ยินดีต้อนรับ
ท่านผู้มาเยือน
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
หน้าแรก
ตู้หนังสือ
ค้นหา
ข่าว
: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
เรือนไทย
>
General Category
>
ศิลปะวัฒนธรรม
>
การซื้อคือเรื่องธรรมดา?
หน้า: [
1
]
พิมพ์
อ่าน: 3630
การซื้อคือเรื่องธรรมดา?
Babyboo
อสุรผัด
ตอบ: 2
เมื่อ 04 มี.ค. 06, 12:27
เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ดูจะสะดวกสบายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการกิน การนอน การทำงาน หรือการพักผ่อนหย่อนใจ ทางด้านเทคโนโลยีก็เจริญงอกงามโตวันโตคืน แหม!! อย่างนี้แล้วก็อดสงสารคนโบราณสมัยก่อนไม่ได้ ที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับสิ่งที่อำนวยความสะดวกอันแสนจะหวนหวานเพียงนี้...
แต่ใครจะไปรู้ ว่าสิ่งที่พวกเราได้พบเจอทุกวัน มันจะสร้างความเคยชินให้กับเรา จนลืมไปแล้วว่า สิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด?
ถ้าพูดถึงการอุปโภคบริโภค คงหนี้ไม่พ้น ศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาเก็ต หรือมินิมาร์ทชั้นนำทั่วไป เหล่านี้คือสถานที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคนานาชนิด ที่คนในสังคมต้องการ
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า สิ่งที่คุณได้หรับจากสถานที่เหล่านี้ มีบางอย่างแฝงอยู่ ในขณะที่คุณไม่รู้ตัว หนึ่งในนั้นคือ พฤติกรรมการซื้อ ที่เปลี่ยนไป ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เปิดกิจการของตนเองซึ่งเกี่ยวกับการค้า แต่กิจการของคุณไม่ได้ใหญ่โตขนาดที่ว่าคนทั้งประเทศรู้จักแล้ว คุณต้องเป็นคนที่อดทนอย่างยิ่งที่ต้องพบเจอกับลูกค้ามากหน้าหลายตา และหลายนิสัย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องยอมรับ และปรับตัวให้เข้ากับสิ่งเหล่านี้ให้ได้ แม้จะต้องฝืนใจ...ก็ตาม
ในทางสังคมแล้ว การซื้อถือว่าเป็นมารยาทอย่างหนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้ดี แต่ก็มีอีกบางส่วน (ซึ่งในปัจจุบันจะทวีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว) ขาดความรู้ในด้านนี้ ถึงแม้ว่าคุณจะจบจากเมืองนอก เกียรตินิยมกี่ใบ หรือขั้นดอกเตอร์ก็ตาม ถ้าคุณขาดมารยาทที่พึงประสงค์ในการซื้อแล้ว สิ่งต่างๆที่คุณสั่งสมมาจะเลือนหายไปในชั่วครึ่งวินาที ในสายตาของคนที่ได้ชื่อว่า พ่อค้า แม่ค้า
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งซึ่งยังไม่แน่ใจว่า ตนมีมารยาทในการซื้อ...พอหรือยัง?? สิ่งต่อไปนี้น่าจะมีประโยชน์ต่อคุณ ไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะรับมันหรือไม่...เท่านั้นเอง!
