เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 25 มี.ค. 06, 09:43
|
|
ตำหนักนี้มีตำนานอันน่าเศร้า
คนสวนคนนั้น พ้นโทษมาหลายปีแล้วค่ะคุณ UP แต่เขาก็ติดคุกนานมาก นานจนคิดว่าเขาน่าจะแก่ตายเสียในคุก แต่ก็หนังเหนียวอยู่จนได้รับอิสรภาพ แต่ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ไม่เคยได้ข่าวเลยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
UP
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 25 มี.ค. 06, 10:06
|
|
ขอบพระคุณคุณเทาชมพูสำหรับข้อมูลเรื่องคนสวนคนนั้นครับ กำลังสงสัยอยู่เชียวว่าตะแกจะตายอยู่ในคุกแล้วหรือไม่
น่าแปลกที่บ้านเมืองที่ผมระหกระเหินมาอยู่ตอนนี้ แม้ว่าจะไกลปืนเที่ยงอยู่มาก แต่กลับมีหนังสือพระประวัติรวมทั้งรายละเอียดคดีปลงพระชนม์พระนางเธอลักษมีลาวัณ เล่มหนาๆ อยู่ถึง ๒ เล่มซึ่งผมเคยได้อ่านแล้วครั้งหนึ่งที่สถาบันวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอหนังสือนี้อีกในย่านนี้
ทำให้เชื่อได้ว่าคดีฆาตกรรมดังกล่าวคงโด่งดังเป็นที่สนใจอย่างยิ่งของคนจำนวนมากในยุคนั้น ถึงขนาดรวบรวมคดีมาพิมพ์จำหน่ายได้เป็นเล่มๆ แถมยังมีอยู่ในห้องสมุดแทบทุกแห่งตามมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ในเมืองไทย หรือแม้แต่ในต่างประเทศ
หากโอกาสอำนวย ผมจะยืมมาอ่านอีกครั้ง เผื่อจะได้เกร็ดอะไรเพิ่มเติม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
UP
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 25 มี.ค. 06, 10:25
|
|
 ผมนึกขึ้นได้ว่ามีพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถที่เคยนำมาลงในเวบนี้เมื่อนานมาแล้ว ฉายในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในงานแสดงแบบเสื้อการกุศลของสมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิคและเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๐๔ ซึ่ง สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระราชทานพระอนุญาตให้จัดขึ้นในบริเวณวังรื่นฤดี สุขุมวิท ๓๘
ในพระบรมฉายาลักษณ์นั้นเห็นได้ว่า พระนางเธอลักษมีลาวัณ เสด็จมาทรงร่วมงานด้วย
โปรดดูพระบรมฉายาลักษณ์ จากซ้ายไปขวา
พระนางเธอลักษมีลาวัณ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
อาจกล่าวได้ว่าเป็นพระรูปท้ายๆ ในพระชนมชีพของพระนางเธอฯ เพราะอีกเพียง ๔ เดือนต่อมาในวันที่ ๒๙ สิงหาคม ศกนั้น ก็ทรงถูกลอบปลงพระชนม์ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 26 มี.ค. 06, 08:26
|
|
ข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ในรอบปี สะเทือนขวัญประชาชน เป็นการลอบปลงพระชนม์พระบรมวงศานุวงศ์อย่างเหี้ยมโหด ไม่เกรงกลัวอาญาแผ่นดิน ตลอดจนไม่คำนึงถึงพระอิสสริยยศของผู้ถูกกระทำ
คุณแม่เล่าให้ฟังว่า ในบั้นปลาย พระนางเธอฯทรงแยกพระองค์ออกจากเจ้าพี่เจ้าน้อง มาทรงอยู่โดดเดี่ยวในตำหนักส่วนพระองค์ ไม่มีนางข้าหลวงแวดล้อมอย่างเจ้านายสตรีพระองค์อื่น โปรดที่จะทำสวน แต่ก็ทรงระมัดระวังพระองค์เหมือนกัน เพราะทรงเก็บปืนไว้ในกล่องและนำติดพระองค์ไปด้วย
คนสวนคนนั้นเห็นว่าเป็นเจ้านายสตรี ทรงพระชรา และอยู่ตามลำพัง ในตู้ชั้นล่างมีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เขาเข้าใจว่าเป็นของมีราคา ก็เลยย่องเข้ามาทางข้างหลัง ขณะประทับพรวนดินอยู่ ใช้จอบหรือชะแลงอะไรสักอย่างทำร้ายพระเศียรทางด้านหลัง จนสิ้นพระชนม์ แล้วค้นทรัพย์สินเท่าที่หาได้ หนีไป ได้ไปแต่เครื่องราชฯ ไม่ได้เครื่องเพชร
