เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 16
  พิมพ์  
อ่าน: 47926 มาพร้อมกับเรื่องใหม่ตามที่สัญญาไว้(จบแล้วค่ะ)
เฟื่องแก้ว
พาลี
****
ตอบ: 327

เลขานุการ


ความคิดเห็นที่ 105  เมื่อ 15 พ.ค. 06, 20:09

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
บันทึกการเข้า
Nuchana
สุครีพ
******
ตอบ: 979


ความคิดเห็นที่ 106  เมื่อ 15 พ.ค. 06, 20:30

 หนูเฟื่อง: ฮือๆๆๆๆ  แมวน้อย หัวกับตัวคนละทางเลย
Nu says: ของใคร…ตัวไหน
หนูเฟื่อง: แมวพี่นุชแหละ
Nu says: อ้อ เหรอ
หนูเฟื่อง: หมายถึงหัวมันไม่อยู่ด้วยกันไง….. หัวขาด
Nu says: บอกแล้ว ยังปราณีนะอุตส่าห์ใช้ invert color mode; or else you would be          
............ screamingggggggg!!
หนูเฟื่อง: นั่นก็กรี๊ดแล้ว ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
Nu says:  โอ โอ โออออ
หนูเฟื่อง:  แงๆๆๆๆๆๆ
Nu says:   แงทำไม ทีนี้จะเอา multi color/256 shades เลยไหม ขอเวลามิกซ์หน่อย
หนูเฟื่อง:  โหย...โหดว่ะ พี่นุชอ่ะ
บันทึกการเข้า
เฟื่องแก้ว
พาลี
****
ตอบ: 327

เลขานุการ


ความคิดเห็นที่ 107  เมื่อ 15 พ.ค. 06, 21:09


แง่ง..  
บันทึกการเข้า
Nuchana
สุครีพ
******
ตอบ: 979


ความคิดเห็นที่ 108  เมื่อ 15 พ.ค. 06, 21:21


หนูเฟื่อง...ฝึกไว้ให้ชินกับความไม่เที่ยงของสังขารานะจ้ะ จะได้พร้อมทุกเมื่อไง
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 109  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 00:09

 หลังจากที่โพสต์ภาพท้าวไปแล้ว....



เฮ่ย อันนั้นมันเล่าแชร์แล้วป่าวหว่า
เอาภาพมือมาฝากมั่งครับ
ฝากทั้งอ.เทาฯ เจ้าของเรื่อง (เผื่ออยากแปลงร่างจากอ.ใจดีเป็นครูไหว ก็ตีมือในภาพก่อนนะครับ)
แล้วก็ฝากคุณ pipat ผู้ชื่นชอบ Escher ด้วยครับ จะได้มีกำลังใจหาภาพต่อไปได้อีก

ส่วนคุณเฟื่องแก้วอย่าเพิ่งต๊กกะใจ๋ เป็นลมล้มพับจับไข้หนาวสั่นไปก่อนล่ะครับ
ผมว่าภาพฯสวยดีอ่ะ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 110  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 00:11

อันนี้จิ
...
น่ากัวก่าเยอะเยย


จิงป่ะคัฟ พี่เฟื่อง
อิอิ



ปล. ผมว่าถ้ารวมๆภาพ Escher ในเครื่องของสมาชิกชาวเรือนไทย
คงพอเปิดกระทู้ 2 หน้าได้ซัก 1 กระทู้นะครับเนี่ยะ อิอิ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 111  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 01:32

 พับผ่าเถอะ

คดีนี้ สางยากยิ่งกว่าคดีห่อสภาไรช์ตาร์กเสียอีก
นักสืบพราน บ่นกับผู้ช่วย
.
บันทึกการเข้า
เฟื่องแก้ว
พาลี
****
ตอบ: 327

เลขานุการ


ความคิดเห็นที่ 112  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 03:50

อุ๊ย ปู่โสม ยังอยู่เฝ้ากระทู้อีกหรือคะ ระวังเน้อ ดึกแล้วน๊า

หาเพื่อนมาเฝ้าทู้ เป็นเพื่อนปู่
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 113  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 09:02


.
หวัดดี..........เ ฟื่ อ ง ง ง ...
เพื่อนนู๋
หร่อยแมะ......ท่าทางน่ากิน
บันทึกการเข้า
B
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 148


ความคิดเห็นที่ 114  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 09:18

 มาลงชื่อว่าตามอ่านกระทู้นี้ด้วยความสนุก และรอลุ้นผลการสืบสวนค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ

ขออนุญาตติง-ด้วยความเคารพนะคะว่า การโพสต์ภาพบางภาพ เช่นศพหรือชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ไม่น่าดูเลยค่ะ ทราบว่าแต่ละท่านที่โพสต์ เพราะต้องการร่วมสนุก แต่โปรดไตร่ตรองถึงความเหมาะสมด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 115  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 09:56

