เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 9741 ความรู้ คู่คุณธรรม
เหลนนางพญา
อสุรผัด
*
ตอบ: 39

หมื่นลี้ ย่อมมีก้าวแรก


 เมื่อ 24 มี.ค. 06, 14:25

 แหะๆๆ เรื่องก็มีอยู่ว่า ผมได้เข้ามาอ่านกระทู้ข้างล่างกระทู้หนึ่ง อ่านแล้วรู้สึกสลด และรับไม่ได้ ที่เด็กมัธยมคนหนึ่งได้มาอาละวาดในเรือนไทยแถมยังใช้กิริยาไม่เหมาะสม ไม่ให้เกียรติต่อท่านอาจารย์เจ้าของเรือนอีกด้วย

เลยขอเข้าไปดูประวัติเขาสักหน่อย พบว่าเด็กคนนั้นได้โพสมาแล้วเป็นจำนวนร้อยครั้ง (จนได้เครื่องบินกระดาษพับเป็นพาหนะประจำกาย) ก็นับว่าเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีความรู้ และชอบแสวงหาความรู้เป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ขาดคุณธรรมไป  สังคมเราไม่ได้ขาดคนเก่ง แต่ขาดคนที่ "ทั้งเก่งและดี" ครับ

อะแอ้ม เกริ่นมาตั้งนาน ก็จะขอเข้าประเด็นละครับ  ผมก็เลยอยากจะขอเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส บ้างนะครับ

ถ้าท่านใด เคยเจอหรือเคยได้ยินเรื่องราว สุภาษิต คำกลอน คำคม ฯลฯ  ของบุคคลต่าง ๆ   ที่เน้นให้คนเรามี  “ความรู้ คู่คุณธรรม”   ก็รบกวนเอามาแบ่งปันกันหน่อยนะครับ เพื่อจะได้สร้างกระแสดี ๆ ให้กับน้องๆ เยาวชนไทยของเราครับ ขอบคุณครับ
   
บันทึกการเข้า
เฟื่องแก้ว
พาลี
****
ตอบ: 327

เลขานุการ


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 24 มี.ค. 06, 19:06

 เมื่อสักสองสัปดาห์ก่อนเอง คุณเหลน ที่ดิฉันปรารภกับน้องคนหนึ่งว่า
สังคมมักจะยกย่องคนเก่ง มากกว่าเชิดชูคนดี..

อันนี้ เป็นคำพูดที่หลุดออกจากความคิดนะคะ ไม่ได้ขัดเกลาก่อน
แล้วก็ย้อนกลับมาคิดแยกแยะทีหลัง ยังไม่ได้ข้อสรุปของตัวเอง

ในหลายๆ สถานการณ์ ดิฉันเห็นว่า
คนในสังคม "ประเมินค่า" คนเก่ง สูงกว่า คนดี หรือเห็นความสำคัญมากกว่า
(อาจจะเป็นการให้รางวัล ความอุตสาหะพากเพียร)

พ่อแม่เรายังปลูกฝังให้เรียนสูงๆ บางรายเรียนให้จบสูงๆเท่านั้นไม่พอ
ต้องเรียนให้ได้ดีๆ เกียรตินิยมด้วย
ต่อไปจะได้ทำงานดีๆ เป็นเจ้าคนนายคน
เชิดหน้าชูตาในสังคม และเป็นเครื่องมือไว้แข่งขันต่อสู้ในสังคม

มีลูกเป็นคนดีของสังคม ไม่ค่อยเพียงพอเสียแล้ว
อย่างนี้กระมังคะ คนรุ่นใหม่ๆ เลยต้องแสดงความเก่งกาจให้เป็นที่ประจักษ์ก่อน
ส่วนดีหรือไม่ดี เป็นอีกเรื่อง ที่อาจจะต้องดูไปนาน ๆ
ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คนไง
ความเก่งมันเห็นได้ชัดกว่า แต่ความดี คงต้องดูนาน ๆ
ดูหลายแง่หลายมุม หรือต้องขุดดูลึกๆ น่ะ

กรณีเด็กมีการศึกษาแต่ก้าวร้าว
เขาอาจจะดีก็ได้ แต่หย่อนการอบรมเรื่องมารยาทเท่านั้นเอง

แล้วแต่ว่าจะเอามาตรฐานอะไรมาให้เกรด ความดี นะคะ คุณเหลน

อันนี้ ตอบกลางๆ นะ ตามประสาคนไม่ค่อยดี และไม่ค่อยเก่ง อิอิ  
บันทึกการเข้า
เหลนนางพญา
อสุรผัด
*
ตอบ: 39

