เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
อ่าน: 18215 คุณมีสิทธิ์อะไร มาทำอย่างนี้กับบ้านเมืองผม...
เฟื่องแก้ว
พาลี
****
ตอบ: 327

เลขานุการ


ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 18 พ.ค. 06, 22:10

อุย เพิ่งเห็นสไนเปอร์แคท ของอาจารย์  ขอบพระคุณค่ะ
แค่เจอคุณหมูเอาปืนจี้ข้างบนนั่น เฟื่องก็ม่อยกะรอกแล้วค่ะ

หนูกำลังจะไปโดดน้ำป๋อมแป๋มอยู่แล้ว

ใครเอาซากุระ+วิสแคท ทำบุญกรวดน้ำให้เฟื่องด้วยนะ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 18 พ.ค. 06, 23:40

 เมื่อนมนานกาเลมาแล้ว
นับแต่นายติบอยังเป็นละอ่อนน้อยวัยกระเตาะอยู่
มีครีเอทีฟโฆษณาที่น่ารักท่านหนึ่ง มาเล่าเรื่องคณะกรรมการที่น่าปวดหัวให้ฟัง

เรื่องมีว่า เธอทำโฆษณาเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าให้บริษัทแห่งหนึ่ง
และใต้ภาพหนึ่ง มีข้อความขึ้นมาว่า "ป่าคือคลังยารักษาโรค" (หรือไงนี่แหละ)
แล้วคณะกรรมการที่ว่า ตอบกลับมาว่าโฆษณาที่ว่านี่ "ไม่ผ่าน" เพราะข้อความที่ว่านั่น "ไม่สื่อความหมาย"





สงสัยคณะกรรมการชุดปัจจุบัน จะเห็นโฆษณายุคนี้นี่พอๆกัน
เพราะอะไรๆที่มันสื่อความหมายมากมาย เขาก็ปล่อยให้ "ผ่าน" ออกมาได้อย่างน่าสะอึก

คุณแม่ผมไม่เคยชอบโฆษณาลูกกลิ้งทารักแร้ผู้ชายยี่ห้อหนึ่งที่ถ่ายในรีสอทริมทะเล และมีฉากจบเป็นผู้ชายนอนกอดผู้หญิงบนเตียง หรือโฆษณาท่อเหล็กรูดเสาเอาเสียเลย
ท่านถามผมเสมอว่า "เธอคิดว่ามันน่ามาโฆษณาให้เด็กเห็นมั้ย" และกดเปลี่ยนช่องทุกครั้งที่เรานั่งดูโทรทัศน์ด้วยกันแล้วโฆษณาพวกนี้โผล่ขึ้นมา
แต่จนแล้วจนรอด โฆษณาที่ว่าก็ยังโผล่หราบนหน้าจอโทรทัศน์ได้ทุกช่วงเวลา ไม่เว้นแม้แต่เวลาครอบครัว
.... หรือเขาจะคิดว่าพ่อแม่ควรอธิบายให้ลูกอายุไม่กี่ขวบเข้าใจว่ามันหมายความว่าอะไร เพราะเด็กอนุบาลควรเข้าใจคำว่าเซ็กส์ให้มากพอ ?


ปล.1 ถ้าชวนได้ ผมจะลองชวนตรีเอทีฟโฆษณาเข้ามาซักท่านสองท่านที่อาจจะเมตตากรุณาผมอยู่บ้าง เข้ามาร่วมแบ่งปันความรู้กันอ่าน
แต่เท่าที่รู้ บางท่านคงติดขัดเรื่องหมายเลขบัตรประจำตัวฯ ที่ไม่ประสงค์จะนำมาใช้สมัครเวบบอร์ดแต่อย่างใด

ปล.2 ไม่ทราบว่าครีเอทีฟโฆษณาท่านที่ว่าจะจำเรื่องที่ผมเล่ามาได้มั้ย (เพราะเวลามันผ่านมาค่อนชีวิตที่มีอยู่ของผมตอนนี้แล้วล่ะครับ หิหิ)
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 19 พ.ค. 06, 00:39

 เวรคั่ม นายติบอ

กระทู้นี่เป็นผลพลอยได้ (เอ ..หรือผลพลอยเสียหว่า)
ของประเด็นอีหนูรูดเสา ใน ปล. 2 ของท่าน

เอเย็นสี้ส่วนมากจะไม่อ่านอะไรเกินสิบวิ....เพราะฉะนั้น พวกเขาจะแพ้ตัวอักษร หลีกลี้ไปหมด

อีกอย่าง เว็บนี้ไม่มีเพลงเท่ๆ กับรูปวาบหวิว
หัวเด็ดตีนขาด อีก็ไม่มากัน

แต่ถ้าวันใหนสะตัมภะของผม หรือศาลพระภูมิอาจารย์เทา ไปแจ้งเกิดในเวทีชั่วอะหวอดละก้อ....
แค่พวงมาลัยคงไม่พอ
เห็นจะต้องถึงพวงหรีด
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 19 พ.ค. 06, 01:03