1.ไม่ควรเร่งรัดในการซื้อ
สิ่งนี้สำคัญมาก สำหรับการซื้อ แน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องการที่จะได้ซื้อและได้ของอย่างรวดเร็วทันใจ หรืออาจมีบางสิ่งที่ต้องมีเหตุให้เร่งรีบ คุณควรดูว่า เหตุผลที่คุณรีบนั้นเหมาะสมกับการที่จะเร่งให้คนขายขายของให้คุณหรือไม่ ถ้าคุณต้องการรีบเพื่อที่จะเอาชนะหรือต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่า คุณเจ๋งกว่านั้น คุณคิดผิดมาก(อย่างแรง)เพราะนอกจากมันจะทำให้คุณติดลบในสายตาของคนขายแล้ว ลูกค้าคนอื่นๆ ก็จะมองไม่ต่างกันมากนัก หรืออาจจะมากว่าด้วย
2.มาทีหลังซื้อทีหลัง
สำหรับข้อนี้ คนที่มีความรู้เขาจะรู้โดยสัญชาติญาณโดยไม่ต้องมีใครมาสอนสั่งหรือมีอยู่ในบทเรียน แม้แต่เด็กอนุบาลยังถูกสอนให้รู้จักการเข้าแถวเลย แล้วคุณล่ะ? เชื่อว่าหลายท่านคงไม่คิดที่จะเบียดเบียนผู้อื่นด้วยความตั้งใจหรอก (รึปล่าว?) ถ้าเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ หรือจะรอให้มีสัญลักษณ์ที่ไม่พึงประสงค์ปรากฏบนใบหน้า จากผู้ที่ถูกคนที่คุณแซง ฝากเอาไว้เสียก่อนหรือ
3.ควรวางแผนล่วงหน้าก่อนที่จะซื้อ
ถ้าคุณคิดที่จะมาที่ร้านค้าแล้ว คงไม่มีใครอยากไปพบแพทย์หรอกนะ (เกี่ยวมั้ยเนี่ย) เพราะถ้าคุณมาแล้วหน้าที่ของคุณคือ ต้องซื้อหรือเข้าชมสินค้า เอาไม่เอาก็อีกเรื่อง คุณต้องมีสินค้าที่ต้องการที่จะซื้ออยู่ในสมองเรียบร้อยแล้ว (ไม่งั้นคงไม่ตัดสินใจมาใช่ม้า) และคุณควรที่จะคำนวณราคาสินค้าหรือเงินที่คุณต้องจ่าย ไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว เพื่อที่จะง่ายในการตรวจเช็คราคาว่าถูกโกงหรือไม่ ต่อมา เมื่อได้ของครบแล้วคุณมีสิทธิ์ที่จะซื้อสิ่งที่เพิ่งรู้สึกว่า ต้องการ ก็ได้ แต่...ไม่ควรรู้สึกต้องการเกิน 3 ครั้งเพราะนั่นอาจทำความไม่พอใจให้กับคนขายได้ แต่เขาไม่สามารถพูดท้วงให้คุณหยุดซื้อได้หรอก เรื่องไรล่ะ ที่บอกไปแล้วจะได้เงินอะ เขาก็จะเงียบ จนกว่าคุณจะซื้อครบตามที่คุณต้องการ แต่ถ้าคุณมาซื้อในครั้งต่อๆไป คุณเชื่อมั้ยว่า ความรู้สึกของคนขาย มันไม่เป็นอย่างที่คุณคิด...อีกแล้ว
4.อย่าขัดจังหวะการกระทำที่ต่อเนื่องของคนขาย
อ่านแล้วคุณงงมั้ย? ดิฉันก็งงเหมือนกัน หมายความว่า เวลาที่คุณเห็นคนขายไม่ได้ขายอยู่หน้าร้าน ซึ่งอาจจะเห็นว่าเขาทำอะไรอยู่ เช่น กำลังรับประทานอาหาร คุณมาควรเร่งเขา เพราะมันทำให้อรรถรสในการกินต้องสะดุดลง ถ้าคุณรีบ(จริงๆ) ควรเร่งทางอ้อม คือทำให้เขารู้ว่ามีลูกค้าอยู่ในร้านนะอาจจะใช้การเดินหรือดูสินค้าก็ได้ โดยที่ไม่ต้องพูด (เน้นว่า ไม่ ต้อง พูด หรือเรียก) เด็ดขาด เดี๋ยวคนขายเขาจะตัดสินใจเอง ว่าควรจะไปขายตอนนี้ หรือจะเร่งความเร็วในการกินให้มากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็จะหยุดแล้วไปขายของให้คุณ แต่คิดดูซิว่า ระหว่างคุณไปเร่งเค้ากับการที่เค้ามาขายให้คุณเองด้วยความเต็มใจ อย่างไหนน่าจะดูดีกว่ากัน
