เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
อ่าน: 7092 หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 01 มิ.ย. 19, 10:17

และ ตามมาด้วยบทความในนสพ.คมชัดลึก ฉบับวันนี้

           ......ใครอ่านแล้วเข้าใจได้ทันทีว่า สะท้อน เสียดสี ภาพของสังคมรัสเซียหลังการปฏิวัติและ
การครองอำนาจของ "โจเซฟ สตาลิน“
           ความสนุกมันก็อยู่ที่การ “จับคู่” คนและสัตว์ว่าใครเป็นใครกันแน่ !

http://www.komchadluek.net/news/scoop/374003

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 01 มิ.ย. 19, 11:10

เรื่องย่อ Animal Farm ั

     นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องเปรียบเทียบ (Allegory) ตัวอย่างที่เรารู้จักดีก็คือนิทานอีสป   หมายความว่า ตัวสัตว์ในนิทานไม่ได้หมายถึงสัตว์จริงๆ  แต่หมายถึงมนุษย์ผู้มีพฤติกรรมต่างๆ ตามแต่ผู้เขียนจะต้องการแฝงนัยไว้
     เรื่องนี้เริ่มต้นที่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่ง   มีชาวนาเจ้าของฟาร์มเป็นผู้ดำเนินงาน    คืนหนึ่งโอลด์เมเจอร์ หมูอาวุโสเป็นที่นับถือของสัตว์ในฟาร์มเพราะเป็นหมูรางวัลชนะเลิศในการประกวดมาก่อน ได้เรียกประชุมสัตว์แล้วเล่าถึงความฝันของเขาถึงสังคมที่สัตว์ทั้งหลายอยู่กันอย่างผาสุกสันติ โดยไม่มีมนุษย์คอยบังคับกดขี่     เมเจอร์ขอให้สัตว์ทั้งหลายมุ่งหน้าสร้างสังคมอุดมคติแห่งนั้น  และสอนให้ร้องเพลงปลุกใจชื่อ "ปวงสัตว์แห่งอังกฤษ"  ซึ่งบรรยายอุดมการณ์นี้   อุดมการณ์ของเมเจอร์ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากสัตว์ในฟาร์ม
    อย่างไรก็ตาม     เมเจอร์ไม่ทันอยู่ดูความสำเร็จ เพราะตายใน 3 วันต่อมา   เหลือแต่สานุศิษย์หมูหนุ่ม 3 ตัวสืบสานปณิธานต่อไป ได้แก่สโนว์บอล  นโปเลียน และสควีลเลอร์  ดำเนินการตามปรัชญาการเมืองที่ชื่อว่า "สัตว์นิยม"   
    คืนหนึ่ง ฝูงสัตว์ระดมพลกันเข้าโจมตีเจ้าของฟาร์ม  จนหนีกระเจิดกระเจิงออกจากฟาร์มไป  จากนั้นพวกสัตว์ก็เข้ายึดฟาร์มได้เบ็ดเสร็จ  ตั้งชื่อฟาร์มใหม่ว่า "ฟาร์มสัตว์" (Animal Farm) แล้วสืบสานปณิธานของเมเจอร์ต่อไป  โดยได้รับความร่วมมืออย่างแข็งขันจากม้าลากรถในฟาร์มชื่อบ๊อกเซอร์   ผู้ประกาศจะอุทิศแรงงานเพื่อความก้าวหน้าของฟาร์ม  ใช้คำขวัญว่า "ฉันจะทำงานให้หนักกว่านี้"
    ในตอนแรก   ฟาร์มที่ดำเนินงานโดยพวกสัตว์ ก้าวหน้าไปด้วยดี  หมูหนุ่มทั้งสามแบ่งงานกัน  สโนว์บอลสอนให้สัตว์อื่นๆรู้จักอ่านเขียนมีวิชาความรู้     นโปเลียนเอาฝูงลูกหมาในฟาร์มมาฝึกให้เรียนรู้หลักการของสัตว์นิยม    เมื่อเจ้าของฟาร์มย้อนกลับมาจะยึดฟาร์มคืน  พวกสัตว์ก็รวมพลังกันสู้จนชาวนาพ่ายหนีไป   
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 01 มิ.ย. 19, 11:41