 น้องเฟื่อง ไม่ต้องขอโทษเลย ถ้าพี่โง่ไม่เชื่อหนู
วิจารณญานคนเรามันไม่เท่ากันอยู่แล้ว

อีกประการหนึ่ง ประเด็นของพี่ อยู่ตรงที่ คุณ (คนอื่นนะ ไม่ใช่หนู) เอา "พิษ" มาปล่อยในพื้นที่สาธารณะไม่ได้
ไม่ใช่ประเด็นว่า คนเราต้องรู้จักป้องกันอันตรายจากวัฒนธรรมวิปริตด้วยตัวเอง อย่ามาหวังคนอื่นช่วย

แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ว่า โฆษณา (หรือกว้างกว่านั้น คือสื่อทั้งหมด -รวมเว็บนี้ด้วย) ใช้ช่องทางที่
"ไม่ได้เอาปืนจ่อหัวซักกะหน่อย"  บังคับให้คุณต้องเสพ
การหันหน้าไปทางอื่น เปลี่ยนช่องด้วยรีโมต ทุบทีวี สารพัดกรรมวิธีหลีกเลี่ยงที่ยกมานั่นหน่ะ  ไม่ได้ทำให้พิษหายไป เจือจางลง หรือคุณปลอดภัยเลยแม้แต่นิดเดียว
มันแค่หลับตา ไม่ต้องมองเห็นลูกปืนวิ่งตัดขั้วหัวใจคุณเอง เท่านั้นแหละน้อง ช้าหรือเร็ว พี่ก็ตายอยู่ดีจากกระสุนเน่าๆ ของสื่อ

ลูกผม ไปเรียนที่อนุบาลแสนดีสุปเปอร์เริ่ด ลูกคนอื่นมาจากใหนไม่รู้ ติดใจเรื่องเชือดนายวิลเลียม อยากลองทำดูบ้าง
เชือดลูกผมเลย (แหะ แหะ  ยืมตัวอย่างหน่อยนะครับ) ใครผิดละน้อง เคสนี้

วิจารณญานนั่นเป็นกรรมที่ผมก่อ ผมไม่เถียง
แต่โศกนาฎกรรมที่ไม่ควรต้องมาเกิดกับผม (เพราะป้องกันได้) ต่างหาก คือประเด็นที่ผมต้องการถก

เรื่องสยองขวัญ เป็นยาสมานจิตขนานหนึ่ง แม้ว่ามันจะน่าขยะแขยง หดหู่ เก็บกด สะอิดสะเอียน แต่เรามีศิลปะ เพื่อใช้แปรรูปมัน ให้ ขยะกลายเป็นทอง
ปฎิกูลกลายเป็นสัจจะธรรม มิใช่หรือ

เราคงเห็นพ้องต้องกันนะ ว่ากลเม็ดเล่าเรื่องแบบที่อาจารย์ของเราเผยแผ่ออกมา มันเจ๋งศักดิ์และแจ่มศรี กินกันไม่เบื่อ
อาจารย์แกทำให้ "ฟรี" ใช่ใหมจ๊ะ แต่พวก "ชั่ว" นี่ ทำบาปทำกรรมโดยได้เงินค่าก่อกรรมทำเข็ญ
บางคนได้เงินเดือนมากพอเปิดเว็บวิชาการดอทคอมได้เดือนละสองเว็บเลย แล้วพวกนี้ก็เรียนสูงด้วยนะ ความคิดผิดชอบชั่วดี น่าจะสูงตามเงินเดือนบ้าง

ย้อนมาที่จุดตั้งต้นของความหงุดหงิดของrพี่อีกทีนะครับ

คุณ  ไม่  มี  สิทธิ์  ทำ  อย่าง  นี้  กับ  บ้าน  เมือง  ของ  ผม

แปลว่า ผมขอใช้สิทธิ์ในฐานะที่อาศัยในบ้านนี้ บอกกับคนอื่นว่า
ผมเห็นตุ๊ดตู่อยู่หน้าส้วม  
ช่วยไล่มันไปหน่อยเหอะ ผมจะใช้ห้องน้ำ

คนอื่นบอกว่า มันไม่ทำอะไรคุณหรอก
ผมบอกว่า มันทำผมถ่ายไม่ออกเฟ้ย
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 19 พ.ค. 06, 01:18


.
ไอ้แหยฆ่าพ่อ
เอาปกมาฝาก เผื่อใครอยากลอง
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 19 พ.ค. 06, 01:28

 อูยยย คุณpipat ฟังคุณpipat พูดแล้ว เหมือนจะให้สังคมสะอาด หมดจด เหมือนยุควิคตอเรียนยังไงๆอยู่นะครับ
แต่โลกของความเสื่อมอย่างในปัจจุบัน จะว่าไป อะไรๆมันก็ถดถอยถ่อยลงอย่างไม่ต้องพูดถึง

