นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
     
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 22 ก.พ. 06, 16:13
|
|
แก้ม เคยเห็นว่าพระปราง แต่กระพุ้งแก้มว่า พระกำโบล นี่เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกันครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
UP
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 22 ก.พ. 06, 16:29
|
|
แหม คุณเทาชมพูก็ให้ผมเฉลยคำนี้จนได้ หากผมจำความหมายของพระจูจุกะไม่ผิดนะครับ เพราะตอนนี้หนังสือเล่มนั้นไม่อยู่ในมือ
"พระจูจุกะ" นั้นเป็น subset ของพระปโยธรครับ ที่ผมเคยได้ยินครูบาอาจารย์หรือผู้หลักผู้ใหญ่ท่านเรียกอวัยวะส่วนนี้ ท่านจะเรียกว่า "ยอดพระถัน" ..เท่านี้ท่านทั้งหลายก็คงทราบแล้วว่าคืออะไร
ส่วน "พระปโยธร" นั้น ผมถนัดใช้ว่า "พระถัน" จะเข้าใจและคุ้นเคยกับคนไทยกว่ามาก "ถัน" นั้นฟังดูเป็นปทุมถันเต้านมอย่างนางในวรรณคดีไทยที่เรารู้จัก ส่วน "ปโยธร" นั้นชวนให้ผมนึกไปถึงนมนางในมหากาพย์ของแขกอินเดีย จำพวกมหาภารตะโน่น
"รก" นั้นก็ใช้กันมาว่า "พระสกุน" พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานก็เก็บคำว่าพระสกุนไว้ พิธีเวลาพระราชกุมารหรือพระราชกุมารีประสูติ ก็มี การฝังพระสกุน แล้วปลูกต้นไม้มีหนามทับ ไม่เคยได้ยินว่าพิธีฝังพระครรภมลสักที "ครรภมล" ฟังดูเหมือนท้องสกปรกยังไงไม่ทราบ
เอ..หรือว่า "ครรภมล" มีมารากมาจากคำว่า "สกปรก 'รก' รุงรัง --มล" ใน "ท้อง --ครรภ" ก็ไม่ทราบ ...อย่าถือเป็นสาระนะครับ ผมพูดไปเรื่อยเปื่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
UP
|
ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อ 22 ก.พ. 06, 16:38
|
|
ส่วน "พระผาสุกะ" เห็นแล้วก็นึกไปถึงคำว่า "ผาสุก" ไม่ทราบว่ามีเทือกเถาเหล่ากอของคำที่เกี่ยวข้องกันหรือไม่
ขออำนวยพรให้ท่านประสบแต่ความผาสุก จะกลายเป็นอวยพรให้ท่านได้รับประทาน BBQ Ribs หรือจะอวยพรให้ท่านพ้นจากภัยซี่โครงเดาะหรือไม่ ไม่ขอยืนยันครับ
วันนี้ ผมเพ้อเจ้ออีกแล้วครับ สงสัยจะผมง่วงมากแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โกยถ่าน
อสุรผัด

ตอบ: 1
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 23 ก.พ. 06, 04:04
|
|
ขอถามอีกคำนะครับ
คำว่า "สมรภูมิ" มาจากการสนธิของคำใดเหรอครับ
เท่าที่คิด น่าจะมาจาก "สมร"+"ภูมิ"
ซึ่งคำแปลที่ได้มันไม่ค่อยจะตรงกับความหมายที่ใช้ในปัจจุบันเอาซะเลย (สมร=ผู้หญิง!?!)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33414
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 23 ก.พ. 06, 07:08
|
|
ส = ร่วม มร = ตาย (อย่างที่เราใช้คำว่า มรณะ)
สมรภูมิ = พื้นที่ของผู้ตายร่วมกัน
คนละคำกับคำว่า สมร ที่แปลว่าผู้หญิง ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
B
แขกเรือน
ชมพูพาน
  
