เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
อ่าน: 32498 กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เขียวมะกอก
อสุรผัด
*
ตอบ: 2

กำลังศึกษาปริญญาโท


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 29 พ.ค. 06, 14:19

 ขอจงทรงพระเจริญ
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 29 พ.ค. 06, 19:48

 อันนี้ เป็นบทความภาษาฝรั่งของท่านอานันท์ ปันยารชุน ลงตีพิมพ์ใน IHT วันที่ 26 พ.ค. คือในวันเดียวกับที่ในหลวงทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลนี้ครับ



//The Wisdom of the 'Middle Path’



By Anand Panyarachun International Herald Tribune

 

THURSDAY, MAY 25, 2006



BANGKOK A simple ceremony is taking place Friday in a royal palace in Thailand: the UN secretary general, Kofi Annan, is presenting His Majesty King Bhumibol Adulyadej of Thailand with a Human Development Lifetime Achievement Award.

 

The meaning behind the event has profound relevance to a world grappling with the threat of global warming and the negative side effects of rapid globalization. The award from the UN Development Program is in recognition of the king's visionary thinking and extraordinary contributions in helping the poor and conserving the environment in Thailand.

 

The thinking that won this prize deserves international attention. While globalization has clearly brought huge benefits to many people around the world, these benefits are unevenly spread. More than one billion human beings are still living in abject poverty and communities around the world are precariously exposed to financial instability, unfair trade, soaring fuel prices, and environmental impacts.

 

Something has to give. We are in desperate need of technological solutions to our energy problems, a more equitable distribution of wealth, a level playing field for international trade and more generous development aid to poor countries. But this will not be enough. A more profound transformation of our societies, our values and the way we consume is needed.

 

The king's philosophy of "sufficiency economy" offers just that - a more balanced, holistic and sustainable path of development and an alternative to the clearly unsustainable road the world is currently traveling down.

 

Inspired by Buddhism, this philosophy stresses the "middle path" as an overriding principle for appropriate conduct and way of life of all people, at individual, community, business and government levels. Sufficiency means moderation, reasonableness and resilience to rapid changes.

 

For poor people in rural areas, this means that they first and foremost must become self-reliant in the production of food; then they can strive for a more advanced stage of development. This way they are better able to weather the storms of economic downturns and fluctuations in global markets.

 

The king's thinking advocates the need for sustainable consumption, step-by-step development and the recognition of diversity in geo-social conditions when implementing development projects and policies.

 

Gaining credence in Thailand after the 1997 financial crisis, the king's philosophy advocates economic stability over unbridled growth.

 

It also highlights the need to strengthen the moral fiber of Thai society so that everyone - especially public officials and business people - respects the rule of law, upholds democratic principles and adheres to moral values.

 

On the ground, the king's development concept has been applied to more than 3,000 projects across Thailand. One example is a project to promote the use of alternative energy in remote rural areas for irrigation, clean drinking water and environmental conservation. The project has generated knowledge and innovation that is recognized the world over.

 

Other examples are projects across rural Thailand that promote the diversification of household production to guarantee that basic subsistence needs are met in times of hardship and to reduce the risks involved when depending on a single crop.

 

It is noteworthy that many poor villages hit by the recent tsunami in southern Thailand, which had applied this approach by not solely depending on fishing, managed to bounce back with surprising speed.

 

The people of Thailand are proud of this award, which offers a unique opportunity to draw the world's attention to the "sufficiency economy philosophy," a development approach of great relevance in today's rapidly globalizing world.

 

The world is barreling down a dead-end road of untenable inequalities and unsustainable consumption patterns. We have no choice but to change course and take that "middle path." //
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 29 พ.ค. 06, 19:54

 ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ

ผมหวังว่าที่เว็บวิชาการตรงนี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่พวกเราคนไทยที่คลิกเข้ามา อาจจะจากเมืองนอกก็ได้ ที่ไหนก็ได้ทั่วโลก จะได้รับข้อมูลที่น่าสนใจและผมเห็นว่าควรแก่การชื่นชมยินดี (นอกจากชื่นชมพระบารมีแล้ว อาจจะได้สาระอะไรไปขบคิดด้วยอีก)

เป็นข้อมูลเปิดทั้งหมดครับ ไม่น่าจะมีการสงวนลิขสิทธิ์ เพราะได้เผยแพร่ในสื่ออื่นๆ ไปหมดแล้วก่อนผมจะเอามาลงในนี้
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 29 พ.ค. 06, 20:25

 ต่อไปนี้ นกข. จะขอแขวะ...

