วิชาประวัติศาสตร์ออกโดย "พระราชบิดา"(?)

[สมศักดิ์]

 ผู้สนใจโปรดตามไปดูตาม link นี้

 http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=midnightuniv&topic=12496

ขออภัย ไม่สะดวกในการโพสต์ทีนี้ เพราะภาพที่โพสต์ใหญ่เกิน 40kb

 http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=midnightuniv&topic=12496

ท่านใดเชี่ยวชาญพระราชประวัติ "พระราชบิดา" จะกรุณาอธิบายขยายความ ความเป็นมาของเอกสาร 2 หน้าดังกล่าวในกระทู้นี้ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน

ผมเองไม่ทราบพอ แต่เท่าที่ดูจากพระราชประวัติ ในช่วงเวลานั้น ทรงเป็น"ผู้ตรวจการ"(ถ้าจำตำแหน่งไม่ผิด) ของกระทรวงธรรมการ ซึ่งต้องทรงดูแล จุฬาลงกรณ์ (รร.มหาดเล็กหลวง?) ด้วย ส่วนสมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯ ทรงเป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ แต่ขณะที่เอกสารนี้เกิดขึ้น น่าจะทรงย้ายเป็นเสนาบดีกระทรวงมุรธาธรแล้ว (ข้อมูลเหล่านี้อาจผิดพลาด โปรดชี้แนะ)

[สมศักดิ์]

 ขออภัย หัวข้อกระทู้นี้ ผมพิมพ์ตก ที่ถูกต้องเป็น

ข้อสอบวิชาประวัติศาสตร์ออกโดย "พระราชบิดา"(?)

[เทาชมพู]

 ตอนนี้ยังนึกอะไรไม่ออกเลยค่ะ
นอกจากสะดุดกับคำว่า "คณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์"

รู้แต่ว่าก่อนหน้ามีปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต   คณะอักษรศาสตร์(ซึ่งมีคำว่า และวิทยาศาสตร์ ต่อท้าย)เปิดสอนมาหลายรุ่นแล้ว  แต่ว่าไม่ใช่ระดับปริญญา เป็นระดับประกาศนียบัตร  
ระดับปริญญามีในรัชกาลที่ ๗ ก่อนหน้าปีเปลี่ยนแปลงการปกครอง

สมเด็จพระบรมราชชนก คงเป็นพระอาจารย์ในคณะ   สังเกตว่าข้อสอบเป็นวิชาประวัติศาสตร์  ออกในแนวอักษรศาสตร์  ไม่ใช่วิทยาศาสตร์

[สมศักดิ์]

 ขอบคุณคุณเทาชมพูครับ

ท่านใดมีข้อมูลจะแนะนำ ก็เชิญนะครับ

ผมขอเสริมนิดหน่อยว่า ผมไปพบเอกสารนี้ ก็เพราะต้องการจะเช็คเรื่องพระราชพินัยกรรมรัชกาลที่ 6 ที่เคยถามก่อนหน้านี้ ไปดูในเอกสารส่วนพระองค์ของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯ จึงพบ

ตอนแรกๆก็งงๆเหมือนกัน เพราะพระราชประวัติทีเคยทราบมา ไม่เคยทราบเรื่องที่อาจจะทรงมี association กับจุฬาฯทางใดทางหนึ่ง

เมื่อค้นดูจากพระราชประวัติบางฉบับจึงเห็นเรื่องที่เคยทรงเป็นทำนองผู้ตรวจการของกระทรวงธรรมการ ถ้าจำไม่ผิด นี่คือช่วงระหว่างที่ทรงเสด็จกลับจากเยอรมัน เนื่องจากประชวร ทำให้เรียนไม่จบ กับช่วงที่จะทรงเสด็จต่างประเทศใหม่ (ไป Harvard) โปรดสังเกตปี เข้าใจว่า นี่คือหลังจากทรงมีพระธิดาแล้ว และในเดือนกันยายน 2468 (คืออีก 6 เดือนหลังจากจดหมาย ตามปฏิทินเก่า) จะทรงมีพระโอรสองค์แรก (ม.จ.อานันท์ ต่อมา คือ พระองค์เจ้าอานันท์ และในหลวงอานันท์)

