เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 5
  พิมพ์  
อ่าน: 12295 สรรพเพเหระ...ชวนคุยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
 เมื่อ 30 พ.ค. 06, 19:33

 ผมไปทำเลอะเทอะที่ห้องชาวบ้านเขา จนออกจะเกรงใจ
เขาพูดซ้าย ผมก็เฉไปขวา เขาพูดบน ผมก็มุดล่าง
ถูกแซวมาหลายที

เอางี้นะครับ เปิดห้องใหม่ เป็นสรีระสำราญละกัน หรือไม่ก็สามแยกปากหมาน ..แหะๆ

โรงเรียนเก่ามีสามแยกที่ว่านี่ อยู่ใต้ร่มพิกุลโบราณ ใครไม่รู้เอาเก้าอี้ยาวมาตั้ง อยู่หน้าประตูติดโรงอาหาร
กลิ่นพิกุลอบอวล ยังมิอาจเปลี่ยนนักเรียนช่าง ให้หอมขึ้นมาได้ แม้สักชั่วอึดใจมด
แต่มาอยู่เรือนไทย อาจจะดีขึ้นมาบ้าง

ฝากห้องนี้ในอ้อมใจมิตรรักนักเลงนะครับ  
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 19:43

 หลงปู่
อย่าลืมอาจารย์ทวด ขรัวอินโข่ง กระทู้โน้นนาครับ รออ่านอยู่

...สามแยกปากหมา-น รู้สึกจะมีกันอยู่ในหลายสถาบันครับ เข้าใจว่าเป็นอาการร่วมกันของเด็กผู้ชายวัยฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน ตอนจวนเป็นหนุ่มหรือหนุ่มต้นๆ   อิอิอิ

สามแยกของ ครูพัฒน์หัดประดิษฐ์คิดอักษร ท่านอยู่ใต้ต้นพิกุล ซึ่งในภาษาเยอรมันน่าจะเรียกเทียบได้ว่า Under den Linden แปลตรงตัวเป๊ะเลยว่า "ใต้ต้นพิกุล" เหมือนกัน เป็นชื่อตำบลหรือย่านหนึ่งซึ่งค่อนข้างดังในกรุงเบอร์ลิน เยอระมะนี ขะรับ แต่ตรงโน้นที่ประเทศเยอรมันมีสามแยกปากหมานเหมือนเมืองไทยด้วยหรือไม่ ข่าวรอยเต่อไม่ได้แจ้ง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 19:53

 สามแยกปากหมาที่ดิฉันเคยเห็น  เป็นแหล่งที่ชาวเรือนไทยคนหนึ่งเคยสิงสู่อยู่
ย้อนกลับไปในวัยที่คุณนกข.เรียกว่าฮอโมนส์ยังฉีดพลุ่งพล่าน
แต่ไม่เคยเห็นกันค่ะ  เข้าใจว่าอยู่กันคนละยุค  เพราะคนหนึ่งๆก็อยู่กันแค่ 4 ปี

ตอนนี้หายไปไหนไม่รู้  อาจจะจากเรือนไปแล้วไม่กลับ หรือแวะกลับมาเป็นเสือซุ่ม   ก็ไม่อาจเห็นได้
ชื่อคุณถาวภักดิ์
ถ้าหากว่าแวะมา  ก็อยากฟังวีรกรรมของคุณถาฯอยู่เหมือนกัน
เพราะดิฉันไม่เคยเดินผ่านแถวนั้นเลย   มันมีทางอื่นให้เดินออกแยะไป
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 20:09

 สามแยกของผมออกจะเจริญหูเจริญตากว่าที่คุณนกข.ว่า ซึ่งน่าจะเป็นที่ไปมาของถังเบียร์ขนาดต่างๆ

ของผมเป็นสาวอ้อนแอ้น นุ่งผ้าแดง วิ่งไล่กันไปมาวันละสี่ห้าร้อยนาง ตั้งแต่สิบขวบต้นจนสิบขวบปลาย ดาราหลายคนก็เห็นมาแต่ตัวกะเปี๊ยก



แต่สามแยกบันลือโลก ต้องยกให้ใต้ลั่นทม หน้าประตูทางเข้ากรมศิลปากร ราว 2510' ถึงลงข่าวไทยรัฐ

พวก นั่งกันจนรากไม้เป็นมันเงาวับ  แต่..จะเรียกนั่ง บางทีจะไม่ถูก เพราะกระดูกสันหลัง อยู่พ้นผิวโลกขึ้นมาไม่มาก



ดูเหมือนประยูร จรรยาวงศ์จะเป็นคนโวยวายมาก่อน จนสุดท้ายสถาบันต้องสั่งห้าม

แต่ ...คุณเอ๋ย ผมลองนั่งแล้ว มันสะบายอย่าบอกใครเลย รากไม้คดโค้งรับกับสรีระ



จะแพ้ก็ที่ไทรงามกระมัง



ไม่ลืมแน่ครับ ท่านขรัวต้นโคตรของผม หยุดไปสักหลายวัน มาใหม่ไฉไลกว่าเก่า จะเถียงนักปราชญ์ทั้งที ไม่เตรียมสะเบียงไม่ได้หรอกครับ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 20:30


.