จำได้ว่าครั้งหนึ่ง ตอนผมยังเป็นเด็กอยู่ ไปเดินซื้อของกับคุณแม่ แล้วเจอะกะเทยนางหนึ่ง แต่งตัวตุ้งติ้งสุดริดเดินบิดสะโพกชอปปิ้งอยู่
ด้วยความไม่รู้ผมก็ถามคุณแม่ไปล่ะครับ ว่า "แม่ครับ น้าเขาเป็นอะไรอ่ะครับ"
เพื่อตอบคำถามผมแค่นี้แหละ คุณแม่ต้องจูงผมไปที่ชั้นวางของอีกหลายช่องถัดไปเพื่อบอกว่า "เขาเป็นกะเทยจ๊ะลูก"

ลองดูเดี๋ยวนี้สิ นักพูดกะเทย ช่างตัดผมกะเทย นักเขียนกะเทย นักทำโฆษณากะเทย ฯลฯ ไปจนถึงอ.สอนพิเศษกะเทยเดินพาเหรดออกโทรทัศน์กันเยอะแยะ
แถมบางทีไปเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณามีแฟนติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองอีกด้วยแหนะ
จนเด็กอายุยังไม่ได้เข้าอนุบาลด้วยซ้ำเห็นเข้าก็ชี้บอกได้ "ลุง (หรือป้าดีหว่า) คนนั้นเป็นตุ๊ด"



เพลงก็เหมือนกันนะครับ จำได้ว่าผมเคยอ่านจดหมายเก่าๆที่คุณพ่อกับคุณแม่ผมส่งถึงกัน
เพื่อนคุณแม่คนหนึ่งที่เดินทางไปเรียนต่างประเทศเมื่อหลายสิบปีก่อน ได้รับเนื้อเพลง "ขอให้เหมือนเดิม" จากสุภาพบุรุษนุ่มท่านนึง
จนคุณน้าท่านนั้นเรียนจบ หอบเอาปริญญาโทข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาเมืองไทย
เนื้อเพลงแผ่นนั้นก็ยังมีความหมายทางใจกับเธอมากมายเหลือเกิน

แล้วเดี๋ยวนี้ละครับ คุณpipat ลองดูเองแล้วกันว่ามันมีเพลงอะไรต่อมิอะไรมั่ง
แค่ฟังชื่อบางเพลงไม่ต้องมีเนื้อต่อก็บอกได้แล้ว ว่า "อีนี่มีผัว 2 คน" หรือไม่ก็ "โห อีนี่เป็นชู้กับผัวชาวบ้านนี่หว่า" (ขออนุญาตพูดภาษาชาวบ้านนะครับ)
เพลงฝรั่งยิ่งไปกันใหญ่ I want o help you masterba.... . เนี่ยะ จะแปลว่าอะไรดีล่ะครับ
ก็ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป กฏเกณฑ์ต่างๆมันหย่อนลง แล้วสังคมก็เปิดกว้างขึ้นนี่ครับ
จะไปให้มันเข้มงวดเท่าเมื่อก่อนก็คงยากนะครับ คนในสังคมก็คงได้แต่หวังไปเรื่อยๆอ่ะครับ



คุณพิพัฒน์ก็คงต้องใช้วิธีป้องกันให้ตัวคุณเอง กับคนในครอบครัวของคุณล่ะครับ
เลือกสังคมที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี และการป้องกันที่แข็งแรงให้ทุกๆคนที่คุณเป็นห่วงเป็นใยไงครับ
(ประโยคล่าสุดที่พูดไปนี่ ไม่เกี่ยวอะไรกับบริษัทประกันภัย นมกระป๋อง หรือแป้งเด็กนะครับ แหะๆ)



ขอต่ออีกนิดนะครับ ว่า กว่าพ่อแม่แต่ละคนจะหาโรงเรียนให้ลูกเข้าเรียนได้ แค่อนุบาลนี่ก้เลือดตาแทบบกระเด็นแล้ว
คุณpipat จะไม่ให้ความเชื่อถือกับโรงเรียนที่คุณอุตส่าห์หาให้ลูกซะหน่อยเหรอครับ







ปล. เท่าที่ดูจากกระทู้นี้ โฆษณาหลายอันเรตติ้งดีจนเรียกควันคุณpipat นะครับ
ทางสถานีโทรทัศน์เขาคงไม่ถอดออกหรอกครับ อิอิ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 19 พ.ค. 06, 01:51

 ตอนที่สร้างเขื่อนอัสวาน พลเมืองอียิป์ทุกคนสนับสนุน สิบปีเต็มๆ ที่ทุกกระบอกเสียงประโคมคุณงามความดีของมัน

มีคนเดียว คนเดียวจริงๆ ที่คัดค้าน โดยอ้างเรื่องที่ในวันนั้น ไม่มีใครรู้จัก ระบบนิเวศน์ของแม่น้ำไนล์

