เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
อ่าน: 34632 “ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย”
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 13:14

 หาเงินติดไถ้ไว้อย่าให้ขาด
ตำลึงบาทหาไม่คล่องเพียงสองสลึง
ชาติตะปูชาติแข็งต้องแทงตรึง
ชาติขี้ผึ้งชาติอ่อนร้อนละลาย
ของสิ่งใดสงสัยให้พิสูจน์
ไม่แกล้งพูดธาตุทั้งสี่ดีใจหาย
ดูดินน้ำลมไฟให้แยบคาย
ไล่ระบายเท็จก็แปรแท้ไม่จร
ปลาร้าเค็มพริกเทศเผ็ดไฉน
เอออะไรดูเถิดยังเกิดหนอน
กลับฟอนฟันพริกปลาร้าสถาพร
ทั้งเค็มร้อนไม่ถึงกรรมเป็นธรรมา
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 13:18

 พูดโกหกแต่แยบคายอุบายปด
คนทั้งหมดนั่งฟังไม่กังขา
ที่ซื่อถือแท้แน่เจรจา
เขาก็ว่าพูดปดทุกบทไป
เป็นเจ้านายผู้ดีมีวาสนา
เอาพ่อตาลงข้างล่างใช้ต่างไพร่
มีเมียน้อยหลักแหลมก็แถมใช้
ลูกเขยจนแล้วก็ใส่คอเป็นเอ็น
คุณกับโทษสองแบ่งแรงข้างไหน
คุณถึงใหญ่ให้ผลคนไม่เห็น
โทษเท่าหัวเหาเล็กเท่าเล็น
ให้ผลเห็นแผ่ซ่านทั่วบ้านเมือง
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 13:24

 น้ำใจเอ๋ยเห็นกรรมไม่ทำชั่ว
บวชตั้งตัวตั้งใจบวชได้เรื่อง
บวชหลบราชการหนักบวชยักเยื้อง
บวชหาเฟื้องหาไพบวชไม่ตรง
หลายตำบลหลายแห่งแขวงป่าช้า
อศุภพาเกิดพินิจพิศวง
ป่าช้าใหญ่คือเตาไฟไยมิปลง
สังเวชลงว่าเผาผีทุกวี่วัน
สัตว์ผอมฤษีพีนี้สองสิ่ง
สามผู้หญิงรูปดีไม่มีถัน
กับคนจนแต่งอินทรีย์นี้อีกอัน
สี่ด้วยกันดูเป็นไม่เห็นงาม
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 13:28

 บรรพชาสามปางนางสามผัว
ข้าเก่าชั่วเมียชังเขายังห้าม
มักเกิดเงี่ยงเกี่ยงแง่แส่หาความ
กาลีลามหยาบช้าอุลามก
เคหฐานหยาบช้าหาสะอาด
มูลฝอยใบไม้ใช่ญาติอย่ามุ่นหมก
อย่าเข้าทำส่ำสมนิยมรก
ไฟจะตกลามไหม้ไม่ได้การ
กิ่งไม้เรียวหนามหนาศิลาหัก
เห็นเสียบปักอยู่กลางทางสถาน
หยิบทิ้งเสียบุญหนักหนาอย่าขี้คร้าน
ทำไปนานแล้วก็ก้างไม่ค้างคอ
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 13:32

 ถือตำรามากนักขี้มักกรอบ
มิเสียชอบขัดสนจนจ่อนจ่อ
ออกชื่อบาปครางฮือทำมืองอ
ไม่นึกฉ้อส่อเสียดเบียดบังใคร
จิตดำรงคงธรรมไม่พล้ำเพลี่ยง
สู้หลีกเลี่ยงตามภาษาอัชฌาสัย
ถึงบอกลาภบาปแล้วไม่พอใจ
มีหาไม่อุตส่าห์รักษากาย
พระพุทธองค์ก็ทรงชมว่าสมปราชญ์
บัณฑิตชาติเมธาปัญญาหลาย
สู่คติเบื้องหน้าถ้าเขาตาย
ทางอบายห่างไกลไม่ไปเลย
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 13:36