ยกมือขึ้นถามแทนสาวๆทั้งแท้และเทียมทั้งหลาย ที่ปวารณาเป็นเหล่าสาวิกาพระสรัสวดีและแอบแผงเป็นแฟนเรือนไทยอยู่
ว่าแล้วครูพิพัฒน์จะลืมพระสรัสวดีมั้ยน๊อ หรือจะปล่อยให้รอแล้วรอเล่า หลังนกยูงโดนยึดไปเป็นฟลอร์ลีลาศจนแอ่นแล้วแอ่นอีกหรือเปล่าครับเนี่ยะ หิหิ


ปล. เรื่องกระทู้อื่น ไม่กล้าพูดถึงครับ
มันหวาดเจี๋ยวอ่า แหะๆ

ปล.2 ผมยังงงไม่หาย ว่าพระสรัสวดีเป็นชายาใครกันแน่อ่ะครับ คุณpipat ทำไมในธิเบตบอกว่าเป็นชายาพระโพธิสัตว์หว่า ??
เด็กน่อยผู่นี้งงอีหลีเด้ออ้าย
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 21:04

 ธิเบตบอกว่าอะไรเฮียอย่าไปสนเลย ที่นั่น พระเขารับจ้างชำเราสตรีเพศ อ้างว่าเป็นการเข้าสู่นิพพานผ่านเนื้อหนังมังสา

ดร. ท่านหนึ่งที่จุฬาทำเอกมาจากอินเดีบ เล่าเสียผมงงว่าฮินดูเข้าข่มพุทธได้หนักแน่นถึงเพียงนี้เชียวหรือ

ถ้ายกมหายานธิเบตมาถกกันละก้อ ผมยกธงขาวตั้งแต่ยังไม่จัดทัพเลยละครับ อย่างท่านทะไลลามะ ผมดูข่าว เห็นท่านเดินจูงมือประธานาธิบดีหญิงแอฟริกัน ยิ้มแย้มแจ่มใส
จนบัดนี้ก็ยังงงว่า ตกลงท่านเป็นพระเซ็นหรือไง
สายนั้นมีลูกเมียได้
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 21:33

 ผมรู้สึกแปลกๆ กับพระหลายนิกายแล้วล่ะคุณpipat ตั้งแต่ไหนก็ไม่รู้
จะบอกว่าตั้งแต่ใส่จีวรสวยๆ ก็น่าจะก่อนหน้า หรือตั้งแต่ปั้นพระรูปมหาบุรุษขึ้นมาเป็นพระพุทธเจ้าก็อาจจะว่าได้


แต่จะว่าไป ถ้าคำสอนของศาสนาทำให้เราสงบได้เราก็สงบที่ใจพระจะทำอะไรไปก็เรื่องของพระ
อย่ามาทำให้ชาวพุทธเชื่องมงาย ชี้แสงเลเซอร์เป็นปาฏิหาริย์ชาวบ้านก็ดีใจร้องไห้ ชี้อาบัติเป็นถูกชาวบ้านก็ศรัทธา
แบบนั้นขออนุญาตเรียกเองครับ ว่า "ชาวบ้า"บ่ใจ้ "ชาวบ้าน" เพราะบ้างมงายไร้สาระเชื่อพระที่ศีลข้อ 3 ก็รักษาไม่ได้ได้ลง



อ่อ ว่าแล้วก็มีคำถามมาถามคุณพิพัฒน์นิดนึง ว่าภาพที่คุณพิพัฒน์ให้ดูว่าพระภิกษุใช้จีวรลายเนี่ยะ
ถ้าผ้าผืนนั้นเป็นผ้าลายที่ชาวบ้านอยากถวาย แล้วพระเอาไปย้อมกรักมาห่มอีกที จะสรุปได้มั้ยครับ ว่าพระใช้จีวรลาย
เพราะผ้าสมัยนั้นมันก็ทอยาก ทำยากอยู่นะครับ แหะๆ

(ผมชวนเข้าปรัชญาเซนมากไปหรือเปล่าเนี่ยะ แหะๆ)
บันทึกการเข้า
กุรุกุลา
พาลี
****
ตอบ: 235


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 22:33

 พระโพธิสัตว์สรัสวดีเป็นศักติของพระโพธิสัตว์มัญชูศรีครับ คุณติบอ
บันทึกการเข้า
Its me
อสุรผัด
*
ตอบ: 7

Chief engineer at Mueller Engineering, Inc. in Wisconsin, USA.