ประเด็นที่ผมอยากเรียนถามเพิ่มเติม หากท่านใดมี expertise คือ ลายพระหัตถ์นี้ ใช่ลายพระหัตถ์ของ สมเด็จ "พระราชบิดา" หรือไม่ ในเอกสารส่วนพระองค์ของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯ ที่ข้อสอบนี้รวมอยู่ มีจดหมายหลายฉบับที่ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ ถึงสมเด็จฯกรมดำรงฯ แต่ลายพระหัตถ์เป็นลักษณะการเขียนแบบปกติ ("ลายมือหวัด") ไม่ใช่เขียนลักษณะ "บรรจง" แบบที่เป็นข้อสอบนี้ ผมจึงไม่กล้ายืนยัน ดูจากเนื้อหาจดหมายที่แนบอยู่กับข้อสอบ น่าจะเป็นข้อสอบที่พระองค์เองทรงออก ดังนั้น ลายพระหัตถ์ก็น่าจะใช่ (หรือถ้าไม่ใช่ ก็อาจจะทรงวานให้คนอื่นเขียน ที่พระองค์ทรงออก?) ที่ผมค่อนข้างเชื่อว่า ทรงออกข้อสอบนี้เอง ก็เพราะรู้สึกว่า หากไม่ใช่ น่าจะทรงทูล กรมดำรงฯ ไปด้วยว่า ใครออก? แต่อันนี้ก็เป็นการพยายามตีความ สันนิษฐาน

เช่นเคย ท่านใดรอบรู้ โปรดชี้แนะ
ขอบคุณครับ



ปล. อ้อ อีกสาเหตุหนึ่ง ที่ผมค่อนข้างเชื่อว่า ทรงออกข้อสอบนี้เอง ก็เพราะมีข้อที่ถามเกี่ยวกับสาธารณสุขด้วย

อีกนิดหนึ่ง โปรดสังเกตคำถามเกี่ยวกับอนุสาวรีย์วีรสตรีไทย ผมคิดว่าน่าสนใจมาก ท่านใดทราบ "คำตอบ" บ้างครับ เท่าที่ผมนึกได้ตอนนี้ อนุสาวรีย์ "ย่าโม" ยังไม่สร้างแน่ๆในปีนั้น ไม่ทราบอนุสาวรีย์ท้าวเทพสตรี ท้าวศรีสุนทร สร้างหรือยัง?

[UP]

 ในหนังสือ "๗๐ ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ระบุว่า สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ นั้น...

"ทรงจัดชุดการบรรยายวิชาด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ด้วยพระองค์เอง เป็นส่วนในการสอนนิสิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนิสิตเตรียมแพทย์ วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ในสมัยนั้น วิชาชุดการบรรยายนี้ทรงใช้ชื่อว่า “Contemporary History Course”ประกอบด้วยการบรรยายในเรื่องประวัติศาสตร์ไทยและต่างประเทศ การพาณิชย์ ศิลปะ การค้นพบและการประดิษฐ์ ตลอดจนการจัด ทัศน ศึกษาสถานที่สำคัญ อาทิ พิพิธภัณฑ์และพระบรมมหาราชวัง

ในการนี้ทรงพระอุตสาหะประทานการบบรรยายและพานิสิตไปทัศนศึกษาด้วยพระองค์เองบ้าง โดยทูลเชิญและเชิญเจ้านายและผู้ทรงคุณวุฒิอาทิ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระยาปรีชานุศาสน์ ศาสตราจารย์เซเดส์ มาประทานการบรรยาย และบรรยายเป็นวิทยาทานบ้างตามความเหมาะสม"

ฉะนั้น ผมจึงเชื่อว่าข้อสอบดังกล่าว สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ ทรงออกเอง และเป็นการสอบในวิชาประวัติศาสตร์ที่ทรงสอนครับ

[UP]

 ส่วนอนุสาวรีย์วีรสตรีไทย ผมเดาว่าเป็น "เจดีย์ศรีสุริโยทัย"

นามเจดีย์ศรีสุริโยทัย (เจดีย์วัดสวนหลวงสบสวรรค์) นั้น เกิดขึ้น ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ ในยุครัชกาลที่ ๖ เรื่องสมเด็จพระสุริโยทัยก็เป็นที่กล่าวถึงอยู่มาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเองก็ทรงกล่าวเน้นถึงสถานภาพและสิทธิสตรีอยู่หลายหน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ก็ทรงพระนิพนธ์ "เฉลิมเกียรดิ์กษัตรีย์คำฉันท์" เป็นคำฉันท์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระสุริโยทัยไว้

เรื่องเจดีย์ศรีสุริโยทัยจึงน่าจะเป็นเรื่องเด่นดังของยุคนั้นพอสมควร ผมสันนิษฐานว่าน่าจะหมายถึงเจดีย์อันเป็นอนุสาวรีย์ของวีรสตรีพระองค์นี้

[pipat]

