ์ฯก็ส่งต่อ เจ้าคุณแพยังคงเหนียมอาย 'จะรับก็มิใช่จะไม่รับก็มิเชิง' กรมหมื่นฯท่านนึกว่ารับก็เลยปล่อยพระหัตถ์
ขวดน้ำอบเลยพลัดตกแตก
ทั้งสองฝ่ายเลยกริ้วโกรธากรมหมื่นราชศักดิ์ฯว่าทำให้เสียของ
เรื่องเป็นแบบนี้ละค่ะ ไม่ใช่เรื่องฝากรักหวือหวาอะไร
เรื่องติดเรทของกรมหลวงรักษ์รณเรศ มีอยู่ในพระราชพงศาวดาร
ดิฉันเว้นเอาไว้ไม่เล่าให้ละเอียด เพราะไม่รู้ว่าจะเล่าให้ได้อะไรขึ้นมา
แค่เล่าสาเหตุใหญ่ๆที่เป็นหน้าหนึ่งของปวศ. ก็เห็นว่าพอแล้ว
ลูกหลานท่านยังมีตัวตนมาจนถึงปัจจุบันนี้อยู่ เกรงใจเขาน่ะค่ะ
ดิฉันแนะนำว่า คุณไปชงกาแฟดำแก่ๆ ดื่มน่าจะดี เผื่ออาการแฮงค์โอเวอร์จะได้บรรเทา
คุณทำให้นึกถึงคุณ Rinda จริงๆด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 138 เมื่อ 11 มิ.ย. 06, 15:47
|
|
ขอแสดงความเห็นต่อประโยคนี้สักเล็กน้อยนะครับ "พระองค์ทรงออกการ์ดเชิญขุนนางอังกฤษที่ประจำอยู่ที่คอมมอนเวลท์ฮ่องกงให้มาร่วมงานด้วย"
เป็นการตีความข้อมูลเกินเลยไปสักหน่อย การ์ดที่ออกไป เพื่อแจ้งให้ทราบ เป็นการให้เกียรติผู้รับ ว่าทรงรำลึกถึง และทรงส่งไปทั่วโลกยังทุกคนที่ทรงรู้จัก เป็นมารยาท ไม่ได้มุ่งหมายให้จับกำปั่นเข้ามาร่วมงานด้วยนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 139 เมื่อ 11 มิ.ย. 06, 22:22
|
|
ไกด์ของเรา ลงเรือไปทู่ระ บอกว่าแป๊บเดียว จะเป็นแป๊บเดียวแบบชาวเพชรที่บอกท่านสุนทรหรือปล่าวก็ไม่รู้
อยู่ทางนี้ เรือก็แล่นไปเรื่อย อย่ากระนั้นเลย ผมมาเล่าเรื่องของช่างภาพประจำยานย้อนเวลาดีกว่า เล่าผิด เดี๋ยวมัคคุเทศก์ก็มาแต่งแต้มจนงามดีพร้อมสรรพ เหมือนฟะรันซิศ จิต แต่งแต้มพงศาวดารรัชกาลที่ 4 จนงามหยด ด้วยรูปฉายของท่าน ยังไงยังงั้นละ -------------
ใครคือฟะรันซิศ จิต ใครถามอย่างนี้ในปี 2406 ละก้อ เชยยิ่งกว่าคนเดี๋ยวนี้ไม่รู้จักท่านมุ้ย หรือไม่รู้จักพี่จักรพันธุ์ของผมทีเดียว
ในปีนั้น บางกอกกำลังคึกคักด้วยกิจกรรมหรูเริ่ดหลายอย่าง บ้านผู้ลากมากดีแถวปากคลองบางหลวง จะมีงานเลี้ยงออกบ่อย ในงานจะต้องใช้ชุดกระเบื้องอย่างดีครบชุด สั่งมาจากเมืองกะหลาป๋า ซิการ์รสฉุนจากสิงค์โปร์ ปิดท้ายด้วยเหล้าเชอรี่รสเข้ม ในวังหลวง น้ำแข็งก็เริ่มมีบริโภคกันแล้ว เป็นของวิเศษ ต่อยเป็นก้อนเล็กๆ ดูดน้ำเย็นเฉียบ จากก้อนใสๆ ที่หยิบนานหนอยก็เจ็บนิ้ว ผู้ใหญ่ลางท่านยังไม่เชื่อ หาว่าปั้นน้ำเป็นตัว แปลว่าโกหก
