กระทู้บำรุงอารมณ์สำหรับคนที่ยังโมโหไม่หาย

[pipat]

 ไชโย
โย
โย....(อันนี้เป็นเอ๊คโค่ ประมาณว่าเสียงดังมากๆอะครับ)

ความพยายามของพวกเราเป็นผลสำเร็จ
ได้รอยยิ้มจากเจ้าของเรือนแล้ว

ค่อยอยู่กันต่ออย่างมีชีวิตจิตใจหน่อย

แล้วกระทู้นี้จะเลิกหรือจะต่อชีวิตดีครับ ครับพระคุณท่าน
ส่งเสียงกันหน่อย

[ติบอ]

รัยทราบครับอาจารย์ เตรียมหอบผ้าหอบผ่อน หอบหมอนหอบเสื่อ หนีตาม.... เฮ่ย ไม่ใช่ๆ เข้าไปนั่งๆนอนๆอ่านกระทู้ใหม่ของ อ.เทาฯ ครับผม ปล. นึกถึง 2 กระทู้งานช้างของคุณpipat จังเลยครับ เมื่อไหร่จะมาเขียนให้สมาชิกอ่านกันต่อล่ะครับ ปล. 2 เอา "ภาพตลก" มาฝากกันครับ ภาพนี้เป็นภาพที่แสดงไว้ในแผ่นพับเพื่อบอกผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บส้นเท้าว่า "ไม่ควรใส่รองเท้าส้นสูง" แต่เชื่อเถอะ คนที่ไมได้อ่านแผ่นพับน่ะ คิดติดเรทเกินร้อยละ 90 อิอิ (อย่างน้อยก็คุณเฟื่องแก้วคนนึงล่ะครับ อิอิ) .

[pipat]

" 2 กระทู้งานช้าง " นี่ทำผมสยองขวัญอยู่ทุกวันนี้ เอาสิ่งประเทืองอารมณ์ไปชมพลางๆก่อน ไม่มีใครที่ชอบ Escher แล้วจะไม่ชอบ Margritte .

[pipat]

แล้วถ้าชอบ Escher และ Margritte ก็ต้องนี่เลย บิดาแห่ง Eternal Space ทั้งมวล vermeer .

[หมูน้อยในกะลา]

ดีใจจังเลยครับ.. คืนนี้หมูฯคงนอนหลับสบาย แต่ยังไงก็ต้องรีบหน่อย เดียวไม่ได้นั่งแถวหน้า!! .

[viva]

 แหมคุณหมูในอวย....เอ๊ย หมูน้อยในกะลาก็ไม่ได้หายไปไหนยังอยู่อ่ะค่ะแต่ว่าบ้าเรียนมากกว่า   แต่ตอนนี้รู้สึกอยากให้กระทู้นี้อยู่ต่อไปซะแล้วค่ะ เพราะรู้สึกเจ้าความเครียดมาแทนที่คุณเทาชมพูแล้วล่ะค่ะ  เซ็งจังไปทำใจก่อน      

[เฟื่องแก้ว]

เน่ พ่อติบอ เผานะยะ

[ติบอ]

 โอ๋ๆ คุณเฟื่องแก้วอย่าโกรธสิครับ (ต่อยผมเลยเหรอ) ดุจัง
คุณเฟื่องน่ะ น่ารักออกนะครับ อย่าดุนักจะอ่อนหวานกว่านี้อีกเยอะเลยครับ แหะๆ


พูดถึง "อ่อนหวาน" นึกขึ้นได้ ถึงเรื่องตลกออกแนวอึ้งๆเรื่องหนึ่ง
เรื่องมีอยู่ว่าผมมีเพื่อนคนหนึ่ง ท่าทางทอมบอยหน่อยๆ
เธอออกแนวสาวเปรี้ยว แต่งตัวเฉี่ยว ซอยผมสั้น แต่ฝันว่าวันหนึ่งอยากมีร้านขนมเป็นของตัวเอง
และเธอชอบทำขนมมาบำรุงเพื่อนๆนักทำขนม-นักชิมทั้งหลาย (ที่อ้วนอยู่แล้วให้อ้วนขึ้นอีก)
วันหนึ่งเธอทำคุ้กกี้มาฝากเพื่อนๆถุงโตถุงหนึ่ง (จะมีใครนึกถึงคุ้กกี้ผมมั่งมั้ยเนี่ยะ อิอิ)
ทุกคนก็นั่งชิมกันคนละชิ้นสองชิ้น แล้วส่งกันไปรอบๆวงให้ได้ชิมกันถ้วนหน้า

