วัดแก้วพิจิตร

[นทีสีทันดร]

 ก่อนอื่นขอโพสรูปปล่องชิ้นส่วนโรงงานล้างแร่สมัยพระปรีชากลการก่อนนะครับ

[นทีสีทันดร]

งมอยู่นานก็เข้าใจว่าทำไมจึงโพสรูปไม่ได้สักที แหะๆ ผมเลือกรูปที่ยังไม่ได้ resize นั่นเอง อันนี้ของจริงล่ะครับรูปปล่องชิ้นส่วนโรงงานล้างแร่สมัยพระปรีชากลการ

[นทีสีทันดร]

ปล่องชิ้นส่วนนี้ปัจจุบันอยู่ในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีครับ

[นทีสีทันดร]

รูปชุดต่อไปเป็นรูปขบวนเคลื่อนศพท่านเจ้าพระยาฯจากตึกใหญ่ไปยังวัดแก้วพิจิตรโดยทางน้ำที่คุณ UP พูดถึงนะครับ

[UP]

 ในที่สุดก็ได้ชม แล้วจะรอภาพวัดแก้วพิจิตรนะครับ

[นทีสีทันดร]

แพล่องไปตามแม่น้ำปราจีนบุรีไปยังวัดแก้วพิจิตร

[นทีสีทันดร]

ภาพสถานที่ตั้งศพท่านเจ้าพระยาฯในวัดแก้วพิจิตร จะสังเกตเห็นพระอุโบสถซึ่งมีมุขประเจิดชัดเจน ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นรูปปั้นเทพต่างๆซึ่งรูปปั้นดังกล่าวยังมีให้เป็นอยู่ในปัจจุบัน

[นทีสีทันดร]

รูปปูนปั้นพระพุทธรูปและเทพต่างๆภายในวัดแก้ววิจิตรในปัจจุบัน

[นทีสีทันดร]

ขอโทษทีนะครับที่รูปเล็กไปหน่อย ลดขนาดรูปตามที่กำหนดได้เหลือเท่านี้อ่ะครับ

[นทีสีทันดร]

วัดแก้วพิจิตรเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในชุมชนในเมือง ตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำปราจีนบุรี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๒๒ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยนางประมูลโภคา(แก้ว ประสังสิต) ภรรยาของขุนประมูลภักดี ต่อมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ได้มาปฏิสังขรณ์และสร้างพระอุโบสถเพิ่มเติม พระอุโบสถสร้างขึ้นโดยเจ้าพระยาอภัยภูเบศรในปี ๒๔๖๑ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาด๕ ห้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีกำแพงแก้วล้อมรอบระหว่างกำแพงแก้วและพระอุโบสถเป็นลานประทักษิณ มีซุ้มใบเสมาทรงมณฑปอยู่เป็นระยะๆ พระอุโบสถหลังนี้จำลองแบบมาจากวัดพระเจ้าช้างเผือกที่เมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา คือมีหลังคามุงกระเบื้อง มีมุขประเจิดทั้งหน้าและหลัง หน้าบันปูนปั้นเขียนสีเป็นรูปวิมานพระอินทร์ ตอนล่างของหน้าบันเป็นลายกระจังฐานพระ มีสาหร่ายรวงผึ้ง เสามุขประเจิดประดับปูนปั้นเป็นตัวมังกร พระอุโบสถวัดแก้วพิจิตรเป็นผลงานแห่งพลังความคิดสร้างสรรค์ในเชิงช่างที่ผสมผสาน มีจุดเด่นของศิลปะถึง ๔ ชาติรวมไว้ในพระอุโบสถหลังนี้ ซึ่งกล่าวได้ว่ามีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย กล่าวคือ กำแพงแก้วที่ล้อมรอบพระอุโบสถ มีการทำซุ้มประตูทางเข้าเป็นชั้นๆประดับปูนปั้นลายหน้าสิงห์ ลายดอกไม้และนาฬิกาซึ่งเป็นการเลียนแบบศิลปะเขมร ตัวพระอุโบสถมีรูปแบบโครงสร้างตามแบบอย่างศิลปะไทย และมีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ส่วนองค์ประกอบการตกแต่งอาคารเป็นแบบตะวันตก คือใช้เสาพระอุโบสถกลมเซาะร่องหัวเสาเป็นแบบใบผักกาดซึ่งเป็นศิลปะแบบโครินเธียน ภาพวาดรูปชาวต่างประเทศล้อมรอบใต้ชายหลังคานอกพระอุโบสถ นอกจากนี้ยังมีการประดับปูนปั้นเป็นตัวมังกรตามแบบศิลปะจีนที่เสามุขประเจิด ราวบันไดขึ้นพระอุโบสถ เรียบเรียงจากหนังสือ “วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดปราจีนบุรี” หนังสือที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒

[นทีสีทันดร]

 วันนี้ดึกมาแล้ว เดี๋ยววันหลังผมจะมาโพสเพิ่มเติมครับ

[นทีสีทันดร]

ซุ้มประตูทางเข้าเป็นชั้นๆประดับปูนปั้นลายหน้าสิงห์ ลายดอกไม้และนาฬิกาซึ่งเป็นการเลียนแบบศิลปะเขมร ปล. ตรงนาฬิกาผมยังสงสัยอยู่ว่าทำไมแต่ละเรือนจะชี้ไปที่เวลาเดียวกัน ประมาณ 11.45 น.กว่าๆ ไม่ทราบว่าเวลานี้มีความหมายอะไรหรือเปล่าครับ ใครรู้ช่วยบอกทีครับ

[นทีสีทันดร]

 นาฬิกาจะอยู่ที่ยอดซุ้มประตูชั้นที่ 3 เหนือหัวสิงห์ทั้ง 2
ปล.จะว่าไป ผมก็ว่าไม่เห็นเหมือนสิงห์ซะเท่าไหร่ผมว่าเหมือนหน้ากาลมากกว่าอีก รูปหน้าอย่างนี้ที่กำแพงรพ.เจ้าพระยาฯก็มีครับ

[นทีสีทันดร]

มุขประเจิดทางด้านหลัง หน้าบันปูนปั้นเขียนสีเป็นรูปวิมานพระอินทร์ ตรงเสามุขประเจิดจะเป็นปูนปั้นรูปมังกร(สีเขียวๆ)ครับ

[นทีสีทันดร]

บริเวณลานประทักษิณ รูปนี้จะเห็นซุ้มประตูกำแพงแก้ว ซุ้มสีมา และเสาแบบโครินเธียนครับ