เอ..จะเป็นลูกศิษย์คนที่ผมเข้าใจหรือไม่ก็ไม่ทราบ คิดว่าน่าจะเดาได้ถูกคนนะครับ
ทราบมาว่าการถวายตัวเป็น "ข้าราชบริพารเรือนนอก" ในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ นั้น มีการทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนตามประเพณีครับ เมื่อเสด็จออกทรงรับดอกไม้ธูปเทียนแล้วก็จะพระราชทานเข็มอักษรพระนามเป็นเครื่องหมายแห่งพระกรุณา ในลำดับชั้นสูงต่ำสุดแต่แต่พระอัธยาศัยและความเหมาะสม
(จริงๆ ข้าราชบริพารของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ก็ไม่มี "เรือนใน" หรอกครับ เพราะวังรื่นฤดีไม่มีที่พักเฉพาะของข้าราชบริพาร จะมีก็แต่สำหรับพนักงานประจำเช่น สารถี กรมวัง คนสวน พยาบาล คุณพนักงานฝ่ายในจากวังหลวง พนักงานห้องเครื่อง ข้าหลวง--ข้าหลวงในที่นี้หมายถึง "สตรี" ผู้รับใช้ในพระองค์)
สมัยก่อน วังเจ้านายฝ่ายในจะมี "ข้าหลวงเรือนใน" คือสตรีผู้ถวายตัวปฏิบัติงานสนองพระเดชพระคุณซึ่งพำนักประจำอยู่ในวังนั้น กับ "ข้าหลวงเรือนนอก" คือสตรีผู้ถวายตัวปฏิบัติงานสนองพระเดชพระคุณซึ่งพำนักอยู่นอกวัง เหมือนกับว่าบิดามารดาหรือญาติผู้ใหญ่ของสตรีผู้นั้นได้ส่งมาถวายงานเจ้านายหรือเข้าเรียนงานอย่างในราชสำนักแบบไปกลับ หรือมาเป็นครั้งคราวแล้วแต่โอกาสนั่นแหละครับ
เมื่อกาลสมัยเปลี่ยนไป ธรรมเนียมก็คลี่คลายมีวิวัฒนาการไป กิจการบางอย่างก็ต้องพึ่งบุรุษ หรือบ้างก็สุดแต่พระกรุณาของเจ้านายแต่ละวัง จึงทำให้มีการรับบุรุษเข้าเป็นข้าราชบริพารปฏิบัติงานสนองพระเดชพระคุณเป็นครั้งคราวได้
แต่ครั้นจะเรียกบุรุษว่าเป็น "ข้าหลวง" ก็ฟังดูจะเป็นฝ่ายในไปหน่อย และหน้าที่ปฏิบัติก็ไม่ใช่เป็นเชิงรับใช้โดยตรง จะเรียก "มหาดเล็ก" ก็ดูไม่ตรงหน้าที่ หากแต่จะเป็นในลักษณะเฝ้าแหน ตามเสด็จ การประสานงาน จัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรในพระอุปถัมภ์ หรืองานบรรณาคม และการจัดการความเรียบร้อยสวยงามต่างๆ ในวัง
อย่างกรณีของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ ก็ทรงพระเมตตารับเด็กชายที่เป็นพระญาติบ้าง เป็นบุตรหลานข้าราชบริพารบ้าง ไว้ในพระอุปการะ หรือพระราชทานโอกาสให้ได้ปฏิบัติงานถวายในส่วนที่เหมาะสม
ตั้งแต่สมัยประทับ ณ ประเทศอังกฤษ ได้พระราชทานพระอนุญาตให้บุรุษมาทำหน้าที่เป็นสารถีบ้าง จัดการผลประโยชน์ ธุรกิจการงานส่วนพระองค์บ้าง ฯลฯ แต่จะไม่โปรดให้พำนักประจำถาวรในตำหนัก ถึงมีเหตุจำเป็นจริงๆ ก็จะโปรดให้ประทับแยกจากสัดส่วนที่สตรีพักอย่างเป็นเอกเทศ เพราะยังทรงถือธรรมเนียมฝ่ายในอย่างโบราณ ทำให้คนไทยในอังกฤษทั้งหลายสรรเสริญพระเกียรติคุณของทั้งสองพระองค์เป็นอันมากว่า ทรงดำรงพระชนมชีพอยู่ได้อย่างเจ้านายฝ่ายใน ไม่เคยด่างพร้อยแม้ประทับในต่างประเทศ
แต่งานที่ข้าราชบริพารฝ่ายหน้า (ผู้ชาย) จะปฏิบัตินั้น หากไม่จำเป็นอย่างยิ่งยวด เช่น เพราะเหตุผลทางพระอนามัย หรือเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว ต้องไม่ใช่งานที่จะสามารถจับต้องพระวรกาย หรือเข้าใกล้ชิดพระองค์ของเจ้านายฝ่ายในจนเกินงามเป็นอันขาด ทราบมาว่าธรรมเนียมฝ่ายหน้าฝ่ายในในวังรื่นฤดียังคงมีอยู่เข้มงวดพอสมควร ซึ่งต้องถวายพระเกียรตินี้แด่ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ผู้ทรงวางแนวทางไว้
ส่วนจะเป็นการถวายตัวทำราชการหรือไม่ ผมไม่อาจสรุปได้ หากจะเปรียบ เห็นเข้าทางอย่างแม่พลอยไปถวายตัวแด่เสด็จฯ หรือนายศรถวายตัวแด่สมเด็จวังบูรพา (ต่างก็แต่ไม่ได้นอนอยู่ในวัง) มากกว่ากระมังครับ