 กระแสพุทธฎีกาว่ากระนี้
เดี๋ยวนี้นี่ไม่กระนั้นนะท่านเอ๋ย
ถ้ายากจนแล้วก็คนมักยิ้มเย้ย
ภิปรายเปรยเปรียบเทียบพูดเสียบแทง
ว่าชะชะนักปราชญ์ญาติสถุล
วิบากบุญให้ผลจนต่องแต่ง
สวรรค์นรกที่ไหนไม่แจ้งแจง
อยู่เขตแขวงธานีบุรีใด
อย่าคบมิตรจิตพาลสันดานชั่ว
จะพาตัวให้เสื่อมที่เลื่อมใส
คบนักปราชญ์นั่นแหละดีมีกำไร
ท่านย่อมให้ความสบายหลายประตู
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 13:41

 ความเจริญและความฉิบหายนั้น
ที่เกิดมันไม่มากเท่าปากหู
อ้ายคิ้วตานั่นก็เปล่าแต่เจ้าชู้
จมูกรู้ก็แต่สูดพูดไม่เป็น
ชั่วแต่กายวาจาย่อมปรากฏ
คนทั้งหมดแม่นแท้เขาแลเห็น
ชั่วในใจบังปิดให้มิดเม้น
สิบห้าเล่มเกวียนเข็นไม่หมดมวล
คดสิ่งอื่นหมื่นแสนแม้นกำหนด
โกฏิล้านคดซ้อนซับพอนับถ้วน
คดของคนล้นล้ำคดน้ำนวล
เหลือกระบวนที่จะจับนับคดค้อม
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 13:46

 หินกับเหล็กชุดดีตีเอาเถิด
ไฟก็เกิดหินร่อยไปเหล็กไม่ผอม
ถึงหินนิดกรีดกดตีอดออม
อุตส่าห์ถนอมใช้ไปได้นมนาน
จะผ่าไม้ให้พินิจพิศดูว่า
ให้เห็นว่าแสกไหนเหมาะจึงเจาะขวาน
จะเข้าหาคนผู้ดูอาการ
ถือโบราณถูกเดาถึงเอาคำ
ห้าสิบปีมีประมาณฐานเก่าเก่า
น้ำไม่เข้าท่วมถึงที่มีดินถนำ
โตเท่าผลมะขวิดสดเร่งจดจำ
ถูเงินเฟื้องเหลืองก่ำเป็นทองจริง
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 13:52

 คนพันหนึ่งเสาะสางทางเสน่ห์
อุปเทห์ทำให้ยอบชอบใจหญิง
เสกทีใดใจเจ้าของต้องประวิง
ได้ก็เกิดยุ่งยิ่งร้างหย่ากัน
รักกันเองหรือขอสู่อยู่กันยืด
ไม่จางจืดเสน่หาจนอาสัญ
อื่นอื่นนั้นยกไว้ใจสำคัญ
กับอีกอันปฏิบัติไม่ขัดเรา
คนมียศรูปสวยทั้งรวยทรัพย์
เสน่ห์บทนี้ปับขลังจริงเจ้า
สาวสาวเห็นหมดหน้าถ้าจะจะเอา
ไม่ต้องเป่าเสกคาถาก็มาเจียว
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 13:56

 คนแก่มีสี่ประการโบราณว่า
แก่ธรรมาพิสมัยใจแห้งเหี่ยว
แก่ยศแก่วาสนาปัญญาเปรียว
แต่แก่แดดอย่างเดียวแก่เกเร
ความรู้ท่วมหัวตัวไม่รอด
เป็นคำสอดของคนเกเรเกเส
เรียนวิชาไม่แม่นยำคะน้ำคะเน
ไปเที่ยวเตร่ประกอบชั่วตัวจึงจน
ทะเลน้อยเท่ารอยโคโผไม่ได้
โดยว่าใจยังกำหนดขัดมรรคผล
หญิงขมิ้นชายปูนประมูลปน
ไหนจะพ้นทะเลแดงตำแหน่งเนื้อ
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 14:00

