เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 3715 การซื้อคือเรื่องธรรมดา?
Babyboo
อสุรผัด
*
ตอบ: 2


 เมื่อ 04 มี.ค. 06, 12:27

 เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ดูจะสะดวกสบายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการกิน การนอน การทำงาน หรือการพักผ่อนหย่อนใจ ทางด้านเทคโนโลยีก็เจริญงอกงามโตวันโตคืน แหม!! อย่างนี้แล้วก็อดสงสารคนโบราณสมัยก่อนไม่ได้ ที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับสิ่งที่อำนวยความสะดวกอันแสนจะหวนหวานเพียงนี้...
   แต่ใครจะไปรู้ ว่าสิ่งที่พวกเราได้พบเจอทุกวัน มันจะสร้างความเคยชินให้กับเรา จนลืมไปแล้วว่า สิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด?
   ถ้าพูดถึงการอุปโภคบริโภค คงหนี้ไม่พ้น ศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาเก็ต หรือมินิมาร์ทชั้นนำทั่วไป เหล่านี้คือสถานที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคนานาชนิด ที่คนในสังคมต้องการ
   แต่คุณรู้หรือไม่ว่า สิ่งที่คุณได้หรับจากสถานที่เหล่านี้ มีบางอย่างแฝงอยู่ ในขณะที่คุณไม่รู้ตัว หนึ่งในนั้นคือ พฤติกรรมการซื้อ ที่เปลี่ยนไป ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เปิดกิจการของตนเองซึ่งเกี่ยวกับการค้า แต่กิจการของคุณไม่ได้ใหญ่โตขนาดที่ว่าคนทั้งประเทศรู้จักแล้ว คุณต้องเป็นคนที่อดทนอย่างยิ่งที่ต้องพบเจอกับลูกค้ามากหน้าหลายตา และหลายนิสัย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องยอมรับ และปรับตัวให้เข้ากับสิ่งเหล่านี้ให้ได้ แม้จะต้องฝืนใจ...ก็ตาม
   ในทางสังคมแล้ว การซื้อถือว่าเป็นมารยาทอย่างหนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้ดี แต่ก็มีอีกบางส่วน (ซึ่งในปัจจุบันจะทวีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว) ขาดความรู้ในด้านนี้ ถึงแม้ว่าคุณจะจบจากเมืองนอก เกียรตินิยมกี่ใบ หรือขั้นดอกเตอร์ก็ตาม ถ้าคุณขาดมารยาทที่พึงประสงค์ในการซื้อแล้ว สิ่งต่างๆที่คุณสั่งสมมาจะเลือนหายไปในชั่วครึ่งวินาที ในสายตาของคนที่ได้ชื่อว่า พ่อค้า แม่ค้า
   ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งซึ่งยังไม่แน่ใจว่า ตนมีมารยาทในการซื้อ...พอหรือยัง?? สิ่งต่อไปนี้น่าจะมีประโยชน์ต่อคุณ ไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะรับมันหรือไม่...เท่านั้นเอง!
1.ไม่ควรเร่งรัดในการซื้อ
   สิ่งนี้สำคัญมาก สำหรับการซื้อ แน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องการที่จะได้ซื้อและได้ของอย่างรวดเร็วทันใจ หรืออาจมีบางสิ่งที่ต้องมีเหตุให้เร่งรีบ คุณควรดูว่า เหตุผลที่คุณรีบนั้นเหมาะสมกับการที่จะเร่งให้คนขายขายของให้คุณหรือไม่ ถ้าคุณต้องการรีบเพื่อที่จะเอาชนะหรือต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่า คุณเจ๋งกว่านั้น คุณคิดผิดมาก(อย่างแรง)เพราะนอกจากมันจะทำให้คุณติดลบในสายตาของคนขายแล้ว ลูกค้าคนอื่นๆ ก็จะมองไม่ต่างกันมากนัก หรืออาจจะมากว่าด้วย