ตอบ: 148
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 23 ก.พ. 06, 07:49
|
|
แฮ่ะ อาจารย์คะ ตอนแรกหนูคิดว่าใช้ สมรภูมิ เพราะผู้หญิงชอบชวนทะเลาะเสียอีกแน่ะค่ะ คำราชาศัพท์ที่อาจารย์ยกมา ทำเอาหนูมึนตึ้บค่ะ หนูกำลังสงสัยว่ามีกี่คนกันนะที่ทราบความหมายและนำมาใช้ได้ถูกต้องนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33414
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 23 ก.พ. 06, 10:55
|
|
ไม่อยากให้คุณ B และท่านอื่นๆมึนตึ้บกว่านี้ แต่ไหนๆก็ไหนๆ
คำต่อไปนี้ดิฉันเคยเรียนมาว่า เป็น "คำสุภาพ " แต่ในหนังสือของคณะกรรมการเอกลักษณ์ รวมเป็นราชาศัพท์ ไปด้วย คำว่า "ราชาศัพท์ " เลยมีความหมายกว้างขวางมาก แทบจะครอบจักรวาล แม้แต่คำเรียกสัตว์ และพืช ก็มีราชาศัพท์(ด้วยแฮะ) จัดอยู่ในหมวด ที่ 6 สัตว์และเบ็ดเตล็ด
ลองอ่านดูนะคะ ราชาศัพท์หมวดสัตว์และพืช กระบือ กล้วยสั้น กล้วยเปลือกบาง กล้วยกระ ขนมดอกเหล็ก ขนมทราย ขนมสอดไส้
ดอกขจร ดอกมณฑาขาว ดอกสามหาว ดอกเหล็ก
ต้นจะเกรง ต้นอเนกคุณ ถั่วเพาะ
ปลายาว ปลามัจฉะ
ผลอุลิต ผักรู้นอน เห็ดปลวก
ใคร (ยกเว้นคุณ UP) รู้บ้างว่าแปลว่าอะไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
B
แขกเรือน
ชมพูพาน
  
ตอบ: 148
|
ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อ 23 ก.พ. 06, 11:06
|
|
กระบือ-ควาย กล้วยสั้น-กล้วยไข่ กล้วยเปลือกบาง กล้วยกระ ขนมดอกเหล็ก ขนมทราย-ขนมขี้หนู ขนมสอดไส้-ขนมใส่ไส้
ดอกขจร ดอกมณฑาขาว ดอกสามหาว-ผักตบ ดอกเหล็ก-ขี้เหล็ก
ต้นจะเกรง ต้นอเนกคุณ ถั่วเพาะ-ถั่วงอก
ปลายาว-ปลาไหล ปลามัจฉะ
ผลอุลิต-แตงโม ผักรู้นอน-ผักกระเฉด เห็ดปลวก
คำที่เว้นไว้ไม่ตอบ เพราะเดาไม่ถูกจริงๆค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Nuchana
|
ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อ 23 ก.พ. 06, 11:19
|
|
กระบือ = ควาย กล้วยสั้น = กล้วยกุ กล้วยเปลือกบาง กล้วยกระ=กล้วยไข่ ขนมดอกเหล็ก ขนมทราย = ขนมขี้หนู ขนมสอดไส้ =ขนมใส่ไส้
ดอกขจร=ดอกสลิด ดอกมณฑาขาว=ดอกยี่หุบ ดอกสามหาว=ผักตบชวา ดอกเหล็ก=ดอกขี้เหล็ก
ต้นจะเกรง=? ต้นอเนกคุณ=ต้นตำแย ถั่วเพาะ=ถั่วงอก
ปลายาว=ปลาไหล ปลามัจฉะ=ปลาร้า
ผลอุลิต=แตงโม ผักรู้นอน=ผักกระเฉด เห็ดปลวก=เห็ดโคน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
UP
|
ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อ 23 ก.พ. 06, 15:33
|
|
ขอนอกเรื่องอีกนิดเถิดครับ
คำว่า "อเนกคุณ" ที่แปลว่าตำแย นั้นชวนให้ผมคิดไปถึงเรื่องเล่าจากคณะกรรมการที่คิดชื่อเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลใหม่ล่าสุด คือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดิเรกคุณาภรณ์
ว่ากันว่ามีผู้เสนอชื่อสำหรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลใหม่นี้หลายชื่อ เช่น เครื่องราชอิสริยาภรณ์พระครุฑพ่าห์ ฯลฯ และหนึ่งในจำนวนนั้นคือ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ "อเนกคุณาภรณ์" ฟังดูไพเราะดีใช่มั้ยครับ อาภรณ์แห่งผู้ทรงคุณความดีอย่างมาก
แต่มีผู้หลักผู้ใหญ่ท่านหนึ่งทักขึ้นว่า "อเนกคุณ" นั้นคือต้นตำแย เกรงว่าผู้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลนี้จะไม่สะดวกใจนัก เกรงจะคัน จึงเป็นอันระงับชื่อนี้ไป
ในที่สุด ด้วยพระราชอัจฉริยภาพอันวิเศษ ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่ง "ดิเรกคุณาภรณ์" มีความหมาย แถมเสียงของคำก็ไพเราะ ที่สำคัญคือไม่มีความหมายนัยแฝงใดๆ ให้ชวนคิดอย่าง "อเนกคุณ" อีกด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
UP
|
ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ 23 ก.พ. 06, 15:37
|
|
อ้อ...ศิลปินแห่งชาติทุกท่านได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ด้วย
มั่นใจว่าผู้เมตตาให้ความรู้ในเรือนไทยนี้บางท่านคงรู้จักเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลนี้เป็นอย่างดี และเคยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้เป็นเกียรติยศแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33414
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อ 23 ก.พ. 06, 16:12
|
|
ผู้ใหญ่ท่านที่ท้วงคำว่า อเนกคุณาภรณ์ เป็นท่านที่จำราชาศัพท์ได้แม่นยำมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เจ้าพระยายุทธาวุฒิ
อสุรผัด

