เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 7
  พิมพ์  
อ่าน: 37170 ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 19 ม.ค. 06, 09:21

 เมื่อเจ้าฟ้าชาร์ลส์ทรงลี้ภัยออกจากอังกฤษในครั้งแรก  พระชนม์แค่ 18 ทรงเร่ร่อนไปหลายเมืองในยุโรปแบบไม่มีอะไรจะทำ  ฐานะก็ลำบากยากจน
เพราะไม่มีใครอุปถัมภ์เรื่องเงินๆทองๆ รวมทั้งพระเจ้าลุง กษัตริย์ฝรั่งเศส

เวลาว่างของชายหนุ่มวัย 18 ที่ปราดเปรียวอย่างเจ้าชาย จะมีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าเรื่องผู้หญิง    
ก็เลยทรงได้สาวอังกฤษที่เป็นชาวบ้านหน้าตาสะสวยวัยเดียวกันกับพระองค์ ชื่อลูซี วอลเตอร์ มาเป็นพระสนมคนแรก

ส่วนที่ว่าพบกันตั้งแต่อยู่ในอังกฤษหรือไปพบกันในยุโรป  ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
เอาเป็นว่าเมื่อประทับอยู่ที่กรุงเฮก ก็มีพระสนมเรียบร้อยแล้ว

ลูซีให้กำเนิดโอรสนอกกฎหมายคนแรกเมื่อเจ้าฟ้าชายมีพระชนม์ 19  
เด็กชายคนนั้น ต่อมาเมื่อพระบิดาได้ครองราชย์ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็น ดยุคออฟมอนมัธ  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 19 ม.ค. 06, 09:25

 ชีวิตของเจ้าชายและลูซีเริ่มต้นเหมือนตำนานรักดอกเหมย ประเภทฟันฝ่าฐานันดรรัก   จนครองคู่กันได้  
แต่ตอนจบกลับตรงกันข้าม

ทั้งที่ลูซีก็ดูว่ารักใคร่เจ้าชายของหล่อนเป็นอันดี  มีทั้งโอรสและธิดา  
อยู่เคียงข้างกันไม่ห่าง
ต่อมาหนึ่งปีหลังจากนั้นเจ้าชายมีเหตุที่จำเป็นต้องเดินทางไกล
ทรงจำต้องทิ้งพระสนมและลูกน้อยเอาไว้ที่กรุงเฮก

ลูซีเป็นข้อพิสูจน์ของ "สามวันจากนารี...เป็นอื่น"
เมื่อเจ้าชายไม่อยู่  หล่อนก็หันไปมีกิ๊กเป็นนายทหารคนหนึ่งแทน    

เจ้าชายเสด็จกลับมาพบว่าพระสนมมีชู้ไปแล้ว  
ก็มิได้ลงพระอาญาอย่างใด  เพียงแต่เลิกกับหล่อนอย่างเด็ดขาด
ชีวิตของลูซีก็เลยตกต่ำลงนับแต่นั้น    กลายเป็นโสเภณี
และสิ้นชีวิตลงด้วยกามโรคในอีก 8 ปีต่อมา  
บันทึกการเข้า
คำฝอย
มัจฉานุ
**
ตอบ: 64

เรียน


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 19 ม.ค. 06, 15:45

โหย อาจารย์เทาชมพูขา ดิฉันล่ะชอบจังที่อาจารย์บอกว่า ลูซี ไปมีกิ๊ก เนี่ย ศัพท์เด็กสมัยใหม่มาใช้กรณีนี้ ฟังดูน่ารักดีนะคะ
บันทึกการเข้า
นันทิ
อสุรผัด
*
ตอบ: 10

ทำงานพนักงานองค์การของรัฐ


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 19 ม.ค. 06, 15:49

 สวัสดีค่ะอาจารย์เทาชมพู และทุกๆ ท่าน
ขออนุญาตร่วมฟังด้วยคนนะคะ
บันทึกการเข้า
HotChoc
มัจฉานุ
**
ตอบ: 62


