เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 07:40
|
|
ตอบคุณ Tiwa ขออภัยที่ตอบผิด เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร แต่แรกค่ะ ไม่ใช่กรมขุน
วังของกรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช โอรสธิดาอยู่กระจายกันไป ไม่ได้รวมที่เดิม หาอ่านได้ในหนังสือประวัติเจ้าพระยาวรพงษ์ ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หยดน้ำ
ชมพูพาน
  
ตอบ: 146
คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 10:25
|
|
วังพระอาทิตย์ ของกรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช "ตำนานวังเก่า" ระบุว่า "...เขตอยู่ติดกับวังเจ้าฟ้ากรมหลวงจักรเจษฎาต่อลงมาทางใต้..." เมื่อกรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช สิ้นพระชนทม์ในปี 2417 วังนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็น 4 แปลง หม่อมเจ้าเจ้ากระจ่าง พระโอรสองค์ใหญ่ได้ครองตำหนักใหญ่ ส่วนที่อีก 3 แปลงที่เหลือก็ได้แบ่งให้กับพระโอรสพระองค์อื่นๆ โดยที่ดิน 1 ใน 4 แปลงนั้น ตกเป็นของหม่อมเจ้าเสาวรส บิดาของม.ร.ว.เย็น อิศรเสนา ซึ่งท่านได้ปลูกเรือนไม้ฝากระดานขนาดย่อมอยู่กับหม่อมมุหน่าย หน้าวังหันออกทางถนนพระอาทิตย์และหม่อมมุหน่ยได้เปิดร้านขายของเล็กๆ น้อยๆ เพื่อหารายได้เพิ่มในครอบครัว ต่อมาเมื่อหม่อมเจ้าที่เป็นพระโอรสในกรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดชสิ้นชีพิตักษัยไปหมด ม.ร.ว.เย็น อิศรเสนา จึงเป็นหม่อมราชวงศ์ผู้ใหญ่ที่จะต้องปกครองวังต่อไป และเมื่อครั้งเป็นหลวงสิทธินายเวร เป็นข้าราชบริพารที่ถวายงานใกล้ชิดพระพุทธเจ้าหลวง จึงทรงพระกรุณาพระราชทานเงินสร้างบ้านเพื่อให้สมฐานะ โดยได้สร้างบ้านตึกแยกออกไปจากเรือนเก่า และจากนั้นมาศูนย์กลางของวังพระอาทิตย์เดิม และราชสกุลอิศรเสนาจึงย้ายมาอยู่ที่บ้านของม.ร.ว.เย็น หรือที่ในปัจจุบันเรารู้จักกันในนามว่าบ้านพระอาทิตย์ ก่อนที่ที่ทายาทจะขายให้กับเอกชน ดังนั้นบ้านพระอาทิตย์จึงเป็นส่วนหนึ่งของวังกรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดชครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 10:44
|
|
ม.จ.กระจ่างนี่หรือเปล่าคะ ที่ว่าย้ายไปอยู่นนทบุรี
ยังหาหนังสือประวัติเจ้าพระยาวรพงษ์ไม่เจอค่ะ แต่จากคำบอกเล่าในนั้น ไม่ค่อยเหมือนตำนานวังเก่าเท่าไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หยดน้ำ
ชมพูพาน
  
ตอบ: 146
คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 11:16
|
|
ขออนุญาตตอบคุณ Tiwa ในคคห.ที่ 28 ครับ ในยามที่พระเจ้าแผ่นดินทรงปราบดาภิเษกตั้งพระบรมราชวงศ์ขึ้นใหม่ การบำเหน็จความชอบและการสถาปนาพระอิสริยยศของพระญาติ เป็นไปตามพระราชอัธยาศัยครับ อาจจะไม่เป็นไปตามธรรมเนียมก็ได้ครับ ส่วนพุทธศักราชที่คุณระบุไว้น่าจะพิมพ์ผิดครับ ผมขออนุญาตแก้เป็น
วังหน้าเสด็จทิวงคต......... ปี พ.ศ. 2346 พระราชพิธีอุปราชาภิเษก...ปี พ.ศ. 2349 พระราชพิธีราชาภิเษก.......ปี พ.ศ. 2352
