เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 5 6 [7]
  พิมพ์  
อ่าน: 37143 ลอดลายรั้ว...วินด์เซอร์ (2)
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 90  เมื่อ 11 มี.ค. 06, 11:45

 ภาพไดอะน่า เจ้าหญิงเกรซ และเจ้าฟ้าชาย
ชุดดำของเธอเซกซี่กว่าชุดรุ่มร่ามของเจ้าหญิงเกรซหลายเท่า
ดีไซเนอร์ที่ออกแบบให้เป็นจุดเด่นของงาน วางแผนเก่งจริงๆ
ภาพนี้คุณวิวันดาหามาให้ชมค่ะ  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 91  เมื่อ 11 มี.ค. 06, 11:46

 ภาพเมื่อไปฮันนีมูน
เหมือนเพิ่งเกิดเมื่อวาน..(บรรยายโดยคุณวิวันดา)  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 92  เมื่อ 11 มี.ค. 06, 11:47


ชุดเดียวกันค่ะ (-วิวันดา)
บันทึกการเข้า
ชื่นใจ
ชมพูพาน
***
ตอบ: 136

นักศึกษาปริญญาเอก University of East Anglia England


ความคิดเห็นที่ 93  เมื่อ 11 มี.ค. 06, 15:42

 สวัสดีค่ะคุณวิวันดา
ขอบพระคุณมากนะคะที่เรียบเรียงเรื่องราวอย่างนี้ให้อ่านง่ายและมีสีสัน
ว่าแต่ว่าเมื่อไหร่คุณจะไปอลาสก้าอีกคะ พวกเราจะได้อ่านเรื่องอื่นๆ-อื่นๆ-และอื่นๆ อีกมากมาย กันแบบเต็มอิ่มอย่างนี้อีก


ขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูด้วยค่ะ
กำลังนึกเองว่าอาจารย์เหมาะกับดาวเทียมสื่อสาร-พาหนะประจำกายที่มีตอนนี้จังเลยค่ะ
ถ่ายทอดข้อมูลความรู้สู่ทั่วโลก แถมไม่เว้นวันหยุดราชการ
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 94  เมื่อ 13 มี.ค. 06, 08:47

 หลังจากที่อาการของพระชายาท่าจะไม่ดีในระยะแรกๆ เจ้าฟ้าชายจึงรีบติดต่อให้เพื่อนสนิทนักจิตวิเคราะห์ (ความจริงคือเพื่อนสูงวัย ที่อดีตคือเกลอของท่านลอร์ด หลุยส์)
นาย ลอเรนส์ แวน เดอ โพสต์ ให้เข้ามาช่วยรักษา

แต่หลังจากที่วินิจฉัยในอาการ นาย ลอเรนส์ได้กราบทูลว่า
ไดอะน่ามีอาการหนักหนามากกว่าที่คิด และสมควรที่จะต้องรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง
เขาได้เสนอชื่อของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้สองสามคน ซึ่งหลังจากที่ได้มีการตกลง แพทย์จึงได้เข้ามาทำการรักษาถึงในพระราชวังทุกวัน ตั้งแต่เวลาสิบเอ็ดโมงเช้า
โดยใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกับทั้งสองคน คือเจ้าฟ้าชายและไดอะน่า จากนั้นก็อีกครึ่งชั่วโมงกับฝ่ายหญิงคนใข้คนเดียว

เจ้าฟ้าชายได้ให้รายงานกับแพทย์ว่า พระชายามีอารมณ์ที่พลุ่งพล่านตลอดเวลาโดยไม่มีสาเหตุ
ทรงไม่แน่ใจอีกด้วยซ้ำว่านี่คือ อาการของคนบ้า..หรืออะไรกันแน่
เพราะไม่มีคนธรรมดาที่ไหนจะเปลี่ยนอารมณ์ได้แบบสุดโต่งขนาดนี้ เช้าดี สายร้าย..กว่าจะถึงเย็นคนรอบข้างก็ใกล้บ้าไปตามๆ กัน
แพทย์ได้เสนอให้ใช้ยากล่อมประสาท
แต่..พระชายาปฏิเสธในเรื่องที่จะนำยามาช่วยในการบำบัด (ซึ่งเธอได้ทรมานเพราะโรคบูลิเมียต่อไปถึงสิบเอ็ดปี)

