เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 26 27 [28]
  พิมพ์  
อ่าน: 81807 เมื่อริจะเป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
BLUECOLOR
อสุรผัด
*
ตอบ: 20


ความคิดเห็นที่ 405  เมื่อ 18 ธ.ค. 07, 08:51

เจอกลกลอน   ต้องถอนใจ  ด้วยไม่รู้
มิเคยดู  จากตำรา  ฉบับไหน
ที่คลับคล้าย   พอใกล้เคียง   เรียบเรียงไว้
เคยพบใน   " อดีตา "    มาอ้างอิง

" เกิดเป็นชาย ชาติสิงห์ หยิ่งผยอง
คนทั้งผอง ตรองรู้ อยู่อย่างสิงห์
เกิดเป็นชาย ไร้ศักดิ์ หนีความจริง
หมดลายสิงห์ ชาติเสือ เหลืออะไร "

อดีตา   เป็นนิยาย  นักเขียนดัง
เธอ...ผู้สั่งสมประสพการณ์  งานใหญ่
นามปากกา  ทมยันตี   นั่นอย่างไร
ผู้สร้างให้  คู่ธรรม  นามระบือ

ส่วนกลบท  สะกดใจ  ชายเหนือชาย
เคยอ่านใน  งานกวี  ที่เลี่ยงชื่อ
เดชคัมภีร์  เทวดา   อันเลื่องลือ
ตัวเอกคือ  เล่งฮุ้ชง  คนตรงจริง 

บันทึกการเข้า
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 406  เมื่อ 20 ธ.ค. 07, 18:50

ชายเหนือชายต้องเชิดชายให้มีชื่อ
นามระบือลือชายไปทุกสิ่ง
อบรมชายให้ สมชาย ในความจริง
ชายชาติสิงห์ต้องสัตย์ซื่อถือคุณธรรม

ชายกลับกลอกหลอกเจ้าเขานับหรือ
ใครเขาถือคือชายให้น่าขำ
ประพฤติตนดิ่งลงเหวเลวระยำ
การกระทำชั่วช้าสาระพัน

เกิดเป็นชายไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน
น้องต้องเตือนดูแลใจใช่ห้ำหั่น
รู้กติกา หน้าที่ นี่สำคัญ
เคารพมั่นในศักดิ์ศรี นี่คือ ชาย
บันทึกการเข้า
agree
ชมพูพาน
***
ตอบ: 114


แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี


ความคิดเห็นที่ 407  เมื่อ 22 ธ.ค. 07, 16:19

ได้ยินคำกล่าวเล่ามาเนานาน
คือคำชาญบทกลอนอักษรศิลป์
เป็นคติให้คนคิดไม่โกงกิน
จะกล่าวสิ้นต่อไปด้วยจุนเจือ

"เกิดเป็นชายอย่าหยามชายให้ขายหน้า
ต้องรักษาศักดิ์ชายไว้ลายเสือ
ต้องชัดเจนโปร่งใสใช่คลุมเครือ
ชายชาติเสือต้องรู้รักศักดิืศรีชาย

เป็นยอดชายต้องใฝ่ในความสัตย์
ต้องเคร่งครัดในวจีเป็นที่หมาย
ต้องรักษาวาจาของยอดชาย
พูดคำไหนเป็นคำนั้นนั่นแหละชาย

เกิดเป็นชายใช่ตะแบงแทงด้วยลิ้น
เที่ยวหยามหมิ่นเหยียดชายให้เสียหาย
ชาติไหนไหนไม่ควรเกิดเป็นชาย
ถึงคราตายตกนรกอเวจี

ชายเหนือชายต้องเชิดชายให้มีชื่อ
ให้ระบือชื่อชายไว้ศักดิ์ศรี
ชายต้องอุดหนุนชายให้ได้ดี
ชายเช่นนี้ที่เห็นกันนั่นแหละชาย"
บันทึกการเข้า

Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them.
บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ
pakun2k1d
พาลี
****
ตอบ: 285


ความคิดเห็นที่ 408  เมื่อ 29 ธ.ค. 07, 00:14

สุขขี สุขขี  สุขสวัสดีปีใหม่
สุขขี สุขขี สุขใจ  สุขสดใสตลอดปี

มอบให้ชาวเรือนไทยทุกคนค่ะ
บันทึกการเข้า
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 409  เมื่อ 01 ม.ค. 08, 10:35