 ดินเนอร์มื้อดึกเมื่อคืนนี้ ท่าทางอร่อยกันใหญ่
***********************
คงจะจำกันได้ว่าเมื่อสาวใช้วิ่งวุ่นไปตามหมอ  อลิซบอกเพื่อนบ้านว่า แม่เลี้ยงของเธอได้รับจดหมายจากใครไม่รู้ให้ไปเยี่ยมคนป่วย  ทุกคนก็เข้าใจว่าคุณนายมาร์ธาไม่อยู่บ้าน
เพิ่งมาพบว่าเธอกลายเป็นศพนอนอยู่ข้างบนนั้นเอง

ค้นจนทั่วบ้านก็ไม่มีใครเห็นจดหมายฉบับนั้น     ซาร่าห์ประกาศลงหนังสือพิมพ์ให้รางวัลอย่างงามสำหรับผู้หาเจอหรือชี้เบาะแส  ก็ไม่มีใครมารายงานสักคน
จดหมายลึกลับนั้นก็ยังเป็นปริศนาหาคำตอบไม่ได้ว่าใครเขียน และเขียนทำไม

มีความลึกลับอีกอย่างที่สางไม่ออก ก็คือก่อนหน้าเกิดเหตุประมาณ 10 วัน   อลิซไปที่ร้านขายยา แล้วขอซื้อกรดชนิดหนึ่ง เพื่อไปกำจัดแมลง
แต่ว่ามันมีฤทธิ์เป็นยาพิษ   เจ้าของร้านไม่อาจขายได้โดยปราศจากใบสั่งยาจากหมอ   เธอก็เลยซื้อไม่ได้
ต่อมาอีกสองสามวัน   นายวิลเลียม  ภรรยา กินอาหารเข้าไปแล้วมีอาการอาหารเป็นพิษ  ปวดท้องรุนแรงจนต้องนอนแซ่วอยู่ในห้อง
หมอประจำครอบครัวถูกตามตัวไปรักษา จนทุเลาเพิ่งลงมากินอาหารได้ตามปกติ
แต่จากการผ่าชันสูตรศพ  ไม่พบยาพิษหรืออะไรที่ส่อว่าเป็นสารเคมีในกระเพาะอาหารของทั้งสองคน

ความลึกลับน่าพิศวงอีกอย่างก็คือ  ญาติที่มาพักที่ว่าชื่อนายเจมส์นั้น ให้การในศาลว่า เดิมนายวิลเลียมตั้งใจจะยกทรัพย์สินให้ลูกสาวทั้งสองเป็นส่วนใหญ่
ส่วนภรรยา เขาก็ซื้อบ้านให้เช่า เป็นรายได้เลี้ยงตัวเมื่อเขาถึงแก่กรรม
แต่ยังไงไม่รู้ นายวิลเลียมเปลี่ยนใจ  บอกเขาว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่เขายกให้ภรรยา  ลูกสาวทั้งสองได้เพียงส่วนน้อย

คำให้การของนายเจมส์ ทำให้อลิซตกที่นั่งลำบากมากขึ้นไปอีก  แล้วยังมีหลักฐานแวดล้อมว่า นายเจมส์กับหลานสาวคนนี้ไม่ชอบหน้ากัน
ตอนฝ่ายชายมาพัก  เขาไม่ได้เห็นหน้าค่าตาอลิซ เพราะเธอเก็บตัวอยู่ในห้องตลอดเวลา    แต่ต่างคนต่างก็รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในบ้าน
ถึงกระนั้นก็ไม่ยักถามหาหรือทักทายกันอย่างที่ญาติพึงทำ

ความน่าฉงนยังไม่จบแค่นี้   คือนายเจมส์บอกว่านายวิลเลียมทำ หรือไม่ก็จะทำพินัยกรรมใหม่
แต่ค้นหาจนทั่วบ้านก็ไม่มีวี่แววพินัยกรรม   แม้แต่ในตู้เซฟ ก็ไม่มีกระดาษสักแผ่น ที่ยืนยันคำให้การว่าผู้ตายตั้งใจทำอย่างนั้นจริง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 116  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 10:13

 หลักฐานแวดล้อมทั้งหมด ทำให้อัยการเห็นว่ามีน้ำหนักพอที่จะฟ้องอลิซในฐานะว่าเป็นผู้กระทำฆาตกรรมพ่อ และแม่เลี้ยง
จำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อหา พร้อมทั้งจ้างทนายมาสู้คดีอย่างเต็มสติม
กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งครึกโครมนานนับเดือน