5.ไม่ควรเข้าไปเลือกของเอง (ถ้าไม่ใช่ร้านที่บริการตัวเอง)
คุณควรจะให้เกียรติคนขาย หรือต้องขออนุญาตเขาก่อน พอเป็นพิธี ไม่ควรถือวิสาสะเข้าไปโดยพลการ เพราะเขาอาจยัดเยียดข้อหาลักทรัพย์ในคุณได้โดยละม่อม
6.อย่าจงใจทำให้รู้ว่า ไปซื้อของจากร้านอื่นมา
เพราะคุณอาจจะกระเด็นออกไปจากร้านโดยง่าย (เวอร์ไปปล่าว) ยกเว้นจะเป็นของที่ไม่มีในร้านนี้
สำหรับตอนนี้ก็ต้องขอหยุดไว้เพียงเท่านี้ (เพราะคิดไม่ออก) ก็หวังว่า จุดเล็กๆพวกนี้ที่บางคนมองข้าม อาจจะมีประโยชน์ ที่สามารถทำให้คุณดูสูงขึ้นมาก (ไม่ใช่ความสูงนะ) กว่าเดิม
ป.ล. ต้องขออภัยด้วยถ้าเนื้อหาเหล่านี้สร้างความไม่พอใจ ให้กับคุณ และขอโทษที่เกริ่นนำเยอะไปหน่อย...อิอิ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 1
เมื่อ 04 มี.ค. 06, 13:06
พูดจริงหรือพูดเล่นคะ อ่านแล้วสยอง หรือว่าเป็นการเกริ่นเพื่อนำไปสู่โฆษณาอะไรสักอย่าง
แต่ไหนแต่ไรมาเคยได้ยินแต่ว่าการค้าขายเป็นงานบริการ ความพอใจของลูกค้าคือเป้าหมายสูงสุดของคนค้าขาย เพราะกิจการเขาจะไปรอดหรือไม่รอดก็อยู่ที่ลูกค้า
จึงมีการอบรมพนักงาน มีการจัดกะ จัดระบบหลายอย่าง เป็นตัวเสริมให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
แต่นี่มันกลายเป็นว่ามีระเบียบการอะไรเยอะแยะเลยให้ลูกค้าต้องสำรวจตัวเองว่าทำอะไรให้พนักงานขายไม่พอใจหรือเปล่า ไม่งั้นจะไม่ได้บริการที่ดีนะ คุณจะเป็นผู้ผิด เป็นผู้น่ารังเกียจในสายตาพ่อค้าแม่ค้า !!!
ร้านของคุณถ้ามีจริง ดิฉันก็คงไม่เข้าอีกค่ะ ไม่ใช่ว่าดิฉันชอบผิดกฎทั้งหมดที่ยกขึ้นมา ดิฉันเองก็เข้าคิว จดรายการของไว้ในกระเป๋าก่อนไปซื้อเพื่อจะได้ไม่ลืม ไม่เคยไปเร่งพนักงานขาย ฯลฯ
แต่ดิฉันรู้สึกว่าร้านนี้ถ้ามีจริงก็มีนโยบายหยิ่งและเอาแต่ใจตัวพิลึกละค่ะ ดูจากน้ำเสียงที่บรรยายมา โดยเฉพาะข้อ 6 น่ากลัวจริงๆ
ในเมื่อมีตัวเลือกอีกมาก จะเดินเข้าร้านไหนก็ได้ ดิฉันก็ไปร้านอื่นดีกว่า
บันทึกการเข้า
Nuchana
สุครีพ
ตอบ: 979
ความคิดเห็นที่ 2
เมื่อ 04 มี.ค. 06, 13:52
น่านนะซีคะ อ่านแล้วขำจังเลย เมื่อสักครูไปตลาดไทมา เห็นแม่ค้าทุกเจ้าออกปากเรียกลูกค้า
บางทีคนซื้อต้องรีบออกตัวว่าขอถามราคาหน่อยนะ เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่ คนขายก็เจรจาด้วยดี
ในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้ขายสินค้าและอยู่ในอุตสาหกรรมบริการด้วย อยากจะตอบอย่างนี้ค่ะ