เริ่มดิถีปีใหม่ใจผ่องแผ้ว
ให้คลาดแคล้วจากภัยพาลมารทั้งหลาย
สบสิ่งดีหนีห่างทางอบาย
ลูกผู้ชายต้องสัตย์ซื่อถือคุณธรรม
บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 410  เมื่อ 03 ม.ค. 08, 00:01

เริ่มดิถีปีใหม่ใจผ่องแผ้ว
ให้คลาดแคล้วจากภัยพาลมารทั้งหลาย
สบสิ่งดีหนีห่างทางอบาย
ลูกผู้ชายต้องสัตย์ซื่อถือคุณธรรม

ลูกผู้หญิงก็ต้องหยิ่งในศักดิ์ศรี
สิ่งไม่ดีล้วนมายาอย่าถลำ
ทั้งเรือนสามน้ำสี่นี้ต้องจำ
กุศลนำให้สุขีปีใหม่เอย....... ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 411  เมื่อ 03 ม.ค. 08, 06:50

พระเสด็จสู่แดนฟ้าเวหาหาว
ชนม์ถึงคราวสวรรคาลัยในดิถี
พระฝังฝากคุณงามพร้อมความดี
จารึกในหล้านี้นิจนิรันดร์

พี่นางแก้วบรมราชจักรีวงศ์
ขอพระองค์เกษมสุข ณ.สรวงสวรรค์
กี่ชาติภพขอน้อมนบอภิวันท์
เทอดทรงธรรม์ภักดีไท้ไปชั่วกาล
บันทึกการเข้า
Tithonus
อสุรผัด
*
ตอบ: 3


ครั้นว่าดาวประกายพฤกษ์ขึ้น กองทัพโห่ครื้นสนั่นป่า


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 412  เมื่อ 05 ม.ค. 08, 17:01

    เจ็ดวันเว้นว่างซ้อม ดนตรี
ย่อมหย่อนฝีมือมี    ก่อนกล้า
สามวันจากนารี      หนีหน่าย  แหนงเฮย
ห่อนเทียบเปรียบชายช้า   ต่อหน้ายังกลาย
 
     เจ็ดวันทิวาเว้น  บ่ละเล่นและร้องร่าย
พิณพาทย์ก็อาจคลาย    เสนาะคล้ายจะด้อยลง
     หญิงงามอะเคื้อคร้าว     ดุจะน้าวฤดีหลง
ยามยาตรนิราศนง-      นุชะคงจะรวนเร
สามวันมิทันเนิ่น     ผิวะเพลินฤห่างเห
ถอดถ่ายหทัยเท      กละเมฆะต้องลม
     แต่ชายมิได้ช้า   เฉพาะหน้าก็เปลี่ยนถม
ใครเชื่อก็เหลือตรม      วจิคมระคายจินต์
 
     สามอย่างสิอ้างเอ่ย   ดนุเคยประสบสิ้น
มุ่งหวังและพังภินฑ์       ชละรินถะถั่งนัยน์
     เคยเล่นและเรียนทาง  ดุริยางค์เพราะรักใคร่
เพลงมอญฤเพลงไทย   ก็มิได้จะเชี่ยวชาญ
     ขวัญชู้ดนูภักดิ์    ฤก็รักมหาศาล
เมามัวและกลัวลาน      บ่สะท้านวจีคน
เพียรเผยภิเปรยพจน์  บ่ละลดฤเบื่อบ่น
ว่ารักและรักจน       นฤมลมิใคร่ฟัง
กิจใดจะใช้ข้า     ฤก็สารพัดสั่ง
มีไหมมิได้ดัง      อระตั้งอุรารอ
ผ้าผ่อนจะวอนวาน   ฤก็ขานพจีพอ
เรียมซักเพราะรักก่อ    จิตะจ่อ ณ จินต์จำ
ยามเช้าก็เฝ้าปลุก    อระลุกและทุกค่ำ
เอ่ยออดฉะอ้อนซ้ำ   ดนุพร่ำมิขาดเลย
เมื่อยปวดก็นวดเฟ้น    อระเล่นกบาลเฉย
บาทเจ้าก็เอาเกย     บ่มิเคยจะขึ้งเคือง
ยามไกลก็ใช้มา-      รุตะพาพจีเปลื้อง
คิดถึงคนึงเนือง       ระยะเมืองบ่กั้นไกล
รักเจ้าสิเท่าชี-     วิตะพี่ผิบรรลัย
วิญญาณก็ฝันใฝ่      และวิไลก็รู้ดี
 