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 19 ม.ค. 06, 18:42

 เอ...ผมนึกว่าในยุโรป จะประหารเชื้อพระวงศ์จะให้ใช้ดาบซะอีก เขาว่ามันคมกว่า แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าอ่านจากไหน ยังไงจะติดตามอ่านนะครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 19 ม.ค. 06, 18:59


อาจจะครั้งอื่นมั้งคะ
แต่กรณีนี้  เท่าที่ค้นจากหลายเว็บ ใช้ขวานค่ะ
ดูจากภาพในค.ห.ที่ 9 เป็นการสำเร็จโทษพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1
เช่นเดียวกับภาพนี้  ชื่อ Execution of Charles I  เหมือนภาพบน

ป.ล.  ข้อสงสัยของคุณ HC ทำเอาไปค้นรูปที่ชวนให้กินข้าวไม่ลง
ได้ตั้งหลายรูป
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 20 ม.ค. 06, 07:47

 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ไม่อาจจะขึ้นเป็นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษได้โดยอัตโนมัตินับแต่พระบิดาสิ้นพระชนม์  ทั้งนี้เพราะไม่มีราชบัลลังก์อังกฤษรองรับอยู่อีกแล้ว
แต่ก็ไม่เคราะห์ร้ายถึงขนาดเป็นเจ้าไม่มีศาล  เพราะว่าสกอตแลนด์ได้ยอมรับนับถือราชวงศ์สจ๊วตมาแต่แรก  
ถึงไม่ได้ครองอังกฤษ   ก็ทรงได้เป็นราชันย์แห่งสกอตแลนด์ และบางส่วนของอังกฤษและไอร์แลนด์
โดยมีพระราชพิธีราชาภิเษกที่เมืองสกูน เมื่อพระชนม์ได้ 21 ปี

ในพระทัย พระราชาหนุ่มยังคงครุ่นคิดถึงราชบัลลังก์อังกฤษอยู่ไม่ขาด  ทรงถือว่าโอลิเวอร์ ครอมเวลล์คือโจรปล้นสิทธิ์อันชอบธรรมไปจากพระองค์

สองปีต่อมา ทรงรวบรวมนายทหารและไพร่พลชาวสกอต ตลอดจนกลุ่มขุนนางรอยัลลิสต์ผู้ภักดีต่อกษัตริย์    ยกพลเข้าโจมตีอังกฤษเพื่อจะกำจัดครอมเวลล์ออกไป
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 20 ม.ค. 06, 07:53

 ศึกครั้งนี้แม้ว่าพวกสกอตรบอย่างทรหด แต่ด้วยความเสียเปรียบด้านกำลังพล และชั้นเชิงการรบอีกหลายๆอย่าง
กองทัพของครอมเวลล์ซึ่งเหนือกว่า เป็นฝ่ายบดขยี้ทัพสกอตแตกพ่าย

ขุนนางรอยัลลิสต์เกือบทั้งหมดเอาชีวิตมาทิ้งในสมรภูมิที่วูสเตอร์( Worcester ) อีกส่วนหนึ่งถูกจับกุม  และเหลือไม่กี่คนที่รอดไปได้
พระราชาชาร์ลส์ เป็นหนึ่งในผู้รอดตายไปได้   แต่ก็ต้องหลบหนีแทบจะเอาชีวิตไม่รอด  

อาศัยคนอังกฤษที่จงรักภักดี  ทั้งขุนนาง และชาวบ้านสามัญที่ไม่เคยเห็นด้วยกับครอมเวลล์   แต่ไม่มีปากเสียงจะคัดค้าน  
พวกเขาพากันช่วยเหลือคนละไม้คนละมือ พาพระองค์ซ่อนให้รอดจากเงื้อมมือของทหารฝ่ายครอมเวลล์   ทั้งที่รู้ว่าโทษของการช่วยเหลือก็คือตายสถานเดียว