2.มาทีหลังซื้อทีหลัง
   สำหรับข้อนี้ คนที่มีความรู้เขาจะรู้โดยสัญชาติญาณโดยไม่ต้องมีใครมาสอนสั่งหรือมีอยู่ในบทเรียน แม้แต่เด็กอนุบาลยังถูกสอนให้รู้จักการเข้าแถวเลย แล้วคุณล่ะ? เชื่อว่าหลายท่านคงไม่คิดที่จะเบียดเบียนผู้อื่นด้วยความตั้งใจหรอก (รึปล่าว?) ถ้าเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ หรือจะรอให้มีสัญลักษณ์ที่ไม่พึงประสงค์ปรากฏบนใบหน้า จากผู้ที่ถูกคนที่คุณแซง ฝากเอาไว้เสียก่อนหรือ
3.ควรวางแผนล่วงหน้าก่อนที่จะซื้อ
   ถ้าคุณคิดที่จะมาที่ร้านค้าแล้ว คงไม่มีใครอยากไปพบแพทย์หรอกนะ (เกี่ยวมั้ยเนี่ย) เพราะถ้าคุณมาแล้วหน้าที่ของคุณคือ ต้องซื้อหรือเข้าชมสินค้า เอาไม่เอาก็อีกเรื่อง คุณต้องมีสินค้าที่ต้องการที่จะซื้ออยู่ในสมองเรียบร้อยแล้ว (ไม่งั้นคงไม่ตัดสินใจมาใช่ม้า) และคุณควรที่จะคำนวณราคาสินค้าหรือเงินที่คุณต้องจ่าย ไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว เพื่อที่จะง่ายในการตรวจเช็คราคาว่าถูกโกงหรือไม่ ต่อมา เมื่อได้ของครบแล้วคุณมีสิทธิ์ที่จะซื้อสิ่งที่เพิ่งรู้สึกว่า ต้องการ ก็ได้ แต่...ไม่ควรรู้สึกต้องการเกิน 3 ครั้งเพราะนั่นอาจทำความไม่พอใจให้กับคนขายได้ แต่เขาไม่สามารถพูดท้วงให้คุณหยุดซื้อได้หรอก เรื่องไรล่ะ ที่บอกไปแล้วจะได้เงินอะ เขาก็จะเงียบ จนกว่าคุณจะซื้อครบตามที่คุณต้องการ แต่ถ้าคุณมาซื้อในครั้งต่อๆไป คุณเชื่อมั้ยว่า ความรู้สึกของคนขาย มันไม่เป็นอย่างที่คุณคิด...อีกแล้ว
4.อย่าขัดจังหวะการกระทำที่ต่อเนื่องของคนขาย
   อ่านแล้วคุณงงมั้ย? ดิฉันก็งงเหมือนกัน หมายความว่า เวลาที่คุณเห็นคนขายไม่ได้ขายอยู่หน้าร้าน ซึ่งอาจจะเห็นว่าเขาทำอะไรอยู่ เช่น กำลังรับประทานอาหาร คุณมาควรเร่งเขา เพราะมันทำให้อรรถรสในการกินต้องสะดุดลง ถ้าคุณรีบ(จริงๆ) ควรเร่งทางอ้อม คือทำให้เขารู้ว่ามีลูกค้าอยู่ในร้านนะอาจจะใช้การเดินหรือดูสินค้าก็ได้ โดยที่ไม่ต้องพูด (เน้นว่า ไม่ ต้อง พูด หรือเรียก) เด็ดขาด เดี๋ยวคนขายเขาจะตัดสินใจเอง ว่าควรจะไปขายตอนนี้ หรือจะเร่งความเร็วในการกินให้มากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็จะหยุดแล้วไปขายของให้คุณ แต่คิดดูซิว่า ระหว่างคุณไปเร่งเค้ากับการที่เค้ามาขายให้คุณเองด้วยความเต็มใจ อย่างไหนน่าจะดูดีกว่ากัน
5.ไม่ควรเข้าไปเลือกของเอง (ถ้าไม่ใช่ร้านที่บริการตัวเอง)
   คุณควรจะให้เกียรติคนขาย หรือต้องขออนุญาตเขาก่อน พอเป็นพิธี ไม่ควรถือวิสาสะเข้าไปโดยพลการ เพราะเขาอาจยัดเยียดข้อหาลักทรัพย์ในคุณได้โดยละม่อม
6.อย่าจงใจทำให้รู้ว่า ไปซื้อของจากร้านอื่นมา
   เพราะคุณอาจจะกระเด็นออกไปจากร้านโดยง่าย (เวอร์ไปปล่าว) ยกเว้นจะเป็นของที่ไม่มีในร้านนี้
   สำหรับตอนนี้ก็ต้องขอหยุดไว้เพียงเท่านี้ (เพราะคิดไม่ออก) ก็หวังว่า จุดเล็กๆพวกนี้ที่บางคนมองข้าม อาจจะมีประโยชน์ ที่สามารถทำให้คุณดูสูงขึ้นมาก (ไม่ใช่ความสูงนะ) กว่าเดิม