   เมื่อสันติภาพกลับคืนมา     ผู้นำทั้งสองคือสโนบอลกับนโปเลียนต่างก็บริหารงานของตัวไป เพื่อนำความเจริญมาสู่ฟาร์ม     แต่ความจริงมีอยู่ว่า อำนาจที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนนั้นจะต้องกระทบกระทั่งขัดแย้งกันไม่วันใดก็วันหนึ่ง     แล้ววันนั้นก็มาถึงจริงๆเมื่อสโนบอลทำโครงการเครื่องสีลมไฟฟ้าที่นโปเลียนไม่เห็นด้วย  เมื่อตกลงโหวตกันในที่ประชุมสภาสัตว์  นโปเลียนไม่เสียเวลาพูดชี้แจงมากมาย  แต่เรียกหมา 9 ตัวออกมา  มันคือฝูงหมากระหายเลือดที่เติบโตขึ้นมาจากลูกหมาครอกที่นโปเลียนเลี้ยงมาแต่แรก  หมาฝูงนั้นไล่สโนบอลหนีหัวซุกหัวซุนออกจากฟาร์ม แล้วไม่ปรากฏว่ากลับมาอีกเลย
    บัดนี้อำนาจอยู่ในมือเจ้าหมูนโปเลียนแต่ผู้เดียว   นโปเลียนจึงประกาศว่าจะไม่มีการประชุมสภาสัตว์อีกต่อไป  นับแต่นี้พวกหมูเท่านั้นที่จะบริหารงานในฟาร์มทั้งหมด   หมูจะเป็นคนตัดสินเองว่าอะไรดีที่สุดสำหรับสัตว์ในฟาร์มทั้งหมด
   นโปเลียนตกลงสานต่อโครงการของสโนบอล สร้างโรงสีลมให้เสร็จ  สัตว์ทั้งหลายจะต้องร่วมมือกันอย่างหนักกว่าเก่าเพื่อให้โรงสีลมเสร็จบริบูรณ์    คืนหนึ่งเกิดพายุ ทำให้โรงสีที่สร้างไว้ครึ่งทางเกิดพังลงมา     ชาวนามนุษย์ในฟาร์มใกล้เคียงบอกว่าเป็นผลจากสร้างกำแพงบางเกินไป  แต่นโปเลียนประกาศว่าเป็นฝีมือสโนบอลแอบมาทำลาย เพื่อขัดขวางโครงการ    ด้วยเหตุนี้ นโปเลียนจึงออกกฎหมายเด็ดขาดว่าใครที่ขัดขวางงานจะต้องถูกลงโทษถึงตายด้วยแรงขย้ำจากหมาทั้งฝูง    กฎหมายของนโปเลียนได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากม้าบ๊อกเซอร์ จนเกิดคำขวัญว่า "นโปเลียนย่อมถูกต้องตลอดกาล"
     นโปเลียนมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม  คล้ายมนุษย์เข้าไปทุกที เช่นเดินสองขาแทนสี่ขา ทั้งๆคำขวัญในตอนแรกที่ยึดฟาร์มได้ คือ "สี่ขาดี  สองขาเลว"   ขึ้นไปนอนบนเตียงแทนที่จะอยู่ในคอกสัตว์   ดื่มเหล้า  และค้าขายกับฟาร์มใกล้เคียงกันที่ดำเนินงานโดยมนุษย์     มีสควีลเลอร์ หมูตัวที่สามซึ่งบัดนี้กลายเป็นมือขวาของนโปเลียนคอนแก้แทนให้ทุกอย่าง  รวมทั้งโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เห็นว่านโปเลียนเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่   สร้างชีวิตที่ดีให้สัตว์ในฟาร์มทุกตัว  มองข้ามความจริงว่าสัตว์ทุกตัวยกเว้นหมูยังคงหิวโหย อดอยากและทำงานหนักยิ่งกว่าเก่า
   หลักการในยุคเริ่มแรก ถูกต่อเติมดัดแปลงไปจากเดิมเพื่อให้เหมาะสมกับพวกหมู   เช่น " สัตว์ทุกตัวย่อมเท่าเทียมกัน"ก็เปลี่ยนเป็น "สัตว์ทุกตัวย่อมเท่าเทียมกัน  แต่บางตัวก็เท่าเทียมมากกว่าตัวอื่นๆ"   
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 01 มิ.ย. 19, 11:55