กาลเวลาเป็นพยานที่ซื่อสัตย์ เกิดโรคระบาดในเมืองใต้เขื่อน
พวกนักวิทย์ทั้งหลายคงรู้รายละเอียดดีกว่าผมในเรื่องนี้แต่ที่ผมจะอ้างคือ
อย่าทอดอาลัย เพราะใครๆ เขาก็เป็นกัน
ควรเคารพตัวเองบ้าง
ถ้าเห็นผี แต่คนอื่นบอกว่าผีไม่มีในโลก ก็ต้องเชื่อเรา ไม่ใช่เชื่อเขา เขาไม่เชื่อเราก็ไม่เป็นไร แต่เราต้องเตือนเขา ถ้าเราเห็นเรื่องที่น่าเตือน

ผมไม่เคยเชื่อฟังพ่อผมเลย แต่ท่านก็ยังสอนผมจนวินาทีสุดท้าย

เอาล่ะ จะเตือนเรื่องนี้ ฝากลมไปถึงคนที่อยากให้ได้ยิน
ผมชอบดูรายการคุณพระช่วย แน่ล่ะ คนทั้งหลายก็ชอบกัน
แต่รายการนี้ มีหลายอย่างที่อาจเป็นหายนะ
อ้าว...ทำไมพี่พูดอย่างนี้ละ..........เขาทำออกดี


ผมเห็นรอยร้าวเล็กๆ รอยหนึ่ง
รายการนี้มีกรอบเวลามาจำกัด ทุกอย่างต้องทำภายใต้เงื่อนไขเวลา นั่นทำให้เกณฑ์ประเมินค่าศิลปะวัฒนธรรมไทย ที่เขานำเสนอออกมา
เน้นเรื่อง "เร็ว" เป็นประเด็นหลัก
และเนื่องจากต้องการจับใจมหาชน บ่อยครั้งที่เขาละเว้น"ความประณีตบรรจง" และ "ความลึก" ฯลฯ อันเป็นลักษณะเฉพาะ พึงสงวนรักษา แต่ไม่เหมาะกับเกมส์โชว์

ใครช่วยชั่งน้ำหนักทีได้ใหม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 19 พ.ค. 06, 10:07

อ่านค.ห. 33 แล้วเสียวสันหลังวาบๆไงไม่รู้ เหมือนแส้ตวัดเฉียดแผ่นหลังไปมา

เล่าเรื่องฆาตกรรมสยองเพราะความสนุก  ถือว่าการอ่านแล้วพากันวิเคราะห์สืบหาความเป็นไปได้ของฆาตกรตัวจริง
เป็นการฝึกสมองให้ทำงาน   โดยการคำนวณความเป็นเหตุเป็นผลได้อย่างดี  
รู้จักสังเกตสังกาและใช้จินตนาการควบคู่ไปด้วย
ส่วนการที่ดอดไปหาตอนจบมาอ่านเสียก่อน  สนองความอยากรู้
ดิฉันว่าเป็นการทำลายขั้นตอนทั้งหมดที่สมองจะได้พัฒนา  
เหมือนคุณไปหาคู่มือตอบข้อสอบวรรณคดี มาอ่านเป็นทางลัด  แล้วปิดหนังสือไปสอบวิชาวรรณคดีไทย ได้ A ออกมาก็จริง
แต่คุณจะไม่ได้รับรสชาติของวรรณคดีตัวจริง

แต่ก็มานึกได้ว่า เราไม่มีวิสัยทัศน์ไกลไปถึงว่าพ่อหนูแม่หนูอนุบาล มาเจอเว็บนี้  ผสมคำอ่านออกแล้วเลยถือขวานไปสับเพื่อนด้วยกัน
เราจะผิดไหม   ผิดแน่ๆไม่ต้องแก้ตัวว่าไม่เจตนา
เดี๋ยวจะรีบรวบรัดให้จบกระทู้แล้วดันให้มันตกหน้าไปเร็วๆดีกว่าค่ะ
****************
หนูเฟื่องจ๋า
อ่านของหนูตอนนี้แล้ว  ทำให้อยากตอบความในใจขึ้นมา
หนูบอกว่า
ควรที่จะทำใจตัวเอง
ง่ายกว่าที่จะไปคอยแก้ไขความคิดคนอื่น
โดยเฉพาะคนในสังคมที่ยังเป็นมนุษย์ปุถุชน
ซึ่งยังมีรัก โลภ โกรธ หลง ทิฐิ โทสะ โมหะ อคติ ตามแบบมนุษย์ปุถุชนด้วยกัน


อ่านแล้ว อยากบอกว่า  ฝึกฝนใจตัวเองเป็นสิ่งดีมาก ที่จะเข้มแข็งไม่คล้อยตามสิ่งผิดๆที่คนอื่นทำ
แต่มันก็เป็นสิ่งง่าย ถ้าเทียบกับเราได้อุทิศเวลาสักนิด ในแต่ละวัน แต่ละเดือนหรือปี  เมื่อว่างจากการฝึกใจตัวเองแล้ว
ทำอะไรสักอย่าง แก้ไขให้สังคมดีขึ้น เช่นเสนอความรู้แก่คนที่ไม่รู้  เสนอความคิดแก่คนที่ไม่ทันคิด
มันอาจจะยาก เพราะก็คงมีคนที่ไม่รับ  ไม่สนใจ คัดค้านหรือแม้แต่สวนหมัดกลับมาให้เราคิดว่า...ฉันน่าจะนั่งอยู่เฉยๆดีกว่านะนี่ ได้ไม่เจ็บและเหนื่อย