เรือแพในแม่น้ำล้วนหรูหรา ท่านเสนาบดีต่างมีเรือบต ที่ดูเหมือนฝาหรั่งจะเรียกว่าโบ้ต แล่นเสียงตึกๆๆๆๆกลางน้ำ ดูน่ามหัศจรรย์ ลำของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ดูจะหรูกว่าทุกลำ ล่องไปมาระหว่างพระบวรราชวังไปทางวัดหงส์ คงจะโปรดให้ใครไปทอดพระเนตรข้าวังหน้า ซ่อมแซมปิดทองเพดานที่ค้างอยู่
สมัยแผ่นดินก่อน เมื่อท่านยังเป็นท่านฟ้าน้อย ยิ่งห้าวกว่านี้ ทรงชุดทหารเรือฝรั่งโก้หรู ใครๆไม่ทันมอง จะนึกว่าพวกฝาหรั่งนาวีมาทำธุระที่บ้านกระดีจีน
ตรงปากคลองบางหลวงลงไปทางใต้สักหน่อยก็จะถึงวัดดอกไม้ ที่ท่านเสนาบดีสองพี่น้องสร้างถวายพระสงฆ์ธรรมยุต แถวนั้นบ้านช่องแน่นหนายิ่งกว่าไก่บินไม่ตก มองไปตามริมแม่น้ำเรือนแพทอดเรรียงรายกันเป็นชั้นๆออกมาจากตลิ่ง เรือนหลังใหญ่หน่อย ที่มีเรือบตลำโตจอดอยู่ แลมีคนพลุกพล่าน เข้าๆออกๆกว่าใครเพื่อน นั่นแหละ เรือนแพของมิศฟะรันซิศ จิต
ไม่แน่ใจ ถามชาวบ้านแถวนั้นก็ได้ เขารู้จักกันทั้งบางแหละ ว่านายจิต บ้านกระดีจีน ช่างชักรูปหลวง แกอารมณ์ดี ชอบจิบชาจีนเป็นกิจวัตร ชุดชาของแก เห็นว่าเป็นของพระราชทานเทียวนะคุณ แต่แกไม่ถือตัวดอก แกชักรูปให้คนเขาไปทั่วแหละ คิดราคาไม่แพง ถูกกว่าอ้ายแลมเบิร์ตที่เคยมาหากินหลายบาทอยู่ มิหนำซ้ำ ค้างค่าชักรูปไว้ก่อนแกก็ยอม ถูกใจแกยังให้ยืมหนังสือดีๆกลับมาอ่านที่บ้านเสียอีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 140 เมื่อ 12 มิ.ย. 06, 09:11
|
|
ไกด์ตัวจริงมาแล้ว ไกด์เถื่อนถอยไปนั่งท้ายเรือ จะเตรียมขนมฝรั่งกระดีจีน กับน้ำชาจีนอิมพอร์ตมากับเรือสำเภา เสิฟให้ลูกทัวร์โดยทั่วกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 141 เมื่อ 12 มิ.ย. 06, 16:03
|
|
 . ทิ้งลูกทัวร์เฉ็ยยย์เลย อาจารย์คงมีธุระยุ่ง เป็นไรเป็นกัน มั่วเล่าไปก่อน ผิด เดี๋ยวมีคนมาแก้เอง
รูปนี้ มาจากสตูดิโอฟะรันซิศจิต ของแท้เลยท่าน หอพระสมุด อุตส่าห์หาเงินซื้อกระดาษ อัดรูปพวกนี้เก็บไว้ดู เสียดาย ประเทศเราเงินน้อย มัวแต่เอาเงินไปซื้ออาวุธ ปีละเป็นหลายร้อยล้าน ไม่มีเงินแค่หมื่นกว่าบาท ทำคลังวัฒนธรรม ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเหลือนะ จริงมะ