 จิ้งจกเรียกจระเข้บกยกขึ้นเท้า
แมวตัวเล็กเขาก็ว่าเป็นอาเสือ
แมวเป็นอาของพยัคฆ์ชักว่านเครือ
ไม่น่าเชื่อหลานอะไรใหญ่กว่าอา
อีกข้อหนึ่งเมืองเราชาวมนุษย์
ย่อมว่าพุทธกับไสยตั้งใจว่า
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไปมา
ทั้งเจรจารำคาญหูดูไม่งาม
พุทธแปลว่าพระเจ้าท่านกล่าวแก้
ไสยนั้นแปลว่าผีนี้ได้ถาม
ผิดหรือถูกไม่ตรึกตราเจรจาตาม
มีเนื้อความในคัมภีร์บาลีใด
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 14:04

 ว่าพระพุทธองค์ไปอาศัยผี
ผีไปพึ่งบารมีที่ตรงไหน
ถ้อยทีถ้อยพึ่งกันนั้นอย่างไร
ครั้นว่าไล่เข้าก็ซัดลัทธิแรง
เป็นวาจากรรมเปล่าไม่เข้าข้อ
รู้แล้วก็นิ่งไว้อย่าได้แถลง
แม้พลั้งปากเสียศีลพลาดตีนแพลง
มักระแวงข้างเป็นโทษประโยชน์น้อย
หนึ่งนักปราชญ์ผู้เขลากล่าวกำเนิด
ว่ากระต่ายตายไปเกิดเป็นหิ่งห้อย
เพราะอย่างนั้นรัศมีสีจึงย้อย
แล้วอย่าพลอยพูดไถลเหมือนไม้ลิด
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 14:08

 จะคบมิตรสนิทนักมักเป็นโทษ
เกิดขึ้งโกรธต่างต่างเพราะวางจิต
ทันระวังตัวที่ไหนไม่ทันคิด
เหตุสักนิดแล้วก็ได้ขัดใจกัน
ประพฤติดีฝีปากข้างถากถาง
คือเห็นทางห้ามรักให้ชักสั้น
ฉุกละหุกคลุกคลีถึงตีรัน
อ้ายรู้มากที่แลมันเป็นต้นเดิม
เจ้าท่านเกลียดอย่าเกลียดแทนองค์เจ้า
เอ็นดูเหล่าผู้ผิดอย่าคิดเสริม
กริ้วสิ่งใดช่วยซ่อมแซมค่อยแต้มเติม
ผู้ผิดเพิ่มพูดผิดใช่กิจเอง
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 14:13

 ผมยาวยุ่งทิ้งไว้ไม่สางหวี
สิ้นที่พึ่งแล้วจึงมีคนข่มเหง
อาวุธปากกล่าวดีมีคนเกรง
ยิงให้เป็นเป้งเดียวถูกทุกทุกคำ
ของเข้าที่ออกที่ทางพิเศษ
ถ้ารู้เหตุก็คงเห็นเป็นยังค่ำ
คว่ำหงายตำตอกบอกแล้วจำ
กลางคืนกลางวันร่ำอยู่อัตรา
ดูตระกูลกิริยาดูอากัป
ดูทิศจับเอาที่ผลต้นพฤกษา
ดูฉลาดเล่าก็เห็นที่เจรจา
ดูคงคาก็พึงหมายสายอุบล
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 14:17

 นกกระจาบเดิมหนัหนามากกว่าแสน
ไม่เดือดแค้นสามัคคีย่อมมีผล
ครั้นภายหลังอวดกำลังต่างถือตน
พรานก็ขนกระหน่ำมาพากันตาย
ดูโรงเรือนเปรียบเหมือนกับสังขาร
ปลูกไว้นานเก่าคร่ำคร่าฉล่ำฉลาย
แก่ลงแล้วโคร่งคร่างหนอร่างกาย
ไม่เฉิดฉายเหมือนหนุ่มกระชุ่มกระชวย
ตาก็มัวหัวก็ขาวเป็นคราวคร่ำ
หูก็ซ้ำไม่ได้ยินเอาสิ้นสวย
แรงก็ถอยน้อยกำลังนั่งก็งวย
ฟันก็หักไปเสียด้วยไม่ทันตาย
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.057 วินาที กับ 19 คำสั่ง