พระราชาทรงใช้เวลาถึง 45 วันหลบซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ เช่นในห้องใต้หลังคา บนต้นไม้  หลบจากบ้านหนึ่งไปยังบ้านอีกหลังหนึ่ง  
ลำบากระหกระเหิน  กว่าจะข้ามฟากออกจากอังกฤษไปยุโรปได้สำเร็จ อย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว
อีกครั้งหนึ่งที่ทรงเร่ร่อนไปตามประเทศต่างๆ  ปราศจากผู้สนใจไยดีพระราชาผู้ไร้บัลลังก์  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 20 ม.ค. 06, 08:11

 ใครที่ชอบนิยายชุด"บ้านเล็ก"ของ ลอรา อิงกัลส์ ไวลเดอร์ คงจำผู้แปลคือ คุณสุคนธรส  (หรือม.ล.รสคนธ์ อิสรเสนา ผู้ถึงแก่กรรมไปนานแล้ว)ได้

คุณสุคนธส แปลหนังสือประวัติศาสตร์ไว้อีกชุดหนึ่ง น่าอ่านมาก  เป็นเรื่องราวของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2   ชื่อว่า " การลี้ภัย"
มี 4 เล่มด้วยกัน
1) การลี้ภัยของดยุ๊คแห่งยอร์ค
2 )คำพิพากษา
3) การลี้ภัยของพระเจ้าแผ่นดิน
4) นิวัตพระนคร

หนังสือชุดนี้หายาก  ดิฉันโชคดีไปเจอเข้าโดยบังเอิญในงานหนังสือ  
ทางร้านเอามาขายลดราคาแบบล้างสต๊อค  4 เล่ม 160 บาทเท่านั้น มีกล่องใส่เสียด้วย สภาพดีมาก  
ตอนนี้ทะนุถนอมเอาไว้บนหิ้ง เป็นหนังสือมีค่าชุดหนึ่งในห้องหนังสือที่บ้าน
บันทึกการเข้า
HotChoc
มัจฉานุ
**
ตอบ: 62


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 20 ม.ค. 06, 11:36

 คงไม่ใช่กรณีนี้จริงๆแหละครับ เพราะตอนที่ผมอ่านผู้ถูกประหารเป็นผู้หญิง กษัตริย์สั่งให้ใช้ดาบประหาร บทความก็แจกแจงสรรพคุณการใช้ดาบว่าดีกว่าใช้ขวานยังไงบ้าง ผมเลยมี impression ว่าใช้ดาบเป็นการให้ศักดิ์ศรีผู้ถูกประหารมากกว่า
บันทึกการเข้า
ศรีปิงเวียง
องคต
*****
ตอบ: 566

เรียนจบแล้ว


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 20 ม.ค. 06, 17:16

 สวัสดีครับคุณฮอทฟัดจ์ เอ๊ย คุณHotChoc และ อ.เทาชมพูครับ
จากความเห็นที่ 24 ผมคิดว่าที่คุณพูดถึงน่าจะเป็นการสำเร็จโทษพระราชินีแอนน์ โบลีนในพระเจ้าเฮนรีที่ 8 มากกว่าครับ
เพราะเท่าที่เคยได้ยิน มีการระบุว่ากรณีการประหารชีวิตด้วยดาบนี้ เกิดจากการกราบทูลของพระนางแอนน์โบลีน ซึ่งเพชรฆาตก็มาจากฝรั่งเศส
เคยได้ยินว่ามีผู้พบหญิงสาวไร้ศีรษะ(สันนิษฐานว่าเป็นพระนางแอนน์ โบลีน) ที่ปราสาทแห่งหนึ่งครับ แต่ไม่แน่ใจข้อมูลดังกล่าวนัก
ป.ล. การใช้ดาบสำเร็จโทษมีครั้งเดียวในประวัติศาสตร์เท่านั้น ที่เหลือใช้ขวานทั้งหมดครับ
บันทึกการเข้า