ผมเคยล่องยานย้อนอดีต ไปเล็งแล แถวท่าน้ำหน้าโบสถ์ซังตะครูส เห็นเป็นมุมเดียวกับรูปนี้เลยครับ ถามท่านจิตในความฝัน ท่านบอกว่า แม่นแล้วไอ้มดอยากรู้ ข้าตั้งกลองที่ชานเรือนแพ มองไปทางซ้ายมือ ได้มุมงามสมใจปราถนา
ตาอ่ำข้างบ้าน มันยังนั่งงงๆ ว่าข้าขนข้าวของเครื่องมือออกมา แล้วทำไม ไม่ทุกลงเรืออย่างเคย มายืนคลุมโปง ทำอะไรอยู่เป็นนานสองนาน มันไม่รู้หรอก ว่าข้าหมายตามุมนี้มาหลายเพลาแล้ว แต่ถ้าน้ำลด เรือนแพดูโท้งเท้งโต้งเต้ง ไม่สง่างามสมเป็นพระมหานคร ที่พระเจ้าอยู่หัวอดส่าห์ทำนุบำรุง น้ำเต็มฝั่งอย่างนี้ เห็นไหมว่าช่างงามเหมือนคำกวีว่า....เอ ข้าก็ว่ากลอนไม่เป็น วานแม่ครูเทาชมพูช่างจำ ว่ากลอนสรรเสริญพระนครของเก่า ให้ฟังเป็นบุญหูช่างชักรูปหน่อยเท๊อดดดด
พวกช่างก็หยั่งงี้แหละ ภาษาไม่เป็นโล้เป็นพาย |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 142 เมื่อ 12 มิ.ย. 06, 16:07
|
|
.
แผนที่บ้านชักรูปของท่านจิต ตราแดงไว้เป็นเครื่องหมาย จะผิดก็ไม่กี่กระเบียดดอก |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 143 เมื่อ 12 มิ.ย. 06, 20:56
|
|
ผมซักไซ้ท่านอีกหลายอย่าง อาศัยว่าพอจะเคยถ่ายรูปมาบ้าง ทีท่าท่านจะเอ็นดู จึงถามว่า ถ้าเจ้าอยากรู้เรื่องชักรูป มาดูเครื่องมือของข้าใหมเล่า ข้าเพิ่งได้กล้องสี่ตามาใหม่ กำลังนี้ ที่เมืองแก้วเขาเห่อกันยังกับขี้ใหม่หมาหอม เฮ่ยไม่ใช่สิ ยังกับแก้วสารพัดนึก กระจกแผ่นเดียวถ่ายได้ตั้งสี่ท่า อัดเป็นรูปเล็กๆ แลกกันดูน่าปลื้มใจยิ่งนัก ผมได้ยิน หูผึ่งเลยละครับ กล้องสี่ตานี่ อีตาดิสเรรี่ ฝรั่งเศสเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมา เคยเห็นแต่ในตำรา วันนี้ช่างใหญ่จะพาชม โอย โชคดีอะไรปานนั้น รีบโจนขึ้นแพ กลัวท่านจะเปลี่ยนใจ ขึ้นมาแล้วถึงรู้ว่า แพของท่านแม้เป็นลูกบวบเหมือนทั่วไป แต่มั่นคงแข็งแรงผิดกับของชาวบ้านเขา สังเกตดูก็เห็นเสาไม้จริงหน้าเกือบศอก ปักอยู่หลายต้น ล่ามเรือนแพไว้ ไม่โยกเยกตามแรงน้ำ มิน่า ท่านถึงใช้เรือนแพเป็นห้องชักรูปได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 144 เมื่อ 12 มิ.ย. 06, 21:50
|
|
ไกด์ตัวจริงแกโจนขึ้นแพไปแล้ว หายเงียบเข้าไปในห้อง คงจะตื่นเต้นกับกล้องของใหม่สมัยปลายศตวรรษที่ ๑๙ กว่าจะนึกถึงลูกทัวร์ได้ พวกเราก็คงนั่งตากแดดกันหัวแดงอยู่หน้าแพ เนื้อตัวเกรียมหมด ไม่ได้เอาครีมไวทเทนนิ่งมาเสียด้วย อย่ากระนั้นเลย ทิ้งแกไว้บนแพนี่แหละ ไปทัวร์แถวๆนี้กันหน่อย มีอะไรให้ดูเยอะแยะ อีกสักพักค่อยกลับมารับ