ป.ล. ต้องขออภัยด้วยถ้าเนื้อหาเหล่านี้สร้างความไม่พอใจ ให้กับคุณ และขอโทษที่เกริ่นนำเยอะไปหน่อย...อิอิ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 04 มี.ค. 06, 13:06

พูดจริงหรือพูดเล่นคะ  อ่านแล้วสยอง   หรือว่าเป็นการเกริ่นเพื่อนำไปสู่โฆษณาอะไรสักอย่าง
แต่ไหนแต่ไรมาเคยได้ยินแต่ว่าการค้าขายเป็นงานบริการ  ความพอใจของลูกค้าคือเป้าหมายสูงสุดของคนค้าขาย  เพราะกิจการเขาจะไปรอดหรือไม่รอดก็อยู่ที่ลูกค้า
จึงมีการอบรมพนักงาน  มีการจัดกะ จัดระบบหลายอย่าง เป็นตัวเสริมให้การทำงานมีประสิทธิภาพ

แต่นี่มันกลายเป็นว่ามีระเบียบการอะไรเยอะแยะเลยให้ลูกค้าต้องสำรวจตัวเองว่าทำอะไรให้พนักงานขายไม่พอใจหรือเปล่า   ไม่งั้นจะไม่ได้บริการที่ดีนะ  คุณจะเป็นผู้ผิด เป็นผู้น่ารังเกียจในสายตาพ่อค้าแม่ค้า !!!  
ร้านของคุณถ้ามีจริง ดิฉันก็คงไม่เข้าอีกค่ะ     ไม่ใช่ว่าดิฉันชอบผิดกฎทั้งหมดที่ยกขึ้นมา   ดิฉันเองก็เข้าคิว  จดรายการของไว้ในกระเป๋าก่อนไปซื้อเพื่อจะได้ไม่ลืม   ไม่เคยไปเร่งพนักงานขาย ฯลฯ
แต่ดิฉันรู้สึกว่าร้านนี้ถ้ามีจริงก็มีนโยบายหยิ่งและเอาแต่ใจตัวพิลึกละค่ะ     ดูจากน้ำเสียงที่บรรยายมา     โดยเฉพาะข้อ 6  น่ากลัวจริงๆ
ในเมื่อมีตัวเลือกอีกมาก จะเดินเข้าร้านไหนก็ได้   ดิฉันก็ไปร้านอื่นดีกว่า
บันทึกการเข้า
Nuchana
สุครีพ
******
ตอบ: 979


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 04 มี.ค. 06, 13:52

 น่านนะซีคะ อ่านแล้วขำจังเลย เมื่อสักครูไปตลาดไทมา เห็นแม่ค้าทุกเจ้าออกปากเรียกลูกค้า
บางทีคนซื้อต้องรีบออกตัวว่าขอถามราคาหน่อยนะ เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่ คนขายก็เจรจาด้วยดี

ในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้ขายสินค้าและอยู่ในอุตสาหกรรมบริการด้วย อยากจะตอบอย่างนี้ค่ะ
1) ลูกค้าหลายคนเร่งรีบ  เช่น รถเมล์เที่ยวสุดท้ายจะออก 5 โมงเย็น คนขายก็พยายามจัดให้ลูกค้าทันเที่ยวรถ
เราเคยแอบอุบอิบนินทาลูกค้าว่าถ้าร้านไม่ปิด เขาคงยังไม่มา แต่นั่นแค่หลังฉาก ต่อหน้าก็ยังต้องยิ้มแย้ม