ไม่เห็นใครแน่นอน
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 21 ม.ค. 06, 07:38

 ปีศาจของพระนางแอนน์ โบลีนเดินไร้ศีรษะอยู่ในปราสาทกี่แห่งไม่ทราบ  
แต่ที่เคยอ่านมา   เธอเคยเดินอุ้มศีรษะตัวเองในอ้อมแขน อยู่ที่พระราชวังเซนต์เจมส์ ค่ะ
เรื่องนี้ไม่คิดจะพิสูจน์ด้วยตนเอง  ใครอยากเห็นลองไปที่นี่ดู  
ได้ผลเป็นไงกลับมาบอกกันบ้าง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 21 ม.ค. 06, 07:44




พระราชวังเซนต์เจมส์( St.James's Palace)ที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 สร้างขึ้นทับโรงพยาบาลเซนต์เจมส์  

สมัยก่อนโน้นหน้าตาเป็นยังงี้ค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 21 ม.ค. 06, 08:02

 เดินแยกออกซอยเล็กไปหลายความเห็น   ขอเดินย้อนกลับมาสู่ถนนใหญ่อีกครั้งค่ะ

(ต่อ)
หลังชัยชนะที่วูสเตอร์  ครอมเวลล์ก็ได้ครองอำนาจต่อมาอย่างไร้ผู้ต้านทานได้อีก     เป็นเวลานานหลายปี  

ความเหิมเกริมในอำนาจทำให้เขากลายเป็นผู้เผด็จการ  เขาทำสิ่งที่หนักข้อกว่าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ทำหลายเท่า  
เช่นเมื่อถูกส.ส. คัดค้านเขาก็ยุบสภาเอาดื้อๆ ตั้งสภาใหม่ที่ล้วนแล้วไปด้วยลูกน้องสอพลอประจบประแจง ว่าไงว่าตามกัน    
เขาลักลอบขายพระราชทรัพย์ของหลวงที่เก็บไว้ใน Tower of London  นำเงินไปใช้เพื่อบำรุงอำนาจส่วนตัว  ถลุงเงินในท้องพระคลังแทบจะเกลี้ยง  
ทำสงครามกับเนเธอร์แลนด์ 2 ครั้ง  เปลืองเงินทอง ผลักภาระด้านภาษีให้ประชาชนแบก แทบโงหัวไม่ขึ้น
ครอมเวลล์ห้ามความสนุกสนานร่าเริงทั้งหมดในประเทศ   ประชาชนถูกห้ามฉลองคริสต์มาส   แต่ถูกบังคับให้ถือศีลอด ในวันนั้น
แม้แต่ทหาร เมื่อพ้นประจำเวรยามกลับบ้านก็ต้องกลับมานั่งสวดมนตร์ที่บ้าน   จะไปเฮฮากันไม่ได้
ชาวบ้านผิวปากร้องเพลงดังๆก็ไม่ได้   ต้องสวดมนตร์แทน
บ้านเมืองมีแต่ความตึงเครียด ปีแล้วปีเล่าผู้คนรู้สึกตกต่ำและสิ้นหวัง

ในที่สุด ครอมเวลล์ก็กลายเป็นที่เกลียดชังในสายตาประชาชนคนเดินถนนทั่วไป   การต่อต้านเล็กๆน้อยๆลุกลามกันทั่วไป  จนกระทั่งเขาตายลงเมื่อ 1658  ความอดทนของประชาชนก็สิ้นสุดลง