   ชาวนาในฟาร์มใกล้ๆที่ค้าขายกับนโปเลียน เกิดโกงขึ้นมา แล้วเลยพาลบุกเข้าโจมตีฟาร์ม ระเบิดโรงสีที่สร้างขึ้นมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของสัตว์ในฟาร์ม  จนเกิดการสู้รบกันทั้งสองฝ่าย    ม้าบ๊อกเซอร์ได้รับบาดเจ็บสาหัสในการป้องกันฟาร์มอย่างอาจหาญ   เมื่อสัตว์ขับไล่ศัตรูออกไปได้สำเร็จ   บ๊อกเซอร์ก็หายไปจากฟาร์ม   สควีลเลอร์ประกาศต่อสัตว์อื่นๆว่าบ๊อกเซอร์ตายอย่างสงบเมื่อถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในฐานะวีรบุรษ ก่อนสิ้นลมได้ประกาศเกียรติคุณของการปฏิวัติจนลมหายใจสุดท้าย
   แต่ในความเป็นจริง  เมื่อเห็นบ๊อกเซอร์ร่อแร่จนใช้งานไม่ได้อีก  นโปเลียนก็ขายม้าผู้ซื่อสัตว์และกรำงานหนักมาตลอดชีวิตให้พ่อค้าเอาไปชำแหละ   แลกกับเงินเอามาซื้อเหล้ากิน
   หลายปีผ่านไป     หมูเริ่มจะคล้ายมนุษย์เข้าทุกที   เดินสองขา  ถือแส้  และสวมเสื้อผ้าอย่างมนุษย์   หลักการที่เคยมีก็ถูกละเลยทั้งหมด   ส่วนสัตว์ก็ยังต้องทำงานหนักเพื่อมาเลี้ยงพวกหมู    หมูเริ่มคบค้าสมาคมกับมนุษย์เจ้าของฟาร์มใกล้ๆ   เปลี่ยนชื่อฟาร์มกลับไปเป็นชื่อเดิมเหมือนสมัยเจ้าของเดิม   เชิญเจ้าของฟาร์มมาเลี้ยงดินเนอร์กันเพื่อประกาศความเป็นพันธมิตรร่วมกัน ต่อต้านชนชั้นแรงงานทั้งมนุษย์และสัตว์
   ในฉากสุดท้ายของเรื่อง  ฝูงสัตว์ในฟาร์มที่ได้แต่ทำงานหนัก แต่ไม่มีโอกาสได้รับเชิญมาร่วมงานเลี้ยง ค่อยๆเมียงมองเข้ามาแอบดูทางหน้าต่าง   ขณะที่นโปเลียนและฝูงหมูกำลังเลี้ยงต้อนรับบรรดามนุษย์เจ้าของฟาร์มใกล้ๆกันอย่างหรูหรา   ทุกสายตามองแขกและเจ้าภาพ  ด้วยความงุนงง  เพราะไม่มีใครแยกออกเลยว่า ไหนคือมนุษย์ และไหนคือหมู  ทั้งสองพวกไม่มีความแตกต่างกันเลย
จบ
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 01 มิ.ย. 19, 13:05

George Orwell สะท้อนภาพให้เห็นว่า อุดมการณ์การเมืองที่หวังเปลี่ยนแปลงสังคมเก่าไปสู่สังคมใหม่    เอาเข้าจริงถ้าอำนาจเบ็ดเสร็จไปตกในมือผู้นำคนใดคนหนึ่ง   อุดมการณ์ก็หลีกทางให้อุดมกิน และอุดมโกงได้เสมอ 
ไม่เฉพาะแต่ในปฏิวัติของรัสเซีย ที่เป็นต้นแบบของนิยายเรื่องนี้เท่านั้นหรอก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.051 วินาที กับ 19 คำสั่ง