เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 21 22 [23] 24 25 ... 28
  พิมพ์  
อ่าน: 81803 เมื่อริจะเป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 330  เมื่อ 09 ต.ค. 06, 20:50

 รัตติกาลนานเนิ่นข้าเพลินจิต
ระลึกคิดถึงเจ้าพริ้มเพราเอ๋ย
ตั้งแต่จากกันวันนั้นไม่มีเลย
คิดจะเชยหญิงใดในโลกา

ใต้แสงจันทร์ฝันหวานสะท้านจิต
พะวงคิดอยากชิดใกล้ใจบุหงา
แนบเนื้อน้องหนุนตักเจ้าแก้วตา
ดวงยุพาอยู่หนใดใจรำพัน

หนาวสะท้านเยือกสั่นให้ขวัญหาย
อาจมลายสลายวับด้วยจอมขวัญ
เพียงเจ้ามาสบพบพักตร์แม้สักวัน
มาปลอบขวัญใจดวงน้อยหน่อยกานดา
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 331  เมื่อ 09 ต.ค. 06, 21:14

 สุริยะอัสดง ณ พงพี
ปฐวีเหนื่อยล้าแทบอาสัญ
ธาราเหือดแห้งยิ่งนานวัน
ไม้เถาวัลย์ตายซากวินาศไป

พอน้ำมาคงคาเชี่ยวม้วนเกลียวกวาด
พัดพินาศลากลอยตามแรงไหล
พอหมดแรงก็จางหายสร่างไป
ถึงวันใหม่ตะวันมาน้ำตาคลอ

บทน้ำมาพาสูญแทบอาสัญ
หมดน้ำพลันก็แห้งเหือดมิเหลือหรอ
อาทิตย์ส่องร้อนวาบสาดไม่พอ
พาต้นตอแหล่งน้ำวินาศไป

ดั่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติทั่ว
มิเลือกตัวทั่วไปคอยผลักไส
ทุกข์ใจทุกข์กายแทบวายไป
คือผองไทยหมู่อีสานบ้านเมืองนอน
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 332  เมื่อ 09 ต.ค. 06, 21:32

 งามสง่าดุจฟ้านภามาส
นวยนาดกรีดกรายละม้ายเหมือน
เทพธิดานภาลัยแม่ดวงเดือน
อย่าแชเชือนเลือนหายมลายเลย

หยาดฟ้ามาสู่ดินถิ่นสมัย
โฉมใจพิสมัยวิไลเอ๋ย
ศศิธรไหนๆไม่มีเลย
จะเปรียบเปรยดั่งเจ้าพริ้มเพราได้

อรชรอ้อนแอ้นแฉล้มหนอ
ดวงละอออ่อนหวานน้ำตาลไหน
หวานยิ่งยิ่งดอกไม้ที่กลางใจ
พี่มอบให้ยอมแล้วแก้วกมล

อันต้นรักปลูกแล้วแก้วตาเอ๋ย
ไฉนเลยเมินไปไม่เก็บผล
เจ้าเมินหนีหน้าพี่ไยรสสุคนธ์
เกิดเป็นคนรักกันเถิดเบิกอุรา
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 333  เมื่อ 09 ต.ค. 06, 21:36

 ไม่ได้ลงกลอนเสียนาน ลงทีชุดใหญ่คงไม่ว่ากันใช่ไหมครับ อิอิ
บันทึกการเข้า
Little Sun
พาลี
****
ตอบ: 212

กำลังตามหาความฝัน


ความคิดเห็นที่ 334  เมื่อ 10 ต.ค. 06, 23:34

 ไม่ว่าค่ะ ลิตเติ้ลว่าคุณOBORO แต่งได้ดีนะคะ

รักแล้วไม่แคล้วทำใจให้เป็นทุกข์
แม้จะสุขแต่ก็ทุกข์มหาศาล
เฝ้าคำนึงถึงเธอทุกรัตติกาล
ช่างทรมานใจยิ่งนักไม่ได้เจอ
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 335  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 14:44

 ขอบคุณครับสำหรับคำถาม เอ้ย! ชม(ไม่ใช่นางงามนี่นะ)

หมู่นี้กระทู้นี้เงียบๆไปนะครับ ผมจะพยายามมาปั้มบ่อยๆ ฝึกปรือฝีมือไปในตัวอิอิ
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 336  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 15:03

 รักเจ้าเอยโปรดเผยเฉลยเถิด
เจ้าบังเกิดแต่ไรด้วยใครหนา
มาแต่ไหนเกิดที่ใดในอุรา
โชคชะตาหรือเปล่าหนอท้อหัวใจ

เมื่อแรกพบสบตาพาใจสั่น
ระริกหวั่นสะท้านทรวงลวงใช่ไหม
เกิดตรงกลางระหว่างเราเขาหรือไม่
เกิดตรงไหนไยยากลำบากจริง
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 337  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 15:09