ว่า พวกเราคนไทยเกือบทุกคน - ผมว่านะ คงจะชื่นชมยินดีในพระบารมีอยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละ

ส่วนเรื่องแนวพระราชดำรินั้น ผมทราบว่าในหลวงเองทรงเปิดพระทัยกว้างมาก คือไม่เคยทรงบังคับ ไม่เคยทรงเป็นเผด็จการทางความคิด หลายครั้งในการดำเนินโครงการตามพระราชดำริจะรับสั่งกับเจ้าหน้าที่ ฝ่ายเทคนิค นักวิชาการ แม้แต่ชาวบ้าน ฯลฯ ว่า มีอะไรจะแย้งก็ให้กราบบังคมทูลแย้งได้เลย เพื่อความถูกต้องสมบูรณ์ของงาน แม้แต่เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ก็เป็นพระราชดำริที่พระราชทานเป็นข้อแนะนำ มิใช่พระบรมราชโองการที่ "ต้อง" ทำตาม

เมื่อเป็นข้อแนะนำพระราชทาน ก็มีการฟังแล้วแย้งขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะจากนักเศรษฐศาสตร์สายทุนนิยม ซึ่งพระองค์ท่านก็ได้รับสั่งอธิบายมาหลายครั้งว่าแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านไม่ได้สุดโต่งอย่างที่พวกนักเศรษฐศาสตร์เข้าใจอย่างนั้น รับสั่งหลายหนว่า ไม่ใช่จะปิดประเทศ เพราะมันทำไม่ได้ท่านก็ทรงทราบ แต่จะทำยังไงในสถานการณ์ที่เปิดประเทศอยู่นี่แหละ แต่ไม่ต้องสยบยอมกับอิทธิพลกระแสโลกไปหมด

ผมไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แต่ผมเห็นว่าโดยตัวแนวความคิดเอง ไม่ว่าจะเผอิญเป็นพระเจ้าอยู่หัวคิดหรือว่าใครคิดก็ตาม ผมว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นคำตอบหนึ่งที่น่าสนใจมาก ในสถานการณ์ที่กระแสโลกาภิวัตน์ บริโภคนิยม และกระแสกิเลสไหลบ่าท่วมท้นไปหมดทั้งโลกอย่างเดี๋ยวนี้ ผมคิดว่าผู้คิด ซึ่งในกรณีนี้เผอิญเป็นพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีสายพระเนตรกว้างไกล และทรงคำนึงถึงความอยู่ดีกินดีของประชาชนของพระองค์อย่างรอบด้าน ยั่งยืน และในระยะยาว มากกว่าเพียงมิติด้านเศรษฐกิจและการสนองความต้องการทางวัตถุเพียงถ่ายเดียว ซึ่งนั่นแหละสุดโต่งของจริง

เผอิญสหประชาชาติเขาก็เห็นด้วย ดังนั้นอย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งกับคุณโคฟี่ อันนัน คนหนึ่งละนะครับ สองคนละอย่างน้อยๆ ที่เห็นว่าแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงก็คงไม่เลวเสียทีเดียวหรอกน่ามั้ง ไม่ผิดพลาดอย่างที่คนที่เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ทุนนิยมบางคนคิดละมั้ง ทาง UNDP เองเขาเห็นว่าเข้าท่าดีเลยเชียวนะครับ แนวคิดของพระเจ้าอยู่หัวของผมแนวนี้น่ะ

ถ้าจะมีคนไทยบางคนที่เห็นว่าไม่เข้าท่า เห็นว่า "ประเทศจะไปไม่รอดได้ในยุคโลกาภิวัตน์ ถ้าใช้ความคิดเศรษฐกิจพอเพียง" ... ก็คงเป็นสิทธิของท่านที่จะคิดยังงั้น แล้วแต่ท่านก็แล้วกัน อย่างว่าแหละ - สิทธิเสรีภาพที่จะคิดไม่เหมือนกัน ถึงผมกะท่านจะเรียนจบคณะเดียวกันมา แต่ผมไม่เคยไปนั่งทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเหมือนท่านแฮะ ความรู้ความคิดผมก็คงไม่ลึกซึ้งเท่าท่าน ความชอบพรรคการเมืองก็คนละแบบด้วย (พรรคของท่านคงเห็นอย่างที่ท่านแสดงความเห็นไว้กระมัง)

แขวะจบแล้วครับ "ท่าน" ที่ว่านี้ เป็นใคร ผมไม่บอก แต่การแสดงความคิดเห็นของท่านผู้นั้นแสดงโดยเปิดเผยในการอภิปรายครั้งหนึ่ง เป็นข่าวลง นสพ. ไทยเมื่อไม่นานมานี้ด้วยซ้ำ ดังนั้นน่าจะมีคนจำได้ (ผมยังจำได้เลย) และเมื่อเป็นข่าวเปิดไปแล้ว ผมก็คิดว่าท่านคงไม่ว่า ที่ผมเพียงแต่เอามาเล่าใหม่ ว่า สิ่งที่ท่านเห็น (โดยมีสิทธิที่จะเห็นเช่นนั้น) ว่าไม่ค่อยเข้าท่า น่ะ เผอิญไม่กี่เดือนต่อมา สหประชาชาติเขาเห็นว่าเข้าท่ามาก ก็เท่านั้นเอง - ขอรับกระผม
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 29 พ.ค. 06, 20:31

