เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5
  พิมพ์  
อ่าน: 31113 กลอนเก่าที่ข้าเจ้าประทับใจ
Little Sun
พาลี
****
ตอบ: 212

กำลังตามหาความฝัน


ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 04 เม.ย. 06, 23:43

 สรุปแล้วเข้าไปลิงค์นี้ได้อ่านทั้งเล่มหนึ่งและ เล่มสองนะคะ
 http://www.seasite.niu.edu/thai/maanii1/fsmaanii1.htm  
บันทึกการเข้า
viva
อสุรผัด
*
ตอบ: 15


ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 08 เม.ย. 06, 15:32

 ขอบคุณค่ะคุณlittle Sunที่ช่วยหาให้นะคะพอดีไม่ได้เล่นเน็ตหลายวันมากเลยค่ะเน็ตที่ทำงานเสียซะอย่างนั้นสงสัยเล่นMsnมากไปค่ะพอเข้ามาก็มึนงงนิดหน่อยค่ะเพราะว่าจำกระทู้ที่ถามไม่ได้คิดว่าหนังสือชุดนี้คงจะหาซื้อยากมากเลยนะคะหนังสือเรียนภาษาไทยรุ่นนี้เข้าใจว่าเทอมนึงเรียนเล่มนึงปีนึงก็เรียน2เล่มใช่มั้ยคะแล้วเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องกันจนถึงชั้นป.6เลยหรือเปล่าคะ
แต่ที่vivaเรียนตอนป.1ไม่ใช่เรื่องนี้นะคะเปลี่ยนเป็นเรื่องของแก้วกับกล้าแล้วค่ะ
 http://www.wanjai.com/seriesboard/list.php?q_id=147
มีลิ้งค์ที่เป็นตอนจบของเรื่องนี้ด้วยค่ะลองไปอ่านดูนะคะ
บันทึกการเข้า
เจ้าสำราญ
อสุรผัด
*
ตอบ: 21


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 08 เม.ย. 06, 20:25

 ผมจำได้เลาๆ ว่าอ่านตอนเรียนอยู่ป.3 เป็นตอนที่ลุงของปิติพาหลานๆ ไปเที่ยวชายทะเล โดยแต่งเป็นกลอนทั้งบท เท่าที่จำๆไดก็ประมาณว่า

"ผลิตผลจากไร่กำไรมาก            ลุงจึงอยากให้บำเหน็จกันถ้วนหน้า
จึงจัดสรรแบ่งกำไรในอัตรา         ต่างยินดีปรีดากันทุกคน
เงินยังเหลือลุงว่าพาหลานเที่ยว    ดูทะเลนำเขียวเล่นสักหน
คมนาคมดีมีรถยนต์                     ทุกแห่งหนไปได้สบายกระไร"

จำได้แค่นี้เองครับ ใครจำบทต่อไปได้ก็ช่วยเข้ามาต่อกันด้วยก็ดีนะครับ

ผมชอบแบบเรียนมานะ มานี ที่สุด  ตอนเด็กๆ เวลาไปซื้อหนังสือเรียนกลับมาบ้านแล้วผมจะอ่านหนังสือเรียนเล่มนี้จบก่อนเสมอ  และรู้สึกดีมากที่ได้ทันเรียนเป็นรุ่นสุดท้ายพอดี

เดี๋ยวนี้ไปดูตำราภาษาไทยของน้องก็รู้สึกว่าสู้ที่ผมเรียนไม่ได้  ขอยกให้เป็นแบบเรียนคลาสสิกในดวงใจเลยครับ
บันทึกการเข้า
viva
อสุรผัด
*
ตอบ: 15


ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 09 เม.ย. 06, 20:15

 ไม่แน่ใจใช่เรื่องเดียวกันหรือเปล่านะที่พวกเด็กๆเอาผลไม้จากไร่มาขายค่ะตั้งเพิงกันขายตามริมทางน่ะ  ใช่หรือเปล่าคะไม่แน่ใจจำได้ลางๆเหมือนกันค่ะรู้สึกว่าตอนนี้อ่านแล้วซึ้งมากะซึ้งในความคิดความอ่านของพวกเด็กๆอ่ะค่ะหลายๆอย่างค่ะ
บันทึกการเข้า
หนูหมุด
มัจฉานุ
**
ตอบ: 88


ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 10 เม.ย. 06, 17:12

 จำได้แต่กลอนที่แต่งให้ปิติน่ะค่ะ


ฉู่ฉี่ปลานิล
ของกินแสนอร่อย
ได้กินบ่อยบ่อย
เพราะปิติแสนดี

จึงขอขอบใจ
ขอให้โชคดี
ร่ำรวยเป็นเศรษฐี
เพราะปลานิลเทอญ

คงจะมีเพี้ยนๆไปตามกาลเวลาบ้างนะคะ    
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 10 เม.ย. 06, 18:56

 คุณหนูหมุดครับ,

ผมจำได้ว่ากลอนสี่ที่มานีแต่งให้ปิติมีว่าอย่างนี้ครับ

มัจฉาปลานิล
ของกินแสนอร่อย
กินได้บ่อยบ่อย
เพราะปิติแสนดี

จึงขอขอบใจ
ขอให้โชคดี
รวยเป็นเศรษฐี
เพราะปลานิลเทอญ

กลับมานั่งดูแล้วพบว่าตรงสัมผัสระหว่างบทนั้นมานีใช้คำซ้ำกันซึ่งดูแล้วไม่ใคร่จะถูกต้องนัก คือ แสน"ดี" กับ โชค"ดี" แต่เอาเถิด มานีเด็กชั้นประถมแต่งได้เท่านั้นก็เก่งหนักหนา

พิมพ์มาถึงตรงนี้แล้วก็ทำให้รู้สึกได้ว่าคุณหนูหมุดและหลายๆ ท่านในที่นี้เป็นคนยุคเดียวกันกับผม คือกลางเก่าค่อนใหม่ เพราะจะยุคนกกางเขนก็ไม่ถึง ส่วนจะว่ายุคใหม่เอี่ยมก็ไม่ใช่ เพราะเด็กสมัยนี้ไม่รู้จักมานะ มานี ปิติ ดวงแก้ว สมคิด จันทร เพชร แบบที่เราเรียนกันแล้ว
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 10 เม.ย. 06, 19:02

 สักวาชมธารละหานห้วย  
ระรินรวยน้ำตกกระเซ็นไหล
ระเรื่อยเลาะเซาะหว่างกลางพงไพร
สายน้ำใสแลส่องท้องนที

เห็นกรวดทรายรายเรียงเคียงประดับ
แลสลับเลื่อมพรายหลายหลากสี
ระยิบระยับวับวาวราวมณี
รื่นฤดีธรรมชาติพิลาสเอย

จำไม่ได้แล้วว่าสักวานี้อยู่ในแบบเรียนชั้นประถมอะไร คุ้นๆ ว่าอยู่ในตอน "ไปเที่ยวน้ำตก"

สำหรับผม นี้เป็นหนึ่งใน "กลอนเก่าที่ข้าพเจ้าประทับใจ" ในวัยเด็ก
บันทึกการเข้า
ชื่นใจ
ชมพูพาน
***
ตอบ: 136

นักศึกษาปริญญาเอก University of East Anglia England


ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 10 เม.ย. 06, 20:51

 น่าจะซัก ป.๕ นะคะคุณ UP แต่ก็แค่จำได้เลาๆ แก่แล้วนี่คะ
เป็นนักเรียนรุ่นที่ ๒ ที่ได้เรียนมานะมานี ไม่แก่ยังไงไหว
คุณเจ้าสำราญเหมือนอิฉันเลย
ใกล้ๆเปิดเทอม โรงเรียนจะขายหนังสือที่ต้องใช้
พอไปซื้อกลับมา หนังสือภาษาไทยนี่แหละค่ะที่อ่านจบเป็นเล่มแรก
อ่านหามรุ่งหามค่ำ ยังกับติดนิยาย  
เมื่อซักสอง-สามปีก่อน เพื่อนรักในวิชาภาษาไทยสมัยประถม
ก็ได้ปรากฎโฉมอยู่ในนิตยสาร a day ฉบับมานะ มานี ฯลฯ โดยเฉพาะ
เห็นปุ๊บรีบซื้อปั๊บเลยค่ะ คาดว่าน่าจะมีหลายคนได้ครอบครอง  a day เล่มนั้น

คิดถึงเพื่อนเก่าสมัยประถมจังเลย ...เคยนึกเหมือนกันว่า
ถ้าพวกเค้ามีตัวตน เค้าจะเป็นอย่างไรกันบ้างแล้วป่านนี้    
บันทึกการเข้า
ชื่นใจ
ชมพูพาน
***
ตอบ: 136

