เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 24707 การละเล่นไทย ๆ หายไปไหนหมด
สมศรี
บุคคลทั่วไป
 เมื่อ 06 ก.ย. 00, 12:00

เข้ามาอ่านบทความและข้อความตรงนี้ รู้สึกดีที่มีการสนับสนุน การรักษาความเป็นไทยไว้
แล้วความรู้สึก คิดถึงชีวิตวัยเด็กก็เกิดขึ้นในใจอีก

จำได้สมัยเด็ก ๆ ถ้าวันไหนไม่ได้เล่นมอญซ่อนผ้ากับเพื่อนใกล้บ้าน วันนั้นจะรู้สึกว่า ไม่ได้ทำอะไรไปซักอย่าง

แต่ตอนนี้การละเล่นไทย ๆ แทบจะไม่หลงเหลืออยู่เลย เคยถามเด็ก ๆ ว่า
มอญซ่อนผ้า เป็นไง ไม่มีใครรู้จัก น่าจะมีการส่งเสริมในด้านนี้บ้างนะคะ
บันทึกการเข้า
สมชาย
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 26 ส.ค. 00, 00:00

เคยเล่นมอญสอนผ้าอยู่เมื่อตอนเด็ก เหมือนกันครับ สนุกดีแต่ตอนเลื่อนชั้นชึ้นเด็กก็จะเล่นอย่างอี่นเช่นเป่ากบ กระโดยาง ตี่  ไม่รู้หรอกครับว่าเด็กสมัยนี้เล่นอะไรกัน   ถ้าไม่ได้เล่นแบบไทย ๆ ก็น่าสงสาร
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 26 ส.ค. 00, 00:00

ตอนเด็กๆเคยเล่นต้องเต  หมากเก็บ  แม่งูก็เล่นเป็นค่ะตอนประถมต้นๆ
เดี๋ยวนี้เด็กเขาเล่นอะไรกันคะ  สงสัยจะเล่นคอมพิวเตอร์กันหมด
บันทึกการเข้า
วิมม่าน้อย
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 27 ส.ค. 00, 00:00

หมากเก็บ เพิ่งจะเล่นหมาดๆ เลยค่ะ (ฮาา)  เล่นตั้งแต่เด็ก มาตอนนี้โตมาอีกหน่อย นึกว่าจะหนีพ้น ไม่พ้นค่ะ  หลานชวนเล่น  ตอนไปใต้ เจอเด็กบนรถไฟ ก็มากันทั้งครอบครัว เห็น เดินวนไปวนมา พร้อมกับเชือกหนึ่งเส้น  ก็เลย (ทำใจกล้า ทำหน้าให้อ่อน อิอิ ) ชวน น้อง เล่น เส้นเชื่อก  เค้าเรียกว่าอะไรคะ เรียกไม่ถูก ที่ต้อง แก้กันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจนมุม  
ตัวเอง เล่นกี่ที กี่ที เชือกก็พันกันหมดท่า เลยค่ะ    แล้วก็เรียกไม่ถูกอีกอย่างก็คือ  เวลาเล่น
ต้องขีดตารางบนพื้นดินเป็นตาๆ  จะมีกี่แถว กี่คอลัมน์ก็จำไม่ได้แล้วค่ะ จากนั้นก็ใช้ ลูกหิน
โยนไปที่ตาไหนก็ได้  แล้วก็ กระโดดขาเดียว ไปเก็บหิน จากจุดเริ่มต้นไปจุดสุดท้าย  จากนั้น
พอถึงจุดหมาย ก็จะนำก้อนหินที่เก็บนั้น  โยน
โดยหันหลังโยนนะคะ  หินตก ตรงช่องไหน ช่อง นั้นก็เป็นของเรา  ครั้งต่อไปที่กระโดดขาเดียวมา ก็สามารถพักขาได้ที่ช่องนี้ แต่ถ้า
คนอื่น ไม่สามารถพักขาได้ค่ะ ต้องข้ามช่อง
ของเราไป ถ้าได้ช่องที่ติดกันซักสามช่อง ก็
ทำให้ผู้เล่นคนอื่นจนแต้มเพราะไม่สามารถจะ เดินทางไปถึงจุดหมายได้  นอกจากจะเป็น
นักกระโดดไกล (ขาเดียว)   แต่จำกฎกติกาอย่างอื่นไม่ได้แล้วค่ะ  มีการพลิกแพลงเยอะด้วย นะคะ ยังงง อยู่เลย ว่าอธิบายไปนี่น่ะ
มีใครเข้าใจบ้าง  ชักงงตัวเองค่ะ  

แต่ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบ ค่ะ
บันทึกการเข้า
olala
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 27 ส.ค. 00, 00:00