--------------------------------------------------------------- ในคคห. 21 ที่คุณเจ้าสัวบ่อนไก่บอกว่าลูกเธอในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสีหนาทไม่ได้เสด็จออกนั้น น่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนะครับ เพราะจริงๆ แล้ว สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสีหนาทได้ทรงสร้างวังพระราชทานพระโอรสบริเวณริมสนามวังหน้า ด้านทิศตะวันออก ทั้งหมด 4 วังครับ
วังที่ 1 คือบริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม จรดริมคลองหลอด สร้างพระราชทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชายลำดวน ต่อมาเมื่อเจ้านายพระองค์นี้สิ้นพระชนม์ในปี 2346 วังจึงตกเป็นของพระอนุชาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอสุนี
วังที่ 2 อยู่ถัดจากวังแรกมาทางกระทรวงยุติธรรมในปัจจุบัน สร้างพระราชทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอินทปัต ต่อมาตกเป็นของพระอนุชา คือ กรมขุนนรานุชิต
วังที่ 3 อยู่ถัดมาจากวังที่ 2 ซึ่งอยู่บริเวณสนามหลวง และถนนหน้ากระทรวงยุตธรรมในปัจจุบัน สร้างพระราชทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชายช้าง
วังที่ 4 อยู่บริเวณที่เป็นกระทรวงยุติธรรม สร้างพระราชทานพระองค์เจ้าก้อนแก้ว
วังทั้ง 4 นี้ถูกรื้อลงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หยดน้ำ
ชมพูพาน
  
ตอบ: 146
คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 11:48
|
|
ใน คคห. 33 เรื่องวังของพระราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสีหนาท ผมพลาดไปครับ ไม่ทันเห็นว่าคุณเจ้าสัวบ่อนไก่ ได้พิมพ์ไปบ้างแล้วใน คคห.19
แต่ผมขออนุญาติเพิ่มเติมว่า วังพระองค์เจ้าลำดวนกับวังพระองค์เจ้าอสุนี จริงๆแล้วคือวังเดียวกันครับ โดยมีข้อสันนิษฐานว่าพระองค์เจ้าอสุนี(กรมหมื่นเสนีเทพ) ได้ย้ายมาประทับที่วังนี้ เมื่อพระองค์เจ้าลำดวนสิ้นพระชนม์ในปี 2346 หรือไม่ก็ทรงประทับอยู่ที่วังนี้อยู่แล้วจึงได้ทรงครองวังสืบมาครับ
ส่วนวังของกรมขุนนรานุชิต วังริมสนามวังหน้าที่กล่าวถึงนั้น เดิมคือวังของพระองค์เจ้าอินทปัต กรมขุนนรานุชิตทรงย้ายมาประทับหลังจากพระองค์อินทปัตสิ้นพระชนม์ไปแล้วครับ และวังของพระองค์เจ้าก้อนแก้ว แท้จริงแล้วก็ คือ วังริมสนามวังหน้าวังที่ 4 ดังที่ผมบอกไว้ใสคคห. ด้านบน วังทั้ง 4 นี้ยังคงความเป็นวังจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 โดยส่วนใหญ่พระราชโอรสของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ทรงครองวังต่อมา แต่เมื่อจะมีการทำสนามหลวงใหม่ สร้างถนนราชดำเนิน และกระทรวงยุติธรรม วังทั้ง 4 นี้จึงถูกรื้อลงครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หยดน้ำ
ชมพูพาน
  
ตอบ: 146
คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
|
ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อ 07 มิ.ย. 06, 12:14
|
|
สำหรับในคคห.12 เรื่องที่ตั้งของวังที่คุณเจ้าสัวบ่อนไก่ถาม ไม่ทราบว่าคุณได้ข้อมูลหรือยัง
1. วังสะพานหัวจระเข้ ของกรมหลวงวรศักดาพิศาล ปัจจุบันคือบริเวณถนนพระพิพิธฝั่งใต้ ด้านหลังของกรมการรักษาดินแดน เคยใช้เป็นแผนกคลัง กองยกบัตร กรมพลาธิการทหารบก แต่ไม่แน่ใจว่าขณะนี้ใช้เป็นสถานที่อะไรครับ แต่น่าจะเป็นที่ของทหาร
2. วังคลังสินค้า ของเจ้าฟ้าฯกรมหลวงพิทักษ์มนตรี อยู่บริเวณกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ในปัจจุบัน ในสมัยรัชกาลที่ 1 วังนี้อยู่นอกกำแพงเมือง อยู่ด้านใต้ของท่าราชวรดิษฐ์
3. วังสนามชัน ของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม หาไม่พบเหมือนกันครับ
4. วังคลองตลาด ของพระองค์เจ้าจินดา อยู่บริเวณเชิงสะพานเจิญรัถในปัจจุบัน ตรงข้ามสถานีตำรวจพระราชวัง ตรงทางสามแพร่งที่ถนนมาบรรจบกันครับ
5. วังริมคลองสะพานถ่าน ของกรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณ สำหรับวังนี้ผมเข้าใจว่าชื่อวัง "วังริมคลองสะพานถ่าน" เป็นของพระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตรไชย และใช้เป็นที่ประทับต่อมาของสมเด็จฯ กรมพระยาเทววงศ์ฯ ส่วนวังของพระองค์เจ้าบดินทรไพศาลโสภณอยู่บริเวณไหนขอกลับไปค้นก่อนนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เจ้าสัวบ่อนไก่
อสุรผัด

ตอบ: 33
เรียน
|
ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อ 08 มิ.ย. 06, 00:23
|
|
 ขอบคุณครับ สำหรับความคิดเห็นดีๆ จากหลายๆ ท่าน
จาก ค.ห. ที่ 12 เรื่องตอนท้ายที่ผมเล่าถึงบ้านหรือวังเก่าๆ ที่เป็นสิ่งปลูกสร้างอย่างหนึ่ง มีใครผ่านไปผ่านมาได้สังเกตบ้างไหมครับ บ้านหรือวังนี้ผมยังไม่มีโอกาสไปถ่ายภาพมาให้ชมเลย แต่หวังใจว่าเร็วๆ นี้คงได้ไปถ่ายมาลงไว้ในกระทู้นี้ ตอนนี้ผมหาภาพถ่ายที่พอระบุตำแหน่งของบ้านหรือวังนี้ได้ภาพหนึ่ง ซึ่งอยู่ด้านหลังป้อมนี้ครับ ใครทราบที่มาของบ้านหรือวังนี้ โปรดบอกทีครับ อยากรู้มากแต่หาหลักฐานไม่ได้เลย
บ้านหรือวังนี้มีคนอยู่นะครับ แต่ว่าคล้ายๆว่า เค้าจ้างมาอยู่เป็นยาม ฉะนั้นจากที่ผมสอบถามเค้าจึงไม่ได้อารัยมาเลย |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เจ้าสัวบ่อนไก่
อสุรผัด

ตอบ: 33
เรียน
|
ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อ 08 มิ.ย. 06, 00:31
|
|
อยู่ด้านหลังป้อมหน่ะครับ มองเห็นอยู่ชัดเจน นั่นคือหลังคาครับ หลังคานี่ก้อออกแบบให้มีลักษณะเป็นดาดฟ้าอีกต่างหากนะครับ ศิลปะแบบนี้ยังไม่เคยมีว่าสร้างขึ้นแต่หนไหน ผมก้อไม่เคยเห็น แต่ผมสังเกตนะครับ ว่าตัวบ้านนี้มีบางส่วนเหมือนทุบทิ้งไป
มันสร้างขึ้นอยู่ริ้มคลองบางลำภู และบ้านเนี้ย ผมเห็นว่ามันมั่นคงสถาวรมาตั้งแต่รูปถ่ายสมัยรัชกาลที่ 5 ตอนยังไม่ได้ตัดถนนราชดำเนินกลางเลยด้วยซ้ำ ทำให้ข้องใจมากเลยถึงที่มา แต่ว่าอย่างน้อยมันก้อน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 120 ปีนะครับ โดยประมาณ ผมอนุมานว่าอย่างนั้น