หมื่นลี้ ย่อมมีก้าวแรก


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 24 มี.ค. 06, 20:12

 จริงด้วยครับ ไม่ทราบจะเอาอะไรมาวัดความดีและคุณธรรมของเด็ก

คุณแม่ผมก็มักจะบ่นให้ผมฟังบ่อย ๆ ครับ ว่าทางโรงเรียนจะประเมินเด็กนักเรียน ว่ามีคุณภาพหรือไม่ ก็โดยอาศัยเกรด ทางจังหวัดจะประเมินว่าโรงเรียนไหนมีคุณภาพหรือไม่ ก็อาศัยเกรดของนักเรียนในโรงเรียนเป็นหลัก ทุกคนต่างมองข้ามคุณธรรม ความเป็นคนดี ของเด็กไป เพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ในการวัด

คุณแม่ท่านมาบ่นให้ผมฟัง ผมเลยมาบ่นต่ออีกทีครับ ฮิๆ
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 24 มี.ค. 06, 20:54

ความรู้ คู่คุณธรรม สมัยหนึ่ง เคยเป็นคำขวัญประจำโรงเรียนเก่าผม ผมเป็นศิษย์เก่าทีไม่ดีนักเลยไม่ได้กลับไปเยี่ยมโรงเรียนบ่อย ทั้งๆ ที่รักและคิดถึงโรงเรียนอยู่เสมอ ก็เลยไม่รู้ว่า เดี๋ยวนี้คำขวัญโรงเรียนผมยังเหมือนเดิม หรือเปลี่ยนไปแล้ว น่าจะยังเหมือนเดิมแหละครับ

โรงเรียนผม ตั้งแต่รุ่นโบราณกาลนานมาแล้ว (นักเรียนรุ่นแรกเข้าใจว่าขณะนี้คงจะอยู่ในวัยใกล้เกษียณอายุเต็มที) ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนที่เด็กกล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าถาม เพราะโรงเรียนค่อนข้างเปิดโอกาสให้คิด และความกล้าคิดซึ่งบางทีก็ไม่เหมือนใครนี่แหละ ที่สมัยหนึ่งก็มีการมองเด็กโรงเรียนผม (รวมผมด้วย) ว่าแปลก ไม่เหมือนชาวบ้านเขา อย่างผมนีคงจะเป็นตัวอย่างได้ในทางแปลกแบบเพี้ยน อิอิอิ

สมัยหนึ่งในเมืองไทย การเป็นตัวของตัวเองและกล้าคิดเป็นเรื่องไม่สู้ธรรมดานัก และผู้ใหญ่ไทยบางท่านก็เห็นเป็นเรื่องประหลาดเกือบๆ จะหลุดโลก แต่เมื่อผมเรียนจบมานานจนแก่แล้วนี้ ได้สังเกตว่าเด็กรุ่นหลังๆ พยายามจะลุกขึ้นมาคิดนอกกรอบ ลุกขึ้นมากล้าแสดงออก ลุกขึ้นมาพยายามจะเป็นตัวของตัวเอง สารพัดแหละ ไปจนเต็มไปหมดแพร่ระบาดไปหมด จนการพยายามจะแหกกรอบเป็นเรื่องธรรมดาสามัญไปแล้วสำหรับเด็กเดี๋ยวนี้ (ไม่ว่าโรงเรียนไหน)

ในฐานะส่วนหนึ่งของอดีตเด็กกลุ่มที่คนเห็นเป็น "เด็กซ่า" มาก่อน ผมพอเข้าใจเด็กสมัยนี้บางคน (จากสถาบันอื่น) ที่พยายามจะเป็นอย่างนั้นได้บ้าง แต่ขอบอกว่าเด็กซ่าจากสถาบันต้นตำรับอย่างผม เห็นว่า มีน้องๆ หลานๆ รุ่นหลังนี้หลายคน ที่พยายามฉีกกรอบอย่างจงใจไปมาก จนเกินงามเกินพอดีไป การมีอิสระในความคิดและกล้าแสดงออก ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องทำให้เราก้าวร้าวและไร้มารยาท เปล่า มันคนละเรื่องกัน รุ่นผมน่ะ สามารถซ่าแล้วน่ารักไปพร้อมกันได้ครับ อันนี้ผมไม่ได้พูดเอง ผู้ใหญ่ไทยใจกว้างบางท่านบอกไว้

IQ กับ EQ และ MQ มันคนละเรื่อง แต่สำคัญทั้งสามอัน ไอคิวสูง แปลว่าคุณฉลาด แต่คุณมีวุฒิภาวะทางอารมณ์หรือไม่ คุณมีคุณธรรมศีลธรรมหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ถ้าจะให้ดี ควรจะต้องพัฒนาให้มีพอๆ กันทุก Q แหละครับ
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 24 มี.ค. 06, 21:02