ชอบด้วยคนค่ะ
ได้ใส่สไบเล่นมอญซ่อนผ้า รีรีข้าวสาร แม่งูเอ๋ย ฯลฯ
ไปเมื่อสามสี่ปีก่อนค่ะ (ถึงวัยไม่ให้แต่ใจรักค่ะ) ด้วยความจำเป็นค่ะ แลบลิ้น
คือมีงานของสมาคมนักเรียนไทยจัดน่ะค่ะ มีการแสดงมากมายให้คนต่างชาติชม
ตัวเราเนี่ยก็รำเก่งมากค่ะ (จนเค้าไม่ให้รำ ?!?) เค้าให้เล่นการละเล่นไทยแทนค่ะ
(เหมาะสมกว่า) สนุกมากค่ะ อายุ (ทางใจ) ลดลงไปเยอะเลย
ที่อยากเล่นแต่ไม่เคยเล่นคือ ที่เค้าเอากะลามะพร้าวสองอัน มาร้อยกับเชือก
แล้วเราก็เดินบนกะลาน่ะค่ะ อีกอย่างก็มีไม้ต่อขา ที่เป็นไม้ยาวๆสองอัน มีที่เหยียบ
แล้วก็ทรงตัวเดินบนไม้น่ะค่ะ (อธิบายยากจัง งงไหมคะ?) อีกอย่างที่ชอบคือ
ม้าก้านกล้วยค่ะ ยิ้ม เอ ปืนกล้วยก็มีใช่ไหมคะ ยิ้ม ชอบทุกอย่างเลยค่ะ ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 27 ส.ค. 00, 00:00

เพิ่งนึกได้ว่า การเล่นมอญซ่อนผ้า เหมือนการเล่นของเด็กอังกฤษเลยค่ะ
เขาเรียกว่า I tisket, I tasket (อาจจะสะกดผิดนะคะ แต่เขาร้องอย่างนี้ละค่ะ)
ส่วนรีรีข้าวสาร เหมือนการเล่นที่เรียกว่า London Bridge is falling down ใช่หรือเปล่าคะ   ที่สองคนจับมือกันยกขึ้นสูง แล้วให้เพื่อนๆลอดผ่าน  พอเพลงจบที่คนไหน  ก็ลดมือลงจับคนนั้นขังไว้
เมื่อเรียนในโรงเรียนคาธอลิค     ใช้บทร้องเป็นภาษาอังกฤษทั้ง ๒ อย่าง  ตอนโตมารู้ว่าเป็นการเล่นแบบไทยๆก็เลยแปลกใจว่าเหมือนกันโดยบังเอิญหรือเปล่า
บันทึกการเข้า
แก้วแกมกานต์
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 28 ส.ค. 00, 00:00

พูดถึงการละเล่นของไทยเรา มีสิ่งหนึ่งที่ประทับใจและคิดว่าเป็นเอกลักษณ์
นั่นก็คือ การละเล่นของไทยเรานั้นใช้วัสดุที่หาง่ายได้ตามท้องถิ่น ยกตัวอย่าง
เช่น หมากเก็บ มอญซ่อนผ้าและ ม้าก้านกล้วย หรือบางการละเล่นก็ไม่จำเป็นต้องใช้
อุปกรณ์ใดๆสักเท่าไหร่เลย เช่น ตี่จับ รีรีข่้าวสาร งูกินหาง สะท้อนถึงนิสัย
ของคนไทย ที่เป็นคนเรียบง่าย และการเล่นก็ต้องมีสมาชิกจำนวนมากมาร่วม
เล่น นั่นก็อาจจะหมายความได้ว่า สังคมไทยมีลักษณะเป็นครอบครัวใหญ่ และ
การละเล่นนี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสามัคคีภายในครอบครัวหรือใน
หมู่เพื่อนฝูง  แต่มาสมัยนี้คงหาดูได้ยากแล้วมังคะ อาจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย
อย่าง เช่น  บางการละเล่นต้องใช้สถานที่เล่นในลานกว้าง ถ้าให้มาเล่นในเมือง
ใหญ่ก็คงจะลำบากหน่อย หรือ วัสดุบางอย่างอาจจะหาได้ยาก เช่น ก้านกล้วย
อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคงอยู่ที่พ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็นคนปลูกฝังเด็กให้รู้จักการ
ละเล่นแบบไทย เพราะเด็กๆสมัยนี้มีกิจกรรมเสริมมากมายเหลือเกิน เด็กบางคน
แทบจะหัวหมุนที่จะต้องใช้เวลาว่างนอกเหนือจากการเรียนมาทำกิจกรรมที่พ่อแม่
สนับสนุน อย่างเช่น เรียนพิเศษ เรียนดนตรี เล่นกีฬา ซึ่งก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีนะคะ
แต่ยังงัยก็ตามควรคำนึงถึงcapacityของเด็กเป็นสำคัญ อ้าว..นี่พูดไปพูดมาออก
จากเรื่องการละเล่นไทยไปเรื่องอื่นซะจนได้  งั้น..วกกลับมาเรื่องหลักดีกว่า
ในเมื่อไม่มีผู฿้ใหญ่สนับสนุน ก็ไม่มีเด็กคนไหนสนใจ แล้วจะมีใครมาเล่น เพราะ
อย่างที่บอกว่าเล่นแต่ละอย่างก็ต้องมีคนจำนวนเยอะถึงจะสนุก แต่คิดว่าใน
ต่างจังหวัดบางแห่งน่าจะมีการละเล่นดังกล่าวนี้หลงเหลืออยู่บ้างนะคะ อันนี้คิดว่า
ก็คงต้องฝากความหวังไว้ที่ท่านผ฿ูู้ใหญ่ทั้งหลายแล้วล่ะคะ อนุรักษ์กันไว้เถอะค่ะ
ของของไทย หาดูที่ชาติไหนคงไม่ได้แล้ว มีอะไรที่เป็นของชาติเราเก็บไว้ให้
ลูกให้หลานดูมันน่าภูมิใจนะคะ มรดกของชาติไทยก็เหมือนมรดกของคนไทยทุกคน

