เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6]
  พิมพ์  
อ่าน: 27163 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 11 เม.ย. 06, 02:28


การออกไปราชการเมืองเขมรครั้งนี้เอง ที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ได้พระแสงขรรค์ชัยศรีจากทะเลสาบเขมร จึงได้ให้นำมาทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ที่กรุงเทพฯ ดังที่เล่าไว้ในความเห็นที่ ๕๘
บันทึกการเข้า
หนูหมุด
มัจฉานุ
**
ตอบ: 88


ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 11 เม.ย. 06, 11:04

 มาลงชื่อให้กระทู้คุณ up
เคยแต่ใช้ยาดมยี่ห้อนี้คะ
บันทึกการเข้า
วันเสาร์
อสุรผัด
*
ตอบ: 20


ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 12 เม.ย. 06, 15:44

 ถ้าจำไม่ผิด ในราวอีก1-2 ปีข้างหน้าตึกเก่าหลังนั้นจะมีอายุครบ 100ปี เดาว่าทางมูลนิธิโรงพยาบาลคงจะจัดงานเฉลิมฉลองบ้างกระมัง
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 13 เม.ย. 06, 00:58

 มาต่อเรื่องเจ้าพระอภัยภูเบศร (แบน) ให้จบครับ

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ได้ปกครองบ้านเมืองเขมรให้ผาสุกสวัสดีมาได้ ๑๒ ปี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงพระราชดำริบรรดาโอรสของนักองค์เอง (สมเด็จพระนารายณ์รามาธิบดี) ที่ทรงชุบเลี้ยงอยู่ในกรุงเทพมหานครนั้นเจริญอายุพอสมควรจะทรงส่งออกไปปกครองเป็นพระเจ้าแผ่นดินเขมรแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ทรงพระราชดำริว่าเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) มีความชอบใหญ่หลวง ครั้นจะเรียกตัวกลับก็ไม่ควร แต่ครั้นจะให้รับราชการอยู่เขมรต่อไป ก็น่ากลัวจะเกิดเรื่องวิวาทบาดหมางกับนังองค์เอง อยู่ไปก็อาจจะระแวงกัน

ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ จึงทรงขอกันเมืองพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ มงคลบุรี และระสือ รวม ๕ เมือง ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนไทย มาขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร และโปรดฯ ให้เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) มีสิทธิปกครองโดยเด็ดขาดถึงขนาดเก็บภาษีได้เอง ทั้งนี้ นักองค์เองก็ทรงยินยอม

ตระกูลอภัยวงศ์จึงได้ปกครองเขตแดนนั้นสืบมาหลายชั่วอายุคน จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ ในยุคของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) เป็นคนสุดท้าย

ลูกหลานเหลนอภัยวงศ์หลายคนก็เกิดที่นั้น จริงๆ แล้วทางการเมืองก็ถือว่าเป็นแดนไทยมาตลอด เพราะแยกต่างหากจากการปกครองของกัมพูชาในฐานะประเทศราช

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) เจ้าเมืองพระตะบองและดินแดนใกล้เคียง ได้ปกครองบ้านเมืองอยู่ ๑๖ ปี จึงถึงแก่อสัญกรรมเมื่อพุทธศักราช ๒๓๕๓
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 13 เม.ย. 06, 01:56

 มาลงชื่ออ่านครับ ขอบพระคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 15 เม.ย. 06, 03:08


ประตูพิมานไชยศรีที่ตำนานกล่าวว่าฟ้าผ่าเมื่อเชิญพระแสงขรรค์ชัยศรีลอดผ่าน (ดูความเห็นที่ ๗๕) ครับ

แต่ในรัชกาลที่ ๑ ลักษณะประตูยังไม่ได้เป็นฝรั่งแบบนี้ เพิ่งมาแปลงเป็นประตูอย่างฝรั่งเมื่อรัชกาลที่ ๕ ครับ
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 15 เม.ย. 06, 03:13


ภาพพระแสงขรรค์ไชยศรีสวมปลอกครับ
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 15 เม.ย. 06, 03:14

 พูดปลอกไปแล้วก็ระลึกขึ้นได้ว่าควรจะเรียก "ฝัก" มากกว่า ขอแก้เป็นฝักนะครับ ขอประทานโทษ
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 16 เม.ย. 06, 01:20

 ได้กลิ่นตงิดๆ ไม่ทราบว่าสัญชาตญาณผิดพลาดหรือไม่ ว่ามีทายาทเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเข้ามาเฉวียนฉวัดแถวนี้ ไม่ทราบว่าหิ้วแหนมเขมรที่ผมโหยหามาฝากหรือไม่ เอาเป็นว่าใครก็แล้วแต่ที่ทราบเรื่องเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และเกร็ดต่างๆ ในสกุลอภัยวงศ์เพิ่มเติม ก็อย่ารีรอมาเล่าสู่กันฟังเพิ่มเติมนะครับ

เขาร่ำลือกันมาว่า เมื่อเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) ขนทรัพย์สินถอนครัวเรือนจากเขมรเป็นกองคาราวานใหญ่เข้าสู่พระนครนั้น ทรัพย์สินเงินทองท่วมหัวท่วมหูไปหมด แม้แต่ทองแท่งหนักๆ เป็นแท่งๆ ก็มีไม่น้อย บุคคลในสกุลอภัยวงศ์เคยเล่าเกร็ดสนุกๆ ให้ฟังว่าสมัยนั้นเวลานอนแล้วสิ่งที่ลูกบ้านอภัยวงศ์จะนำมาทับชายมุ้งกันลมพัดตลบขึ้นนั้นคือ......

