สวัสดีครับ ขออนุญาตเสียมารยาท(รอผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่านที่ว่า)ครับ
1. ที่คุณออตโต้บอกว่า
"1.ทูลกระหม่อมพ่อของพระองค์จุลเป็นเจ้าฟ้าที่ได้รับพระมหากรุณาเป็นพิเศษให้ใช้ทิวงคต ซึ่งมีอีกองค์ที่ใช้คำว่าทิวงคตเหมือนกันแต่จำพระนามไม่ได้ คุ้นๆว่าน่าจะเป็นเจ้าฟ้าภาณุฯตามประวัติศาสตร์มีเพียง 2 องค์เท่านั้นที่ได้โปรดพระราชทานเป็นพิเศษ ผมขอเดานะครับว่าที่กรมหลวงพิษณุโลกได้พระราชทานอาจด้วยเพราะพระองค์ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาทสืบต่อร.6 หากพระองค์ไม่ทรงมีพระโอรสตามพระราชพินัยกรรม"
สมเด็จเจ้าฟ้าที่ใช้คำว่าทิวงคตได้ มี เท่าที่ทราบมีทูนกระหม่อมเล็ก(สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกฯ) และทูลกระหม่อมเอียดเล็ก(สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนครราชสีมา)ครับ
อนึ่ง ทั้งสองพระองค์ทรงพระยศเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราชในรัชกาลที่ ๖
ผมคิดว่าผู้ที่ใช้คำว่า ทิวงคตได้ก็มีอีกครับ คือ กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (ปัจจุบันให้ถือว่าวังหน้าทุกพระองค์ใช้ ทิวงคต หมด แทนที่จะเป็นสวรรคต แต่เรื่องนี้ผมไม่มั่นใจ คงต้องให้ทั้ง 3 ท่านชี้แจงความกระจ่างอีกคราวครับ)
แต่วังหลังใช้ทิวงคตหรือไม่ ผมไม่แน่ใจอีกเหมือนกันครับ
2. จากความเห็นที่ 7 ของคุณ B
สมเด็จเจ้าพระยาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์มี 3 ท่านครับ ได้แก่
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์
สมเด็จเจ้าฟ้าบรมมหาพิชัยญาติ
และ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์(สถาปนาในรัชกาลที่ 5 )
ทั้งสามท่าน มาจากสกุลบุนนาค มีศักดินาสูงกว่าเจ้านายทรงกรมสมเด็จพระ(ต่อมา ในสมัย ร. ๖ จึงมีการปรับเจ้านายกรมสมเด็จพระ เป็นสมเด็จกรมพระและสมเด็จกรมพระยา)
ผมคิดว่า อำนาจของสมเด็จเจ้าพระยาคงพอ ๆ กับท่านอ๋องในราชสำนักจีน นำมาเทียบกับสมัยปัจจุบันไม่ได้ครับ
นอกจากนี้ เจ้าคุณจอมมารดาให้ใช้คำว่า พิราลัยได้เช่นกัน เช่น เจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ เป็นต้น
3. ผมเคยได้ยินว่า ประธานรัฐสภาและประธานศาลฎีกาน่าจะใช้ ถึงแก่อสัญกรรม
ประธานาธิบดี ให้ใช้คำว่า ถึงแก่อสัญกรรมครับ