จู่ๆพี่คนหนึ่งในวงที่กัดคุ้กกี้เข้าไปเคี้ยวๆอยู่ ก็พูดขึ้นมาลอยๆว่า "เชื่อแล้วแหละว่ายัยจุ๊บจิ๊บ(นามสมมุติ) เป็นคนอ่อนหวาน"
หลายคนในวงเลยหันไปมองพี่เขาทำหน้าแปลกๆ เพราะใครๆก็รู้ว่าเจ้าของขนมน่ะเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดขนาดไหน
พี่แกก็ทำหน้าค่อนๆมองคนในวงที่หันไปมองแล้วจับคุ้กกี้ชูขึ้นมาพูดว่า "ก็เนี่ยะ มันทำคุ้กกี้จืดๆ รสชาติไม่เป็นสับปะรดมาทู้กทีเลย อ่อนหวานไปเยอะนะ ใส่น้ำตาลอีกหน่อยเถอะ"


มุขนี้อึ้งอ่ะครับ เพราะไม่มีใครในวงขำซักคนเลย เฮ่อ อิอิ



ปล. คุณ pipat ครับ เป็นกำลังใจให้กลับไปสานต่อกระทู้ที่คุณหยุดไปชั่วคราวต่อนะครับ
เพราะเรื่องสยองขวัญออนไลน์ ใครๆก็เคยเจอทั้งนั้นนะครับ
อย่ากังวลไปเลยครับ เพราะยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ก็นิ่งเจอมากเท่านั้น
สำหรับผม ถ้าเป็นเรื่องคนที่เข้ามา "จงใจป่วน" น่ะเล็กน้อยแล้วนะครับ
เพราะพวกเพื่อนสนิทที่ผิดใจกันจะทำอะไรๆได้เจ็บแสบกว่าอีกหลายสิบหลายร้อยเท่าครับ

(ใครไม่รู้มาลองเจออย่างผมดูสิ ไปสวนจตุจักร เข้าห้องน้ำ เงยหน้าขึ้นไปเจอ e-mail กับเบอร์โทรศัพท์ เขียนบรรยายสรรพคุณทั้งหลายอยู่ในห้องน้ำชายด้วยลายมือเพื่อนสนิทที่เลิกคบกันไปน่ะ สยองขวัญสั่นประสาทของแท้ครับ เหอๆ)



ปล.2 ไม่ต้องเล่าต่อหลายคนคงเดาได้แล้วล่ะครับ ว่ามีเกย์ add MSN ผมมาเยอะจนผมต้องปิด e-mail นั้นไปโดยปริยายเลยล่ะครับ อิอิ
ก็คุณเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดน่ะ ดันเอารูปผู้ชายกับ e-mail ผมไปโพสต์ไว้ในเวบเกย์ที่ไหนซักที่ (หรือหลายที่ก็ไม่รู้) ล่ะครับ แหะๆ

[pipat]

 เอานิทานเซ็นฟังเล่นฆ่าเวลาก่อนนะครับ รายละเอียดจำไม่ได้ เพราะใช้จำเอา (เอ๊ะยังไง..)
เรื่องที่ 1

พระหนุ่มเดินมากับพระแก่ มาถึงลำธารเล็กๆ สายหนึ่ง หญิงนางหนึ่ง เก้ๆ กังๆ จะข้ามแต่ก็กลัวเปียก

พระแก่ท่านเมตตา อุ้มเธอข้ามน้ำไปด้วยกัน แล้วพระทั้งสองก็เดินเท้าต่อ

พระหนุ่มหงุดหงิดกับพฤติกรรมของพระแก่ยิ่งนัก
บ่นมาตลอดทางเรื่องความไม่เหมาะสมต่างๆนาๆ

พระแก่หยุดเดิน มองพระหนุ่ม
พูดช้าๆว่า



อาตมาวางสีกาลงตั้งนานแล้ว



ท่านยังไม่วางอีกหรือ

[ติบอ]