อีกอย่างวังนี้ประหลาดนิดนึงว่าสร้างหันหน้าออกคลอง ที่ว่าแปลกคือหันหลังชนป้อมมหากาฬ เท่ากับว่ามันอยู่นอกกำแพงเมืองสินะครับอย่างนี้ สงสัยเจ้าของวังนี้ท่านรักสันโดษ แต่ถึงยังไงวังนี้ก้ออยู่ในเขตเกาะรัตนโกสินทรรอบนอก ผมขอแสดงความเห็นว่าถ้าเป็นวังคงเป็นวังของพระอนุวงศ์บางองค์ ซึ่งน่าจะสร้างขึ้นราวตอนกลางแผ่นดินรัชกาลที่ 5
ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นบ้านคนธรรมดา จะว่าขุนนางก้อไม่น่าจะใช่ครับ ลองไปดูที่หน้าบ้านตรงหน้าบันมีสัญญาลักษณ์หรือตราอะไรสักอย่าง จะว่าตรานี้เป็นตราประจำกรมกองใดคงไม่ใช่แน่ครับ ยกเว้นจะเป็นตราประจำพระองค์เจ้านาย น่าจะนะครับผมไม่แน่ใจ
ผมจะพยายามสืบค้นดูว่ามันคืออารัยกันแน่ เร็วๆ นี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เจ้าสัวบ่อนไก่
อสุรผัด

ตอบ: 33
เรียน
|
ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ 08 มิ.ย. 06, 01:16
|
|
มาต่อเรื่องวังในยุคของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยกันต่อครับ น่าจะเรียกวังลูกเธอมากกว่านะครับ เพราะบางวังสร้างมาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 นู่น
กลุ่มวังต่อไปเรียกว่ากลุ่ม วังสะพานเสี้ยว ครับ ก่อนอื่นอยากบอกว่ากลุ่มวังนี้น่าเอน็ดอนาถพอดูเพราะว่าสร้างคร่อมถนนราชดำเนินกลาง ที่สำคัญกลุ่มวังนี้ใหญ่โตไม่ใช่เล่นนะครับ ขออธิบายว่ากลุ่มวังสะพานเสี้ยวน่าจะกินเนื้อที่ระหว่างกรมสรรพากรยาวเรื่อยไปทางถนนจักรพงษ์ผ่านเชิงสะพานผ่านภิภพและเลยไปจนถึงโรงแรมรัตนโกสินทร์จนกระทั่งถึงวัดบุณณสิริ ย่านคลองหลอดแหน่ะครับ พูดง่ายๆ ว่าคร่อมถนนทั้งวังเลยครับ มองเห็นภาพง่ายดีนะผมว่า วังกลุ่มนี้
36. วังสะพานเสี้ยว วัง 1 วังที่ประทับของพระองค์เจ้าภุมรินทร ในกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ อยู่ไม่นานก้อสิ้นพระชนม์ไป พระองค์เจ้านุช ในกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์เสด็จมาประทับต่อจนสิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 5 ต่อมาว่ากันว่า กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ เมื่อครั้งเป็นในกรมหมื่นบวรฯ เสด็จมาประทับช่วงต่อ วังนี้ถูกแปลงสภาพไปพอตัวและสิ้นสภาพวังไปแล้ว ปัจจุบันคือที่ทำการกรมสรรพากรและกรมธนารักษ์ ( ต้นราชสกุล ภุมรินทรฯ และ ต้นราชสกุล อนุชะศักดิ์ฯ ส่วนกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ มีพระทายาทหลายสาขา )
37. วังสะพานเสี้ยว วัง 2 อยู่ถนนจักรพงษ์ ไม่ทราบจุดแน่นอน เป็นที่ประทับของ พระองค์เจ้าใย ในกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ วังนี้หาที่ไม่ได้ครับทราบแต่ว่าอยู่ถนนจักรพงษ์แน่ ผมไปดูมาตอนนี้ข้างหลังซ้ายขวาเป็นสลัมกับตึกแถว วังหายไปตั้งแต่บรรพกาลไหนไม่มีใครรู้ ( ต้นราชสกุล รังสิเสนาฯ )