เคยให้สัมภาษณ์ว่า
"การที่จะรักษาอาการแบบนี้ต้องรักษามาจากข้างในจิตใจ มันเกิดขึ้นมายามที่เรารู้สึกด้อยค่า หงอยเหงา รู้สึกขาดความรัก
ร่างกายจึงใขว่คว้าหาความสุขจากการกิน กิน และกินจนล้นกระเพาะ เพื่อที่จะมาเติมความรู้สึกที่ขาดหายไป แต่มันก็ได้แค่ชั่วคราวเดี๋ยวด๋าว จากนั้นก็ขย้อนออกมาอีก เป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้าเล่า"

การฮันนีมูนที่พระราชวังบัลมอรัลนั้น ฝูงนักข่าวได้ไปกลุ้มรุมเฝ้าออกกันเป็นกองทัพย่อยๆ เพื่อที่จะพยายามได้ภาพเด็ดของคู่รักบันลือโลก เพราะ
คนที่ได้รับลิขสิทธิ์ในการถ่ายภาพพิธีอภิเษกและการฮันนีมูนบนเรือยอชบริแตนเนียอย่างใกล้ชิดนั้นคือ
ลอร์ด ลิชฟิลด์ หลานชายของควีนมัมแต่เพียงผู้เดียว

แต่ลอร์ด ลิชฟิลด์ ได้นำภาพหลุดๆ บางภาพออกมาตีพิมพ์โดยมิได้รับความเห็นชอบก่อน อย่างเช่นภาพที่ทั้งคู่กำลังนั่งหัวเราะอย่างกว้างขวางบนขั้นบันไดของพระราชวัง
ซึ่งเจ้าฟ้าชายรู้สึกขัดพระทัยต่อการกระทำในครั้งนี้ ทำให้ไม่อยากพบกับนักข่าวหรือช่างภาพคนไหนอีก ทรงบอกว่าพอกันที

หากแต่สี่วันผ่านไปเท่านั้น สมเด็จทรงทนรำคาญต่อไปไม่ได้ ทรงสั่งการไปทางราชเลขาฯให้ทำการตกลงกับนักข่าวให้เป็นกิจจะลักษณะ
คือ จะให้คู่บ่าวสาวออกมาให้สัมภาษณ์และให้ถ่ายภาพอย่างเสรี โดยขอแลกเปลี่ยนกับการเป็นส่วนตัวในชีวิตข้างหน้าต่อไป..
เจ้าฟ้าชายแม้จะไม่ทรงชอบพระทัยนัก แต่ก็ต้องยอม เพราะนี่คือประกาศิต..!!  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 95  เมื่อ 13 มี.ค. 06, 08:52

 ทั้งคู่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตรงเวลาที่นัดหมาย เจ้าชายได้ทรงชุดพื้นเมืองชาวสก๊อต  ที่มี sporran กระเป๋าหนังห้อยตรงกระโปรงคิลท์ จูงมือพระชายาออกมาพบกับนักข่าว..ทรงถามว่า
"จะถ่ายรูปตรงไหนดี"
"ตรงนี้ละพระเจ้าค่า.."
"หวังว่าทุกท่านคงเดินทางอย่างสนุกสนานในทริป (ที่ติดตามฉันถึง) เมดิเตอเรเนียนนะ"
"ก็แพงเอาการพระยะค่ะ"
"งั้นก็..สม (น้ำหน้า) แล้วละ"
"พระผึ้งพระจันทร์นั้นหอมหวานดีหรือพะยะค่ะ?"
"โอ..ยอดเยี่ยม" คราวนี้พระชายาทรงตอบแทน
"แล้วชีวิตในการอภิเษกล่ะ พะยะค่ะ?"
"ดี..ขอแนะนำเลยละ"
"ทรงทำพระกระยาหารเช้าให้พระสวามีบ้างไหมพะยะค่ะ?"
"ฉันไม่รับประทานอาหารเช้า"
เจ้าฟ้าชายทรงเข้ามาเสริมแบบจิกนิดๆ ว่า
"เพราะตอนเช้ามีรายการโทรทัศน์ที่สนุกไงล่ะ"
ก่อนเสด็จกลับ บรรดานักข่าวได้ถวายช่อดอกไม้ให้กับพระชายา..ซึ่งเธอได้กล่าวอย่างติดตลกว่า
"อย่าลืมเอาบิลไปเบิกบริษัทล่ะ"

สองเดือนต่อมา ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 1981 ได้มีแถลงการณ์จากสำนักพระราชวังถึงข่าวอันเป็นมงคลว่า
พระชายา ไดอะน่า เจ้าหญิง แห่ง เวลส์ ได้ทรงครรภ์ อันเป็นที่ชื่นชมยินดีของประชาชนชาวบริตันอย่างหนักหนา
ไดอะน่าพยายามที่จะปฏิบัติภาระกิจตามที่ได้รับมอบหมายมาล่วงหน้าให้ครบ
หากแต่อาการแพ้ท้องนั้นค่อนข้างหนักหนา ซึ่งเจ้าฟ้าชายได้ทรงออกมาตรัสขอความเห็นใจจากนักข่าวและประชาชน ในยามที่อาจต้องงดการเสด็จ

