ใต้ร่มไทร
อสุรผัด

ตอบ: 3
|
ผมเพิ่งมีความรู้สึกไม่ดีต่อเพื่อนคนหนึ่ง เราพยายามปรับตัว แต่ก็ไม่เป็นผลเลย กะเลยนึกถึงนิทานเรื่อง พ่อกับลูกขายลา ซึ่งได้ข้อคิดว่า เราไม่สามารถทำให้คนอื่นพอใจได้ ทุกคน
แต่ผมอยากรู้ว่าในตำนานกรีกนั้นมีเรื่องนี้หรือเปล่า ที่ว่ามนุษย์ทำไมไม่ชอบหน้ากัน หรือ ความคิดไม่ตรงกันอะครับ ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
HotChoc
มัจฉานุ
 
ตอบ: 62
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 12 เม.ย. 06, 14:13
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใต้ร่มไทร
อสุรผัด

ตอบ: 3
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 19 เม.ย. 06, 20:25
|
|
ขอบคุณคร๊าบบบ ว่าแต่จนบันนี้ผมก็ยังไม่ได้แปลเลย ว่าจะเอาไปทำเป็นบทความเล่นๆนะครับ
ขอบคุณอีกครั้ง....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 20 เม.ย. 06, 09:12
|
|
ตำนานที่ตรงเป๊ะกับเรื่องนี้ ไม่ได้อยู่ในตำนานกรีก แต่อยู่ในพระคัมภีร์เก่าของคริสตศาสนา ว่าด้วยการสร้างหอคอยบาเบล ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
     
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 20 เม.ย. 06, 09:40
|
|
เรื่องหอคอยบาเบลเป็นตำนานยิว ซึ่งคริสตศาสนารับมา ค่อนข้างตรงกับหัวข้อเรื่องของกระทู้นี้ครับ คืออธิบายว่าทำไมคนเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง
แต่ในตำนานกรีกโรมัน ที่ผมนึกออกใกล้ที่สุดกับเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่การขัดแย้งกันโดยทั่วไป เป็นการขัดแย้งเฉพาะกรณี คือปฐมเหตุแห่งสงครามกรุงทรอยซึ่งมีสิ่งที่เรียกว่า the apple of discord หรือไงนี่แหละ อันนำไปสู่ The Judgement of Paris ต่อมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
     
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 20 เม.ย. 06, 09:51
|
|
ต่อไปนี้เป็นการเล่าจากความจำ ขอผู้รู้จริงกว่าเมตตาแก้ไขด้วยเทอญ
ว่ากันว่า ก่อนจะเกิดมหาสงครามกรุงทรอยนั้น ครั้งหนึ่งมหาเทวีผู้ยิ่งใหญ่ของเทวสภากรีกโรมันสามนางประทับอยู่ด้วยกัน คือเทพีจูโนหรือเฮรา ชายาของเทพบดีซิวส์หรือจูปิเตอร์ อันถือว่าเป็นเทพสตรีผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ที่สุดในสวรรค์ องค์หนึ่ง เทพีอะโฟรไดท์หรือวีนัส เทพธิดาที่งามที่สุดในสวรรค์หรือในจักรวาลก็ได้องค์หนึ่ง และเทพีมิเนอร์วาหรืออะธีนา เทพธิดาแห่งสติปัญญาธิดาอันเกิดจากพระกระโหลกของซีวส์เอง ซึ่งเป็นเทพีที่ฉลาดที่สุดในสวรรค์อีกองค์หนึ่ง
กำลังนั่งกันอยู่ดีๆ ตัวกาลีผ่านมา ผมจำไม่ได้แล้วว่าเป็นใครชื่ออะไร แต่ในเรื่องนี้รับบทบาทเหมือนตัวกาลีของนิยายฮินดู เป็นผู้ร้าย ผมจึงขอเรียกว่าตัวกาลีก็แล้วกัน ตัวกาลีนี้เห็นภาพเทพชุมนุมหรือเทวีชุมนุมเช่นนั้น ก็คันมืออยากจะก่อความปั่นป่วนให้วุ่นวายเล่น (นักป่วนในโลกไซเบอร์เดี๋ยวนี้อาจจะสืบเชื้อสายมาจากตัวกาลีสมัยโน้นหรือไม่ก็ไม่ทราบ) ก็แกล้งเนรมิตผลแอปเปิ้ลที่งดงามสมบูรณ์ดูน่ากินที่สุด โยนโครมลงไปกลางวงทันที บนแอปเปิ้ลเจ้ากรรมนั้นมีคำจารึกอยู่ด้วยว่า To the Fairest มอบแก่ผู้เจ๋งที่สุด ผมแปลของผมดุ่ยๆ ยังงี้แล้วกัน
พอสามมหาเทวีเห็นแอปเปิ้ลนั้น (ซึ่งเลยได้ชื่อว่า Apple of discord) ก็ทะเลาะกันทันทีสมใจตัวกาลี เพราะต่างองค์ต่างก็ทรงเห็นว่าพระนางเองนี่แหละเจ๋งสุดๆ สมควรมีสิทธิ์ในแอปเปิ้ลลูกนี้ แย่งกันไปแย่งกันมาแทบจะเขาโอลิมปุสแตก ในที่สุดก็ต้องให้ กกต. เอ๊ยคนกลางตัดสิน คนกลางนั้นคือ เจ้าชายปารีสแห่งกรุงทรอย ซึ่งขณะนั้นออกไปเลี้ยงแกะอยู่บนเขานอกเมือง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
     