38. วังสะพานเสี้ยว วัง 3 วังนี้ค่อนข้างจะจีรังกว่าวังญาติๆ ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งเป็นวังทีป่ระทับของ กรมหมื่นอมเรศรัศมี ในกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ เมื่อเสด็จในกรมอมเรศฯ วายพระชนม์ มีพระทายาทประทับต่อยืนยาวมาจนถึงปลายรัชกาลที่ 5 จึงได้รื้อสร้างถนนรีชดำเนินกลาง วังนี้อยู่เชิงสะพานผ่านภิภพครับ ( ไม่มีพระทายาทสืบราชสกุลส่วนพระทายาทที่ระบุหมายถึงเจ้าพี่เจ้าน้องที่เป็นพระญาติวงศ์สนิทแต่ไม่ปรากฎพระนามแน่ชัดว่าเป็นท่านผู้ใด )
39. วังสะพานเสี้ยว วัง 4 ของพระองค์เจ้าทับทิม พระราชโอรส ร.1 ทรงย้าบมาจากวังหลักเมือง วัง 6 ตอนนี้ท่านย้ายมาอยู่วังนี้ครับ อยู่มาจนสิ้นพระชนม์ล่วงไป พระองค์เจ้าสีสังข์ ในกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ ท่านเสด็จมาประทับต่อจนสิ้นพระชนม์ วังนี้อยู่คร่อมถนนราชดำเนินเลยครับ ถูกร้อสร้างถนนในรัชกาลที่ 5 ( พระองค์เจ้าสีสังข์ เป็นต้นราชสกุล สีสังข์ฯ )
40. วังสะพานเสี้ยว วัง 5 ครับ วังนี้อยู่ถัดมาจากวังที่ 4 มาทางวัดบูรณศิริ แถวคลองหลอด แต่เดิมเป็นเรือนของพระยาพิชัยบุรินทรา เสนาบดีกรมเมืองวังหน้า กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ พระราชทานแก่ พระเจ้าลุกยาเธอ พระองค์เจ้าอินทรวงศ์ แต่พระเคราะห์ร้ายอยู่ไม่นานก้อสิ้นพระชนม์ลง พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ จึงพระราชทานแก่ พระเจ้าลุกยาเธอ กรมหมื่นพิศาลบวรศักดิ์ จนสิ้นพระชนม์ลงไปอีกพระองค์หนึ่ง พระบาทสมเด็จพระพุทะเจ้าหลวง จึงพระราชทานแก่ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม คาดว่าวังนี้น่าจะเหลือร่องรอยอยู่บ้างเล็กน้อยนะครับ แต่ผมไปมาแล้วไม่พบอารัยเลยนอกจากตึกแถวโกโรโกโส สำหรับวังนี้นับว่าเหลือรอดมาเพียงหนึ่งเดียวจากทั้ง 5 วังญาติๆ ส่วนวังนี้จะเป็นวังสนามชันของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมหรือไม่ ยังไม่ทราบครับ แต่ผมจะพยายามสืบหาข้อมูลต่อไป เร็วๆ นี้จะนำมาให้พิจารณากันครับ ( พระองค์อินทวงศ์ ไม่มีพระทายาท ส่วนกรมหมื่นพิศาลฯ เป็นต้นราชสกุล วรรัตน์ฯ และ กรมหลวงประจักษ์ศิลฯ เป็นต้นราชสกุล ทองใหญ่ฯ )
ต่อไปเป็นวังถนนโรงครก
41. วังถนนโรงครก วัง 1 อยู่ตรงศาลแพ่งกระทรวงยุติธรรมในปัจจุบัน แต่ก่อนเป็นทีป่ระทับของพระองค์เจ้าสาททิพากร ในกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ แต่อยู่ไม่นานสิ้นพระชนม์ลง ( ไม่มีพระทายาทสืบราชสกุล )
42. วังถนนโรงครก วัง 2 พระองค์เจ้าสาททิพากร เห็นว่าท่านจะมีคุณตาอยู่ท่านนหึ่งซึ่งแบ่งที่ดินให้ท่านอยู่ใกล้ๆ บ้านท่าน สำหรับในการนี้ กรมหมื่นอนันตการฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระอนุชาร่วมเจ้าจอมเดียวกับพระองค์เจ้าสาททิพากร แต่เดิมในกรมหมื่นท่านอยู่ร่วมกันกับเจ้าพี่ที่ วัง 1 ต่อมาได้ปลุกวังขึ้นมาติดๆ กันกับวัง 1 ครับ วังถนนโรงครกนี้ต่อมารื้อทำศาลสถิตยุติธรรม สำหรับกรมหมื่นอนันตการฯ ในร.4 ท่านโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นฯ ย้ายไปอยู่วังพระนิเวศน์เดิม ( กรมหมื่นอนันฯ ต้นราชสกุล ยุคนธรานนท์ฯ )