1) ลูกค้าหลายคนเร่งรีบ เช่น รถเมล์เที่ยวสุดท้ายจะออก 5 โมงเย็น คนขายก็พยายามจัดให้ลูกค้าทันเที่ยวรถ
เราเคยแอบอุบอิบนินทาลูกค้าว่าถ้าร้านไม่ปิด เขาคงยังไม่มา แต่นั่นแค่หลังฉาก ต่อหน้าก็ยังต้องยิ้มแย้ม
2)มาทีหลังซื้อทีหลัง...สมัยนี้คนทั่วไปทราบวัฒนธรรมนี้ค่ะ มีหลายครั้งคนขายขอรัดคิวให้คนมาทีหลังก่อน เพราะ
"ของคุณมันหายาก เดี๋ยวจะเทียบให้" คนมาก่อนแต่ได้ทีหลังก็เข้าใจ
3)ควรวางแผนล่วงหน้าก่อนที่จะซื้อ วางแผนได้ก็ดี แต่ลูกค้าบางคนใช้มอง แล้วชี้ว่าเอานี่เอานี่ อยากมองนานแค่ไหน
หรือเพิ่มเติมอะไร เชิญได้ตามอัธยาศัย
4)อย่าขัดจังหวะการกระทำที่ต่อเนื่องของคนขาย.... ไม่จริงหรอกค่ะ เราคนขายรีบวางช้อนทันทีที่ลูกค้าสั่งของ
5)ไม่ควรเข้าไปเลือกของเอง....ไม่จริงเลย หลายครั้งเราส่งเก้าอี้ตัวหนึ่งพร้อมตลับเมตรให้ลูกค้า
เข้าไปนั่งเทียบเอาเอง บางครั้งคนขายวานลูกค้าให้หยิบเอาเองด้วยซ้ำ
6)อย่าจงใจทำให้รู้ว่า ไปซื้อของจากร้านอื่นมา...เชื่อว่าไม่จริง เราเคยให้เด็กไปซื้อของร้านที่รู้จักกัน
ออกใบสั่งซื้อไป ให้ชื่อร้านไป 2 ชื่อ ถ้าร้านแรกไม่มีให้ไปซื้อร้านที่สอง ปรากฎว่าเด็กไปซื้อร้านที่สองก่อน
พอไม่มีจึงไปซื้อร้านแรก ซึ่งร้านนี้ก็คุ้นเคยกับเราเป็นอย่างดี เจ้าของร้านแรกโทรมาหาเรา แล้วถามว่า
"พี่คิดแพงไปหรือเปล่า ทำไมต้องไปเอาร้านอื่น รายการไหนแพงบอกได้เสมอ"
ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นวัฒนธรรมของคนซื้อ-คนขายที่คุ้นเคยกัน ไม่มีพิธีรีตองมาก จะขอเล่าตัวอย่างให้ฟังค่ะ
เหมืองหินที่ซื้อขายกันมายาวนาน เป็นลูกค้าเครดิตที่ออกใบสั่งมาซื้อของเรา เวลาจะซื้อ จะฉีกใบสั่งซื้อเปล่าๆมา
แล้วให้ลูกน้องมาเอาของ พอเราเปิดบิล ก็เอาใบสั่งซื้อเปล่าๆแนบกลับไป ก็เก็บเงินได้ทุกครั้ง
ลูกค้าสั่งปุ๋ยระเบิด 20 ลูก คนขายหันไปมองหน้า "ไอ้น้อง..ถ้าเอาเร็ว ยกเองเลยนะ คนยกไปส่งของยังไม่มาจ้ะ
จะยกเอง หรือจะรอ"
คนขายไหว้วานลูกค้าได้เพราะสนิทกันค่ะ สิ้นปีก็แจกเสื้อยืดที่แถมมาให้เป็นน้ำใจ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 3
เมื่อ 04 มี.ค. 06, 14:04
แนะนำให้อ่านหนังสือ "จดหมายจากเมืองไทย" ของโบตั๋น ค่ะ
แม้ว่าเป็นหนังสือเขียนขึ้นเมื่อหลายสิบปีแล้ว แต่เรื่องการค้าขายที่บรรยายไว้โดยพระเอกของเรื่อง
ชื่อตันส่วงอู๋ ผู้ถีบตัวขึ้นมาจากเด็กทำงานในร้านจนเป็นเถ้าแก่ได้สำเร็จ เป็นเรื่องที่ทันสมัยเสมอ
บันทึกการเข้า
Babyboo
อสุรผัด
ตอบ: 2
ความคิดเห็นที่ 4
เมื่อ 05 มี.ค. 06, 11:39
อูยๆๆๆๆๆๆขอโทษด้วยจริงๆนะค้า คือว่ามีเพื่อนอะนะ แล้วมันก็มันบ่นให้ฟังเรื่องนี้อะ แบบว่า รำคาญอะนะ ก็เลยบอกให้มันเขียนมาให้ แล้วเอามาลงในนี้ ขอโษด้วยจริงนะคะ
บันทึกการเข้า
Karine!!