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 20 เม.ย. 06, 09:59
|
|
การตัดสินว่าใครเจ๋งที่สุดนี้ จึงเป็นที่มาของนิยายตอนที่เรียกว่า the judgement of Paris
ตามประสามหาเทวีที่แพ้ไม่ได้ ทั้งสามองค์เลย จึงปรากฎว่าหลังจากส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเอ๊ย ปารีสพิจารณาแล้ว ทั้งสามมหาเทวีก็แอบไปติดสินบนเจ้าชายปารีสทีละองค์ๆ โดยไม่ได้รู้กัน มิเนอร์วาบอกว่าถ้าปารีสตัดสินเข้าข้างเธอ เธอจะประสาทพรให้ปารีสเป็นชายที่มีสติปัญญามากที่สุดในโลก เฮราว่า ถ้าปารีสตัดสินให้เธอ เธอจะเสกให้ปารีสเป็นจอมจักรพรรดิผู้ทรงอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และวีนัสบอกว่า ถ้าปารีสตัดสินเข้าข้างเธอ เธอจะบันดาลให้เขาได้คู่กับหญิงงามที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก
ก็ตามประสาผู้ชายนะครับ ปารีสเลือกกิ๊กครับ ทีนี้ก็เกิดเรื่องสิ เพราะเทพีวีนัสได้ตรัสออกพระโอษฐ์ไปแล้ว ก็ต้องทำตาม ปัญหาคือ หญิงที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในโลกมนุษย์นั้น คือเฮเลน ซึ่งไม่ได้เป็นสาวโสดตัวเปล่าๆ แต่มีพระสามีเป็นตัวเป็นตนแล้ว เป็นเจ้าเมืองหนึ่งของสมาพันธรัฐกรีกด้วยอีกต่างหาก แต่ในเมื่อวีนัสลั่นปากแล้วก็จำเป็นต้องบันดาลให้ปารีสไปชิงนางมา จนเกิดศึกมหาสงครามกรุงทรอยจนได้ เพราะผัวเขาพาพวกมาตามเมียคืน
และทั้งหมดทั้งเพนี้ สืบมาจากแอปเปิ้ลลูกเดียวเท่านั้นเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
     
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 20 เม.ย. 06, 10:08
|
|
ถ้าว่าทางพระพุทธศาสนา เทวีทั้ง 3 นั้นถึงจะเป็นตั้งเทวดาแล้วก็ยังเต็มไปด้วยความยึดมันถือมั่นในตัวตน มีอหังการ-มมังการ ตัวฉันของฉันเหนียวแน่นมาก กะอีแค่ตำแหน่งที่ตัวกาลีหลอกโดยจารึกบนแอปเปิ้ลซังกะบ๊วยลูกเดียวก็ติดยึดเป็นเรื่องใหญ่โต ไม่ยักรู้เท่าว่ามันเป็นแค่สมมติเท่านั้นแหละ แถมเป็นสมมติที่ตัวกาลีมันแกล้งเอาเสียด้วย
ตกลงสาเหตุของการทะเลาะกัน น่าจะเป็นตัวกูของกูนี่เอง จขกท. เห็นว่าไงครับ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
HotChoc
มัจฉานุ
 
ตอบ: 62
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 21 เม.ย. 06, 01:27
|
|
ถ้าจำไม่ผิดเรื่อง apple of discord จะเกิดขึ้นกลางงานเลี้ยงนะครับ เทพ+เทวีทุกองค์ได้รับเชิญ ยกเว้นเทวีที่คุณนิลกังขาเรียกว่ากาลีแหละครับ (ผมเองก็จำชื่อจริงๆไม่ได้ เป็นเทวีที่ไม่สำคัญเท่าไหร่ด้วย) ก็เลยเป็นเรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
     
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 21 เม.ย. 06, 10:47
|
|
ขอบคุณคุณครูครับ
ผมมีข้อสังเกตสองสามข้อ ข้อหนึ่ง แปลกดีที่เทวีแห่งการวิวาทบาดหมางนั้น ชื่อ Eris ซึ่งถ้าเปลี่ยนอักษรเสียตัวเดียวก็จะกลายเป็นเทพบุตร Eros เทพเจ้าแห่งความรัก หรือกามเทพ หรือคิวปิดบุตรชายของวีนัสนั่นเอง จะแปลว่ารักกับแค้นอยุ่ใกล้กันนิดเดียวได้หรือเปล่าไม่รู้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
     