ในการเสด็จไปยัง Derbyshire อาการแพ้ท้องได้กำเริบ ถึงกับต้องหยุดพักกลางคัน
เมื่ออาการดีขึ้น เธอถึงกับบ่นกับชาวบ้านที่มารับเสด็จว่า..
"ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันจะหนักหนาถึงเพียงนี้..แย่จริงๆ "

ภาพของไดอะน่าเมื่อครรภ์แก่ค่ะ  สังเกตว่าหน้าเธอไม่อ้วนเลย -เทาชมพู  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 96  เมื่อ 13 มี.ค. 06, 08:54

 ไม่ว่าจะไปที่ไหน ฝูงนักข่าวมักติดตามพระชายาไปในทุกที่ ซึ่ง..
ไดอะน่าได้แสดงความเป็นอัจฉริยะในการปรากฏตัวท่ามกลางฝูงชนอย่างไม่มีข้อบกพร่อง  ทั้งอ่อนหวาน มีเสน่ห์ แต่งกายงามพอเหมาะ
ที่สำคัญ..เป็นคนที่ "ถ่ายรูปขึ้น" อย่างมหัศจรรย์

แต่การออกงานแต่ละครั้งนั้น ทำให้เกิดอาการเหนื่อยอ่อน เหนื่อยใจ หงุดหงิด ยามเมื่อกลับมาถึงพระตำหนัก อาการของมันทั้งหมดได้ออกมาทางกราดเกรี้ยวกับทุกอย่างรอบตัว
มหาดเล็กคนหนึ่งได้เล่าว่า ทั้งร้องไห้ ทั้งขว้างปาข้าวของ..มีครบหมด..
เจ้าฟ้าชายทรงทำองค์ไม่ถูก เพราะอยู่ก็อาละวาด ไม่อยู่ก็ยิ่งอาละวาด ทรงหาทางออกด้วยการหนีไปเล่นโปโลคราวละนานๆ ทรงบ่นว่า
"อยู่ไม่ไหว ไม่สามารถต่อสู้กับกระแสไหลเวียนของฮอร์โมนส์ได้เลย..ให้ตายเถอะ"

เมื่อยิ่งพระสวามีไม่อยู่รองรับอารมณ์ ไดอะน่าก็ยิ่งกราดเกรี้ยว กล่าวหาว่า พระองค์หนีไปหาแฟนเก่า คามิลล่า..
คราวนี้ใครๆ ก็ต้านอารมณ์ไม่อยู่แล้ว..

ความขึ้นไปถึงสมเด็จ..ซึ่งแทนที่พระองค์จะโทษพระโอรส กลับทรงกล่าวหาว่า เป็นเพราะนักข่าวที่พยายามกลุ้มรุมกับพระชายาจนเกินไป
จึงได้ทรงเรียกประชุมเหล่าบรรดาบรรณาธิการทั้งหมดของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ เรียกว่ามาให้หมดทั้งถนน ฟลีต เลยทีเดียว
ในหัวข้อเรื่องว่า เลิกยุ่งกับพระชายาเสียที..

ผู้ที่ต้องเริ่มการอภิปรายกับเหล่านักข่าวเป็นด่านแรกคือ ราชเลขาธิการฝ่ายข่าว นายไมเคิล เชีย ว่า
"เราทราบดีว่า ประชาชนให้ความรักและชื่นชอบในตัวของพระชายาเป็นอย่างมาก แต่ เราได้ตกลงกันแล้วว่า หลังจากฮันนีมูนพระชายาสมควรที่จะได้รับความเป็นส่วนตัว จึงต้องขอย้ำเตือนในความร่วมมือจากพวกท่าน"

จากนั้น สมเด็จก็ได้เสด็จเข้ามาในห้องประชุม ทรงย้ำเตือนในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เหล่านักข่าวทำตัวไปแอบซ่อนตามสุมทุมพุ่มไม้ พร้อมทั้งกล้องติดเลนซ์ระยะยาว
ที่มีประสิทธิภาพสูง เพียงเพื่อที่จะได้ภาพเด็ด..ทรงว่า ช่างไม่ยุติธรรมเลย และเป็นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวอย่างที่สุด
นักข่าวทั้งหมดยอมถอยให้ เพราะ เห็นแก่สมเด็จที่ทรงอุตส่าห์ออกโรงเองทั้งที..  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 97  เมื่อ 13 มี.ค. 06, 09:00

