นายโรเจอร์สรีบรับปากกับพระองค์ทันทีว่า เรื่องแค่นี้..หมูๆ เพราะนักข่าวส่วนใหญ่มักจะถามเรื่องที่ไม่ค่อยมีสาระอยู่แล้ว..เขาว่า..
เมื่อถึงเวลานั้นเข้าจริงๆ นายโรเจอร์สจึงได้เห็นพระปรีชาของเจ้าชายพระสวามีว่า..ปราดเปรียว และ ปราดเปรื่องนัก
นักข่าวจากไมอามี่..ถามว่า.."วงดุริยางค์ของลอนดอนเป็นอย่างไรบ้างพระเจ้าค่ะ"
"ก็เล่นเพลงเพราะดีนี่"
"พระองค์ทรงคิดที่จะส่งพระโอรสและพระธิดาให้มาศึกษาในอเมริกาบ้างไหมพระเจ้าค่ะ?"
"ถ้าจะให้ตอบตอนนี้เลย..ก็เห็นท่าจะไม่นะ แต่พอคุณพูดเสนอความคิดขึ้นมา..เราก็จะกลับไปลองคิดดูใหม่"
"พระองค์ทรงมีความเห็นอย่างไร เกี่ยวกับความสำเร็จอย่างมากมายของวง เดอะ บีตเทิลส์ และรายได้ที่พวกเขาได้สร้างกันอย่างมหาศาลให้กับประเทศอังกฤษพระเจ้าค่ะ?"
"ก็งั้นๆ นะ..ไม่ได้มากมายอะไรอย่างที่คิดกัน"
(เจ้าชายฟิลิปไม่เคยทรงโปรด และให้ความสนใจกับบรรดาเพลงร๊อคทั้งหลาย อย่างครั้งหนึ่งที่พระองค์ได้ทรงมีโอกาสได้ไปทอดพระเนตรการแสดงของ ทอม โจนส์ เมื่อตอนที่ส่งเสด็จ พระองค์ได้ตรัสถามทอม โจนส์ ว่า..
"ถามจริงเถอะ..คุณใช้อะไรกลั้วคอตอนเช้าๆ น่ะ..เมล็ดกรวดหรือไง สุ้มเสียงถึงได้แหบอย่างนั้น?
พอวันต่อมา..ที่พระองค์ได้นำเรื่องนี้ไปเล่าในการประชุมนักธุรกิจว่า..แทบทำพระทัยเชื่อได้ยากว่า นายทอมคนนี้ ที่มีอายุเพียง ยี่สิบห้าปี มีค่าตัวถึงสามล้านเหรียญ โดยการร้องเพลงที่สุดห่วยจนทนฟังแทบไม่ได้
"ทำไมวันเฉลิมพระชนม์ของสมเด็จจึง...............

??"
"อย่าให้ตอบเรื่องนี้ได้ไหม..ว่าทำไมจึงมาฉลองวันเฉลิมฯ ในเดือนมิถุนายน (พิธี Trooping the Colour) ทั้งๆ ที่ทรงประสูติในเดือนเมษายน มันเป็นปัญหาโลกแตกน่ะ อย่างทำไมเราจึงเรียกเงินว่า ปอนด์ หรือ ชิลลิ่ง หรือกฏประหลาดๆ ของอังกฤษที่มักไม่มีคำตอบที่แน่นอนน่ะ"
ไม่ว่าการพบปะกับนักข่าวในครั้งไหนหรือที่ไหน เจ้าชาย
ฟิลิปได้ทรงสร้างความพอใจให้กับนักข่าวอย่างเอกอุ ด้วยการแทรกพระอารมณ์ขันลงไปบ้างประปราย..
และผลสำเร็จคือ พระองค์ได้ทรงสามารถระดมกองทุนบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ได้นับล้านๆ เหรียญ
เมื่อเสด็จกลับไปยังลอนดอน พระองค์ได้นำเสนอเรื่องให้พิจารณาการว่าจ้างบริษัทมีเดียให้กับสถาบันพระราชวงค์วินด์เซอร์ หรือ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในคำว่า..The Firm ทันที
(คำว่า..The Firm นั้น เปรียบได้ดังที่ว่าคือ สถาบันพระราชวงค์ ที่ประกอบไปด้วย สมเด็จ และครอบครัว..จากนั้นคือ เหล่าเสนาบดีที่มีการถวายงานอยุ่ในทุกสาขา ที่เปรียบได้ราวกับองค์กรใหญ่ๆ องค์กรหนึ่งทีเดียว)
(***จะตอบให้ว่า ทำไมวันเฉลิมจึงเลื่อนมาฉลองในเดือนมิถุนายน ก็เพราะว่าในเดือนเมษายนนั้น ดินฟ้าอากาศของอังกฤษยังไม่เป็นใจในการที่จะทำการพาเหรด หรือจัดงานสำคัญที่จะเรียกนักท่องเที่ยวให้แห่แหนกันมาน่ะซิคะ
วันเฉลิม หรือ Trooping the Colour นั้น เป็นงานใหญ่ระดับชาติ ที่สมเด็จทรงประทับในรถม้าพระที่นั่ง และเรียงตามมาด้วยสมาชิกในพระราชวงค์ทั้งหมด กองดุริยางค์โอ่อ่าตระการตา..
เม็ดเงินสะพัดนับร้อยๆ ล้านปอนด์ ขืนไปจัดในวันเฉลิมจริงๆ ในเดือนเมษายน คนดูอาจต้องวิ่งหลบฝนกันจ้าละหวั่น..วิวันดา)