มีต่ออีกนิดหน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หยดน้ำ
ชมพูพาน
  
ตอบ: 146
คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
|
ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อ 08 มิ.ย. 06, 13:43
|
|
ขออนุญาตตอบคุณเทาชมพู ในคคห. 32 ครับ
หม่อมเจ้าที่ออกไปอยู่นนทบุรีไม่ใช่หม่อมเจ้ากระจ่างครับ แต่เป็นอีกองค์หนึ่งแต่ผมจำพระนามไม่ได้ครับ ซึ่งหม่อมเจ้าองค์นี้น่าจะเป็นพระโอรสองค์โต เพราะในหนังสือประวัติเจ้าพระยาวรวงศ์พิพัฒน์กล่าวว่าท่านต้องเข้ามาเป็นประธานในเวลาที่ในวังมีงาน ส่วนหม่อมเจ้ากระจ่างที่ได้ครองตำหนักใหญ่น่าจะเป็นพระโอรสองค์รองลงมาครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เจ้าสัวบ่อนไก่
อสุรผัด

ตอบ: 33
เรียน
|
ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อ 11 มิ.ย. 06, 02:27
|
|
3 วังสุดท้ายในรัชกาลที่2 ครับ มาต่อให้จบตอนนี้ผมรวบรวมข้อมูลวังลูกเธอในรัชกาลที่ 3 ได้แล้วแต่ดูเหมือนว่าจะน้อยกว่ารัชกาลอื่นๆ เลย
43. วังคลองตลาด ตามข้อมูลที่ผมได้มาเป็นวังที่ประทับของ กรมหมื่นสิทธิสุขุมการ พระราชโอรสในกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ เชื่อว่าต่อมาน่าจะเป็นที่ประทับของพระองค์เจ้าจินดา ตามที่คุณหยดน้ำท่านระบุไว้ครับ ส่วนวังนี้พบแล้วว่าอยู่เชิงสะพานเจริญรัช สน พระราชวัง ย่านปากคลองตลาด
( กรมหมื่นสิทธิฯ ต้นราชสกุล รองทรงฯ ส่วนพระองค์เจ้าจินดา ไม่มีพระทายาท )
44. วังหลังวัดชนะสงคราม คงจะเหมือนชื่อวังครับอยู่หลังวัดชนะสงคราม ย่านบางลำภู-ตรอกข้าวสาร เป็นที่ประทับของพระองค์เจ้ารัชนิกร พระราชโอรสในกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ วังนี้ปรากฎหลักฐานได้น้อยมาก
( พระองค์ชายรัชนิกร ไม่มีพระทายาท )
45. วังริมคลองบางลำภู วังทีป่ระทับของพระองค์เจ้าสุดวอน พระราชโอรสในกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ ชื่อบางลำภูแต่ไม่ทราบอยู่ช่วงไหนของคลองแต่ผมสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นช่วงปากน้ำแถบป้อมพระสุมเรในปัจจุบัน สังเกตว่าลูกเธอวังหน้าพระองค์นี้ทรงสร้างวังกระจุกอยู่ย่านเดียวกันหมดเลยครับ
สันนิษฐานว่าบางส่วนของวังริมป้อมสุเมรุก้อถูกแบ่งไปสร้างวังพระเจ้าลูกเธอวังหน้าในรัชสมัยต่างๆ ในเวลาต่อมา ผมคิดว่าอย่างนั้น
จบวังเจ้าในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เจ้าสัวบ่อนไก่
อสุรผัด

ตอบ: 33
เรียน
|
ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ 11 มิ.ย. 06, 02:33
|
|
ต่อไปเป็นรายนามวังเจ้าในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ครับ
กลุ่มนี้ชื่อกลุ่มวังท้ายวัดโพธิ์
46. วังท้ายวัดพระเชตพน วัง 1 เป็นวังที่ประทับของกรมหมื่นเชษฐาธิเบนทร ต้นราชสกุล โกเมนฯ