 หากแต่เพียงหกอาทิตย์ต่อมา..ข่าวก็เล็ดรอดออกมาว่า พระชายาทรงทำร้ายตัวเองประชดพระสวามี..
(ทั้งๆ ที่นักข่าวก็ถอยให้แล้ว..แต่ไฉน?)
เรื่องก็มีว่า..หลังจากเทศกาลคริสต์มาสไปไม่นาน ที่พระราชวัง
แซนดริงแฮม พระชายาได้เตือนเจ้าฟ้าชายด้วยท่าทางเอาจริงว่า ถ้าหนีออกไปทรงม้าอีกละก้อ
จะฆ่าตัวตาย..สิ้นเสียง เจ้าฟ้าชายก็เสด็จออกไปทันที
ไดอะน่าทุ่มตัวลงจากบันไดหกเจ็ดขั้นนั่นทันทีเช่นกัน

ผู้ที่เสด็จมาถึงก่อน นั่นคือ ควีนมัม การเรียกหาแพทย์หลวงได้กระทำอย่างเร่งด่วน
หลังจากการตรวจอาการผ่านพ้นไป ก็พบว่า ฟกช้ำดำเขียวนิดหน่อย พระหน่อในพระครรภ์ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พนักงานรับใช้ที่เห็นเหตุการณ์ก็ขายข่าวนี้ให้กับหนังสือพิมพ์ เดอะ ซัน ในราคางาม

นายริชาร์ด ดัลตัน ช่างพระเกศาของพระชายา ได้เล่าว่า..
"เธอเกลียดทุกอย่างในแซนดริงแฮมนั่น เธอได้เล่าว่า หนาวจับใจ แถมอาหารค่ำต้องเสริฟให้เสร็จก่อนสามโมงเย็น เพราะทุกคนจะต้องไปนั่งเฝ้าหน้าจอโทรทัศน์ เพื่อที่จะฟังพระบรมราโชวาทในวันคริสต์มาสอย่างทุกปี นั่นคือข้อบังคับเชียวละ "

ควีนมัมได้ทรงเป็นห่วงในอาการของไดอะน่า ถึงกับนำไปปรึกษากับนาย จอห์น โบวล์ ลีออง หลานชาย ว่า
"มันออกประหลาดอยู่นะ เพราะ คนอะไรจะคลั่งจนควบคุมตัวไม่ได้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่เดี๋ยวเดียวก็หาย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
ที่ควีนมัมได้ตรัสเช่นนี้ เพราะทรงรู้จักกับตระกูล เฟอร์มอย (สายมารดาของไดอะน่า) มาเป็นอย่างดี ว่า คนในตระกูลนี้มีอาการของจิตไม่ปรกติ อย่างท่านลอร์ด เฟอร์มอย ลุงของไดอะน่า ที่เคยออกมาประกาศความดีของหลานสาวอยู่ปาวๆ ในตอนก่อนหมั้น ไม่นานต่อมาก็ฆ่าตัวตายไปซะเฉยๆ
เลยทรงเกรงไปว่า อาการของไดอะน่าอาจมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม

สามปีต่อมา พระชายาได้พยายามหลายต่อหลายครั้งในการทำร้ายตัวเอง ในคำสารภาพของเธอกับนายแพทย์ มัวรีซ ลิปเสดจ์ ว่า
"เพราะไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร อัดอั้นไปหมด การทำร้ายตัวเองเป็นสิ่งเดียวเพื่อที่จะเรียกร้องขอความเห็นใจ..ขอความช่วยเหลือ"

เมื่อสมเด็จทรงเห็นว่า เหตุการณ์ระหว่างครอบครัวเวลส์นี้ชักไม่ชอบมาพากล พระองค์จึงเสนอความคิดให้ทั้งคู่ออกเดินทางไปพักผ่อนด้วยกัน
พระองค์เชื่อว่า นี่คือวิธีที่จะช่วยแก้ใขได้เป็นอย่างดี เพราะ มันเคยได้ผลกับพระองค์มาก่อน ย่อมได้ผลกับพระโอรสและพระสุนิสาเช่นกัน  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 98  เมื่อ 13 มี.ค. 06, 09:18

เชิญอ่านต่อที่กระทู้นี้ค่ะ
 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=20&Pid=47818  
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 [7]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.053 วินาที กับ 19 คำสั่ง