WI WANDA
บุคคลทั่วไป
|
สวัสดีคุณเทาชมพูและท่านผู้อ่านค่ะ /> วันนี้เป็นวันสำคัญของประเทศไทยทีเดียวตามที่ดิฉันเข้าใจ คือ เป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพฯ และ
เป็นวันเลือกตั้ง ที่ทำให้จิตใจพลอยลุ้นระทึกไปด้วย..
ระหว่างลุ้น.. เลยคิดว่าเอาข้อความมาแปะต่อดีกว่า เผื่อท่านๆจะได้เก็บไว้อ่านในช่วงของการรอคอย /> ...........................
/> ดัชเชสเองก็ไม่เคยได้คาดคิดมาก่อนว่า กระแสความนิยมในตัวเธอจะลดลงในแนวดิ่งอย่างรวดเร็วได้ถึงขนาดนั้น /> เพราะเพียงไม่นานมานี้เอง ..ที่ใครต่อใครต่างนิยมชมชื่นสาวสามัญชนที่ก้าวมาเป็นสะใภ้หลวงด้วยท่าทีที่เป็นตัวของตัวเอง สดใสเป็นธรรมชาติจนเปรียบได้ราว"สายลม"ที่สดชื่นแห่งวินเซอร์ /> หากแต่ สังหรณ์แห่งลางร้ายได้เกิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนการเดินทางไปออสเตรเลียของเธอ ที่การทำงานในตำแหน่งสะใภ้ที่แสนดีนั้นมันช่างยุ่งยากและเป็นปัญหาในทุกขั้นตอน /> ทั้งตัวเธอเองก็เปรียบเสมือนกับเรือที่ขาดหางเสือจะหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่ได้ โดยเฉพาะสำหรับการช่วยเหลือจากคณะกรมวังชั้นผู้ใหญ่นั้น..อย่าหวัง /> ครั้นเธอใช้พื้นฐานของการอบรมในระดับที่เรียกได้ว่า "สามัญชนสำนึก"..ที่ได้รับมาแต่อ้อนแต่ออก มาช่วยในการตัดสินใจในการทำงาน ซึ่งผลออกมาจัดว่าล้มเหลว /> เสียงตำหนิเริ่มออกมาเป็นระยะ และยิ่งหนาหู /> ไม่มีใครเลยสักคนที่จะให้ความเห็นอกเห็นใจว่า ในฐานะอย่างเธอ..ที่ไม่มีพระสวามีเคียงข้างคอยให้ความปรึกษา /> จะไปเทียบราวสะใภ้เจ้ามืออาชีพได้อย่างไร
ยิ่งเสียงตำหนิ ติติงย้อนกับเข้ามาได้มากเท่าใด ความรู้สึกขาดความมั่นใจในการทำงานของเธอก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น จนในที่สุด เธอได้ตกเป็นเหยื่อของสื่อ
เพราะยามที่ก้าวเข้ามาในทีแรก สถาบันพระราชวงค์มีแต่เรื่องนิยายโศกสลด นับตั้งแต่ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่แปด ที่ได้สละราชบัลลังค์เพื่อ หญิงหม้ายอเมริกัน
นางวอลลิส ซิมป์สัน นั่นก็คือสมัย 1930's /> และจากนั้นก็ต่อเนื่องมาจนเรื่องของเจ้าฟ้าชายชารลส์ที่ไม่ค่อยได้มีเรื่องให้ปลาบปลื้มกันมากนัก /> ส่วนเจ้าหญิงไดอะน่าก็มีเรื่องฉาวๆคาวๆ ที่คนอังกฤษยังทำใจรับไม่ได้ /> พอยามที่เธอได้ก้าวเข้ามาในจังหวะนั้นพอดี จังหวะที่สื่อกำลังกระหายต่อการที่จะมีเจ้าหญิงผู้แสนดีไว้ประดับวงการ จึงได้ช่วยกันกระพือและสร้างภาพกันอย่างสุดขั้ว /> ฉายาที่พวกเขาได้มอบให้เธอนั้น..คือ เฟอร์กี้ ที่แสนดี ในขณะที่ เจ้าหญิงไดอะน่า ได้ถูกชาวสื่อพร้อมใจกันเรียกว่า เจ้าหญิงสมองกลวง.. /> ต่อมาในปี 1987 เจ้าหญิงไดอะน่าได้กลับมากู้ชื่อเสียงกลับคืนมาเป็นขวัญใจประชาชนได้อีกครั้ง เมื่อมาถึงคราวนี้ สื่อหนังสือพิมพ์ก็เลยขาดกระแสของตัวร้าย /> ตัวอิจฉา(แห่งวินด์เซอร์) ที่จะเอามาเขียนข่าวขายต่อไป..ดังนั้น ใครเล่าจะเหมาะสมไปกว่าเธอ อดีตสามัญชนที่ไม่มีปัญญาโต้เถียงหรือโต้แย้งอะไรได้เลย
ตัวอย่างเช่น การตีพิมพ์ภาพลงหน้าหนึ่ง ที่ พวกเขาจงใจเลือกเอาภาพในขณะที่เธอกำลังเหวี่ยงขากำลังจะก้าวลงจากรถ ที่มีภาพชะเวิกชะวากของต้นขาอันอวบอ้วน
วับแวมออกมาให้เห็น เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่า