ในหนังสือประจำปีของโรงเรียนผมแห่งนั้นน่ะแหละ นานหลายปีมาแล้ว เคยมีการตีพิมพ์บทความทางจิตวิทยาเด็กบทหนึ่ง ท่านผู้เขียน เข้าใจว่าเป็นอาจารย์แพทย์หญิง จะสาขาจิตเวชเด็กหรือไม่ ไม่แน่ใจ

ผมอ่านเมื่อยังเป็นเด็กนักเรียน จำชื่อท่านไม่ได้แล้ว ที่จำได้แต่เค้าๆ คือสาระของบทความ และชื่อบทความ คือ "ลูกรักจงเป็นเด็กดี" ท่านเล่าว่า คุณพ่อคุณแม่ของเด็กๆ ตั้งแต่ครั้งกระโน้น คือเมื่อตัวผมเองยังเป็นเด็กเองเลย มักมาหาคุณหมอแล้วถามคำถามยอดฮิตว่า ทำยังไงหนอ ลูกรักจึงจะเรียนเก่ง

คุณหมอผู้เขียนบทความจึงได้พยายามชี้แจงในบทความของท่านว่า ลูกรักของคุณพ่อคุณแม่ ถ้าเรียนเก่งอย่างเดียว ไปไม่รอดหรอก น่าจะถามมากกว่าว่า ทำยังไง ลูกรักจึงจะเป็นเด็กดี และมีความสุข มากกว่า

บทความนั้นเห็นจะอายุหลายสิบปีแล้วนับถึงวันนี้ แต่ที่คุณหมอเขียนติงไว้ก็ยังจริงและจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมอันอุดมด้วยการแข่งขันสมัยนี้ (ถึงคุณหมอจะพยายามชี้ไว้ตั้งแต่ครั้งกระโน้น คุณพ่อคุณแม่และคุณลูกสมัยต่อๆๆๆๆๆ มาอีกหลายครอบครัว ก็ยังเห็นความสำคัญของการเรียนเก่ง มากกว่าการเป็นเด็กดีและมีความสุข อยู่นั่นเอง)
บันทึกการเข้า
เฟื่องแก้ว
พาลี
****
ตอบ: 327

เลขานุการ


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 24 มี.ค. 06, 21:48

 มิน่า ในจำนวนพี่น้อง ดิฉันมีความสุขกว่าเพื่อน
(พี่น้อง เรียนเก่ง เรียนดี เรียนสูงทั้งสองคนค่ะ)

ฟังคุณ นกข. แล้วรีบตีขลุม ยกประโยชน์เข้าตัวเลย
เห็นไหมล่ะ คิดแบบนี้ เลยมีความสุข อิอิ

เมื่อต้นสัปดาห์ เจอรุ่นน้องสองคน
คนหนึ่งเป็นผู้ชายจบตรีคอร์เนล โทฮาร์เวิร์ด
กำลังทำเอกที่มหาวิทยาลัยลอนดอน

อีกคนจบปริญญาตรีสองใบเกียรตินิยม
กำลังต่อโทใน Grand Ecole ของฝรั่งเศส
ที่เด็กฝรั่งเศสเองไม่สามารถเข้าได้ทุกคน
ต้องเก่งจริงๆ

น้องคนหลัง เป็นผู้หญิงทึ่งความเก่งของน้องคนแรกมาก
แต่บอกว่า น้องเขาดูจริงจัง จนเครียด
แล้วบุคคลิกก็ดูเศร้าสร้อยหงอยเหงา
ต่อท้ายว่า ...ดูเศร้าเหมือนหนูเลย

ดิฉันชื่นชมปลาบปลื้มคนเก่ง ๆ ค่ะ
(เช่นท่านสองคนข้างบนนี้แหละ)
ด้วยความที่ตัวเองไม่ค่อยเคร่งเครียด
ขอทำหน้าที่เชียร์อัพ สร้างความสนุกสนานให้แก่
คนเก่ง ๆ ทั้งหลายที่เราชื่นชมนับถือแล้วกันค่ะ

จะได้ช่วยให้คนเก่งมีความสุขด้วยไง อิอิ

นึกภาพคุณ นกข. ซ่าไม่ออกเลย
ลองเล่าวีรกรรมหน่อยซิคะ
แล้วทำไมต้องทำหน้ากากแบทแมนเองด้วยล่ะ ?
(เกี่ยวไหมเนี่ย ??)  
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 24 มี.ค. 06, 21:51

 Non.
Merci, Madame, mais non! ...    
บันทึกการเข้า
เฟื่องแก้ว
พาลี
****
ตอบ: 327

เลขานุการ


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 24 มี.ค. 06, 22:52

 mais si! mais si.. mon espion m'a dit que vous etes tres gentil, et cool.



et alor, c'est quoi l'histoire de masque de Batman ??
บันทึกการเข้า
เฟื่องแก้ว
พาลี
****
ตอบ: 327