ตอบ: 3
โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีมหาธาตุ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
|
ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อ 24 ก.พ. 06, 13:12
|
|
สวัสดีครับ ผมเป็นน้องใหม่ของที่นีครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยคร้าบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Nuchana
|
ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 24 ก.พ. 06, 18:49
|
|
เทพบุตร "จุติ" ลงมาเกิด อยากให้คนมีบุญ "จุติ" ลงมาในครรภ์
อยากทราบว่าในบริบทของสองประโยคข้างต้น ต้องการคำว่า "ตาย" หรือไม่คะ เหตุใดจึงไม่ใช้ว่า อยากให้เทวดาลงมาเกิด แต่ต้องไปย้ำว่าตายก่อน แล้วค่อยมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33414
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อ 25 ก.พ. 06, 09:50
|
|
คำว่า "จุติ" เคยอธิบายไว้ในกระทู้ใดกระทู้หนึ่งก่อนหน้านี้แล้ว
ความหมายเป็นยังงี้ค่ะ ก่อนลงมา "เกิด" เป็นมนุษย์ เทวดาต้อง "ตาย" ซะก่อน
จุติคือการเปลี่ยนสภาพอย่างหนึ่งไปเป็นอีกอย่าง ก็คือ "ตาย"น่ะค่ะพูดง่ายๆ ใช้กับเทวดา ไม่ใช้กับมนุษย์หรือสัตว์
เทวดาจุติลงมาเกิด คือเทวดาองค์นั้น"ตาย" จากความเป็นเทวดาซะก่อน ผ่านขั้นตอนนี้แล้วจึงมา" เกิด " ในท้องของแม่คนใดคนหนึ่งบนโลกมนุษย์
ประโยคที่สอง ที่คุณนุชนายกมา มักใช้กันผิดๆ เพราะนึกว่าจุติแปลว่า "ลงมาเกิด" ที่จริงความหมายคือ "ตาย" ก่อนจะลงมาเกิด
คุณนุชนาเคยดู Star Trek ไหมคะ เวลากัปตันหรือลูกเรือบนยานเอนเทอไพรซ์เขาจะลงไปสำรวจดาวดวงไหน เขาก็เดินเข้าไปในเครื่องแปลงสสารร่างกาย ตัวเขาก็วูบหายจากเครื่อง แล้วมา...วู้บบบ.. ใหม่ สสารก็รวมตัวกันเข้ามาเป็นมนุษย์ตามเดิม บนดาวดวงนั้น
ขั้นตอนเทวดาจุติก็คล้ายๆกัน คือพอหมดบุญ ร่างกายอันเป็นทิพย์ก็วูบ...หายจากสวรรค์ เรียกว่า"จุติ" มาวู้บ...เป็นตัวอ่อนในท้องแม่ (ไม่เหมือนในหนังที่ไม่มีขั้นตอนการเจริญเติบโต) เรียกว่าปฏิสนธิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|