แห่งแรกจะเลี้ยวเรือไปชมตำหนักแพ แถวพระบรมมหาราชวังนี่ละค่ะ ไม่ไกลหรอก เห็นอยู่ไวๆตรงมือชี้นั่นไง
ตำหนักแพแลล้ำอำไพ มุขลดพาไลหลังคาสี ช่อฟ้าหน้าบันบราลี ล้วนมณีเนาวรัตน์ชัชวาล
ข้างหน้าตำหนักน้ำนั้นทำกรง สำหรับราชสุริย์วงศ์สรงสนาน เบื้องบนบังสาดดาดเพดาน ผูกม่านมูลี่ลายทอง
ฤดูเดือนสิบเอ็ดเสด็จลง ลอยกระทงทรงประทีปเป็นแถวถ้อง ทอดทุ่นท้ายน้ำประจำซอง ตั้งกองล้อมวงพระทรงธรรม์
อันถนนหนทางท้องฉนวน ศิลาลายลาดล้วนเลือกสรร มีตึกแถวทิมรอบขอบคัน เรือสนมกำนัลเป็นหลั่นมา
(พระราชนิพนธ์ อิเหนา)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 145 เมื่อ 13 มิ.ย. 06, 21:54
|
|
ในความฝันนั้น ท่านอยู่คุยกะผมนานพอดู เสียดายที่ไม่ได้พกเอ็มพี สาม เร็คขอร์ดเด้อร์ไปด้วย จะได้อัดเสียงมาแจกพ่อแม่พื่น้องฟัง ให้สมที่อยากรู้ แต่ก็ดีเหมือนกัน ได้ยินอยู่คนเดียว โก้ไม่หยอก
ท่านขนเอาสมบัติมาอวดหลายชิ้นอยู่ จำได้แม่นก็พวกกล่องไม้สักหลายใบ ใบโตนี่ ขนาดกำปั่นย่อมๆ บางกล่องเล็กหน่อยขนาดโตกว่ากล่องรองเท้า ข้างในเก็บกระจกรูปชักมากมายทีเดียว วิธีเก็บก็ช่างแยบคายนัก ด้านในตีไม้เป็นซี่ทั้งสองฟาก เว้นช่องเท่านิ้วก้อยพอใส่กระจกหนึ่งแผ่น ถ้าท่านนึกไม่ออกก็นึกถึงที่ใส่กล่องซีดีเดี่ยวนี้ เพียงแต่แผ่นกระจกนี่เสียบปักลงตรงๆ เวลาดึงขึ้น ท่านจิตบอกว่าอย่าจับหนักมือ นิ้วจะกินขอบกระจกมากไป ทำน้ำยาถลอก ไม่ก็ติดขี้มือ กลายเป็นเหื่อ ทำกระจกด่าง เสียหายหมด
ท่านย้ำนักย้ำหนา ว่ากระจกพวกนี้แพงมากนะเจ้าหนุ่ม ซื้อเข้ามาแต่ละทีหมดเงินหลายชั่งอยู่ ยังดี พระเจ้าอยู่หัวทรงพระเมตตา ว่าแล้วแกก็ยกมือท่วมหัว ไหว้หันหน้าไปทางทิศเหนือ
เอ็งเห็นเสาธงใหญ่ ลิบๆ ไปทางเหนือโน่นใหมล่ะ มีธงพระจอมเกล้าโบกอยู่ แปลว่าท่านประทับอยู่ในพระอภิเนาว์นิเวศน์ พระองค์สั่งกระจกกะน้ำยาพวกนี้มาใช้ในราชการ มีใช้ไม่มีขาดมือ แลอนุญาตให้ข้าใช้ชักรูปอื่นๆ นอกเหนือ จากที่กรมหมื่นอลงกฏฯ จะรับพระราชกระแสรับสั่งให้ข้าไปชักรูปถวาย ชักรูปแล้ว ก็โปรดให้ข้าเอามาหากินได้ อัดรูปจำหน่ายจ่ายแจกคนอื่นๆ ที่ต้องการ ได้เงินบ้างไม่ได้เงินบ้าง ข้าก็เลยมีช่องทางทำกินได้ไม่ขัดสน แต่ก็ต้องรักษาน้ำยาแลกระจกของหลวงไม่ให้ขาดจำนวนไปด้วย สาธุ...