แม้ว่าครอมเวลล์มอบหมายให้ลูกชายสืบตำแหน่งต่อ   แต่ไม่มีผลอะไรอีกแล้ว  สาธารณรัฐล้มครืนลงมา  
สังคมเริ่มเหมือนเรือขาดหางเสือ   ประชาชนพร้อมใจกันเรียกร้องสังคมอังกฤษแบบเดิมที่มีรัฐสภาจากการเลือกตั้ง และมีระบอบกษัตริย์กลับคืนมาอีกครั้ง  ก่อนสังคมอังกฤษจะเข้าสู่วิกฤต
ในที่สุดทหารและรัฐสภาก็ต้านทานกระแสประชาชนไม่ไหว  หันเหกลับมายอมรับระบอบกษัตริย์อีกครั้ง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 23 ม.ค. 06, 10:29

ทางฝ่ายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2   ช่วงชีวิตนับแต่พ่ายแพ้ศึกเป็นช่วงตกระกำลำบากอย่างยากจะเชื่อว่าเกิดขึ้นได้กับผู้เป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน
ทรงยากไร้สิ้นเนื้อประดาตัว    เมื่อบากหน้าไปพึ่งฝรั่งเศส   สังฆราชมาซาแร็งอัครมหาเสนาบดีผู้กุมอำนาจตัวจริงแทนพระเจ้าหลุยส์ ที่ 13   ก็รังเกียจเดียดฉันท์ขับไล่  
ทรงลี้ภัยไปประเทศอื่นๆในยุโรป   ผู้นำก็หวังประจบเอาใจผูกมิตรกับครอมเวลล์เพื่อประโยชน์ทางการค้า  จึงพากันขับไล่ไสส่งราชาไร้บัลลังก์
จะทรงหมายปองเจ้าหญิงองค์ไหน  พระบิดามารดาก็ทรงรังเกียจไม่ยอมยกลูกสาวให้ราชาที่ไร้เงินทองและตำแหน่ง

เวลาผ่านไปหลายปี  เงินทองที่ได้เล็กๆน้อยๆจากพระน้องนาง เจ้าฟ้าหญิงแมรี่ที่เป็นราชินีม่ายแห่งฮอลแลนด์ก็ขาดแคลนลงทุกที  เพราะประชาชนชาวดัทช์พากันต่อต้านไม่ยอมให้ส่งเสีย  
เจ้าชายกับข้าราชบริพารผู้ภักดีไม่กี่คนอยู่ในฐานะยากจนเกือบเท่าขอทาน
ของเสวยก็มีแต่กระหล่ำปลี และเนื้อจวนเน่า เอามาต้มกินประทังชีวิต    เช่าห้องเช่าเล็กๆโทรมๆ ที่เจ้าของห้องทวงแล้วทวงอีก   เป็นหนี้เป็นสินแม้แต่ค่าอาหาร

สิ่งเดียวที่ชะโลมพระทัยให้มีกำลังต่อสู้ชีวิตยากแค้นต่อไปได้  คือไม่ทรงท้อถอยปล่อยชีวิตไปตามบุญตามกรรม
ที่สำคัญคือไม่ละทิ้งความใฝ่ฝันว่าจะทรงกลับไปครองบัลลังก์ในวันหนึ่ง ให้จงได้
ทำให้ทรงอดทนต่อชะตากรรม    ไม่ปล่อยองค์ให้จมอยู่กับความสิ้นหวัง

ทั้งนี้ ประสบการณ์สร้างพระอุปนิสัยให้เป็นคนหนักแน่น มองโลกในแง่ดี  ยิ้มรับอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในชีวิต   ไม่ยอมหดหู่เศร้าซึม  และทรงทำพระทัยอภัยให้ความผิดพลาดของผู้อื่นได้ เพื่อจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

สิ่งเหล่านี้มีคุณค่าอย่างมหาศาลเมื่อได้ขึ้นครองบัลลังก์   ทำให้รัชสมัย Restoration แม้ว่าไม่ใช่สมัยที่รุ่งเรืองที่สุดของอังกฤษ ก็เป็นสมัยที่มีการจดจำกันระดับแถวหน้าของประวัติศาสตร์
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.064 วินาที กับ 19 คำสั่ง