ชมพูพาน
ตอบ: 130
กำลังค้นหาทางสว่างของชีวิต
ความคิดเห็นที่ 5
เมื่อ 05 มี.ค. 06, 21:10
เป็นไปได้... เดี๋ยวนี้
จะว่าไปก็น่าเห็นใจคนขายเหมือนกันนะนี่
555+
แต่อ่านแล้วก็น่ากลัว ถ้าเราเป็นลูกค้า เอาเงินเอาทองไปให้แล้วเป็นอย่างนี้ ในฐานะผู้บริโภค เราก็เลือกเข้าร้านที่เราซื้อขาย -ถามอะไรได้ง่ายดีกว่า
ตอนแรก นึกว่าเป็นการพูดเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้า กับร้านโชว์ห่วย ที่มีผลต่อคนไทยในระยะยาวอีกนะเนี้ย
เอิ๊กๆๆ
บันทึกการเข้า
การศึกษาก้าวไกล ประเทศไทยรุ่งเรือง (แต่ตอนนี้ตูรุ่งริ่งชอบกล)
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 6
เมื่อ 06 มี.ค. 06, 07:43
ถ้าเพื่อนคุณเจ้าของกระทู้เป็นเจ้าของร้านค้า หรือเป็นพนักงานขาย
คิดแบบนี้เปลี่ยนอาชีพเถอะค่ะ
ไปเป็นอาชีพอะไรที่คนอื่นต้องเกรงใจมากๆ
หรืออาชีพที่ไม่ต้องบริการใคร
จะเหมาะกว่า
บันทึกการเข้า
รำเพย
อสุรผัด
ตอบ: 27
ความคิดเห็นที่ 7
เมื่อ 23 มี.ค. 06, 20:53
เพื่อนสนิทของรำเพยเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องนอน เธอไม่เห็นคิดแบบนี้เลยค่ะ มีลูกค้าขนาดป่วนแค่ไหน กวนรื้อของยังไงก็เหอะ เธอก็ยิ้มหน้าหวานตามใจลูกค้า พอเค้าไปพ้นร้านแล้วรำเพยถามว่าไม่รำคาญเหรอ ชั้นรำคาญแทนเธอ เพื่อนยังบอกว่าไม่หรอก เพราะว่าเรามีหน้าที่บริการนี่นะ แล้วเค้าก็ซื้อของไปเห็นไหมล่ะ เป็นแม่ค้าก็แบบนี้แหละ ปกติน่ะ
เรายังนับถือความอดทนของเพื่อนเลย
-ลูกค้ารีบๆจะเอาของแล้วจะไป เค้าก็รีบให้เด็กจัดให้ บางทีรำเพยไปนั่งเล่นที่ร้านเค้าก็ยังช่วยเค้าห่อของเลยค่ะ สนุกดี
-เรื่องมาทีหลังซื้อทีหลัง ร้านของเพื่อนรำเพยไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ เพราะว่าขายเครื่องนอน
-วางแผนล่วงหน้าก่อนซื้อ อันนี้ตรงกันข้ามกับความเห็นของ จขกท เพราะว่าไม่วางแผนไว้ก่อนนั้น บางครั้งก็ซื้อมากขึ้นเนื่องจากถูกใจคนขาย
-เรื่องขัดจังหวะคนขายระหว่างกินข้าว หรือทำอะไรอยู่นี่น่ะ เห็นมากับตาแล้วว่าคนขายเต็มใจให้ขัด กินข้าวอยู่ดีๆ มีคนมาก็รีบวางจานออกไปรับลูกค้าเลย ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ถ้าเพื่อนของ จขกท มีความเห็นแบบนั้นจริงๆ แนะนำให้เปลี่ยนอาชีพค่ะ เลือกทำอะไรให้ตรงกับที่ชอบดีกว่าจะได้ไม่ลำบากใจ ถ้าทำงานบริการไม่ได้ก็อย่าทำเลยดีกว่านะคะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกกระทู้:
-----------------------------
General Category
-----------------------------
=> ศิลปะวัฒนธรรม
=> ภาษาวรรณคดี
=> ระเบียงกวี
=> ชั้นเรียนวรรณกรรม
=> หน้าต่างโลก
=> ประวัติศาสตร์โลก
=> ประวัติศาสตร์ไทย
=> ทันกระแส
=> วิเสทนิยม
=> ห้องหนังสือ
=> ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย
Powered by SMF 1.1.21
|
SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder
XHTML
|
CSS
|
Aero79
design by
Bloc
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.035 วินาที กับ 19 คำสั่ง
Loading...