เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 12
  พิมพ์  
อ่าน: 35355 มดอยากรู้ สำรวจกรุภาพเก่า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
 เมื่อ 05 มิ.ย. 06, 23:15

 อาจารย์เทาชมพุท่านช่างเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ได้ละเอียดยังกับตัวมดในสมุด (อันนี้โดยเสด็จ สำนวนของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่เอ่ยถึงพระยาอนุมานราชธน ว่า เหมือน "ตัวหนอนในสมุด" แต่เดี๋ยวนี้เราใช้ว่าหนอนหนังสือ)

ผมมีรูปเก่าๆอยู่จำนวนหนึ่ง บางรูปมีคุณภาพดีมากๆ ขนาดขยายใหญ่ราวๆ 2000% ก็ยังดูรู้เรื่อง ตอนแรกกะว่าจะแอบเอาไว้ชื่นชมคนเดียว แต่ตามนิสัยขี้อวด อดมาแพลมให้พวกเราดูมิได้

ใครจะไปนึกว่า ท่านจะเล่าเรื่องในรูปพวกนี้ สนุกยังกับผู้ใหญ่หลอกเด็ก อย่ากระนั้นเลย เราเป็นเด็ก หลอกท่านเล่านิทานเรื่องจริงจากรูปถ่ายของมิศฟะรันซิศ จิต ช่างภาพคู่พระทัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกันดีกว่า
---------------
รูปเปิดเรื่องคือบ้านริมน้ำ ระหว่างวัดแจ้งกับวัดระฆัง โบสถ์ที่เห็นเป็นฉากหลัง คือวัดเครือวัลย์ แถวนี้ ท่านสุนทร จรไปมาเป็นประจำ  
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 05 มิ.ย. 06, 23:25


.

รูปเปิดเรื่อง เป็นส่วนหนึ่งของรูปนี้ครับ
หลังคาโอ่อ่ากลางรูป คือกรมท่า เป็นออฟฟิศของเจ้าพระยาทิพากรวงษ์  
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 05 มิ.ย. 06, 23:31


.

และเป็นส่วนหนึ่งของรูปนี้  
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 05 มิ.ย. 06, 23:37


.

และ
สามารถประกอบเป็นรูปนี้  
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 05 มิ.ย. 06, 23:45


.
คราวนี้ มาดูลูกน้องเจ้าน็อกส์กัน รูปนี้เขายังเป็นฝรั่งพเนจร รับราชการฝึกทหารให้พระปิ่นเกล้าอยู่ครับ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 05 มิ.ย. 06, 23:56


.
ลูกน้องเจ้าน็อกส์ คงมาแอบพักระหว่างฝึกกระมัง
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 06 มิ.ย. 06, 00:17

 แอบเป็นแมลงสามง่าม แวบเข้ามานั่งเกาะๆขอบรูปเก่าๆพวกนี้ก่อน อิอิ
แต่กินม่ะลงอ่ะ รูปซ๊วยสวย ชัดแจ๋วเลยนะครับ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 06 มิ.ย. 06, 00:17


.
รูปทั้งหมด ถ่ายโดยนายจิต ซึ่งต่อมาได้เป็นขุนสุนทรสาทิศลักษณ์ แล้วมาเป็นหลวงอัคคีนฤมิตรในสมัยรัชกาลที่ 5
ท่านมีชื่อตัว ว่า ฟะรัน ซิศ จิต Francis Chit เป็นไทยแท้สืบเชื้อสายมาจากทหารอาสาโปรจุเกต ครั้งกรุงศรีอยุธยา ตอนกรุงแตก ชาวไทยเลือดผสมเหล่านี้ หนีภัยมาร่วมสร้างแผ่นดินใหม่กับเจ้าตาก จนได้รับพระราชทานที่ดินแปลงใหญ่ ตั้งมั่นเป็นชุมชนใหญ่ใกล้พระราชวังธนบุรี บริเวณวัดประยุรวงศ์และวัดกัลยาณฯ ที่ปัจจุบันเราเรียกอย่างหมดราคาเลยว่า ชุมชนซังตาครูส