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 30 ส.ค. 00, 00:00

มาแนะนำ เว็บ การละเล่นของไทยค่ะ

๑) http://mk-suki.com/mats-0143.html' target='_blank'>http://mk-suki.com/mats-0143.html

๒) http://www.kularbnon.hsin.ac.th/skl/project/thai/index.htm' target='_blank'>http://www.kularbnon.hsin.ac.th/skl/project/thai/index.htm

๓) http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK13/chapter7/chap7.htm' target='_blank'>http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK13/chapter7/chap7.htm

๔) http://www.kanchanapisek.or.th/kp8/thai/link2_4.htm' target='_blank'>http://www.kanchanapisek.or.th/kp8/thai/link2_4.htm
บันทึกการเข้า
เพิ่งมา
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 07 ก.ย. 00, 00:00

ได้อ่านบทความที่ชื่อ จากบนเวบแต่จำไม่ได้แล้วว่าที่ไหน เค้าบอกไว้ว่า
ประเทศไทย เป็นชาติที่ถูกกลืนวัฒนธรรมได้ง่าย กล่าวคือรับวัฒนธรรมใหม่
เข้ามาเร็วเกินกว่าที่จะคงรักษาวัฒนธรรมเก่าไว้ได้ ไม่เหมือนกับประเทศอื่น ๆ เช่น
ญี่ปุ่นที่ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมตะวันตกจะเข้ามามีบทบาทเพียงใด การใส่ชุดกิโมโนยัง
เป็นที่นิยม(ด้วยใจจริง ไม่โดนบังคับ) การทำสวนหิน การกินชา ดนตรีญี่ปุ่น แบบ
เดียวกันกับเกาหลีหรือไต้หวันครับ

ส่วนพี่ไทยเรารับเกม play station  รับการส่งข้อความผ่านเพจเจอร์ ความสนุกแบบ
เก่าคงจะเลือนหาย อีกหน่อยก็คงไม่เหลือแม่แต่ชื่อหล่ะครับ การละเล่นพวกนี้
น่าเสียดายที่ผมไม่มีอำนาจจัดการด้านนี้ ขอผู้รับผิดชอบกรุณาเก็บไว้ทบทวนด้วยครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 07 ก.ย. 00, 00:00

ไทยเป็นชาติที่รับวัฒนธรรมชาติอื่นมาใช้ตั้งแต่สุโขทัยแล้วค่ะ
แต่ในอดีตเรารับวัฒนธรรมชาติอื่นเข้ามาประยุกต์กับไทย  ไม่ได้รับมาล้วนๆโดยไม่ปรับ    เกิดเป็นรูปแบบใหม่ที่ก้ำกึ่งกัน
 ถ้าจะพูดเรื่องนี้ให้ละเอียดต้องมุ่งไปทางด้านศิลปะถึงจะเห็นชัด  อย่างการรับการตกแต่งหน้าบันด้วยกระเบื้องแบบจีน  ในรัชกาลที่ ๓  หรือภาพของขรัวอินโข่งที่วัดบวรนิเวศก็เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ
เมื่อก่อน รับมาแบบประยุกต์ เดี๋ยวนี้รับมาแบบ copy หรือเปล่า เป็นหัวข้อที่น่ามองถึงรายละเอียดให้ดี
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.079 วินาที กับ 19 คำสั่ง