 555+ ทู้นี้ขอแนวหน่อยจิ ดั้ยป่ะ
จาบอกว่า ม่ะมีพระหนุ่มพระแก่ที่หนายดอก คุณพิพัฒน์
มีแต่สมาชิกบอร์ดหนุ่มๆ 2 คนเองคัฟ อิอิ


แม๋ ครายมาว่าคุณพิพัฒน์ของผมแก่ได้งาย อิอิ

[pipat]

 ถ้าผมอุ้มนะหลานเอ๊ย
ไม่มีวางละจ้า

[pipat]

เรื่องที่ 2 เซนไม่ยินดีในคำพูด สัทธธรรมมิอาจอาศัยอุปกรณ์อันหยาบ คือภาษาเป็นเครื่องประกอบ ในการโต้กระทู้ใบ้ครั้งหนึ่ง ระหว่างภิกษุทรงภูมิรู้อันกว้างขวาง กับพระบวชใหม่สติไม่ค่อยเต็มเต็งแถมตาบอดข้างหนึ่งอีกด้วย พระฉลาดเริ่มด้วยการชูหนึ่งนิ้ว อย่างกระหยิ่มใจ (พระพุทธเจ้ามีเพียงหนึ่งเดียว) พระโง่ขมึงตา ชูสองนิ้วในทันใด พระฉลาดตกใจในความหมายอันล้ำลึก (มีพุทธะ ย่อมต้องมีพระธรรม) ท่านรีบชูสามนิ้ว เพื่อตอบโต้ (ไตรรัตนะมีองค์สาม คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์) พระโง่ไม่แม้แต่จะคิด ชูกำปั้นกลางอากาศ และทำท่าจะโผเข้าใส่ พระฉลาดร้องอย่างยอมจำนน ด้วยเข้าใจในทันทีว่า แม้มีองค์สาม แต่ต้องรวมกัน เป็นเอกะภาวะ ที่ประชุมแห่งความเงียบ ได้ยินพระฉลาดร้องอย่างนอบน้อมว่า อาตมายอมแพ้ ธรรมะของท่านลึกล้ำสุดที่จะอวดอ้างเทียบเคียง ได้ แล้ววิ่งจากห้องสนทนาหายไป พี่ชายของพระโง่ ซึ่งเป็นประธานการโต้กระทู้ใบ้ ถามน้องชายอย่างประหลาดใจว่า เจ้าร่ำเรียนรหัสสะนัยยะอันลึกล้ำมาจากใหน พระโง่ตอบว่า ลึกล้งลึกลับอะไรกัน มันดูถูกผมชัดๆ แต่แรกมันเยาะเย้ยว่าผมมีตาข้างเดียว ผมก็ชูสองนิ้วหมายความว่ายินดีด้วยที่ท่านมีสองตา หน็อยแน่ มันดันชูสามนิ้ว บอกว่าเราสองคนมีรวมกันแค่สามตา ผมโมโหมาก กำหมัดถามมันว่า มาต่อยกันมะ ยังดีมันหนีไปเสียก่อน ไม่งั้นได้วางมวยแหงๆ ************* แต่งมั่ว จากเรื่องเดิมที่จำไม่ได้แล้ว .

[เทาชมพู]

มาต่ออายุให้กระทู้ค่ะ * *

[หมูน้อยในกะลา]

. นิทานเซ็น2เรื่องนี้ ไม่ได้ผ่านตามานานจนแทบจำไม่ได้เหมือนกัน ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับ (ผมมีหนังสือแนวปรัชญาของเซ็นอยู่2-3เรื่อง จำไม่ได้แล้วว่าเอาวางไว้ตรงไหน เดี๋ยวขอไปหาก่อน) .

[pipat]

ได้รับความเมตตาให้ต่ออายุกระทู้นี้ ขอบคุณครับ เรื่องขำขันขอมอบท่านอื่นๆมาช่วยกัน ผมจะไปหาเรื่องประเทืองอารมณ์แบบ ก ว น แนวอื่นมาเสนอมั่ง ให้มันเหมือนโป๊ะแตกหรือแกงโฮะ คงจะดีนะครับ "A painting that doesn't shock isn't worth painting." M. Duchamp 1887-1967 the letters L.H.O.O.Q. in French sounds like "She's got a hot ass." .