ในสมัยธนบุรีมาถึงรัชกาลที่ 5 ชุมชนนี้ คือที่รวมของวิทยาการล้ำยุคทั้งปวง เพราะเป็นพวกเดียวที่ติดต่อฝรั่งตะวันตก พูดจากันรู้เรื่อง ราชสำนักได้อาศัยชาวไทยเหล่านี้เป็นล่าม เป็นช่างเทคนิค และเป็นฝายความมั่นคง

ท่านเหลานี้ ส่วนหนึ่งยังยึดมั่นในความเชื่อแคธอลิก บ้างก็เปลี่ยนเป็นไทยพุทธ ฟรันซิศ จิต ใช้ชื่อตามนักบุญของท่าน แต่ลูกของท่านกลายเป็นพุทธไปแล้ว ทุกวันนี้ยังมีที่สืบอาชีพช่างภาพเหมือนต้นตระกูล เป็นชั่วที่ 5 แล้วกระมัง


------------------
แก้ไขครับ ในรูปความเห็น 4 และ 5 นี่ ถ่ายตอนปลายรัชกาลที่ 4 ดังนั้นเจ้าน็อกส์ได้ดี เป็นกงศุลอังกฤษไปซะแล้ว  
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 06 มิ.ย. 06, 00:30

 รูปไม่สวยจะหลอกครูไหว ไหวรื้อ


นี่ท่านคงไปรื้อตู้หนังสือกระจุยกระจาย
พรุ่งนี้จะมาบ่นปวดหลัง และจามฝุ่นสมุดจนหน้าแดงเชียว

เอ้า น้องๆ ที่ใต้ถุนเรือน หายาหม่อง ยาลม และยาม้า..
เฮ้ยไม่ใช่ ยานัตถุ์ เตรียมไว้ด้วย
พรุ่งนี้ได้ฟังโบราณนิทานคดีกันอร่อยแน่
เชื่อหัวติบอได้

เว้นแต่จะค้นหนังสือจนหลังยอก....5555555 เล่าม่ายหวายยยย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 06 มิ.ย. 06, 07:35

หลอกเด็ก...เอ๊ย...หลอกยายแก่  บาปนะหลานเอ๊ย
ย่าไหวแกก็รู้ว่าตาพิพัฒน์รู้เยอะกว่า    แต่ไม่อยากเมื่อย  ขอโพสต์ภาพลูกเดียว  เลยโยนกลองมาให้ครูไหวแกยังงั้นละ
************************
ตอนนี้นั่งอยู่ในที่ห่างไกลตู้หนังสือ เอาความทรงจำไปก่อนค่ะ  บ่ายนี้เจอหนังสือ  จะเก็บมดมาเล่าให้ฟังทีละตัว

เริ่มอินโทรที่วัดเครือวัลย์ ที่มองเห็นโบสถ์ในฉากหลังของภาพที่ ๑  ขอชวนนั่งเรือข้ามแม่น้ำไปทางฝั่งธน   ไปเที่ยวประวัติวัด  ส่วนตัววัดไปถ่ายรูปเอาเองได้
ปัจจุบันวัดอยู่ติดกับกรมอู่ทหารเรือ  เป็นฌาปนสถานของกองทัพเรือ

วัดเครือวัลย์ได้ชื่อตามเจ้าจอมเครือวัลย์    ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว    เจ้าจอมท่านเป็นธิดาในสกุลบุณยรัตพันธุ์  สายเจ้าพระยาภูธราภัย(นุช) ขุนนางบิ๊กเบิ้มท่านหนึ่งในรัชกาลที่ ๓

พวกบุณยรัตพันธุ์ สืบย้อนประวัติต้นสกุลไปได้ถึงสมัยพระเจ้าทรงธรรม    ต้นสกุลเป็นพราหมณ์พฤติบาศมาจากอินเดีย  
พราหมณ์พวกนี้เป็นพราหมณ์ตระกูลสูง   มีหน้าที่ทำพิธีเกี่ยวกับช้างและปัดเสนียดจัญไร  
ในเมื่ออาณาจักรอยุธยาอุดมไปด้วยช้าง ใช้ในการศึกและการเดินทาง    การคล้องช้างจึงเป็นเรื่องใหญ่ทำกันทุกปี
คล้องทีก็ไม่ใช่สั่งพรานเข้าไปคล้องเอาดื้อๆ  มีขั้นตอนกระบวนการหลากหลายค่ะ  กษัตริย์ลงมาเองเลยเชียว   ตลอดจนต้องมีพระราชพิธีทำเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย

ช้างเอกๆที่คล้องมาได้เพื่อเป็นพระราชพาหนะออกศึก   เป็นพญาช้างป่าดุร้ายพยศนัก  มีตบะอำนาจสูง
กวีในราชสำนักก็ต้องแต่งคำสังเวยกล่อมช้างให้อ่อนน้อมยอมเชื่อง    จึงเกิดฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างขึ้นมาหลายบทประดับวงวรรณคดี   ใช้คำประพันธ์ประเภทฉันท์  ซึ่งถือกันว่าเป็นของสูง
พราหมณ์พฤฒิบาศก็เลยเข้ามาประจำในราชสำนักอยุธยาด้วยเหตุนี้ละค่ะ
สืบเชื้อสายกันมาถึงตอนกรุงแตกครั้งที่สอง  นายบุญรอด ลูกหลานคนหนึ่งรอดมาได้สมชื่อ    เข้ารับราชการสมัยธนบุรีต่อเนื่องมาจนรัตนโกสินทร์  
จนได้เป็นเจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช  
ล่วงมาถึงรัชกาลที่ ๖ เมื่อมีพระราชบัญญัตินามสกุล  ลูกหลานก็นำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานนามสกุล
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ ทรงแปลงชื่อ บุญรอด จับบวชเป็นบาลีได้เก๋มากว่า  "บุณยรัต"  แล้วทรงเติมคำว่า พันธุ์ลงไปให้รู้ว่าสืบเชื้อสายจากนายบุญรอด
บันทึกการเข้า
B
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 148


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 06 มิ.ย. 06, 08:00

 มาลงชื่อให้กำลังใจคุณ pipat เจ้าของกระทู้ค่ะ

ดิฉันยังไม่มีเวลาอ่านอย่างละเอียดเลยค่ะ คุณพิพาท (ชอบชื่อนี้ค่ะ อิอิ) กำลังยุ่งมากๆ ทั้งๆที่อยากคุยๆๆ

ขอบพระคุณทั้ง อ.เทาชมพูและคุณพิพัฒน์จริงๆค่ะ สำหรับกระทู้ดีๆแบบนี้
บันทึกการเข้า
กุรุกุลา
พาลี
****
ตอบ: 235


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 06 มิ.ย. 06, 08:36

 ผมคิดว่าซางตาครูสก็เป็นชื่อที่ดีนะครับ คุณpipat

อยากไปดูหลุมฝังศพท่านเหมือนกัน ถ้าท่านเป็นคาทอลิกจริงก็น่าจะมีสุสาน แต่ได้ข่าวว่าเขาย้ายป่าช้าซางตาครูสไปไว้ที่สามพรานแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะยังมีอะไรเหลือบ้าง

อืม เห็นที่เสื้อท่านมีกระดุมประกอบตัวอักษร พอทราบที่มาไหมครับ

อีกอย่างครับ เห็นรูปพระที่นั่งพุทไธสวรรค์ด้านข้าง ตรงสนามหญ้ายังมีสิ่งปลูกสร้างอยู่เลย ตอนนี้กลายเป็นสนามหญ้าเอาไว้ดูสังคีตศาลายามเย็นไปแล้ว อยากทราบว่าเมื่อก่อนมันเป็นอะไรครับ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 06 มิ.ย. 06, 08:58

 วัดเครือวัลย์นี้แหละครับ มีอัครจิตรกรรมฝาผนังหนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์ เคยมีการพิมพ์ออกมาเป็นเล่มสมุดงดงาม เนื้อเรื่องไม่มีที่ใหนเหมือน สมัยเรียนหนังสือชอบมาดูเป็นที่สุด นับเป็นครูสอนการผูกเรื่องเล่ารูป ฝีมือเขียนก็เปี่ยมรสนิยม แถมคิดค่าแรงง่าย เพราะแบ่งช่องเท่าๆ กัน