47. วังท้ายวัดพระเชตพน วัง 2 เป็นวังที่ประทับของกรมหมื่นอมเรนทรบดินทร ต้นราชสกุล คเนจรฯ
48. วังท้ายวัดพระเชตพน วัง 3 เป็นวังที่ประทับของพระองคืเจ้างอนรถ ไม่มีพระทายาทสืบราชสกุลวงศ์
49 วังท้ายวัดพระเชตพน วัง 4 เป็นวังที่ประทับของกรมหมื่นภูมินทรภักดี ต้นราชสกุล ลดาวัลย์ฯ
50. วังท้ายวัดพระเชตพน วัง 5 เป็นวังที่ประทับของกรมหมื่นอุดมรัตนราษี ต้นราชสกุล อรรณพฯ
กลุ่มวังนี้ไม่ทราบว่าอยู่จุดไหนแน่ของวัดโพธิ์ แต่คงหายสาบสูญไปจากแผ่นดินไทยนานเท่านานแล้ว
มีต่อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปากน้ำเจ้าพระยา
|
ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อ 14 มิ.ย. 06, 13:38
|
|
ผมอยู่จังหวัดสมุทรปราการ ขออนุญาตคุยเรื่องวังที่เคยอยู่ใกล้บ้านผม ตรงตลาดปากน้ำปัจจุบัน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามเกาะองค์พระสมุทรเจดีย์ ชื่อ วังสมุทรปราการ
วังสมุทรปราการ สร้างสมัยรัชกาลที่ ๔ เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับ เมื่อครั้งที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฎิสังขรณ์พระสมุทรเจดีย์ (พระเจดีย์กลางน้ำ) ครั้งใหญ่ ในปี ๒๔๐๔
สมัยรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ใช้เป็นสำนักงานศาลาว่าการเมืองสมุทรปราการ แล้วใช้พื้นที่บางส่วนสร้างสถานีรถไฟสายปากน้ำ
ปรากฏว่าเมื่อมาอยู่ในความดูแลของส่วนราชการ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยน คราวเมื่อย้ายศาลาการจังหวัดสมุทรปราการให้ออกจากตัวชุมชน ปี ๒๔๕๘ สถานที่วังสมุทรปราการเดิมจึงถูกนำมาให้เอกชนประมูลสร้างตลาดสดและท่าเรือข้ามฟากไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์
ทั้งวังสมุทรปราการและสถานีปลายทางรถไฟสายปากน้ำ ต่างก็สาบสูญ ไม่มีหลักฐานปรากฏอีกต่อไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Retro
อสุรผัด

ตอบ: 5
|
ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ 14 มิ.ย. 06, 15:07
|
|
อ่านข้อความต่างๆ ได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะเลย
วานก่อนได้ไปดูเรือราชพิธีที่ริมเจ้าพระยา ได้เห็นบ้านเก่าหลังใหญ่ตรงข้ามร้านอาหารต้นโพธิ์ ที่ถนนพระอาทิตย์ รู้สึกเสียดายและเกิดความสงสัยอยากรู้เกี่ยวกับประวัติของบ้านหลังนี้ว่า...มันเป็นวังเก่าหรือไม่ เพราะตึกมีพื้นที่ขนาดใหญ่ และอยู่ติดริมเจ้าพระยา และเป็นของผู้ใดมาก่อน ถึงได้ถูกปล่อยให้รกร้างและทรุดโทรมมาก ทั้งหน้าต่างหลังคาแทบจะไม่เหลือแล้ว
ใจจริงอยากจะข้ามฝากไปดู แต่ไม่รู้ว่าจะเข้าไปได้หรือไม่ ท่านผู้รู้เจ้าขา ......ช่วยตอบให้หายสงสัยทีเถอะ.......
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลา ลา ลา
อสุรผัด

ตอบ: 5
|
ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อ 14 มิ.ย. 06, 21:48
|
|
อยากไปดูมั่งจัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|