แต่คนหลายคนเขาก็ยินดีทำสิ่งที่มันไม่ได้สะท้อนกลับมาเป็นผลตอบแทนแก่ตัวเขา  แต่เป็นผลตอบแทนที่ดีแก่คนอื่นๆ
จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ใครจะรับไปได้แค่ไหน  
แต่อย่างน้อยใน ๑๐๐ คนมีคนรับไปสัก ๑ คนก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เพราะในกรณีนั้น จำนวนคนรับย่อมเป็น ๐

ก็เพราะคิดกันยังงี้แหละ คุณจ้อ คุณเปี้ยว คุณอ๊อฟและทีมงานคนอื่นๆ ถึงได้มานั่งทำเว็บวิชาการดอทคอมกันไง
ทั้งที่พวกเขาเรียนจบ กลับมาทำงาน    จะเอาเวลาว่างไปเที่ยวกับลูก กับแฟน  ก็ไม่มีใครมาเอ่ยปากตำหนิได้   ปลอดจากปัญหาปวดหัวต่างๆด้วย
แค่วิ่งวุ่นหาข้อมูล เขียนโครงการ ส่งไปตามที่ต่างๆเพื่อขอเงินมาค้ำจุนเว็บจากหน่วยงานเท่าที่จะหาได้   สมองด๊อกเตอร์ก็ต้องพึ่งพาราฯหลายขวดแล้วละหนู
แต่พวกเขาก็ยินดีทำ  และจะทำต่อไป
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 19 พ.ค. 06, 11:01

 อาจารย์เทาแกล้งตีความเข้าข้างตัวเอง เพื่อจะจบกระทู้หฤโหดนั่น
การรีบจบกระทู้ที่คนติดงอมแงม เป็นบาปนะครับ แหะ แหะ

ขอชี้แจงแถลงไขเกี่ยวกับที่ยกตัวอย่างสับสยองตระกูลวิลเลียมต่อครับ
ถ้าเป็นสำนวนสอบสวนของตำรวจ หรือรายงานการชันสูตร มิยิ่งสยองยกกำลังหรือครับ
ใช่ครับ

เขาจึงไม่เผยแพร่ในที่สาธารณะไงครับ แต่ไม่ "ห้าม" การเผยแพร่นะครับ นี่เห็นจะเข้าหลัก หิริ-โอตัปปะ อย่างอ่อนๆได้กระมัง
การละอายเกรงกลัวต่อบาปนี่ ไม่มีการแจกรายละเอียดเป็น 1, 2, 3, 1.1, 1.2, 1.3,
มันเป็น "องค์รวม" แบบควอนตั้มเทียวรี่(แหนะ ..วันนี้อ้างฝาหรั่ง   มันไม่รู้จะหาคำไทยคำใหน) คือ เมื่อถึงจุด มันจะเป็นไป แต่ถ้าไม่ถึง ยังไงยังไงก็ไม่เป็นไป แม้จะใกล็ถึงขีดสักเพียงใด
นี่กระมัง
ที่เขาว่าไม้บันทัดวัดคุณธรรมของแต่ละคน ละเอียดไม่เท่ากัน

มีเว็บวีระ-ยำ แยะเลย ที่คุณคลิกเข้าไปแล้วเจอทุกอย่าง
วันหนึ่ง ผมกำลังตามหาเว็บเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมไทย เจออันหนึ่ง บรรยายสรรพคุณไว้ดี คลิกเข้าไปผมเจออะไรรู้ใหม วีซีดีน้องแนท ครับ  อีกวันหนึ่งสอบข้อมูลเรื่องคอมพิวเตอร์...มันก้อโผล่มาเลย ...ราคาถูก ญี่ปุ่น ฝรั่ง....ภาพคมชัด......
หรือน้องคนใหนก็ได้ พิมพ์ คำว่า "ขาว สวย หมวย อึ๋ม" ใส่กูเกิลสิครับ
จริงล่ะ มันฟรีดั้ม ผมชอบ แต่ผมห่วงลูกชายลูกสาวของทุกๆ คน ทำไมเขาไม่ขายปืนให้เด็กเจ็ดขวบล่ะ เว็บพวกนี้ต่างจากปืนตรงใหน แล้วสื่อสารพัดที่ผมเกรงกลัว"เข้ากระดูกดำ" อันตรายน้อยกว่าปืนตรงใหน ทำไมห้ามเด็กสูบบุหรี่ละ ห้ามโฆษณาอีก
ที่เขาแซวกันไง
โจรคาบบุหรี่เอาปืนจ่อหัวพระเอก เขาทำเบลอที่บุหรี่ ไม่เบลอที่ปืน มันเหมือนสำนวนของ ว ณ เมืองลุงเลย ถอดกางเกงผายลม