นักศึกษาปริญญาเอก University of East Anglia England


ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 10 เม.ย. 06, 21:11

 ส่วนนี่...แม้จะเป็นเรื่องพระอภัยมณี
แต่อิฉันได้รู้จัก ได้อ่าน ได้จำ จนขึ้นใจ
ก็เพราะหนังสือภาษาไทยสมัยประถมนั่นแหละ
น่าจะเรียกได้ว่าเป็นกลอนเก่าที่ประทับใจอีกชิ้นหนึ่ง
(อีกชิ้นที่ประทับใจกว่าถูกคุณ UP หยิบมาเผยแพร่ไปซะก่อนแล้ว เอิ๊ก..เอิ๊ก )  

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์...มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด...ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน...บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน...เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา

แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ...ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา...รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

บอกตามตรงว่าตอนเด็กๆ อ่านแล้วไม่เข้าใจหรอก
ตั้งคำถามมากมาย ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
แต่ก็เชื่อตามประสาเด็กว่า พระฤาษีเป็นคนแต่ง พระฤาษีต้องไม่โกหก

โตขึ้นมาหน่อย เมื่อเริ่มเข้าใจ ก็เลยคล้อยตาม
ตอนนี้ (เริ่มจะแก่) เข้าใจดีแต่มีความเห็นขัดแย้งกับบทสุดท้าย
พระฤาษีอาจจะพูดถูก แต่อิฉันก็คิดว่า
คนเราไม่ควรจะตอบแทนความชังด้วยความชัง
(เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร...สาธุ)
การรู้รักษาตัวรอดต้องอยู่บนพื้นฐานของศีลธรรมจรรยา
เพราะถ้าไม่อย่างนั้นก็คงเป็นการเอาตัวรอด ที่ท้ายสุดก็ไม่มีใครรอดเลย แม้แต่ตัวเราเอง

นี่ยังไม่รู้เลยค่ะว่า ถ้าแก่กว่านี้ จะคิดเห็นกับกลอนบทนี้ต่างไปอย่างไรอีก

ขอโทษนะคะ รำพึงรำพันประสาคนเริ่มแก่
เด็กๆ เผลอหลับกันไปหมดหรือยังคะเนี่ย
 

อีกนิดเถอะ...
ขอให้คุณลีซอตามหาความประทับใจให้เจอนะคะ
เอาใจช่วยที่สุดในโลก
บันทึกการเข้า
หนูหมุด
มัจฉานุ
**
ตอบ: 88


ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 11 เม.ย. 06, 10:57

 ขอบคุณคุณ UP ค่ะที่มาแก้ให้ (อายจัง) แต่ไม่ยอมรับนะคะว่าอยู่รุ่นเดียวกัน ขออ่อนกว่าหน่อยนึงนะคะ

จริงๆกลอนที่คุณชื่นใจยกมาก็เคยต้องท่องเหมือนกันนะคะ ก่อนหน้านี้ก็จะเข้าใจที่ว่าอย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน แต่ตอนหลังมานึกอีกทีก็รู้สึกไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับพระฤาษีบางช่วงน่ะค่ะ เหมือนที่คุณชื่นใจรู้สึกน่ะค่ะ หนูหมุดคิดถึงที่เคยอ่านเจอว่า

ความรัก สำหรับคนที่เห็นคุณค่าเรา
มิตรภาพ สำหรับคนที่ไม่ทำร้ายเรา
อุเบกขาคือการวางเฉย สำหรับคนที่ไม่เห็นคุณค่าและทำร้ายเรา

น่าจะมาจากที่คุณ ว.วินิจฉัยกุล เคยโพสต์ไว้สัก web หนึ่งนะคะ อันนี้ก็อาศัยความจำ(ที่ไม่ค่อยจะดีนัก) ยังงัยถ้าผิดพลาดขออภัยล่วงหน้านะคะ

หนูหมุดใช้เตือนใจเวลาเจอคนที่ชังเราน่ะค่ะ
บันทึกการเข้า
หนูหมุด
มัจฉานุ
**
ตอบ: 88


ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 11 เม.ย. 06, 11:01

 ลืมตอบคุณลีซอไปว่าเอาใจช่วยนะคะ แต่ว่าไม่คุ้นกับกลอนที่ยกมาเลย ส่วนใหญ่หนูหมุดใช้จำเอาด้วย ส่วนหนังสือภาษไทยตอนม.ต้นหนูหมุดก็เก็บเฉพาะที่มีกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานน่ะค่ะ (บอกอย่างนี้ จะบอกถึงอายุรึเปล่าเนี่ย:P)
บันทึกการเข้า
ชื่นใจ
ชมพูพาน
***
ตอบ: 136

นักศึกษาปริญญาเอก University of East Anglia England


ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 11 เม.ย. 06, 15:24

 คุณลีซอ อิฉันเริ่มเห็นเค้าลางๆเลือนๆ

"เรือหาปลาลอยลำอยู่เรียงราย มองดูคล้ายดวงประทีปประดับทะเล"
คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นตอนเดียวกับ คหพที่ ๓๒ ที่คุณเจ้าสำราญเล่ามานะคะ
ต้องลองอ่านไปเรื่อยๆ มันน่าจะอยู่กลางๆ เรื่อง
(และถ้าจำไม่ผิด บทนั้นทั้งบทเป็นกลอนแปดหมดเลย)

คุณลองเช็คดูก่อนแล้วกัน ถ้าใช่ก็ยินดีด้วย
แต่ถ้าไม่ใช่ อย่างน้อยคุณก็ตัด choice ทิ้งไปได้หนึ่งเล่ม

ลุ้นค่ะลุ้น
บันทึกการเข้า
Little Sun
พาลี
****
ตอบ: 212

กำลังตามหาความฝัน


ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 11 เม.ย. 06, 18:30

 จำกันได้ขนาดนั้นเลยหรือคะนี่
ลิเตเติ้ลลืมเกลี้ยงเลย พอมาอ่านความเห็นของแต่บะท่านก็
คุ้นๆขึ้นมาหน่อยค่ะ
บันทึกการเข้า
เจ้าสำราญ
อสุรผัด
*
ตอบ: 21


ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 22 เม.ย. 06, 09:46

 ยังจำโคลงสี่สุภาพ 2 บทนี้ได้กันไหมครับ

     ครูอาจารย์ยิ่งล้ำ       พระคุณ
สอนสั่งทั้งการุณย์          ทั่วหน้า
เป็นศิษย์ท่านมีบุญ          เหลือเอ่ย
จนตราบสิ้นดินฟ้า          ไป่ได้ลืมเลือน

      เพื่อนเอยต่อแต่นี้      จำไกล  กันนา
ทั้งรุ่นน้องอาลัย              ยิ่งล้น
คืนวันล่วงลับไป             เหินห่าง
ถึงจักลาลับพ้น               อย่าร้างไมตรี

จำได้ว่าเป็นโคลงที่อยู่ในบทท้ายๆ ของหนังสือเรียนภาษาไทย ชั้นป.6 เล่ม2  ตอนนั้นก็รู้สึกใจหายเหมือนกันนะครับที่จะไม่ได้เจอ กับมานะ มานี และผองเพื่อนอีก แอบลุ้นเหมือนกันว่าตอนม.ต้นพวกเขาจะยังตามเราไปอยู่หรือเปล่า
บันทึกการเข้า
เจ้าสำราญ
อสุรผัด
*
ตอบ: 21


ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 22 เม.ย. 06, 09:56

 พูดถึงกลอนสุภาพแล้ว  ยังพอจำกลอนนี้กันได้ไหมครับ

สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์       ผ่องประภัสสร์พรอยหาวพราวเวหา
พริ้งไพเราะเสนาะกรรณวรรณนา      สมสมญาแห่งสวรรค์ชั้นกวี
อิ่มอารมณ์ชมสถานวิมานมาศ       อันโอภาสแผ่ผายพรายรังสี
รัศมีมีเสียงเพียงดนตรี       ประทีปทีฆรัสสะจังหวะโยน
ระเมียรไม้ใบโบกสุโนคเกาะ       สุดเสนาะเสียงนกซึ่งผกโผน
โผต้นนั้นผันตนไปต้นโน้น       จังหวะโจนส่งจับรับกันไป

จำได้แค่นี้เองครับ เป็นบทกลอนพระนิพนธ์ใน พระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (น.ม.ส.)ได้ทรงพระนิพนธ์ไว้  จำได้ว่าเรียนตอนม.ปลายใน วรรณสารวิจักษณ์
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.076 วินาที กับ 19 คำสั่ง