จากการนำสืบพยานหลายๆปาก  อัยการเชื่อว่าอลิซได้กระทำฆาตกรรมพ่อและแม่เลี้ยงด้วยแรงจูงใจเรื่องมรดก  และความชิงชังแม่เลี้ยงเป็นส่วนตัว
เธอฆ่าแม่เลี้ยงก่อน    แล้วก็อยู่ในบ้านรอจนพ่อกลับมาจากธุระ   ย่องเข้าไปขณะพ่อหลับแล้วฆ่าเสียอีกคน
หลังจากนั้นก็ตะโกนเรียกสาวใช้ ให้ไปตามหมอ  สร้างฉากเหมือนกับว่ามีคนเข้ามาทำร้ายพ่อเธอ

คำให้การวกไปวนมาของอลิซเป็นจุดอ่อนที่อัยการชี้ว่าเป็นพิรุธ  และเพื่อให้จำเลยยอมจำนน
อัยการทำถึงขั้นไปเอากระโหลกของผู้ตายทั้งสองมา   เปิดให้ดูบนโต๊ะในห้องพิจารณาคดี
กระโหลกที่ยับเยินด้วยคมอาวุธ ทำให้อลิซเห็นเข้าก็ล้มพับลงไปทันทีกลางห้อง
แต่ก็ไม่มีผลอย่างใดต่อจากนั้น  เมื่อฟื้นเธอก็ยังยืนกรานว่าเธอไม่ได้ฆ่าอยู่นั้นเอง

ส่วนทนายจำเลยก็มีหลักฐานเด็ดๆมาสู้อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

ตัดเข้าโฆษณาค่ะ   บอกแล้วว่าของดีมีน้อย
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 117  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 10:33

 คุณ B คงหมายถึงรูปในความเห็น 37
"A harvest of death" Gettysburg, July, 1863
ฝีมือ Timothy H. O Sullivan (1840-1882) เป็นส่วนหนึ่งของกระจกรูปนับหมื่นชิ้น ที่เหลือรอดมาจากการเอาไปล้างรูปทิ้ง เพื่อเอากระจกใสไปทำกรีนเฮาส์ ปัจจุบันเก็บรักษาเป็นสมบัติของชาติสหรัฐ อยู่ที่ library of congress

การแสดงรูปคนตายนั้น โดยทั่วไปถือเป็นการละเมิด และถือว่าแสดงถึงรสนิยมที่เบี่ยงเบนของผู้ดำเนินการ
แต่....

สงครามจบเร็วขึ้น ก็เพราะการตีพิมพ์รูปสงคราม
อย่างสงครามเวียตนาม เริ่มนับถอยหลังตั้งแต่ช่างภาพ Time-Life คนหนึ่ง
เผยแพร่รูปจากการฆ่า "ล้าง" หมู่บ้านที่ไมลาย โดยฝีมือทหารอเมริกันสติแตก
รูปที่ผมนำมาลงนั้น ในตำรายกให้เป็นบิดาของ photojournalism เพราะมันถ่ายทอดความ "เป็นจริง" ของสงครามได้อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง
ในรูปเดียว ได้ชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางของชีวิต ความศักดิ์สิทธิ์แห่งภาระหน้าที่ ความกล้าหาญของวีระบุรุษ และเสียงที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน
เราจึงยอมรับได้ว่า บางครั้งรูปคนตายก็เป็นอุปกรณ์สูงค่าให้เราเข้าใจส่วนลึกของความเป็นมนุษย์ ว่าสูงหรือต่ำเพียงใด

ข้างบนถือเป็นคำขอโทษนะครับ
หากอาจารย์เทาฯ เห็นว่ารูปของผม อาจจะล่อแหลมต่อความรู้สึกของบางท่าน ก็ขอความกรุณา กำจัดทิ้งเสียบ้างก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง
บันทึกการเข้า
elvisbhu
แขกเรือน
พาลี
****
ตอบ: 215

เป็นคนเขียนรูป


ความคิดเห็นที่ 118  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 11:11

 ดีแล้วครับ
เรื่องคุณเทาชมพูยังสยองกว่ารูปที่ลงอีก
บันทึกการเข้า
หมูน้อยในกะลา
พาลี
****
ตอบ: 392

อะแฮ่ม!!


ความคิดเห็นที่ 119  เมื่อ 16 พ.ค. 06, 11:57

 คุณพี่pipat มีหมอนเก่าๆที่ไม่ใช้แล้วบ้างไหมหนา?
ผมจะขอยืมมาหนุนนอนทุกคืนซึมซับเอาเสี้ยวแห่งความเก่งกาจปราชญ์เปรื่อง ในทุกเรื่องแห่งประวัติศาสตร์ของพี่ท่านเข้าสู่สมองกลวงๆของหมูฯบ้าง..

(ทุกวันนี้ ถ้าเห็นอาจารย์เทาฯท่านไปนั่งในกระทู้ไหน หมูฯก็ยังรีบแอบไปนั่งแหมะ อยู่ใกล้ๆ หวังจะซึมซับเอากลิ่นอายนักปราชญ์มาสู่ตัวเลย.. )
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 16
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.113 วินาที กับ 19 คำสั่ง