ผมยอมรับอย่างดุษฎีภาพเรื่องสอนลูกเราให้ดีก่อน  แต่ถ้าหมู่บ้านที่คุณอยู่ มันโจรทุกหลังเลย คุณมิต้องกั้นรั้วห้ามลูกคุณออกไปหรือ

สมมตินะ ว่าลูกผมไปโรงเรียน อยู่ดีๆ มีเด็กในห้อง บิดามารดามันรวยจัด วันเกิดที สั่งเคททะลิ่งของการบินไทยเข้ามาหนึ่งคันรถ เลี้ยงทุกคนในโรงเรียน ทีนี้คุณจะสอนลูกว่าไง
เห็นช้าง... อย่า...ตามช้างหรือ คำสอนพวกนั้นมันกฏแห่งกรรมรุ่น ดอส 5.1 ครับ มันไม่ทันกับพฤติกรรมระดับควอดคอร์ของทุกวันนี้ เพราะเราหนุนฝั่งเตลิด มากกว่าหนุนฝั่งปราม
นี่พยายามยกตัวอย่างแบบที่กำกวม ไปบวกก็ได้ลบก็ได้มาถกกัน

จะเอาของจริงก็ได้
เด็กฝรั่ง เข้าเว็บ สอนวิธีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เจ้าหนูกับเพื่อนเลยวางระเบิดโรงเรียนไง จำได้ใหม นี่ละสื่อเสรีของแท้เลย

สื่อต้องมีเสรีแน่หรือ  แล้วแค่ใหนเขาถึงร้องว่า ไม่เสรีแล้วจ้า

กลับมาที่เรื่องเล่าของอาจารย์
นี่เป็นตัวอย่างของการใช้ประโยชน์ศิลปะ ว่าด้วยการเล่าเรื่อง เพื่ออัดฉีดสาระเข้าสำนึกคน
สมมตินะครับ ว่ามีเด็กมาอ่าน แล้วติดอย่างหลงไหล
คุณคิดว่า เจ้าหนูอยากจะเป็นนักสับ

หรืออยากจะเป็นนักเขียนครับ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 19 พ.ค. 06, 11:35

 เรื่องนี้เป็นตำนาน และเป็นตำรา ว่าด้วยเสรีภาพสื่อ

หนังสือฮัสต์เล่อร์ เลวยังไง และเจ้าของไม่ได้ดีกว่าหนังสือยังไง คงไม่ต้องแจง
สาธุคุณท่านหนึ่ง จึงเทศน์ด่าหนังสือนี้ และได้ผลเพราะท่าน "เสียง" ดัง

ฮัสต์เล่อร์ด่ากลับ ถึงขั้นว่า
แม่ของสาธุคุณ ถูกแพะผสมพันธุ์ จึ่งกำเนิดท่านมา
สาธุคุณฟ้องว่าหมิ่นประมาท

สื่อใหญ่ทั้งหมดในเมริกาเข้าข้างฮัสต์เล่อร์
ทั้งที่แต่เดิมขยะแขยงมัน หาว่าเป็นปกขาวฉบับสี่สี
อ้างคาถาศักดิ์สิทธิ์ของหนูเฟื่อง นั่นแหละครับ
ประมาณว่า ถ้าปกขาวแพ้ ตัวเองจะหากินลำบาก
ไม่ต้องสนใจว่าศาลพิพากษาว่าไง นั่นมันประเทศเขา สังคมเขา



พวกคุณล่ะ ว่าไง


.
บันทึกการเข้า
paganini
องคต
*****
ตอบ: 406

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 19 พ.ค. 06, 13:18

 อืม นั่งอ่านการแสดงความเห็นของท่านทั้งหลายแล้วเหนื่อยครับ แต่ก็ดีแล้วล่ะครับ ขอให้มีกระทู้แบบนี้มากๆ นะครับ
สำหรับความเห็นของผม ทุกท่านได้พูดไปหมดแล้ว จึงไม่ต้องแสดงที่นี่อีกครับ ออิอิอิ
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 20 พ.ค. 06, 15:41

 เฮ้ย คุณปะกานินี่จะไม่ยอมให้ผมอภิปรายต่อหรือ?

ผมยังไม่ได้พูดเลยครับ

ส่วนตัวเอง ผมคิดว่าผมค่อนข้างรำคาญผลงานครีเอถีบ (หรือเดสทรักถีบ) เหล่านี้หลายอันเหมือนกัน เข้ากลุ่มคุณพิพัฒน์ได้

ถ้าจะลากไปถึงสิทธิเสรีภาพตาม อเม็นด์เม้นท์ที่เท่าไหร่ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ (เซกันด์?) ผมก็ยอมแพ้ แต่ก็นั่นแหละ นั่นมันรัฐธรรมนูญเมืองเขานี่นาไม่ใช่เมืองเรา