 เงียบงันงกสงบวิเวกแว่ว
ไม่มีแล้วเหล่าประชันหันหน้าหนี
โอ้ตัวเราเปลี่ยวเปล่าเหงาชีวี
หลายวันนี้หนีไปหมดรันทดจริง
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 338  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 15:12

 พูดคนเดียวก็ได้เรานี่หนอ
ดูบ้าบอสติเสียเพลียหนักหนา
ใครมาอ่านคงคิดสะกิดอุรา
ว่าเราบ้าพูดเออเองเซ็งหัวใจ
บันทึกการเข้า
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 339  เมื่อ 11 ต.ค. 06, 22:48

 ถึงจะบ้าก็บ้ากลอนอักษรศรี
บ้าความดีบ้าเถิดจะเกิดผล
ถึงบ้าใบ้ชนะในใจของตน
มีค่าล้นกว่าคนดีที่บ้ากาม
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 340  เมื่อ 12 ต.ค. 06, 15:31

 โอ้..  มิตรแท้มาแต่ไหนเมื่อใดหนา
รจนาพาชื่นระรื่นแสน
ฉะนั้นไซร้มาสถิตย์ ใน ดินแดน
ร่วมอยู่ในแว่นแคว้นแดนถิ่นนี้

มาร่วมสร้างเสกสรรพลันบังเกิด
ร่ายรสบทเพริศบรรเจิดศรี
มาแต่ไหนอย่าหลีกไซร้ท่านกวี
กระทู้นี้มีแต่เราจับเจ่าเอย
บันทึกการเข้า
กุรุกุลา
พาลี
****
ตอบ: 235


ความคิดเห็นที่ 341  เมื่อ 13 ต.ค. 06, 01:53

 แม้หยดน้ำลำพังขังเพียงหยด
ยังบอกรสสดชุ่มชอุ่มชื่น
อันหวานกานท์หวานว่างค้างเพียงคืน
หรือจะชืดรสชื่นในพื้นกานท์

รอสักหน่อยปล่อยกาลให้ผ่านพ้น
คงมีคนเห็นค่าว่ารสหวาน
เหมือนหยดน้ำลำพังขังไม่นาน
ก็ยังพืชยืดผ่านเจริญพรรณ
บันทึกการเข้า
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 342  เมื่อ 13 ต.ค. 06, 12:05

 ความอยากได้อยากมีและอยากเป็น
คอยเคี่ยาเข็ญคุกคามคนจนป่นปี้
แรกกำเนิดเกิดคนล้วนคนดี
ไม่กี่ปีคนกลับกลายร้ายเหลือคน


กามกิเลสตัณหาพาใจบอด
ไม่ทันจอดเรือก็คว้างคว่ำกลางหน
คุณธรรมไม่น้อมนำพร่ำสอนตน
วุ่นวกวนเวียนว่ายตายทั้งเป็น
บันทึกการเข้า
อ้อ
มัจฉานุ
**
ตอบ: 53

นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต การสอนฟิสิกส์ ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ


ความคิดเห็นที่ 343  เมื่อ 14 ต.ค. 06, 17:32

 อันคนเราย่อมมีทั้งสองด้าน
ความเกียจคร้านขยันหมั่นมองเห็น
มีความสุขความทุกข์ให้ลำเค็ญ
มีร้อนเย็นเลือกได้ให้เหมาะเรา

มีความฝันดั้นด้นให้ไปถึง
หวังให้ซึ้งให้ไกลไม่อับเฉา
ทะยานไปให้ไกลดั่งใจเรา
อย่าอายเขามั่นใจไม่ลดลา

ความอยากได้อยากมีและอยากเป็น
อย่างที่เห็นมีได้ให้หรรษา
อย่าให้ใครเดือดร้อนอย่าโกรธา
อย่าริษยาแก่งแย่งอย่างชิงดี

หากอยากได้สิ่งใดตั้งใจมั่น
จงบากบั่นด้วยตัวมีศีกดิ์ศรี
จงอดทนขยันทำสิ่งดี
ชีวิตนี้ทำฝันได้ให้สุขใจ
บันทึกการเข้า
จิตแผ้ว
ชมพูพาน
***
ตอบ: 169


ความคิดเห็นที่ 344  เมื่อ 25 ต.ค. 06, 12:01

 ลมหนาวโบยโบกมาอีกคราแล้ว
พัดผ่านแนวภูดอยให้หงอยเหงา
คร่ำใจครวญหวลถวิลถิ่นเคยเนา
เสียงแคนเป่าเคล้าน้ำตาคราจากเรือน



น้ำค้างพรมลมกระหน่ำช้ำในอก
วูบดาวตกอกไหวใจถูกเฉือน
ก่อนอำลาสัญญาใจใครลืมเลือน
ไม่หวนกลับมาเยี่ยมเยือนเหมือนวาจา
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 21 22 [23] 24 25 ... 28
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.082 วินาที กับ 19 คำสั่ง