2)มาทีหลังซื้อทีหลัง...สมัยนี้คนทั่วไปทราบวัฒนธรรมนี้ค่ะ มีหลายครั้งคนขายขอรัดคิวให้คนมาทีหลังก่อน เพราะ
"ของคุณมันหายาก เดี๋ยวจะเทียบให้" คนมาก่อนแต่ได้ทีหลังก็เข้าใจ

3)ควรวางแผนล่วงหน้าก่อนที่จะซื้อ วางแผนได้ก็ดี แต่ลูกค้าบางคนใช้มอง แล้วชี้ว่าเอานี่เอานี่ อยากมองนานแค่ไหน
หรือเพิ่มเติมอะไร เชิญได้ตามอัธยาศัย

4)อย่าขัดจังหวะการกระทำที่ต่อเนื่องของคนขาย.... ไม่จริงหรอกค่ะ เราคนขายรีบวางช้อนทันทีที่ลูกค้าสั่งของ

5)ไม่ควรเข้าไปเลือกของเอง....ไม่จริงเลย หลายครั้งเราส่งเก้าอี้ตัวหนึ่งพร้อมตลับเมตรให้ลูกค้า
เข้าไปนั่งเทียบเอาเอง บางครั้งคนขายวานลูกค้าให้หยิบเอาเองด้วยซ้ำ

6)อย่าจงใจทำให้รู้ว่า ไปซื้อของจากร้านอื่นมา...เชื่อว่าไม่จริง เราเคยให้เด็กไปซื้อของร้านที่รู้จักกัน
ออกใบสั่งซื้อไป ให้ชื่อร้านไป 2 ชื่อ ถ้าร้านแรกไม่มีให้ไปซื้อร้านที่สอง ปรากฎว่าเด็กไปซื้อร้านที่สองก่อน
พอไม่มีจึงไปซื้อร้านแรก ซึ่งร้านนี้ก็คุ้นเคยกับเราเป็นอย่างดี เจ้าของร้านแรกโทรมาหาเรา แล้วถามว่า
"พี่คิดแพงไปหรือเปล่า ทำไมต้องไปเอาร้านอื่น รายการไหนแพงบอกได้เสมอ"

ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นวัฒนธรรมของคนซื้อ-คนขายที่คุ้นเคยกัน ไม่มีพิธีรีตองมาก จะขอเล่าตัวอย่างให้ฟังค่ะ
เหมืองหินที่ซื้อขายกันมายาวนาน เป็นลูกค้าเครดิตที่ออกใบสั่งมาซื้อของเรา เวลาจะซื้อ จะฉีกใบสั่งซื้อเปล่าๆมา
แล้วให้ลูกน้องมาเอาของ พอเราเปิดบิล ก็เอาใบสั่งซื้อเปล่าๆแนบกลับไป ก็เก็บเงินได้ทุกครั้ง
ลูกค้าสั่งปุ๋ยระเบิด 20 ลูก คนขายหันไปมองหน้า "ไอ้น้อง..ถ้าเอาเร็ว ยกเองเลยนะ คนยกไปส่งของยังไม่มาจ้ะ
จะยกเอง หรือจะรอ"

คนขายไหว้วานลูกค้าได้เพราะสนิทกันค่ะ สิ้นปีก็แจกเสื้อยืดที่แถมมาให้เป็นน้ำใจ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 04 มี.ค. 06, 14:04

 แนะนำให้อ่านหนังสือ "จดหมายจากเมืองไทย" ของโบตั๋น ค่ะ

แม้ว่าเป็นหนังสือเขียนขึ้นเมื่อหลายสิบปีแล้ว  แต่เรื่องการค้าขายที่บรรยายไว้โดยพระเอกของเรื่อง
ชื่อตันส่วงอู๋  ผู้ถีบตัวขึ้นมาจากเด็กทำงานในร้านจนเป็นเถ้าแก่ได้สำเร็จ  เป็นเรื่องที่ทันสมัยเสมอ
บันทึกการเข้า
Babyboo
อสุรผัด
*
ตอบ: 2