   แต่เจ้าสิเชื่อคน    ทุรชนและหม่นศรี
ห่อนเคืองเพราะเรื่องนี้      รติพี่มิเปลี่ยนไป
แต่เจ้าสิเปลี่ยนแปลง   กละแกล้งกบฎใจ
เรียมคอยประคองไว้    บ่มิให้ทลายลง
เจ้าหยามและเหยียดพี่      บ่มิมีเสน่ห์หลง-
เหลือในฤทัยคง      และอนงค์ก็จากจร
เชิดชูสิชู้เจ้า       ดนุเล่าประดุจขอน
ไม้พังผุกัดกร่อน     ฤจะวอนพธูคืน
 
   คิดไปก็สมควร     และก็ล้วนดนูฝืน
ผลกรรมกระทำฟื้น       สิก็ยื่นดนูเอง
รักเก่าดนูทิ้ง      รติยิ่งจะข่มเหง
กรรมเก่ามิกริ่งเกรง     ดนุเร่งจะรับเอย
บันทึกการเข้า

เจ็ดวันเว้นว่างซ้อม ดนตรี
ย่อมหย่อนฝีมือมี ก่อนกล้า
สามวันจากนารี หนีหน่าย แหนงเฮย
ห่อนเทียบเปรียบชายช้า ต่อหน้ายังกลาย
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 413  เมื่อ 24 ม.ค. 08, 10:37

น้ำเนตรท่วมถึงพรหมบ่มอกเศร้า
อุระร้าววิปโยคโศกหวั่นไหว
พี่นางแก้วกัลยาสวรรคาลัย
ใจผองไทยเจืยนขาดดิ้นแทบสิ้นลม
บันทึกการเข้า
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 414  เมื่อ 28 ม.ค. 08, 17:41

เพียงชั่วเหยี่ยวขยับปีกฉีกใจวิ่น
พี่นางสิ้นชีวังปลงสังขาร
หกสิบล้านผองไทยกราบไหว้วาน
ขอพระผ่านสู่แดนฟ้าดาวดึงส์
บันทึกการเข้า
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 415  เมื่อ 27 เม.ย. 08, 09:37

ไว้อาลัยแด่ ผอ.พงษ์พัฒน์ ธีรประเทืองกุล อดีต ผอ.โรงเรียนปัว อ.ปัว จ.น่าน อดีต สส.น่าน

"รู้เคารพกติกาและหน้าที่"
คาถานี้จารึกไปในทุกหน
มั่นสถิต"ศิษย์ม่วงขาว"เราทุกคน
ตราบวายชนม์น้อมรับคำจำใส่ใจ

"ไม่เคารพกฏหมายเหมือนควายไม่มีคอก"
ท่านพร่ำบอกเพื่อรักษ์ธรรม์อันยิ่งใหญ่
"ดื่มนมแทนน้ำ"วัฒนธรรม"ศิวิไลซ์"
เพื่อศิษย์ได้สุขภาพดีมีปัญญา


"เยาวชนรักกีฬาแก้ปัญหาสังคม"
ปักติดร่มคันนี้ศรีสง่า
เพื่อป้องศิษย์โง่เขลาเบาปํญญา
เลิกเสพย์์ยากีฬาช่วยด้วยตนเอง

"มือเหล็กมือสะอาดชาติต้องการ"
แม้นผีมารเลวร้ายไล่ข่มเหง
ผู้บริสุทธฺ์สุกใสใยต้องเกรง
ฟ้าดินเองจักปกป้องคุ้มผองภัย

ชีพดับสูญเมื่อ 18 เมษายน
ปี 51สิ้นขุนพลผู้ยิ่งใหญ่
"นามสิงห์เหนือ"เหลือความดีพลีมอบไว้
ตราตรึงในแผ่นดินตราบสิ้นกาล

หากเมื่อใดไร้แสงแห่งปํญญา
ทั่วโลกหล้ามืดมัวชั่วกัลปาวสาน
มีแสงหนึ่งซึ่งเลอค่าเหลือประมาณ
"คบไฟน่าน"ยังสว่างกลางผองชน
จิตแผ้ว เก็บเข้า Contact List ส่ง vSMS
บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 416  เมื่อ 27 เม.ย. 08, 23:13

ร่วมอาลัยแด่พ่อใหญ่นามพงษ์พัฒน์
ปฏิบัติงานแผ่นดินถิ่นอาศัย
เป็นผ.อ. กกต. ส.ส.ไทย
เป็นผู้ใหญ่เป็นคนดีศรีเมืองปัว
บันทึกการเข้า
pakun2k1d
พาลี
****
ตอบ: 285