ไม่บอกว่าเป็นเรื่องอะไร ทิ้งให้อยากรู้ อยากรู้ก็ต้องถามและจะต้องมีน้ำมะตูมจากตรอกมะตูมแถวนั้นมาฝากด้วยนะจ๊ะ
ครูไหวจะได้ไม่คอแห้ง

จำได้เลาๆ ว่าหมื่นพรหมสมพัสตรสร (ไม่รู้เขียนถูกหรือปล่าว) หรือเสมียนมี จะทำงานเป็นช่างเขียนวัดนี้ด้วยซี
จำได้แต่ที่ท่านบ่นว่า...เอาเงินล่อพอใจ ไม่เจ็บหลัง....

เสมียนมีนี่เป็นตัวอย่างพิเศษของช่างเขียนที่ขอรับพระราชทานเปลี่ยนอาชีพได้
เกิดมาเป็นช่างเขียน แต่ตายโดยเป็นกวี

มีใครเก๋ได้เท่านี้ใหมฮะ....

-----------คุณ B หายไปหลายเพลา ทำชาวประชาคิดถึง
อ่านละเลียด พิศให้ละเอียด ย้อนไปวกมา ไม่ต้องเกรงใจเวลา เพราะเราเป็นพวกย้อนกระแสแห่งการไหลไปของเวลานะครับ

รูปเปิดเรื่องไม่จุใจ เอาใหม่ให้สมกับที่จะเล่าเรื่อง จากวัดแจ้งไปสวนมังคุด ฮิฮิ
.
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 06 มิ.ย. 06, 09:23

 เรียนคุณ กุรุกุลา คำว่าซังตาครูสน่ะดีแน่
แต่คำว่าชุมชนนี่สิน่าเกลียด
ในทางการปกครองเขาหมายถึงอย่างเดียวกับคลองเตยน่ะครับ คำนี้สายสังคมสงเคราะห์เขาถนัด


ผมให้ประหลาดใจยิ่งนัก ว่าสังคมไทยนี่ทำไมชำนาญในการทำลายคุณค่าทางมานุษยวิถีกันนัก อย่างการตั้งชื่อซอยเป็นตัวเลขอย่างนี้เป็นต้น ชื่อบ้านนามเมืองสูญหายเกลี้ยงเกลา สะดวกก็แต่พวกแท็กซึ่กระมัง

การจำชื่อซอยเป็นเลขนี่ ทำลายความผูกพันธ์ต่อถิ่นของประชาชนหมดสิ้นครับ ผมว่า

ทำไมไม่ใช้ว่าบ้านซังตะครูส หรือบ้านกระดีจีน ตามโบราณนิยม หรือนึกเอาว่าบ้านเป็นเอกพจน์กระมัง
พอจะใช้หมู่บ้าน ก็เดียจฉันท์ว่าบ้านนอก
พวกนี้ รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ......

ผมขยายกระดุมสามเม็ดมาฝาก
พิจารณากันเอาเอง ผมเห็นของผมว่าเป็นพระปรมาภิไธยย่อ

ไม่รู้ใช่หรือปล่าว ตาไม่ค่อยดีครับ  
บันทึกการเข้า
B
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 148


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 06 มิ.ย. 06, 09:26

 ถ้า ชาวประชา ที่คิดถึงดิฉันชื่อคุณพิพัฒน์ล่ะก็ เป็นปลื้มค่ะ    

ใกล้จะจบได้กลับบ้าน กลับไปทวงซีดีเต็มทนแล้วค่ะ คุณพิพัฒน์
ซีดีน่ะ ไม่ขอรับทางเมล์นะคะ แต่จะไปสวัสดีด้วยตัวเองค่ะ อยากรู้จักคนเก่งอย่างคุณพิพัฒน์ อยากไปชมภาพของจริงด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 12
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.079 วินาที กับ 19 คำสั่ง