แต่ผมนึกถึงอีกหลักหนึ่ง ภาษาเศรษฐศาสตร์เรียก externality หรือเปล่าไม่แน่ใจคือในแง่หนึ่ง คุณเอ็งมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำอะไรก้ได้ แต่ในแง่หนึ่ง ผมตูนั่งอยู่ของผมดีๆ สบายๆ ในบ้านความถ่อยของคุณเอ็งก็โผล่เข้ามาทำให้ผมคลื่นเหียน หรือโผล่เข้ามาทำนิสัยลูกผมเสีย ถึงในบ้านผม ผ่านทีวี หรือผ่านคัทเอาท์บนถนน หรือในหนังสือพิมพ์ พื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่สาธารณะนี่ครับ ถ้าคุณเอ็งมีสิทธิเสรีภาพในการทำหรือพูดอะไรก็ได้ ในบ้านคุณเอ็งก็ยังพอรับ แต่ -เจือก- ก่อมลพิษพอลลูชั่นลงพื้นที่สาธารณะนอกบ้านคุณเอ็ง คนอื่นเขาเดือดร้อน ก็นาจะสมควรมีขอบเขตป้องกันอะไรบ้าง

เหมือนกับการปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ ในประเทศไหนก็ผิดทั้งนั้นครับ แม้แต่อเมริกา เพราะคนอื่นเขาเดือดร้อนจากมลภาวะของคุณเอ็ง แม้แต่ในประเทศอเมริกาเหมือนกัน หรือต่อให้ประเทศไหนก็ตามแต่ที่นับถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนด้วย กฏระเบียบว่าด้วยการกระทำอนาจารในที่สาธารณะก็ยังต้องมี คุณเอ็งจะถือเป็นการเอ็กซเพรสตัวเองอย่างหนึ่งแล้วลองทำอะไรที่เคยทำในที่ลับโจ้งๆ ในที่แจ้ง ก็ต้องโนตำรวจจับ  เพราะคนอื่นเขาไม่ชอบ มันไม่ใช่ในห้องนอนคุณเอ็งนี่หว่า

เปลี่ยนจากการกระทำ มาเป็นการทำหนังโฆษณา คุณเอ็งเป็นพวกถีบ ทำอนาจารแล้วได้เงินด้วย คนบางส่วนเห็นแล้วตาโตจำสินค้าคุณเอ็งได้แม่น เท่านั้นพอแล้ว งั้นเหรอ? หลักเดียวกันมันน่าจะพออนุโลมใช้ได้พอสมควร อาจไม่เป๊ะๆ หรือต้องควบคุมกันมาก เดี๋ยวหาว่าสิดรอนสิทธิเสรีภาพอีก แต่มันน่าจะมีเส้นขอบเขตบ้างรึเปล่า?
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 20 พ.ค. 06, 15:54

 แต่เรื่องนี้ออกจะละเอียดอ่อนพอสมควร ระหว่างการผดุงรสนิยมที่ดี กับการบังคับใช้เผด็จการทางความคิด

การเซ็นเซอร์จึงอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ถ้าจะใช้วิธีนั้น ผู้มีอำนาจเซนเซอร์ต้องมีวิจารณญาณดีมากๆ เลย ซึ่งบางทีก็ไม่เป็นยังงั้น

เมื่อใช้วิธีแบนเอาดื้อๆ ไม่ได้ทั้งหมด เดี๋ยวกระทบสิทธิมนุษยชน ผมจึงเคยคิดว่า ถ้าผมเป็นครีเอทีฟ แล้วเห็นโฆษณาไร้รสนิยมบ้าๆ ของพวกครีเอถีบด้วยกัน ซึ่งต่างก็นัยว่าเอ็นจอยสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกด้วยกันทั้งนั้น ผมจะลองๆ ร่างสตอรี่บอร์ด ทำโฆษณาเกทับไอ้พวกถีบบ้าๆ นั่นได้หลายอันทีเดียว แต่ต้องหาบริษัทลูกค้าที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเหมือนกันและมีรสนิยมดีพอกันกับผม

ซึ่งที่จริงน่าจะหาไม่ยาก เพราะตามหลักโฆษณาเบื้องต้น บริษัททั้งหลายน่าจะอยากมีภาพลักษณ์เป็นคนดีด้วยกันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? แต่หลายครั้ง บริษัทพวกนี้ก็โง่ไปเสียเงินจ้างเดสทรักถีบที่สร้างภาพให้สินค้าตัวเองไปในทางตรงกันข้าม แล้วก็ยังปลื้มอยู่ได้

ตัวอย่าง ไม่นานมานี้ มีป้ายคัทเอาท์ใหญ่ขึ้นที่สี่แยกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปิดตัวเบียร์ชนิดใหม่ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งนัยว่าขวดสีเหลืองเหมือนไฟเหลือง ก็โฆษณาประมาณว่าท้าคนดู คือ "กล้าๆ หน่อย กล้าลองของใหม่หน่อย ไฟเหลืองยังเคยกล้าฝ่ามาแล้ว กล้าลองเบียร์ขวดเหลืองหน่อยสิ ซำบายมาก"