เขาเอาไปจำนำ แต่จำนำไม่ได้ เจ้าของโรงจำนำเห็นผิดสังเกต ความถึงแตกขึ้นมาให้ตำรวจแกะรอยจับตัวมาได้ เขาก็เลยสารภาพทั้งหมด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 26 มี.ค. 06, 08:30
|
|
ขอติงคุณอัญขยมเจ้าของกระทู้หน่อยเถอะค่ะ "พระนางเธอลักษมีลาวัณในKing Vijiravudh " ทำไมเขียนหัวมังกุท้ายมังกรยังงั้นล่ะคะ คุณเองก็เป็นคนสนใจเรื่องราวในอดีตของไทย น่าจะเขียนให้ถูกต้อง
เขียนว่า "พระนางเธอลักษมีลาวัณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว" หรือถ้าอยากเขียนสั้นๆ ก็ ในสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ หรือ ในรัชกาลที่ ๖ ไม่ได้หรือคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
กอประกาญจน์
อสุรผัด

ตอบ: 15
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 26 มี.ค. 06, 14:50
|
|
เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนได้ไปประชุมที่อาคารสิริภิญโญซึ่งอยู่ติดกับพระตำหนักนี้ค่ะ ไปชะโงกดูตรงช่องกระจกข้างลิฟต์จึงเห็นว่าตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือเลยค่ะ เขารื้อถอนตัวอาคารออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงที่ดินเปล่า ก่อนหน้านี้ยังมีอาคารอยู่นะคะ เขาค่อยๆ รื้อไป ตอนเห็นช่วงหลังๆ ไม่มีหลังคาอยู่แล้วค่ะ เดิมดิฉันไม่ทราบว่าเป็นพระตำหนัก เคยได้ยินว่าเจ้าของบ้านเป็นชาวอินเดียและได้ข่าวว่าบ้านถูกขายทอดตลาด เพิ่งทราบไม่นานนี้เองค่ะว่าเคยเป็นพระตำหนักมาก่อน
พระตำหนักนี้มีหลายห้องมากค่ะ แต่ละห้องขนาดใหญ่มากด้วย เห็นตอนเขารื้อหลังคาออกนี่ละคะ (ดิฉันไปธุระที่อาคารข้างๆ บ่อยน่ะค่ะ ไปทีไรก็ต้องไปหามุมมองพระตำหนักนี้ทุกครั้ง)น่าเสียดายจริงๆ ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 26 มี.ค. 06, 22:28
|
|
จะเล่าเรื่องพระนางให้ฟังก่อนคือ เสด็จพระวรกัญญา หรือพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวัลลภาเทวี พระองคืเจ้าวรกัญญาปทาน ซึ่งเป็นพระธิดาใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กับหม่อมหลวงตาด ประสูติ ณ วังวรวรรณ ซึ่งเป็นพระพี่นางของเสด็จพระองค์ลักษมี ซึ่งเป็นพระคู่มันของรัชกาลที่ 6 แต่แล้วก็เกิดอะใรมิรู้ เกิดถอนมั้นเอาเสีย แล้วพระองค์รัชกาลที่6 ไปเกิดชอบหม่อมเจ้าวรรณพิมล วรวรรณ แล้วก็ทรงรักใคร่กันจนสถาปนาเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ และ พระนางเธอลักษมีลาวัน ตามลำดับ
ภายหลังที่ทรงได้รับการสถาปนาแล้ว พระนางเธอลักษมีลาวัณ เสด็จมาประทับที่วังซอยพระนาง และทรงเสด็จไปประทับที่ตำบลคลองแสนแสบ เพื่อหลบภัยสงคราม จากนั้นก็เสด็จกลับมาประทับที่ตำหนักลักษมีวิลาส เหตุที่ทรงย้ายมาอยู่(แต่ไม่ใช่ที่วังนี้นะ)เป็นสันโดดเพราะทรงอยากให้ตามแบบฝรั่งคือมีลูกเพียงคนเดียว ซึ่งผมก็ยังงอยู่เพราะพระองค์ไม่มีทายาทสืบสายเลือดพระนางเลย
ตำหนักลักษมีวิลาส แห่งนี้ ทางทายาทตระกูลวรวรรณเขาปิดร้างไว้ เพราะบอกว่าพระภูมิเจ้าที่ร้ายแรงนัก ใครอยู่ไปจะเกิดความหายนะ (เคยมีคนเห็นสิ่งที่ไม่น่าเห็นที่วังนี้มาแล้วด้วย(โปรดใช้วิจารณญาณในการฟังนะ))รวมถึงพระนางลักษมีลาวัณ ซึ่งพระนางถูกโจรผู้ร้ายรอบปลงพระชนม์ตามด้านบนที่บอกมาทุกประการ ที่นั้นทางทายาทเข้าขายให้กับพวกแขกไปสร้างตึก อะใรเนี่ยแหละไม่เเน่ใจ
ผมผ่านอยู่บ่อย ๆ โดยมากจะขึ้นสะพาน ผมก็พยายามมองหาพระตำหนักลักษมีวิลาส อย่างใจจดใจจ่อ เมื่อนั้นพระตำหนักยังไม่ถูกรื้อมากมายถึงเพียงนี้ ป็นพระตำหนักคล้ายๆกับวังจันเกษม(หรือไม่ไม่แน่ใจ) มีรั้วสังกะสีสีเขียว ทางเข้าเป็นซุ้มประตูแบบเรียบง่ายแต่ดูหรูหรา ครำครึไปด้วยความเก่า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการร่วงแล้วแล้วซึ่งพระตำหนักลักษมีวิลาส