.. . . . . . . . . . . . . อำนวยความสะดวกครับ ไปเชิญมาแสดงที่นี่ จะได้ไม่ต้องแวะไปแวะมา จะสอบลายพระหัตถ์ คงต้องใช้พระนิพนธ์สมเด็จกรมหลวงฯ ใครมีช่วยสงเคราะห์หน่อยเถิด

[pipat]

ลายพระหัตถ์นำ ทางศิริราชทำหนังสือเกี่ยวกับพระราชประวัติไว้หลายเล่ม ผมเคยอ่านตอนนี้ด้วย ท่านทรงประทานพระราชทรัพย์เป็นทุนเรียนและเน้นการทำวิจัยให้กับจุฬาฯ เป็นเงินแสนนะครับ ในปีนั้นคงตกราวหลายสิบล้านปัจจุบัน ดูเหมือนจะทรงไว้เป็นพินัยกรรมทีเดียว กรมขุนไชยนาท(พระยศขณะนั้น) มาเชิญเสด็จข้ามฟากไปดูกิจการศิริราช คงอยากให้ทรงสนับสนุนบ้าง จึงทรงหันมาทุ่มเทให้ทางนี้มากขึ้นเป็นลำดับ ถึงได้เป็นกรรมการปรับปรุงโรงพยาบาล แต่ถูกดูหมิ่นจากพวกแพทย์ปริญญา ว่า อย่าไปเชื่อ ท่านไม่ใช่หมอ ต้องทรงมีขัตติยะมานะ ทำปริญญาแพทย์ศาสตร์ให้เห็นเป็นประจักษ์ คุณสุลักษณ์หรือใครสักคน จำไม่ได้แน่ กล่าวว่า ทรงเป็นเจ้าของวลี "เมืองไทยนี่ดีไปหมดทุกอย่าง เสียอย่างเดียว มีคนไทย" . ขอพวกเรามาช่วยกันแก้วลีนี้ด้วยการกระทำอย่างที่ทรงทำแบบอย่างไว้ด้วยเถิด เกิดมาเพิ่งเคยพบเห็น บุคคลที่กล้าเรียกด้วยความเคารพว่า เป็นเทวดามาเกิดแท้ๆ ขอบคุณอาจารย์สมศักดิ์ ที่เสนอเอกสารมีค่าให้เห็นเป็นบุญตา

[สมศักดิ์]

 ขอบคุณคุณ UP อย่างสูงครับ สงสัยจะเป็นดังที่คุณกรุณาคัดข้อมุลมาให้ดูกันจริงๆ คือผมไม่ทราบพระราชประวัติ ก็เข้าใจแบบทั่วๆไปในแง่ที่ทรงเรียนทางวิทยาศาสตร์หรือการแพทย์ พอเจอข้อสอบประวัติศาสตร์ จึงรู้สึกแปลก ก็เพิ่งทราบจากข้อมูลที่คัดมาให้ว่า ทรงบรรยายวิชาประวัติศาสตร์ด้วย

ส่วนเรื่องอนุสาวรีย์วีรสตรี ผมไม่มีความรู้ แต่ที่คุณ UP สันนิษฐานมา ก็นับว่าฟังเข้าเค้าดี


ขอบคุณคุณ pipat ด้วยเช่นกัน ที่กรุณาจำลองรูปมาให้ ผมคงใช้โปรแกรมที่ไม่มีประสิทธิภาพพอ (สงสัยคนใช้คือผมไม่มีประสิทธิภาพด้วยน่ะครับ) คือ ทุกครั้งที่พยายามย่อ เพื่อให้อยู่ภายใน 50 kb ปรากฏว่าไม่สามารถ อ่านเอกสารได้ ออก เบลอๆ ต้องย่อให้อยู่ในระดับ 90 kb เศษ จึงอ่านได้ จึงโพสต์เฉพาะที่บอร์ดที่ให้ link มา ขอบคุณครับ

[pipat]