เลขานุการ


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 25 มี.ค. 06, 01:40

คุณเหลน ขอยืมที่ลองภาพหน่อยค่ะ
บันทึกการเข้า
Peking Man
ชมพูพาน
***
ตอบ: 142


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 25 มี.ค. 06, 04:42

 "ความเก่ง" กับ "ความดี" เป็นสองสิ่งที่เกื้อกูลกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองสิ่งจะต้องมีมาพร้อมกันในทุก ๆ คน ไม่ว่า "ความเก่ง" หรือ "ความดี" ทุก ๆ คนต้องพยายามครับ พยายามที่จะทำให้ตัวเราเองเป็นทั้งคนดีและคนเก่ง แต่ถ้าต้องเลือกระหว่าง ความดี กับ ความเก่ง ผมขอเป็น ความดี เก้าส่วน แล้วขอ ความพอ เพิ่มเข้าไปสักหนึ่งส่วนได้ไหมครับ? หากเราไร้ซึ่ง ความพอ แล้วผมว่ามันเป็นการยากมากที่เราจะมีความสุขได้...
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 25 มี.ค. 06, 07:59

 แปลกจริง  นึกหาโคลง กลอน สุภาษิต ไทยตามหัวข้อกระทู้นี้ไม่ออก
เราไม่ได้สอนข้อนี้กันหรือไงนะ  ว่าความรู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องมีคุณธรรมด้วย
โดยมากจะสอนทั้งสองแบบ ว่าให้มีความรู้  กับให้มีคุณธรรม

ความรู้คู่เปรียบด้วย.........กำลัง กายเฮย
สุจริตคือเกราะบัง............ศาสตร์พ้อง
ปัญญาประดุจดัง.............อาวุธ
กุมสติต่างโล่ห์ป้อง...........อาจแกล้วกลางสนาม

พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 25 มี.ค. 06, 08:09

 ด้วยความเคารพครับ หากจำไม่ผิด ผมเข้าใจว่าโคลงสุภาษิตที่ขึ้นต้นว่า "ความรู้คู่เปรียบด้วย..." ข้างต้นนั้น เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครับ

ขอเชิญโคลงพระราชนิพนธ์สุภาษิตในรัชกาลที่ ๕ อีกบทที่พูดถึงความรู้ กับความดี มาร่วมด้วยครับ

..ฝูงชนกำเนิดคล้าย.......คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ...แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน........กันหมด
ยกแต่ชั่วดีกระด้าง.........อ่อนแก้ฤๅไหวฯ
บันทึกการเข้า
i'm boring
อสุรผัด
*
ตอบ: 15


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 25 มี.ค. 06, 08:19

 ที่จริงแล้วในสังคมไทยเราก็มีคนดีและคนเก่งจำนวนไม่น้อย แต่สิ่งที่หายากมากกว่าคือคนที่มีความกล้า กล้าที่จะทำในสิ่งที่ดีงาม กล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง คนไทยจำนวนมากไม่ค่อยมีความกล้าเลยจำยอมที่ทำตามระบบ ถึงแม้จะรู้สึกขัดแย้งกับคุณธรรมที่อยู่ในใจก็ตาม
ผมรู้สึกข้องใจทุกครั้งที่มีการปลูกฝังให้เด็กกล้าแสดงออกเพียงอย่างเดียว เพราะนั่นไม่ใช่ความกล้าที่แท้จริง ความกล้าหาญที่แท้จริงก็น่าจะเป็นความกล้าที่จะทำความดีมากกว่า
บ้านเรามีน้อยคนมากที่จะกล้าทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้องแต่คนส่วนใหญ่มองว่าบ้า แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนส่วนใหญ่นั้นก็กลับกลายมาชื่นชมการกระทำนั้น
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 25 มี.ค. 06, 08:27

 ข้อความที่จะยกมาต่อไปนี้ไม่ใช่ร้อยกรองหรือคำคม แต่เป็นบทบัญญัติใน "รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย" ฉบับปัจจุบัน ซึ่งเป็นแม่บทของการปกครองประเทศ ปรากฏว่ามีวลีที่ว่า "ความรู้คู่คุณธรรม" อยู่ในรัฐธรรมนูญของเราด้วย

มาตรา ๘๑ รัฐต้องจัดการศึกษาอบรมและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้คู่คุณธรรม จัดให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาแห่งชาติ ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม สร้างเสริมความรู้และปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สนับสนุนการค้นคว้าวิจัยในศิลปวิทยาการต่างๆ เร่งรัดพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาประเทศ พัฒนาวิชาชีพครู และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 25 มี.ค. 06, 08:41

 ขอบคุณที่แก้ให้ค่ะคุณ UP ดิฉันจำผิดเอง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.043 วินาที กับ 19 คำสั่ง