"ทองคำแท่ง" ครับ !
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 18 เม.ย. 06, 07:53

เหลนเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  กระมิดกระเมี้ยนหลังไมค์มาบอก ด้วยความไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว ว่า
เป็นปลายสายห่างๆของเจ้าพระยาอภัยฯ หาใช่ทายาทไม่

แต่ดิฉันว่าไม่ห่างนะคะ ใกล้เชียวละ  เพราะคุณย่าเป็นลูกสาวคน(เกือบ)สุดท้องของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  มีน้องชายหรือไม่ก็น้องสาวอีก ๑ คน

เรื่องราวลึกๆจริงๆของตะกูลอภัยวงศ์ เจ้าตัวออกตัวว่าไม่ทราบมาก  จริงๆแล้วคุณ UP เธอก็เล่าเกือบจะทุกเรื่องที่ทราบไปหมดแล้ว
หลายๆเรื่องละเอียดและดีกว่าที่ทราบอีก

เหลนคนนี้ไม่เคยกินแหนมเขมรค่ะ
อาหารเขมรอย่างเดียวที่คุณย่าเคยทำให้รับประทานคือ ปอเปี๊ยะทอดสูตรเขมร
จริงๆแล้วก็คล้ายกับปอเปี๊ยะทอดของญวนแต่น้ำจิ้มต่างกัน
น้ำจิ้มของญวนเป็นผักดอก แต่ของเขมรเป็นพริกกระเทียม

คุณย่าเคยเล่าให้ฟังว่าท่านเกิดที่จังหวัดปราจีนบุรี
ไม่ได้เกิดที่พระตะบอง คงจะไม่ทราบเรื่องการย้ายเมืองจากพระตะบองมายังปราจีน
ที่อาจจะน่าสนใจหน่อยก็ตรงที่คุณย่าเป็นลูกสาวคนโปรดคนหนึ่ง
และเป็นลูกอยู่ดูแลเจ้าพระยาอภัยฯอย่างใกล้ชิด
เรียกว่านอนอยู่เป็นเพื่อนด้วยตลอดในช่วงปลายของชีวิต

ท่านเจ้าพระยาอภัยฯป่วยเป็นโรคเบาหวาน  และเดินไม่ค่อยได้
ท่านปลูกเรือนหลังเล็กๆแยกอยู่ต่างหากจากลูกหลานคนอื่นๆ
ในคืนที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรถึงแก่อสัญกรรม  คุณย่าก็นอนเฝ้าอยู่

คุณย่าคงจะอายุสิบต้นๆ  คุณย่าเล่าว่าท่านจากไปอย่างสงบ
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 18 เม.ย. 06, 09:00

 ว้า..งั้นผมจะได้เลิกร้องเพลงรอครับ หวังใจว่าจะได้พบคุณเหลนเป็นการส่วนตัวในวันข้างหน้า เผื่อว่าจะกรุณาเล่าอะไรเพิ่มเติมได้อย่างไม่กระมิดกระเมี้ยน

ส่วนแหนมเขมรนั้น เห็นทีคุณเหลนจะต้องไปถามลูกหลานของพระอภัยพิทักษ์ที่ไปดองกับสกุลวรทัตครับ ท่านเป็นเจ้าของสูตร อย่างไรก็ดี ...น้ำจิ้มพริกกระเทียมของปอเปี๊ยะก็น่าสนใจ ...หิวครับ
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 18 เม.ย. 06, 09:02

 พิมพ์ผิดครับ ขอแก้ไขพระอภัยพิทักษ์เป็น "พระอภัยวงศวรเศรษฐ"

พระอภัยวงศวรเศรษฐคือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรครับ ท่านยกทรัพย์สินทั้งหมดให้พระอภัยวงศฯ รวมทั้งตึกเจ้าพระยาอภัยฯ ในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรด้วย

แต่คุณพระอภัยฯ ท่านก็มีความจงรักภักดีล้นเหลือไม่แพ้เจ้าคุณบิดา จึงน้อมเกล้าฯ ถวายทรัพย์สินส่วนนั้นแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ ทั้งหมด
บันทึกการเข้า
หมูน้อยในกะลา
พาลี
****
ตอบ: 392

อะแฮ่ม!!


ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 18 เม.ย. 06, 12:44

 ขออนุญาต มาลงชื่ออ่าน เรื่องดีๆด้วยคนครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 19 คำสั่ง