กาอย่างเธอนั้น ไม่มีวันที่จะเป็นหงส์กับเขาได้ /> ส่วนผู้คนที่ได้เสพข่าวก็ไม่ได้รู้เลยสักนิด...ว่า กว่าที่พวกนักข่าวจะเลือกภาพเด็ดออกมาลงตีพิมพ์หน้าหนึ่งได้ /> ก็ต้องตั้งใจติดตามถ่ายจนหมดฟิล์มนับสิบม้วน และต้องช่วยกันใช้เวลานานนับหลายชั่วโมงกว่าจะได้ภาพประจานจนถูกใจ.. /> หรือ...ในยามที่เธอได้รับเชิญไปงานเลี้ยงของเหล่าเพื่อนๆ ที่ในงานเลี้ยงปัจจุบันมักใช้แก้วหลายขนาดและหลายรูปทรงตามชนิดของเครื่องดื่ม..เช่นแก้วไวน์แดง แก้วไวน์ขาว แก้วน้ำ
แต่เมื่อเป็นเพียงภาพถ่าย..จากท่าทางที่รื่นเริง หัวเราะกว้างขวางท่ามกลางแก้วนานาชนิดที่วางรายล้อม ช่างสร้างความรู้สึกเชื่อสมจริงว่า ดัชเชส ออฟ ยอร์ค นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับนางเมรีขี้เมาเลยสักนิด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 04 เม.ย. 06, 08:31
|
|
คุณวิวันดาคะ เรื่องที่เคยขอไว้เผื่อคุณวิวันดาจะมาเล่าให้ฟังอีก คือเรื่องนายอะไรเพี้ยนๆคนหนึ่งลอบเข้าไปในพระราชวัง จนถึงห้องบรรทมของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ แล้วยังนั่งคุยกับพระองค์ท่านอยู่พักใหญ่ก่อนสมเด็จจะวางอุบายเรียกนางพระกำนัลเข้ามาได้ ให้ทหารยามรวบตัวหมอนี่ไปสงบสติอารมณ์ในห้องขังน่ะค่ะ เป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลกสัก 10 ปีมาได้
ดิฉันจำชื่อนายคนนี้ไม่ได้จริงๆ เลยไม่รู้ว่าแกเป็นตายร้ายดียังไง จะหาหัวข้อใน google ก็ไม่รู้ว่าจะใช้คำไหน
และที่สำคัญคือเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา รายงานข่าวไม่ได้กล่าวถึงท่านดยุคสักคำเดียวว่า ท่านอยู่ในพระราชวังด้วย
คุณวิวันดาหรือท่านใดพอทราบเรื่องนี้บ้างไหมคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 04 เม.ย. 06, 13:49
|
|
ขอบคุณคุณวิวันดา ส่งเรื่องเล่ามาให้คลายร้อนได้เร็วทันใจค่ะ
สมเด็จฯท่านคุมพระสติได้อย่างมหัศจรรย์มากนะคะ คิดดูเถอะว่าตื่นบรรทมขึ้นมาเจอนายอะไรมือเปื้อนเลือด มานั่งอยู่ปลายพระที่ เรียกใครก็ไม่มีใครมา ยังทรงระงับความรู้สึกคุยกับหมอนั่นได้ตามปกติตั้งสิบกว่านาที ไม่ทรงทำให้นายนี่พลุ่งพล่านเป็นบ้าขึ้นมาในนาทีใดนาทีหนึ่ง
พวกสูทสีเทาน่าจะได้รับบำเหน็จให้ไล่ออกให้หมด จากผลงานโบดำชิ้นนี้ ระเบียบในวังมันช่างเละไม่มีชิ้นดีเอาจริงๆ ไม่เห็นจะเข้มงวดตามระเบียบการอื่นๆที่มีไว้บังคับเจ้านายเลยเชียว
ดิฉันก็ยังสงสัยอยู่ดีละค่ะว่าเจ้าชายฟิลิปพระสวามีหายไปไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 04 เม.ย. 06, 13:54
|
|
นึกถึงรัชสมัยพระราชินีนาถวิกตอเรียที่คนบ้าหลุดเข้าไปในวังแบบนี้ละค่ะ เอ้อระเหยเข้าไปอยู่ตั้ง ๒ คืน ไม่มีใครจับได้ กำลังจะเผาวังอยู่เชียว เจ้าชายอัลเบิร์ตไปเจอเข้าตอนเสด็จออกตรวจห้องหับแบบเจ้าของบ้านทำก่อนนอน ควีนก็เสด็จมาเจอ เพราะเห็นพระสวามีดำเนินไวๆ สงสัยว่าไปไหนเลยเสด็จตาม มาพบคนบ้าด้วยกันทั้งสองพระองค์ พอข้าราชบริพารรู้ก็อลหม่านไปทั้งวัง แต่หาไม่เจอจนกระทั่งวันต่อไป นายคนนั้นก็ไม่ได้หนีไปไหน ไปขโมยอาหารกินอิ่มหนำแล้วก็ขึ้นไปหลับอยู่บนราชบัลลังก์นั่นเอง
ผ่านมาหนึ่งร้อยกว่าปี การดูแลวังก็ยังแย่เหมือนเดิม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|