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 23:05

 I was a member of the famous "Sam Yak" too. That was in front of "Tuek Jak". Our hormones made us chant "left-right-left" to see arts students tried to walk out of sync.
I have to corect Khun "Pink/Grey" about how many years I spent there. Four years was too short to enjoy life at the "Red Palace". I was an exchange student the first year. It took me 5 more years to leave the palace.
We did not have our own cafeteria then. That was a good excuse to have lunch at other faculties. My faverite was at the Faculty Union by the pond next to the Arts Faculty.
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 23:53

 สมัยผม(เกือบ 20 ปีแค่นั้นเอง)สามแยกหน้าตึกจักรพงษ์หายขลังไปเยอะแล้วครับ

ส่วนตัวผมเองยึดสามแยกสิงสู่อยู่ร่วม 3 ปีเพราะความเป็นเจ้าถิ่น ตึกไฟฟ้าอยู่ตรงนั้นนั่นเอง

กิจกรรมแซวสาวกลายเป็นแค่การสืบทอดเล่าเรื่องราวให้น้องๆฟัง(มีการสาธิตประกอบเล็กน้อย)

ตัวผมเองดันใช้เป็นที่นั่งทำการบ้าน เขียนรายงานไปซะได้ ยิ่งหลังๆนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เข้าใจว่าเกิดชุมชนใหม่ "ลานเกียร์" ส่งผลให้ชาวปราสาทแดงถอยเข้าไปซุกอยู่ลึกในคณะ

เดาว่าคงแทบจะปิดฉากตำนาน "สามแยกปากหมาน" ที่เป็นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งไปเลย

การตะโกน "ซ้าย-ขวา-ซ้าย"  ให้จังหวะเทพธิดาแห่งเทวาลัยอย่างในสมัยท่านพี่ Its me คงจบเห่ไปพร้อมๆกันนั่นแหละ

แม้... เสียดายจัง
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
เฟื่องแก้ว
พาลี
****
ตอบ: 327

เลขานุการ


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 31 พ.ค. 06, 00:12

 เรื่องสัพเพเหระละถนัด

ขอเลี้ยวเข้าสามแยกปากหมานหน่อยเถอะ คันยิบๆ

ทีสัพเพเหระอย่างนี้ละ ใช้ ร หัน นะคะ ครูพัด อิอิ

ขอเล่าเรื่อง พระยุคใหม่ สู่ให้กันฟัง
เน้นตรงนี้ก่อนว่า ไม่ใช่ความเห็นส่วนตัวนะคะ

มีพระรูปหนึ่งทำงานวนๆเวียนๆ อยู่แถวๆ บางที่เฟื่องอยู่
แกก็เป็นพระนิกายเถรวาทอย่างเราๆ นี่แหละ (ไม่ใช่พระไทยนะคะ)
ท่านเล่าว่า ตอนที่ท่านเรียนมาเรียนปริญญาโทที่ฝรั่งเศส
อาจารย์ที่ซอร์บอนน์ถามว่า จะไหวหรือหลวงพี่ ครองผ้าเหลืองจีวรปลิวเข้ามหาวิทยาลัย
ชาวบ้านจะแตกตื่นหมดนา
อาจารย์ชี้แจงว่า เข้าใจดีว่า พระเป็นพระในพุทธศาสนา
แต่ก็ขอให้พระ สลัดผ้าเหลืองชั่วคราว เพื่อให้กลมกลืนกับคนอื่นๆ
อย่างน้อย ก็ขออย่าให้ครองจีวรมาเข้าชั้นเรียน

ขยายนิดหนึ่งว่า ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศ Laic ไม่มีศาสนาประจำชาติ
และในสถานศึกษาค่อนข้างเคร่งครัด เรื่องการแสดงออกด้านศาสนา
การสวมเครื่องราง สัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ไม้กางเขน หรือผ้าคลุมผม เป็นของต้องห้าม

พระก็เลยไม่ห่มจีวรเมื่ออยู่ในสังคมประเทศฝรั่งเศส
แต่เวลาจำวัด ก็สวมจีวรปกติ โชคดีที่ผมสกินเฮดมาเข้าสมัยตอนนี้
ถ้าออกมาข้างนอก พระก็สวมชุดเสื้อกางเกงสีออกเฉดหม่นๆ
ตัวเสื้อคล้ายเสื้อพระราชทานคอปิด แกมีเป็นหลายตัว คล้ายเครื่องแบบ

พระเล่าให้ฟังแล้วก็บอกว่า พระยึดหลักว่า
ถ้าจะทำงานให้คนเข้าถึงศาสนา
คนของศาสนาต้องกลมกลืนกับคนในสังคม เพื่อเผยแพร่ศาสนา
ตอนนี้ พระทำงานในองค์กรนานาชาติ
และเช็คแฮนด์กับเพื่อนร่วมงานสุภาพสตรีได้ (หากจำเป็น)

