ไม่แน่ใจว่า ยิ่งถกกัน เรื่องราวจะยิ่งไม่ตรงประเด็นไปกันใหญ่หรือเปล่า
ทั้งนี้เพราะคุณบุรุษจรัสแสงคือผู้ที่ทราบแหล่งข้อมูล
อันเป็นต้นตอหรือที่มาของกระทู้นี้ แต่เพียงผู้เดียว
คุณเปิดประเด็นครั้งแรกด้วยเรื่องของคำที่ทำหน้าที่บุรพบท
ประเด็นต่อมาที่คุณนำเสนอคือเรื่องการแปล (ความเห็นเพิ่มเติมที่

อิฉันเห็นด้วยบางส่วนกับข้อความในความเห็นเพิ่มเติมที่ 8
ทั้งนี้เพราะเคยเห็นหนังสือแปลบางเล่มเข้าข่ายดังกล่าว
แต่เรื่องความสามารถหรือภูมิรู้ของผู้แปล
ไม่ใช่เรื่องเดียวกับ หลักไวยากรณ์ ซึ่งเป็นประเด็นเริ่มแรกของกระทู้นี้
อิฉันมีความเห็นส่วนตัวเพื่อเสนอแนะเพิ่มเติมว่า
ในกรณีที่คุณอ่านหนังสือหรือบทความหรือข้อเขียนอื่นๆ
คุณควรศึกษาและทำความเข้าใจจุดมุ่งหมายของทั้งผู้เขียนและของหนังสือเล่มนั้นก่อนเป็นอันดับแรก
หากคุณมีคำถามเกิดขึ้นในระหว่างที่อ่าน คุณควรพิจารณาต่อไปว่า
ตอน/ส่วน/หรือบทที่คุณกำลังอ่านแล้วเกิดคำถามขึ้นนั้นมีวัตถุประสงค์เฉพาะว่าอย่างไร
ข้อความที่เป็นต้นตอของสิ่งที่คุณสงสัยได้รับการอภิปรายต่อไปว่าอย่างไร
หรือหากไม่มี ตัวคุณเองจะอภิปรายต่อหรือจะหาข้อมูลจากแหล่งอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ ฯลฯ
ผู้ค้นคว้าที่รอบคอบ ย่อมไม่ยึดถือแหล่งข้อมูลเพียงแหล่งเดียวเป็นสรณะ,
ไม่ด่วนสรุปเอาโดยปราศจากการรู้เท่าทันแหล่งข้อมูลที่ตนกำลังใช้งาน, ฯลฯ
อีกอย่างคือ การเปิดประเด็นเพื่ออภิปรายเป็นเรื่องที่ดีค่ะ
อิฉันเองสนับสนุนและไม่อยากให้คุณ "ฝ่อ" กับการเป็นผู้เปิดประเด็นอภิปรายไปซะก่อน
แต่คุณพึงระลึกไว้เสมอว่า (สำคัญอย่างมากด้วย) คุณควรพยายามทำความเข้าใจประเด็นดังกล่าวมาแล้วพอสมควร
แต่ยังขบไม่แตก
คุณควรบอกที่มาที่ไป บอกบริบท บอกแหล่งข้อมูลต่างๆ (ซึ่งย่อมไม่ใช่จากแหล่งๆเดียว)
เพื่อที่จะช่วย "ประเด็น" ที่คุณตั้งขึ้นได้รับการอภิปรายที่ตรงเป้า
คนที่ร่วมวงอภิปรายกับคุณก็เข้าใจตรงกัน
เกิดความรู้หรือแนวความคิดที่ต่อยอดไปจากองค์ความรู้เดิม
ยอมรับตามตรงค่ะว่า ยิ่งตามอ่านกระทู้นี้
อิฉันยิ่งไม่เข้าใจประเด็นที่คุณนำเสนอ