. ยินดีรับใช้ครับ สมเด็จพระราชบิดาท่านเรียนมาทางทหาร แต่พระทัยเป็นนักวิจัย ทรงใฝ่ในเรื่องเรือดำน้ำ (เคยอ่านความทรงจำของพลเรือรุ่นบุกเบิกชุดนั้) ทรงคิดถึงกระทั่งอากาศที่จะใช้ในเรือว่า ควรมีส่วนผสมอะไรเพื่อให้ดีกับสุขภาพ ทรงเปลี่ยนแนวทางเพราะพระอนามัยไม่อำนวย เป็นทหารไม่ได้ เรื่องสาธารณสุขนี้เป็นภาระกิจเบื้องปลายพระชนม์ชีพแล้ว ตอนที่ต้องเลือกพระเจ้าอยู่หัวต่อจากรัชกาลที่ 7 คนวงในบางคนไม่อยากได้สายพระโลหิตของพระองค์ นินทาว่าทรงเอาจริงเอาจังเกินปกติ เคยกระโดดบ่อน้ำหน้าตำหนัก เพราะทรงกริ้วอะไรบางอย่าง มีใครทราบรายละเอียดใหมครับ (ถ้าข้อความไม่หมาะสม กรุณาลบทิ้งนะครับ) เว็บนี้ให้ข้อมูลกว้างๆดีพอควร  http://www.bangkokpost.net/kingmahidol/index.html พระรูป มาจาก 2Bangkok.com จำได้ว่าเคยเห็นพระรูปชุดนี้ในเว็บของห้องสมุดหรือหน่วยงานทางการของชิคาโก ตอนนั้นเก็นแต่รูป นึกว่าจะมาหารายละเอียดภายหลัง ตกลงเลยไม่ได้ทำอะไร

[UP]

 ยินดีครับคุณสมศักดิ์

ขออนุญาตถามคุณ pipat ว่า "หน่วยงานทางการของชิคาโก" หน่วยนั้นคือหน่วยไหนครับ เผื่อว่าผมจะได้ไปค้นหาดู หากโอกาสอำนวยครับ

[pipat]

. เขาเชิญมาลงไว้ 2 พระรูป รายละเอียดครับ 1916 "Prince Mahidel of Siam, standing on the sidewalk in front of the Auditorium Building at 504 South Michigan Avenue, facing the camera." (Photo: Chicago Daily News negatives collection, Chicago Historical Society) ลายมือที่ขอบเขียนว่า Prince Mahidel of Siam มีโอกาสละก้อ เก็บกลับมาให้หมดนะครับ ปีนี้เป็นปีมหามงคลเสียด้วย

[UP]

 พอเห็นคำว่า The Auditorium Building ก็ทำผมตาโตครับ เพราะบริเวณอาคารที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ ทรงยืนอยู่นั้นปัจจุบันยังอยู่ดีบนถนนมิชิแกน (ถนนที่ย่านการค้าหลักของชิคาโกตั้งอยู่) ครับ บัดนี้ เป็นอาคารที่ทำการของ มหาวิทยาลัย Roosevelt ครับ

ตึกนี้ออกแบบโดย Dankmar Adler และ Louis Sullivan สถาปนิกชื่อดังแห่งยุคครับ ผลงานออกแบบของ Adler กับ Sullivan ในชิคาโกยังมีอีกหลายแห่ง สองท่านนี้เป็นผู้บุกเบิกการออกแบบในยุค Modern ครับ Frank Lloyd Wright ก็ได้รับอิทธิพลการออกแบบและเคยฝึกงานกับสถาปนิกสองท่านนี้

ตึกนี้แต่เดิมเป็นโรงแรม ออฟฟิศ และโรงโอเปร่า ฉะนั้น ผมคงจนปัญญาเดาว่าสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร เสด็จฯ ไปด้วยพระธุระใด ณ ที่แห่งนี้ อาจเสด็จมาประทับที่โรงแรมก็เป็นได้เพราะเห็นมีกระเป๋าสัมภาระอยู่หลายใบ

ดูจากการแต่งพระองค์แล้ว ก็ร่วมสมัยกับชาวอเมริกันยุคนั้นทุกประการ

ผมคงไม่มีสิทธิอำนาจอะไรไปเก็บภาพต้นฉบับจาก Chicago Historical Society กลับมาหรอกครับ แต่จะพยายามไปทำสำเนามาครับ แต่เท่าที่ลองเข้าไปค้นดูในระบบสืบค้นออนไลน์ พบว่ามีภาพเกี่ยวกับสยามอยู่ไม่มากนัก

[UP]

ภาพ The Auditorium Building หรือ Roosevelt University ในปัจจุบันครับ ลองสังเกตซุ้มประตู ๓ ช่องของตึกดูนะครับ คือจุดที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ เสด็จยืนอยู่ในพระรูปที่คุณ pipat เชิญมา ขอบพระคุณคุณ pipat มากครับ ที่จุดประกายให้ผมมีเรื่องสนุกๆ เล่นอีกแล้ว

[pipat]

. หาเรื่องให้จุดประกายเพิ่ม ซุ้มโค้งในสองรูป ไม่ตรงกันครับ ลองหามุมใหม่เทียบดูอีกที ขอให้สนุกครับ