ความเห็นเพิ่มเติมที่ 137
ความเห็นเพิ่มเติมที่ 145
เรียนถามอาจารย์เทาฯอย่างชัดๆเลยครับ ว่า
1 "พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์นี้ไม่มีศาสนา, ไม่มีศีล, ไม่มีธรรม, วัน ๑ อาจพูดอย่างหนึ่ง, อีกวันหนึ่งอาจกลับกลอกเสียก็ได้, และฃ้าพเจ้าจะไม่ลืมเลย ว่าพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์นี้ ลิเอาราชอาณาเฃตต์ฃองพระราชวงศ์จักรีไปฃายฝรั่งเสีย ๓-๔ คราวแล้ว"
2 " ท่านใช้เราเป็นบรรไดขึ้นถึงที่สูงได้แล้ว ท่านจะเตะบรรไดเสีย"
ผมไม่เชื่อทั้งสองข้อครับ
เรื่องข้างต้นนี้โปรดอ่านรายละเอียดในกระทู้เรื่อง
http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=130&Pid=49906 ส่วนเรื่องเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ นั้น
ผมเรียนตามตรงว่า ทรเป็นพระมหากษัตริย์ที่ "โลดโผน" เกินกว่ามาตรฐานพระราชวงศ์ยุคนั้นจะตามทัน อันนี้สดุดีนะครับ
ดูเอาเถิด ท่านจะประกาศสงคราม ท่านยังต้องรอวันเสาร์ และทรงชุดสีม่วง ใครเคยอ่านที่ท่านเอ็ดมหาดเล็กคนหนึ่ง(จำชื่อไม่ได้) ท่านว่า ข้าจะประกาศสงคราม ใช้ปากกาด้ามนี้ได้ยังไง ...(ขออภัย เล่าจากความจำอีกแล้ว)
เรื่องนี้คิดว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับความเป็นศิลปิน แต่น่าจะอยู่ที่ความพร้อมมากกว่า เพราะเท่าที่ทราบมา ทรงเตรียมการไว้ล่วงหน้าเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว ดังที่ทรงมีพระราชหัตถ์ลับให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นกำแพงเพชรอัครโยธิน ซึ่งทรงกำกับการขุดอุโมงค์ขุนตานถือไว้ พอดีเวลาที่กำหนดก็ให้จับกุมวิศวกรเยอรมันและชนชาติศัตรูพร้อมกันกับที่กรุงเทพฯ ในเรื่องการจับกุมนี้มีเรื่องเล่ากันอยู่ว่า ฝ่ายเยอรมันนั้นพอจะได้ระแคะระคายอยู่บ้าง แต่ไม่ทราบว่าจะรวดเร็วถึงขนาดทูตถูกจับกุมจากที่นอน ที่สำคัญคืออุโมงค์ขุนตานหากวิศวกรเยอรมันลอบวางระเบิดอุโมงค์ งานที่ทำมากว่าก่อนหน้านั้นก็เป็นอันสูญหมด ถึงแม้คนไทยจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีไว้แล้วก็คงยากที่จะมาเริ่มงานใหม่
ในประเด็นเรื่องเครื่องทรงนั้น ขอเรียนว่า ทรงสีแดง ซึ่งเป็นสีตามกำลังวันของวันอาทิตย์ตามโบราณราชประเพณี และการทรงเครื่องเช่นนี้เป็นไปตามตำหรับพิชัยสงครามซึ่งพระมหากษัตริย์ในอดีตได้ทรงกันมาตลอด เป็นการทำสงครามจิตวิทยาชนิดหนึ่ง หากขวัญกำลังใจของทหารไม่พร้อมแล้ว ต่อให้มีกำลังมากกว่าข้าศึกถึง ๑๐ เท่าก็อาจปราชัยได้ ดังเช่น พระเจ้านโปเลียนที่มีกำลังมากกว่ากองทัพของดุ๊กออฟเวลลิงตันถึง ๑๐ เท่า แต่ก็แพ้สงครามวอเตอร์ลูให้แก่อังกฤษเป็นตัวอย่าง