 ใน คห. 20 นี้ ผมไม่ได้เอ่ยชื่อ "ท่าน" ผู้ใดไว้เลย และไม่ได้เอ่ยถึงชื่อพรรคของท่านด้วย

อย่างไรก็ตามผมขอให้อนุญาตล่วงหน้าไว้ตรงนี้ว่า ถ้าวิชาการทีมพิจารณาแล้ว เห็นสมควรตัด คห. ที่ นกข. แขวะลอยๆ คือ คห. 20 ออก ผมก็ยินดีให้ลบได้เลยครับ
บันทึกการเข้า
กิตติ
อสุรผัด
*
ตอบ: 1

ธุระกิจส่วนตัว


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 14:59

 ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ 5 ด้วยกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
บันทึกการเข้า
Gabriel
อสุรผัด
*
ตอบ: 31


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 30 พ.ค. 06, 21:05


ขอให้พระองค์ จงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกป้องแผ่นดินสยามประเทศชั่วกาลนานเทอญ
...ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ใต้ฝ่าละอองธุรีพระบาทปรกเกล้าปรกกระหม่อม...  
บันทึกการเข้า
เซล่ามูน
อสุรผัด
*
ตอบ: 1

ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สายศิลป์อังกฤษ-ฝรั่


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 03 มิ.ย. 06, 12:08

 ขอให้ทรงเป็นมิ่งหวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไปเพค่ะ
บันทึกการเข้า
ครู...ชิต
อสุรผัด
*
ตอบ: 47

TEACHER IN SISAKET ,S AREA 2 EDUCATION OFFICE


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 05 มิ.ย. 06, 00:58


ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ

Thailand ‘Development King’ to receive first Human Development Lifetime Achievement Award
 http://www.undp.or.th/news/news-060526.html

งานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
 http://www.60thcelebrations.com/th/projects.html  
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 05 มิ.ย. 06, 18:30

 มีใครในที่นี้สนใจคำปราศรัยของท่านโคฟี อันนัน กับของ ฯพณฯ ป๋าเปรม เป็นภาษาอังกฤษบ้างครับ ผมยังไม่ได้ใส่ไว้ ที่ใส่ข้างบนนั้นเป็นแต่คำแปลภาษาไทย (ผมไม่ได้แปลเองหรอกน่า คนที่เก่งกว่าผมท่านแปลไว้ครับ)
บันทึกการเข้า
ผาง-ผาง
อสุรผัด
*
ตอบ: 10

ม.ว.


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 20:23

 ขอจงทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
บันทึกการเข้า
มีมี่
อสุรผัด
*
ตอบ: 7

ค้าขาย


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 15 มิ.ย. 06, 15:37

 ขอทรงพระเจริญ พระชนม์มายุยิ่งยืนนาน  ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
บันทึกการเข้า
ornyupa
พาลี
****
ตอบ: 240


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 15 มิ.ย. 06, 18:02


ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนพ่อมองเห็นเราเสมอ  
บันทึกการเข้า
เด็กเรียน(ไม่ค่อยรู้เรื่อง)
อสุรผัด
*
ตอบ: 1

ตอนนี้เรียนม.ปลาย ( ม.5 ) แล้วครับ


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 18 มิ.ย. 06, 09:25

 ขอทรงพระเจริญ พระชนม์มายุยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ  นักเรียนม.6/2 โรงเรียนแม่ใจวิทยาคม
บันทึกการเข้า
Japonica
ชมพูพาน
***
ตอบ: 109

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 18 มิ.ย. 06, 16:01


พระจริยาวัตรที่น่ารักของสมเด็จพระเทพฯ

เหมือนหูของผมจะฟั่นเฟือน ได้ยินในหลวงทรงตรัสว่า "อะไรกันเนี่ย" เมื่อสมเด็จพระเทพฯ
ทรงชะโงกออกมาทางสีหบัญชร เพื่อทรงถ่ายรูปพสกนิกรและแย้มพระสรวล เป็นพระจริยาวัตร
ที่น่ารักมาก ในที่สุดพระองค์ทรงพระราชทานภาพฝีพระหัตถ์ให้ประชาชนคนไทย 4 ภาพ
ได้เห็นกันหรือยังครับ จะได้แปะให้ชม


ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ  
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.088 วินาที กับ 19 คำสั่ง