ความคิดเห็นที่ 417  เมื่อ 29 เม.ย. 08, 07:09

แข่งทักษะ วิชาการ ท่านเริ่มต้น
สร้างเยาวชน มีความรู้ มาตรฐาน
กระตุ้นให้ ครูไทย ใส่ใจงาน
สร้างมาตรฐาน ให้ความรู้ เท่าเทียมกัน

ขอคารวะ และอาลัย อาจารย์พงษ์พัฒน์เช่นกันค่ะ
ขอคุณงามความดีต่าง ๆ ที่ท่านได้ให้ไว้แก่เยาวชนเมืองน่านได้นำท่านสู่สุขคติเทอญ
บันทึกการเข้า
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 418  เมื่อ 10 พ.ค. 08, 07:44

ภูแวยอดแหลมแซมเมฆขาว
ภูพยัคฆ์ทอดยาวฮึกหาญกล้า
น้ำน่านพุ่งพล่านสีแดงทา
น้ำว้าซัดสาดซ่าอยู่กลางไพร


นิ่งสงบซบอกธรณินร์
รักษ์แดนดินถิ่นน่านอันยิ่งใหญ่
คุณความดีที่หมั่นทำนำธงชัย
เทอดมั่นไว้ในความเชื่อ "เสือจอมดอย"


ข้างบนเป็นของกวีนิรนามจารจารึกไว้บนอนุสรณ์สถานเพื่อมิให้ลืมเลือน
เนิน 708 ส่วนท่อนล่าง เป็นของ ข้าพเจ้าเอง
บันทึกการเข้า
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 419  เมื่อ 11 พ.ค. 08, 06:34

  -เมืองปัว แดนงามเมื่อครั้งก่อนเก่า มีองค์พระเจ้า ผานองสถาปนา ครอบครองถิ่นนี้เป็นเมืองสวยเด่นงามตา องค์หลวงปัวครอบครอง พารา นำพา นครนั้น
 

  -เมืองปัว แดนงามสุดแสนสวยยิ่ง มีทุกๆสิ่งเปรียบปานดั่งแดนสวรรค์ โอ้ศิลาเพชร ใสเย็นเคยนั่งเคียงกัน ฟังสำเนียงเ้สียงเพลงรำพัน สุขสันต์เมื่ออยู่เมืองปัว


   
  0 ลาก่อนจำลาอาลัยถวิล เมืองปัวที่เคยอยู่กินดินแดน แสนงามลาก่อน จอมแจ้งเจดีย์กราบกราน ดวงใจทอดถอน วันหนึ่งข้าฯคงหวนย้อน วรนครถิ่นนี้เหมือนเก่า


  - เมืองปัว ขอพรที่แสนศักดิ์สิทธิ์ ช่วยดลลิขิตเจริญ รุ่งเรืองเฉิดฉัน เมืองปัวคู่ฟ้า คู่ดิน สูงส่งลาวัลย์ ขอเทพไท้ในแดนวิมานสร้างสรรค์คุ้มครองเมืองปัว
                         
                                                          (ซ้ำ 0 จนจบ)
                                                                 
                                       ตรงท่อน สูงส่งลาวัลย์ นั้น ต้นฉบับเดิม เมื่อตอน เรียนชั้น มศ.5 ที่โรงเรียนปัว ประมาณปี 22 ผมแต่งเป็น จนสิ้นโลกันต์
โดยเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่า โลกันต์แปลว่าโลก ต่อมาเมื่อรู้ความหมายที่แท้จริง จึงเปลี่ยน เป็นสูงส่งลาวัลย์ คนจรหมอนหมิ่นเหมือนนกจากรังพลัดที่นาคาที่อยู่เมื่อมาพบร่มไม้ใบบังได้มีโอกาสเข้าพักอาศัยใต้ชายคาเรือน
ที่แสนอบอุ่นของท่าน ผอ.พงษ์พัฒน์ ธีรประเทืองกุล ทำให้มีแรงบันดาลใจแต่งเพลงฝากไว้ก่อนอำลาสถาบัน ขอคารวะ ดวงวิญญาณของท่านด้วยบทเพลงจากใจ
ของศิษย์ในบ้าน ลูกปัวเลือดม่วงขาว รู้ เคารพ กติกา และหน้าที่ ครับ
 


 
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 26 27 [28]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 19 คำสั่ง