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 21 เม.ย. 06, 10:55
|
|
ข้อสอง สามเทวีที่ไปปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าชายเลี้ยงแกะปารีสข้างบนนี้ หุ่นแบบนางแบบรูเบนส์ จริงๆ คืออ้วนไปหน่อยสำหรับสายตาผม
เทพีเฮราหรือจูโน มีนกยูงเป็นสัญลักษณ์ แปลกที่มาตรงกับพระสรัสวดี ชายาพระพรหม เทวีแห่งอักษรศาสตร์ฮินดู ตัวมหาเทพซิวส์เองซึ่งเป็นสวามีนั้น มีนกอินทรีเป็นเครื่องหมายครับ
เทพีวีนัส มีคิวปิดในรูปกุมารน้อยเล่นอยู่ใกล้ๆ ตามตำนานคิวปิดเป็นลูกของวีนัส
เทพีมีเนอร์วานั้น โดยปกติทรงเครื่องรบใส่เกราะทะมัดทะแมง แต่เมื่อจะต้องมาประกวดนางงามก็เลยต้องยอมแก้ผ้า เอ๊ยเปลื้องเกราะให้สายตามนุษย์อย่างปารีสได้ยลโฉม (อ้วนๆ) ของเธอด้วย เฮ้อ... เปลืองตัวจริงจริ๊ง...
ชุดเกราะของพระนางถอดวางทิ้งไว้ข้างโคนต้นไม้ มีโล่มีหมวกเกราะ ซึ่งถ้าเพ่งดีๆ จะเห็นว่าบนโล่มีหัวนางอสุรเมดูซาติดอยู่ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
     
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 21 เม.ย. 06, 10:57
|
|
ผู้ชายอีกคนที่ยืนดูจ้ำบ๊ะมหาเทวีอยู่คู่กับปารีส ที่ใส่หมวกมีปีกนั้น คือเมอร์คิวรี่ เทพเจ้าผู้สื่อสารแห่งสวรรค์ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Akira
อสุรผัด

ตอบ: 27
Status:
Working
Position: Buyer
Workplace: Samuthprakarn
Job history:
Teacher
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 21 เม.ย. 06, 18:52
|
|
อยากฟังเรื่องของ หอคอยบาเบลครับ อาจารย์เทาชมพู พอจะเล่าให้ฟังละเอียดๆ หน่อยได้ไหมครับ เพราถ้าจำไม่ผิดเรื่องนี้เห็นกล่าวกันว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ มนุษย์ทั้งหลายคุยกันไม่รู้เรื่อง คุยกันคนละภาษา ถูกต้องไหมครับ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 24 เม.ย. 06, 08:27
|
|
คำถามของคุณ Akira แสดงว่าคุณรู้เรื่องหอคอยบาเบลแล้ว แต่ถ้าจะให้เล่าอีกก็จะเล่าให้ฟังอีกครั้ง
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ตอนหนึ่งใน Old Testament หรือพระคัมภีร์เก่าของคริสตศาสนาที่ใช้หลักฐานร่วมกับยิว มีอยู่ว่าหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลก ผู้ที่รอดตายมาได้มีแต่ครอบครัวของโนอาห์ที่ต่อเรือใหญ่ขนสัตว์ต่างๆลงเรือไปอย่างละคู่ อย่างที่เราคงได้เคยดูหนังหรือการ์ตูนเรื่องนี้กันมาบ้างแล้ว
เมื่อน้ำแห้ง โลกกลับเข้าสู่ความปกติ ลูกหลานของโนอาห์ก็สืบเชื้อสายเผ่าพันธุ์ต่อกันมาอีกหลายชั่วคน พูดภาษาเดียวกัน พวกนี้ตั้งหลักแหล่งอยู่ที่ตะวันออกกลาง วันหนึ่งคนเหล่านี้ก็เกิดความคิดจะสร้างเมืองและหอคอยขึ้นเป็นเกียรติประวัติแก่พวกตัวเอง และจะได้ตั้งหลักปีกฐานกันอยู่ตรงนี้ไม่กระจัดกระจายแยกย้ายกันไปที่ไหน
หอคอยที่สร้างขึ้นสูงลิบลิ่วนี้ก็เพื่อบูชาพระอาทิตย์ พระจันทร์และดวงดาว แทนที่จะบูชาพระผู้เป็นเจ้า และเป็นการรวมตัวอยู่เป็นกระจุกเดียว แทนที่จะแผ่ขยายเผ่าพันธุ์ออกไปตามดินแดนต่างๆทั่วโลก ตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ขณะที่กำลังสร้างหอคอยให้สูงขึ้นทุกทีๆ พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงดลบันดาลให้ผู้คนที่เดิมพูดภาษาเดียวกัน กลายเป็นพูดคนละภาษา สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เกิดวิวาทบาดหมางกันเป็นการใหญ่ เพราะพูดกันไม่เข้าใจ จนกระทั่งต้องล้มเลิกการสร้างหอคอยกลางคัน แล้วต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปตามที่ต่างๆ ตั้งถิ่นฐานอยู่ต่างแดนกันในโลก ดังความประสงค์ของพระเจ้า
หอคอยนี้ก็เลยได้ชื่อว่า บาเบล แปลว่าความขัดแย้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|