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 05 มี.ค. 06, 11:39

 อูยๆๆๆๆๆๆขอโทษด้วยจริงๆนะค้า คือว่ามีเพื่อนอะนะ แล้วมันก็มันบ่นให้ฟังเรื่องนี้อะ แบบว่า รำคาญอะนะ ก็เลยบอกให้มันเขียนมาให้ แล้วเอามาลงในนี้ ขอโษด้วยจริงนะคะ
บันทึกการเข้า
Karine!!
ชมพูพาน
***
ตอบ: 130

กำลังค้นหาทางสว่างของชีวิต


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 05 มี.ค. 06, 21:10

เป็นไปได้... เดี๋ยวนี้

จะว่าไปก็น่าเห็นใจคนขายเหมือนกันนะนี่
555+
แต่อ่านแล้วก็น่ากลัว ถ้าเราเป็นลูกค้า เอาเงินเอาทองไปให้แล้วเป็นอย่างนี้ ในฐานะผู้บริโภค เราก็เลือกเข้าร้านที่เราซื้อขาย -ถามอะไรได้ง่ายดีกว่า

ตอนแรก นึกว่าเป็นการพูดเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้า กับร้านโชว์ห่วย ที่มีผลต่อคนไทยในระยะยาวอีกนะเนี้ย
เอิ๊กๆๆ
บันทึกการเข้า

การศึกษาก้าวไกล ประเทศไทยรุ่งเรือง (แต่ตอนนี้ตูรุ่งริ่งชอบกล)
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 06 มี.ค. 06, 07:43

ถ้าเพื่อนคุณเจ้าของกระทู้เป็นเจ้าของร้านค้า หรือเป็นพนักงานขาย  
คิดแบบนี้เปลี่ยนอาชีพเถอะค่ะ  
ไปเป็นอาชีพอะไรที่คนอื่นต้องเกรงใจมากๆ
หรืออาชีพที่ไม่ต้องบริการใคร
จะเหมาะกว่า
บันทึกการเข้า
รำเพย
อสุรผัด
*
ตอบ: 27


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 23 มี.ค. 06, 20:53

 เพื่อนสนิทของรำเพยเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องนอน เธอไม่เห็นคิดแบบนี้เลยค่ะ มีลูกค้าขนาดป่วนแค่ไหน กวนรื้อของยังไงก็เหอะ เธอก็ยิ้มหน้าหวานตามใจลูกค้า พอเค้าไปพ้นร้านแล้วรำเพยถามว่าไม่รำคาญเหรอ ชั้นรำคาญแทนเธอ เพื่อนยังบอกว่าไม่หรอก เพราะว่าเรามีหน้าที่บริการนี่นะ แล้วเค้าก็ซื้อของไปเห็นไหมล่ะ เป็นแม่ค้าก็แบบนี้แหละ ปกติน่ะ

เรายังนับถือความอดทนของเพื่อนเลย

-ลูกค้ารีบๆจะเอาของแล้วจะไป เค้าก็รีบให้เด็กจัดให้ บางทีรำเพยไปนั่งเล่นที่ร้านเค้าก็ยังช่วยเค้าห่อของเลยค่ะ สนุกดี

-เรื่องมาทีหลังซื้อทีหลัง ร้านของเพื่อนรำเพยไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ เพราะว่าขายเครื่องนอน

-วางแผนล่วงหน้าก่อนซื้อ อันนี้ตรงกันข้ามกับความเห็นของ จขกท เพราะว่าไม่วางแผนไว้ก่อนนั้น บางครั้งก็ซื้อมากขึ้นเนื่องจากถูกใจคนขาย

-เรื่องขัดจังหวะคนขายระหว่างกินข้าว หรือทำอะไรอยู่นี่น่ะ เห็นมากับตาแล้วว่าคนขายเต็มใจให้ขัด กินข้าวอยู่ดีๆ มีคนมาก็รีบวางจานออกไปรับลูกค้าเลย ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ถ้าเพื่อนของ จขกท มีความเห็นแบบนั้นจริงๆ แนะนำให้เปลี่ยนอาชีพค่ะ เลือกทำอะไรให้ตรงกับที่ชอบดีกว่าจะได้ไม่ลำบากใจ ถ้าทำงานบริการไม่ได้ก็อย่าทำเลยดีกว่านะคะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 19 คำสั่ง