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 26 มี.ค. 06, 22:34
|
|
ส่วนตราประจำพระองค์ พระนางเธอลักษมีลาวัณ เป็นรูปเทพธิดาถือดอกบัว และยืนรำละครอยู่บนดอกบัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 26 มี.ค. 06, 22:37
|
|
พระนางเธอทรงเป็นผู้ที่ริเริ่มรื้อฟื้นคณะละครปรีดาลัย ของพระบิดากลับคืนมาอีกครั้ง เพื่อระลึกถึงและสืบสานเจตนารมณ์ของพระบิดา
ในขณะทีทรงประทับอยู่ณ พระตำหนักลักษมีวิลาส ทรงใช้เวลาที่ทรงมีอยู่ในการทรงพระนิพนธ์บทกวี และนวนิยายสมัยใหม่เรื่องต่างๆ เช่น ชีวิตหวาม เรือนใจที่ไร้ค่า ยั่วรัก โชคเชื่อมชีวิต ภัยรักของจันจลา และ เสื่อมเสียงสาป เป็นต้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ 26 มี.ค. 06, 22:41
|
|
มองเห็นความกระตือรือร้นของคุณ vun ที่อยากแบ่งปันความรู้ แต่อยากจะให้ไปตรวจสอบกับพจนานุกรมก่อนส่งข้อความ ตัวสะกดแม้แต่คำง่ายๆก็ผิดอย่างไม่น่าผิด
การเรียบเรียงประโยค อ่านแล้วมึน
***เหตุที่ทรงย้ายมาอยู่(แต่ไม่ใช่ที่วังนี้นะ)เป็นสันโดดเพราะทรงอยากให้ตามแบบฝรั่งคือมีลูกเพียงคนเดียว ซึ่งผมก็ยังงอยู่เพราะพระองค์ไม่มีทายาทสืบสายเลือดพระนางเลย**
หมายความว่าอะไรคะ การเป็นสันโดด(สะกดผิด) เกี่ยวอะไรกับมีลูกเพียงคนเดียว
การมีลูกเพียงคนเดียว น่ะหรือคือการตามแบบฝรั่ง งั้นครอบครัวฝรั่งที่มีลูกหลายคน ก็ไม่ตามแบบฝรั่งน่ะสิคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Karine!!
ชมพูพาน
  
ตอบ: 130
กำลังค้นหาทางสว่างของชีวิต
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 29 มี.ค. 06, 15:45
|
|
ในฐานะเด็กที่เรียนแถวนั้น...รู้สึกใจหายค่ะ แต่ก่อนจะเห็นอยู่ว่าเป็นบ้านที่มีลักษณะรูปทรงสวย (ตอนนั้นไม่ทราบจริงๆว่าเป็นพระตำหนัก ได้มาอ่านกระทู้นี้แล้ว ก็ได้รับความรู้อีกมาก)
ตอนนี้พอผ่านไปแถวนั้นแล้วรูปสึกใจหายจริงๆ ไม่รุ้ว่าทำไมไม่รู้จักรักษา บูรณะกันใหม่ให้สวยงาม อนิจจังวัฏสังขารา........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
การศึกษาก้าวไกล ประเทศไทยรุ่งเรือง (แต่ตอนนี้ตูรุ่งริ่งชอบกล)
|
|
|
UP
|
ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อ 29 มี.ค. 06, 16:07
|
|
เข้าใจว่าคุณ Karine คงตั้งใจจะสะกดพระพุทธพจน์ที่ลงท้ายไว้ในความเห็นที่ ๒๕ ว่า
"อนิจจา วต สังขารา"
สังขารา คือ การปรุงแต่ง อนิจจา คือ ไม่เที่ยง วต คือ หนอฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Dr Yu
อสุรผัด

ตอบ: 10
นักวิชาการอิสระ
|
ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ 29 มี.ค. 06, 17:16
|
|
หากท่านใดมีรูปพระตำหนัก อยากจะรบกวนช่วยโพสต์ให้ดูด้วยครับ ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
บัวอื่น
อสุรผัด

ตอบ: 39
|
ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อ 29 มี.ค. 06, 17:28
|
|
ชอบดูบ้านเก่าๆ วังเก่าๆ บางทีก็นึกเสียดาย หลายๆอย่างที่หายไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีปิงเวียง
|
ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อ 30 มี.ค. 06, 13:25
|
|
เขียนกลอนพออ่านได้ ดับเข็ญ อันปากกาย่อมเป็น เพื่อนแท้ แทนฉายส่ายสอดเห็น กระจ่าง สุขทุกข์ปลุกปลอบแก้ กล่าวค้านเตือนกัน พระนางเธอลักษมีลาวัณ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่เห็นใครแน่นอน
|
|
|
|