ฟังแล้ว ผมก็อดเสริมไม่ได้ว่า อ๋อ ผมเคยเห็นครับท่านจิต อีตาเบาริง อ้ายมูโอต์ แล้วก็นางแหม่มแอนนา พวกนี้พิมพ์หนังสือแล้วก็อวดว่า ในหลวงพระราชทานรูปให้ ที่แท้มาจากที่นี่นี่เอง
ฮ้า.... เอ็งก็รู้เรื่องนี้ด้วยหรือ พระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงพระเมตตา ใครขออะไร ท่านให้ได้ เป็นไม่มีขัด มีไอ้ฝาหรั่งอีกคนหนะ ที่ชือมิศโตนสั้น เอ็งรู้จักหรือปล่าว
โตนสั้น ชื่อคุ้นๆ ยังนึกไม่ออกครับ ที่มันไปถ่านรูปเมืองเขมรน่ะ มันมาขอหนังสืออนุญาตจากพระองค์ โฮย ได้ฟามสะดวกมากมายก่ายกองเลย จนมันได้เฝ้าพระเจ้าแผ่นดินขะเหมน ได้คนถางป่าเข้าไปถึงในเมืองร้าง มันยังเคยเอารูปชักปราสาทหินโบราณพวกนั้น มาอวดที่บ้านกะปิตันเฮส์เลย นั่นหนะ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาทั้งนั้น
อ๋อ มิสเตอร์จอห์น ธอมสัน ชาวสก็อตส์ใช่ใหมครับ ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นชาวอะไร เห็นว่ามาจากเมืองใหม่ เอ็งเรียกว่ามิศต็อมสั้นหรือ นั่นละ คงจะคนเดียวกัน หมอนี่มาใช้เครื่องมือของข้าหลายอย่างเหมือนกัน ยังเคยไปถ่ายรูปด้วยกันอยู่หลายหน คราวถวายผ้าพระกฐินทางชลมารคก็หนหนึ่ง อีกหนก็คราวโสกันต์สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ฝีมือเขาดีอยู่นา ถ่ายแสงแดดคมชัดน่าชมทีเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 146 เมื่อ 13 มิ.ย. 06, 22:06
|
|
.
รูปจากพิมาย ฝีมือของยอดฝีมือ รูปนี้ ต้องเรียกกองกำลัง ให้ถางป่าเข้าไปทำงานครับ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 147 เมื่อ 13 มิ.ย. 06, 22:16
|
|
 . เด็ดสุดๆ ครับ ฟะรันซิศจิต เซ็นต์ชื่อไว้ด้วย |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 148 เมื่อ 13 มิ.ย. 06, 22:24
|
|
 . ชุดเดียวกัน แต่มีทีเด็ดยิ่งกว่ารูปก่อน |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 149 เมื่อ 13 มิ.ย. 06, 22:26
|
|
 . เห็นอะไรตรงธรณี และที่ซ่อนอยู่ในคูหาใหมครับ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|