ไอ้เวร ขอให้ไอ้ครีเอถีบคนนั้นถูกรถวิ่งฝ่าไฟแดงไฟเหลืองมาชนตายสักวันด้วยเถิด

ผมเคยนึกเล่นว่าถ้าผมเป็นบริษัทเบียร์ดั้งเดิม ผมจะขึ้นป้ายคัทเอาท์ข้างๆ เกทับเลยว่า "เมืองไทยของเราเบียรืไทยของเรา เบียร์เราเบียร์ผู้ดี มีระดับ มีความรับผิดชอบ มีนารยาทในการใช้รถใช้ถนน ไม่ทำผิดกฏจราจรอย่างน่ารังเกียจเหมือพวกที่ชอบดื่มเบียร์ชั้นต่ำอะไรไม่รู้แถวนี้"

เอาให้เข็ดเลย ในเมื่อเราควบคุมโฆษณาไม่ได้ ต้องโยนภาระให้คนดูใช้วิจารณญาณเอง งั้นก็อาศัยกระแสทุนนิยมเสรีนี่แหละ ช่วยเหลือวิจารณญาณของคนดุหน่อย แล้วสินค้าของเราจะได้ดูดีด้วย
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 20 พ.ค. 06, 16:00

 เคยมีโฆษณามือถือระยามตามบอนอันหนึ่ง คล้ายๆ จะโฆษณาว่ามาใช้ของเขาแล้วมีโปรโมชั่นให้คุยยาวจนคอแห้ง เดสทรักถีบจึงกำหนดเรื่องโฆษณาว่า "ใช้มือถือของเรา ระวังคอแห้งนะ" แล้วก็ให้ตัวละครในเรื่องทำน่าเกลียดโดยดื่มน้ำอั้กๆ จากปากขวดคูลเลอร์น้ำสาธารณะของที่ทำงาน น่ารังเกียจขยะแขยง

ถ้าผมเป็นครีเอถีบ ผมจะรีบเสนอไอเดียต่อบริษัทคู่แข่งเลยว่า ให้ออกโฆษณาเกทับมันอีกอันหนึ่งว่า "ใช้มือถือเจ้าโน้น ระวังมารยาททรามและกลายเป็นคนเลวงี่เง่าในส่วนตาคนรอบข้างนะ - ใช้มือถือเจ้าของเราดีกว่า เราเป็นมือถือที่แทนสิ่งดีๆ ในชีวิต..." เอายังงั้นซะเลย

แต่ไม่เห็นมีใครทำโฆษณาออกมาตอบโต้ความเลวของถีบส่วนหนึ่งอย่างที่ผมอยากเห็น ดังนั้นผมไม่แน่ใจนักว่า ขึ้นชื่อว่าถีบแล้ว จะต้องมีรสนิยมเดียวกันหมดโดยไม่มีข้อแตกต่างหรือเปล่า จึงไม่รู้จะตอบโต้ยังไงเพราะตัวเองก้ไม่ได้เห็นว่ามันไร้รสนิยม หรือว่าถือคติว่า ถีบด้วยกันย่อมไม่ถีบกันเอง หรืออะไรก็ไม่ทราบซี
บันทึกการเข้า
elvisbhu
แขกเรือน
พาลี
****
ตอบ: 215

เป็นคนเขียนรูป


ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 20 พ.ค. 06, 18:29

 โทษนักโฆษณาด่ากราดทั้งหมดไม่ได้หรอกครับ บางครั้ง เอเจนซี่บางแห่งก็ได้โจทย์จากลูกค้าว่า ขอไอเดียแหกๆหน่อยนะ
ผมอยากให้คนพูดถึงสินค้าเรามากๆ
(จะในทางดีหรือเลวก็ไม่สำคัญ ฮ่าฮ่า)
ถ้าคุณคิดดี แต่ไม่แหวก เขาก็อาจว่าคุณไดโนเสาร์ เชย
..โทษนะครับ โฆษณายุคนี้ คุณยิ่งด่ามาก คนยิ่งจำมาก เขาก็ยิ่งดัง
บางทีการจดจำตรายี่ห้อ สำคัญมาก
จนเขาไม่แคร์ว่า การรับรู้ของผู้เสพย์น่ะ เป็นในทางลบต่อตัวสินค้า
เป็นผลเสีย
เอาหละ ตอนนี้ ผมชอบโฆษณาบัตรเงินสดครับ ที่ผู้ชายท่าทางปวดอีมาก ไปซื้อกระดาากับหญิงชรา ที่กดเครื่องคิดเงินไม่ออก
ขำจริงๆ
เล่นดี ไอเดียดี
ถามว่า จำไหม จำแม่นเลยครับ
บางทีโฆษณาแค่นี้ ตราสินค้าต้องการแค่นี้
แต่ข้อเสียคือ จำยี่ห้อบัตรยังไม่ได้เพราะมัวแต่ขำ..
ต้องดูซ้ำบ่อยๆ
ซ้ำเข้าๆ ก็ไม่ขำ
แต่ตอนนั้นก็จะเริ่มจำตรายี่ห้อได้แล้ว
ถึงได้ต้องเพิ่มความถี่ไงครับ
ไปดูดาวินชี่โค้ดมา พอโฆษณานี้ออกโรงหนัง เฮกันทั้งโรง มันจริงๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.076 วินาที กับ 19 คำสั่ง