แต่ขณะเดียวกัน พระก็เคร่งวินัยมาก ไม่ดื่มเหล้า ไม่ฉันเนื้อสัตว์นอกจากปลา
และมีความรู้กว้างขวางมาก ทั้งทางโลกและทางธรรม
เข้าทำนองเป็นพระในนิกายเถรวาท แบบประยุกต์ให้เข้ากับสมัยปัจจุบัน

(พระรูปนี้ เป็นหนึ่งในแกนหลักในการจัดงานวันวิสาขบูชาที่เมืองไทยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาด้วยค่ะ)  
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 31 พ.ค. 06, 00:20

 นี่ถ้าพวกเรารวบรวมรายละเอียดของ สามแยก"นรก" (สำหรับคนที่รู้ตัวว่าสวย) ไปเรื่อยๆแล้วละก้อ จะมิเป็นการจำกัดสิทธิทางเพศมากไปใหมเนี่ย เดี๋ยวเจ๊เบียบแกก็อยกพลมาถล่มเรือนไทย 555

ผมขอเอาใจสาวๆ ด้วยคำเตือนจากอิตาลีว่า
เจ๊ หรือ หมวย ท่านใด เดินผ่านหนุ่มอิตาเลี่ยนที่จับกลุ่มเกินสามคน แล้วไม่ได้ยินเสียงอะไรดังออกมาสักแอะ ไม่มีไอ้กะล่อนวิ่งล้อมหน้าล้อมหลัง หรือไม่ได้ดอกไม้สักดอกเขวี้ยงใส่ละก้อ
ท่านว่า เธอคนนั้นวิกฤติหนักเลยเชียวแหละ
แต่ถ้าเดินตลาด แล้วมีใครแอบหยิกก้นสักแหมะ ก็จงภูมิใจในเสน่ห์อันจรุงใจ และมั่นใจได้ว่า มีดีพอเชิดใส่ไอ้เบื๊อกตามสามแยกได้อีกหลายปีเชียว

มีของมายั่วครับ เฮียปักกิ่งอยู่หรือเปล่า ที่เมืองจีนมีแบบนี้ถูกๆ ขายใหมครับ
Kenneth Clark : Civilisation
Jacob Bronowski : The Ascent Of Man

.
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 31 พ.ค. 06, 00:24

 สมัยดิฉัน สามแยกนี้ยังมีอยู่ค่ะ อย่างมั่นคงเข้มแข็ง พวกเขาก็จะโดนเราแก้เผ็ดเมื่อเดินผ่านลานชงโคหลังห้องสิบเช่นกัน
แต่ที่ทำให้พวกเราขำมาก คือที่บันใดตรงตึกถาปัดมากกว่า ซ้าย ขวา ซ้าย ...ๆๆๆๆ
และบางทีก็ทำหน้าตาน่าเกลียดมากๆแกล้งสาวๆที่เดินผ่าน
พวกนี้ ชอบโผล่หน้าต่างมาหลอกเราตั้งแต่อยู่เตรียมแล้วค่ะ
คณะที่เรียบร้อยก็พวกวิดยา กับเภสัช คงเป็นเพราะพวกเขาเรียนหนักจนไม่มีอารมณ์ขันกันเท่าไหร่มังคะ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 31 พ.ค. 06, 00:52

 ใครว่าเด็กวิดยา เภสัช แพทย์ ทันตะ สัตวะ เรียบร้อยครับ
ผมขอเถียงคอเป็นเอ็นเลย (น่ากลัวอ่ะ คอก็ต้องเป็นคอสิ ทำไมสำนวนไทยต้องให้คอเป็นเอ็นก็ไม่รู้อ่ะ)


คณะพวกนี้น่ะบทจะแรงขึ้นมาต่อให้เอาช้าง หรือ รถไถมาฉุดไว้ก็ไม่อยู่ล่ะครับ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 31 พ.ค. 06, 01:12

 นู๋เฟื่อง ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติ
แสดงว่าผมกับตุ๊ดตู่ออนไลน์ เอหรือจะเป็นบ้องตันดี เดินกันคนละแนว โดยมิได้นัดหมาย
เพราะดันไปคิดว่าใช้สัพเพ...มันจะลากเข้าวัดเกินไป
สรรพเพนี่ กวีดีออก ฮิฮิ...
คือไม่ชอบสับ มันฟังกระด้าง สับเพ ...สับเพ
หางเสียงไม่เชื่อมกันเลย

ต้องถี่ถ้วนกว่านี้อีกมาก ขอบคุณอีกทีนะจ๊ะ

เออ  ห้องนี้ไร้สาระสมใจเชียวแฮะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.057 วินาที กับ 19 คำสั่ง